100ปีแห่งความว่างเปล่า Part#2

กระทู้สนทนา
ถ้าหากคุณผู้ชมสังเกตุนะครับ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา อ.โอดะ ได้พยายามแสดงให้คุณผู้ชมได้เห็น ถึงความลำบากของประชากรในโลกวันพีซที่มีสภาพแวดล้อมเป็นหมู่เกาะ มาตลอดการผจญภัยของกลุ่มหมงกฟางครับ

ด้วยความที่เป็นหมู่เกาะที่มันตัดขาดออกจากกัน มันจึงทำให้ผู้คนทั้งโลก ก็ถูกแบ่งแยกออกด้วยเช่นกัน

การที่มันเป็นหมู่เกาะที่มีระบบนิเวศตายตัวแบบนี้นะครับ จะทำให้ผู้คนในหลายๆเกาะนั้นเกิดปัญหาเรื่องการขาดแคลนทรัพยากรเป็นอย่างมาก

เช่น อาณาจักรอลาบัสต้าที่เคยเกือบล่มสลายจากสงครามการเมืองเพียงเพราะขาดแคลน น้ำดื่ม

หรือ การที่อาณาจักรดรัมมีระบบนิเวศเป็นเมืองหิมะ ก็ทำให้ ช็อเปอร์ไม่เคยเห็นต้นซากุระ ที่เป็นพืชพรรณจากฤดูอื่น

การที่อาณาจักรบัลติมอร์ของเวก้าพังค์ ต้องประสบกับปัญหาเรื่องตวามเหน็บหนาว ที่แม้แต่เวก้าพังค์ก็แก้ไขไม่ได้

นอกจากนี้นะครับ ในหลากหลายหมู่เกาะก็ต้องเผชิญกัยปัญหา ระบบนิเวศที่บิดเบี้ยวแปลกๆ เช่นเกาะสายฟ้า หรือ คลื่นยักษ์อควาลากูน่าที่เกาะวอเตอร์เซเว่น จนทำให้ประขากรที่อาศัยอยู่บนระบบนิเวศเหล่านี้ ต้องประสบกับปัญหาความยากลำบากเป็นอย่างมาก

ซึ่งอย่างที่ผมได้บอกกับคุณผู้ชมไปในคลิปที่แล้วนะครับ ว่าด้วยระบบนิเวศที่บิดเบี้ยวของโลกใบใหม่นั้น มันทำให้ ประชากรมนุษย์บางกลุ่ม ถึงกับต้องวิวัฒนาการ เพื่อการเอาตัวรอด จนเกิดเป็นเผ่าพันธ์ต่างๆ

ความเหลื่อมล้ำทางทรัพยากร,องค์ความรู้,การแพทย์,การศึกษา กระจายไปยังทั่วโลกของวันพีซ เพราะสภาพแวดล้อมของหมู่เกาะในโลกปัจจุบัน มันทำให้การคอมมูนิเคท หรือ การติดต่อสื่อสารเพื่อแลกเปลี่ยนทรัพยากร องค์ความรู้ หรือ แม้แต่อาหารนั้นเป็นเรื่องที่ยากมากๆ

ถ้าหากคุณผู้ชมนึกภาพถึงความลำบากของผู้คนในโลกวันพีซที่มีสภาพแวดล้อมเป็นหมู่เกาะที่ตัดขาดจากกันไม่ออก ให้คุณผู้ชมนึกภาพถึง ผู้คนของประเทศเกาหลีเหนือ ที่ตัดขาดจากโลก และไม่มีอาวุธสงครามอ่ะครับ หรือ ไม่ก็ให้คุณผู้ชมนึกถึง ชนเผ่าดุร้ายในสารคดี ที่ตัดขาดจากโลกเช่นเดียวกันกับผู้คนในโลกวันพีซครับ

นอกจากนี้นะครับ ด้วยสภาพแวดล้อมของหมู่เกาะที่ตัดขาดกันแบบนี้นะครับ มันยังเอื้อให้เกิด การปกครองในรูปแบบของเผด็จการอีกด้วย

ซึ่งเรื่องนี้นะครับ เราจะเห็นได้เกือบในทุกๆภาคของวันพีซเลย เช่น ไคโด โดฟลามิงโก้ หรือ อาลอง ครอคโคไดล์ เป็นต้น

เพราะ การตัดขาดออกจากกัน นั่นก็หมายความว่าการช่วยเหลือใดๆจากหมู่เกาะภายนอกก็เข้าไม่ถึงผู้คนกลุ่มนี้ ที่ต้องเผชิญกับ เผด็การ ด้วยเช่นกัน

หนทางการเอาตัวรอด ออกจากเกาะ ที่มีสภาพแวดล้อมและระบบนิเวศที่โหดร้าย ไม่ว่าจะมาจากทางธรรมชาติ หรือ เป็นฝีมือของมนุษย์ด้วยกัน ก็ดี นั่นก็คือ การเดินเรือ

แต่อย่างที่คุณผู้ชมรู้กันดี ว่าการเดินเรือในท้องทะเลในโลกของวันพีซมันไม่ใช่ เรื่องง่าย เพราะ พวกเขาจะต้องเผชิญปัญหาด้านทุนทรัพย์ที่ต้องใช้ในการต่อเรือ ไหนจะต้องเผชิญกับเจ้าทะเล และ สภาพอากาศในท้องทะเลที่แปรปรวนและคาดเดาไม่ได้

และถ้าหากคุณผู้ชมสังเกตุนะครับ นั่นคือ แม้แต่เผ่ามังกรฟ้าเองก็ยังเล็งเห็นถึงปัญหา ของเรื่อง สภาพแวดล้อมและความยากบำบากของหมู่เกาะที่ตัดขาดจากกัน

โดยเราจะสามารถสังเกตุได้จาก ความพยายามที่จะสร้างสะพานในการเชื่อมเกาะเข้าด้วยกัน ทั้งที่ รัมวูล์ฟ วอดก้าวูฟ เบอเบิลวูฟ และ เตกี่ล่าวูฟ แต่อย่างที่คุณผู้ชมทราบกันดี ว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากว่า 700 ปี นับตั้งแต่สะพานถูกสร้างขึ้น จวบจนปัจุบัน เพียงแค่การเชื่อมเกาะเข้าด้วยนยังไม่มีทีท่าว่าจะสำเร็จลงเลยครับ

ถ้าหากคุณผู้ชมยังจำกันได้นะครับ จากคลิปย้อนรอยประวัติศาสตร์โลกวันพีซ 10000 ปี สภาพแวดล้อม ระบบนิเวศ และ กำแพงเรดไลน์ ในปีจจุบัน นั้นมันไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ 

เพราะสาเหตุที่โลกวันพีซ มีสภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน มันเกิดขึ้นมาจากสงครามทางเทคโนโลยีแห่งความละโมภของบรรพบุรุษในอดีตกาล

ซึ่งจากข้อมูลทั้งหมดที่ผมกล่าวมา มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยครับ กับการที่ตระกูลดี ต้องการจะกอบกู้มหาทวีปที่จมลงใต้ทะเลจากฝีมือของบรรพบุรุษ เพื่อที่จะแก้ปัญหา สภาพแวดล้อมและความยากลำบากของ ผู้คนในโลกวันพีซที่ต้องเผชิญในปัจจุบันนั่นเอง

ในขณะเดียวกันครับ อีกฟากฝั่ง ก็คือ ตระกูลจันทร์เพ็ญ ที่พลังงานบนดวงจันทร์ได้หมดลง จึงได้อพยพกลับโลกเพื่อตามหาพระอาทิตย์ต้องห้าม เพื่อนำกลับไปฟื้นฟูอาณาจักรเองก็ ได้เข้าร่วมกับตระกูลดี ด้วยเช่นกัน

เพราะว่า พระอาทิตย์ต้องห้าม หรือ แหล่งพลังงานในอดีตกาลที่ตระกูลจันทร์เพ็ญตามหานั้น ก็จมไปพร้อมกับมหาทวีปด้วยเช้นเดียวกัน

นั่นหมายความว่า การกอบกู้มหาทวีปในครั้งนี้ นอกจากจะแก้ปัญหาเรื่องสภาพแวดล้อมของผู้คนในโลกวันพีซแล้ว ก็ยังจะสามารถ รือฟื้น วิทยาการ จากการกอบกู้แหล่งแร่ "พระอาทิตย์ต้องห้าม" ได้ด้วยเช่นกัน

ซึ่งนั่นนะครับ จะทำให้โลกวันพีซในปัจจุบันที่ล่มสลายจากอดีตกาล จะกลับไปมีวิทยาการ ที่เป็นเครื่องมือคอยช่วยเหลือผู้คน และ ฟื้นฟูอารยธรรมทางวิทยาการกลับมาอีกด้วย

เมื่อมีแหล่งพลังงาน วิทยาการทางการแพทย์,การศึกษา,แงค์ความรู้และการเชื่อมต่อ จะทำให้โลกพัฒนาขึ้นกลับสู่ยุครุ่งเรืองของมนุษยชาติ แบบที่เคยเป็นมาก่อนจะล่มสลายไปในโลกที่ 1 นั่นเองครับ

ฉะนั้น เราสามารถสรุป เรื่องราวและรอยต่อระหว่างโลกที่ 1 และช่วงเวลาประวัติศาตร์ 100 ปี ได้แบบนี้ครับ

ตระกูลจันทร์เพ็ญ ที่เดินทางกลับโลกเพื่อตามหาแหล่งพลังงาน พระอาทิตย์ต้องห้าม ได้รับรู้ความจริงที่ว่า พระอาทิตย์ต้องห้ามที่พวกเขาตามหา ได้จมลงสู่ใต้ก้นมหาสมุทรไปพร้อมกับมหาทวีปครับ

แต่ สิ่งที่ทำให้ตระกูลจันทร์เพ็ญ ต้องตกใจกว่า โลกที่เปลี่ยนไป คือการได้รู้ว่า หลังโศกนาฏกรรมในโลกที่ 1 นั้น มันยังคงมีผู้รอดชีวิต จากภัยพิบัติมาได้

เมื่อได้เห็น พี่น้องร่วมเผ่าพันธุ์ ต้องเผชิญกับความยากลำบากของโลกใบใหม่นะครับ ตระกูลจันทร์เพ็ญ จึงได้หันมาช่วยเหลือ เผยแพร่องค์ความรู้ และ เทคโนโลยี ให้กับ พี่น้องร่วมเผ่าพันธ์

และนอกจากนั้นนะครับ ตระกูลจันทร์เพ็ญ ยังได้เผยแพร่เรื่องราวของโลกในอดีตกาล ที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็น จรวด ยานบิน ตู้เกม รถยนต์ เครื่องมือทางการแพทย์ และ ความสะดวกสบายจากเทคโนโลยี ที่เป็นเครื่องมือคอยช่วยเหลือผู้คนให้ดำรงค์อยู่ด้วยความสะดวกสบาย

ซึ่งจากการเผยแพร่ เรื่องราวในอดีตกาลของตระกูลจันทร์เพ็ญนี่เองครับ ที่ทำให้เกิดความฝันของผู้คนกลุ่มนึง ที่ต้องการจะพาโลกกลับไปยัง ยุคของเทคโนโลยี

ซึ่งกลุ่มๆนั้นนะครับ ก็คือ "ตระกูลดี"

อย่างที่ผมได้บอกคุณผู้ชมไปในคลิปของตระกูลจันทร์เพ็ญนะครับ ว่า ตระกูลดี ก็คือ การรวมตัวกันของกลุ่มคนที่มีความฝันร่วมกันกับ ตระกูลจันทร์เพ็ญ ซึ่ง D นะครับ มันเกิดมาจากการแบ่งครึ่งวงกลมของดวงจันทร์ ที่เป็นสัญญะ

โดยภายในคัมภีร์ฮาเลย์นะครับ ในบทที่ 2 นั้น จะมีการกล่าวว่า

ผู้คนแห่งจันทร์เต็มดวงมีความฝัน ซึ่ง ผู้คนแห่งจันทราก็คือ ตระกูลจันทร์เพ็ญครับ และ ความฝันของพวกเขา ก็คือ การตามหา พระอาทิตย์ต้องห้าม เพื่อไปเป็นแหล่งพลังงานฟื้นฟูอาณาจักรเบอร์ก้าของพวกเขาที่ดวงจันทร์

และ ผู้คนแห่งจันทร์ครึ่งดวงมีความฝัน ซึ่ง ผู้คนแห่งจันทร์ครึ่ง ก็คือ ตระกูลดี และ ความฝันพวกเขา ก็คือ การรื้อฟื้นวิทยาการ และ นำพาโลกกลับไปสู่ยุคของเทคโนโลยี

ซึ่งสิ่งที่จะทำให้ความฝันของทั้ง ตระกูลดี และ ตระกูลจันทร์เพ็ญ เป็นจริงนะครับ ก็คือ ดารกอบกู้มหาทวีปที่ได้จมลงสู่ใต้ก้นมหาสมุทรในโลกที่ 1 นั่นเอง

และอย่างที่ผมได้ยอกกับคุณผู้ขม ไปในคลิปของตนะกูลจันทร์เพ็ญครับว่า วิทยาการทั้งหมดของตระกูลดี ที่ถูกกล่าวขานกันจริงๆแล้วเป็นสิทยาการจากโลกที่ 1 ของตระกูลจันทร์เพ็ญ

ซึ่งด้วยวิทยาการของตระกูลจันทร์เพ็ญนี้นี่เองครับ จึงทำให้ตระกูลดีได้สร้างเมืองศูนย์กลางทางเทคโนโลยีขึ้นมาบนเกาะแห่งนึง เพื่อใช้ในการวางแผน หารือ และ รวบรวมผู้คน เพื่อที่จะ กอบกู้มหาทวีป

ซึ่งเกาะแห่งนี้นะครับ ก็จะกลายเป็นเกาะแห่งเทคโนโลยีในตำนานที่ ดร.เวก้าพังค์ เคยกล่าวถึงความก้าวหน้าของมันในปัจจุบันนั่นเอง

ในระหว่างที่ผมกำลังทำคลิปเรื่องทฤษฎีของ สามอาวุธโบราณเมื่อปีที่แล้วนะครับ ผมก็ได้ไปเจอเบาะแสบางอย่าง ที่ทำให้เกิด คลิปสุดไวรัล แห่งยอดนักสืบ ในโลกของวันพีซ

ซึ่งเบาะแสอันนั้นก็คือ รูปภาพฝาผนังที่คุณผู้ชมกำลังรับขมอยู่ในตอนนี้ครับ

แน่นอนครับว่า เรารู้ว่า บุคคลปริศนา 3 คน ที่ยืนอยู่ในรูปภาพ จะต้องมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่ม พันธมิตรแห่งดี แต่ว่าจะเป็นใครบ้าง เรามาไล่กันไปทีละคนเลยนะครับ

เริ่มจากคนที่ง่ายที่สุดก่อนเลยนะครับ นั่นก็คือ บุคคลที่ยืนอยู่ตรงกลาง ถ้าหากคุณผู้ชมมาดูเครื่องแต่งกายที่บุคคลคนนี้สวมอยู่นั้นจะมีลักษณะเหมือนปลา

เพราะฉะนั้นนะครับ บุคคลคนนี้ก็คือ เจ้าหญิงโพไซดอน รุ่นที่ 1 จากแาณาจักรเงือกริวงู ผู้ถือครองพลังของโพไซดอน

ต่อมาก็คือ บุคคลทางฝั่งซ้าย ที่สวมเครื่องแต่งกาย สไตล์ของขาวตะวันออกแถบทะเลทรายนะครับ ก็คือ เจ้าหญิง เนเฟตารี ดี ลิลลี่ จาก อาณาจักรทะเลทรายอาลาบัสต้า ผู้ถือครอง เรือรบยักษ์พลูตันครับ

และคนสุดท้ายทางฝั่งขวาที่มีทรงผมแบบเดียวกับชาวสกายเปีย ก็คือ ใครซักคนที่ มาจากสกายเปีย เมื่อ 800 ปีก่อน ผู้ถือครอง เรือบินยักษ์ยักษ์ยูเรนัส ครับ

แล้วถ้าหากเรามาดูคอนเซปท์ของ ทั้ง 3 คน เราก็จะได้ แผ่นดิน,ท้องฟ้า,ท้องทะเล ครับ ซึ่งถ้าหากนำไปรวมกับ จอยบอย และ ตระกูลจันทร์เพ็ญ เราก็จะได้สมาชิกแกนนำทั้ง 5 ของ พันธมิตรแห่งดี ที่มีคอนเซปท์ ดั่งนี้ครับ

1.เทพพระอาทิตย์จอยบอย ตัวแทนแห่งดวงอาทิตย์

2.ตระกูลจันทร์เพ็ญ ตัวแทนแห่งดวงจันทร์

3.ราชินี เนเฟตารี ดี ลิลลี่ ตัวแทนแห่งปฐพี

4.เจ้าหญิงโพไซดอนรุ่นที่ 1 ตัวแทนแห่งท้องทะเล

5.บุคคลปริศนาจากสกายเปีย เมื่อ 800 ปีก่อน ตัวแทนแห่งท้องฟ้าครับ

นอกจากนี้นะครับ จากการค้นพบสมาชิกแกนนำของตระกูลดี ที่เป็นผู้ถือครอง สามอาวุธโบราณแล้ว เราก็ยังได้ค้นพบ เรื่องราวที่น่าตกตะลึงอีกอย่างนึงด้วยครับ นั่นก็คือ แหล่งพลังงานของ สามอาวุธโบราณ

อย่างที่ผมได้บอกกับคุณผู้ชมไปครับว่า การอพยพกลับโลกของตระกูลจันทร์เพ็ญในครั้งนี้เป็นเพราะแหล่งพลังงานของพวกเจานั้นใกล้จะหมดลง

และนอกจากนี้นะครับ เรือบินยักษ์ยูเรนัส ที่ท่านอิมใช้ในการุล่มอาณาจักรลูลูเซีย เอง ก็กินพลังงานอยู่มากด้วยเช่นกัน

ซึ่งพลังงานที่ท่านอิมนำมาใช้กับ อาณาจักรลูลูเซียในครั้งนี้ก็คือ มาเธอร์เฟลม ที่เป็นวิทยาการของ ดร.เวก้าพังค์ ในปัจจุบัน

มันจึงทำให้ผมเกิดคำถามขึ้นมาว่า แล้ว ยูเรนัส ในอดีตกาล ตระกูลดีใช้อะไรเป็นแหล่งพลังงานในการขับเคลื่อนยาน

ซึ่งคำตอบนั้นนะครับ ก็คือ "ผลปีศาจสายฟ้า โกโร โกโร ของก็อดเอเนล" นั่นเองครับ

คืองี้ครับ หลังจากที่ตระกูลดี ได้พ่ายแพ้สงคราม ตระกูลดีก็ได้นำอาวุธโบราณ,แบบแปลน,และแหล่งพลังงานไปเก็บซ่อน

ซึ่ง ชาวสกายเปีย เมื่อ 800 ปีก่อน ได้นำแบบแปลนและผลสายฟ้าที่เป็นแหล่งพลังงานของยูเรนัสไปซ่อนไว้ที่ สกายเปีย ครับ ซึ่ง 800 ปีต่อมา ก็อดเอเนล ที่เป็นชาวสกายเปียได้บังเอิญไปเจอแบบแปลน และ ผลสายฟ้า ของ บรรพบุรุษเข้า

จึงได้ทำการกินผลปีศาจสายฟ้าเข้าไป และ นำแบบแปลนของยูเรนัสของตระกูลดี มาดัดแปลงเป็นเรือบินพลังงานสายฟ้าชื่อ แม็กซิม ที่ก็อดเอเนลใช้ล่องไปยังดวงจันทร์

นอกจากนี้นะครับ การค้นพบ บรรพบุรุษชาวสกายเปีย ในครั้งนี้ ยังทำให้เราได้คำตอบด้วยว่า "ทำไม ขาวสกายเปียในปัจจุบันถึงได้กำลังตามหาแผ่นดินแฟรี่วาซ"

เพราะ แฟรี่วาซ ก็คือ มหาทวีปที่จมลงสู่ใต้ก้นทะเล และ ขาวสกายเปียในอดีตกาลก็เป็นหนึ่งในตระกูลดี ที่ต้องการจะกอบกู้ มหาทวีป ด้วยเช่นกัน

ซึ่งหลังจากที่แพ้สงครามนะครับ เรื่องราวของแผ่นดินขนาดใหญ่นั้น ก็ได้ถูกเล่าขาน จากรุ่นสู่รุ่น จนทำให้ลูกหลานในปัจจุบัน ยึดติดกับการตามหาดินแดนแฟรี่วาซ นั่นเอง

ฉะนั้นนะครับ การที่ก็อดเอเนล ได้สร้างเรือแม็กซิมเพื่อบินไปยังดวงจันทร์เพราะคิดว่าเป็นแฟรี่วาซจึงเป็นเรื่องที่ผิดครับ

เพราะแฟรี่วาซ คือ แผ่นดิน ที่จมลงสู่ใต้ก้นทะเล ซึ่งนั่นนะครับ ก็หมายความว่า ก็อดเอเนล ที่เป็นแบตเตอรี่ของยูเรนัส อาจจะกลับมามีบทบาทคอยช่วยเหลือ มังกี้ ดี ลูฟี่ ในการกอบกู้ มหาทวีปวันพีซ หรือ ดินแดนแฟรี่วา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่