🚂 หัวรถจักรหายไปไหน? Santa Fe รีแบรนด์ใหม่ สดใสกว่าเดิม

หันมาอีกที...อ้าว! หัวรถจักรกับขบวนรถไฟที่เคยเป็นภาพจำของร้านสเต็ก “ซานตาเฟ่” หายไปแล้ว!

     ใครที่เคยคุ้นเคยกับโลโก้รถไฟและบรรยากาศร้านแบบตะวันตก คงต้องสะดุดตากับการรีแบรนด์ครั้งใหญ่ของ Santa Fe ที่เปลี่ยนโฉมใหม่หมดจด ทั้งโลโก้ สีหลัก และคอนเซ็ปต์ร้าน
-  โลโก้ใหม่ใช้สีส้มสดใสแทนที่ดีไซน์เดิม
-  เพิ่มคำว่า “HAPPY STEAK” และรอยยิ้มบนโลโก้
-  ปรับอาร์ตเวิร์คบนโซเชียลให้ดูสดใหม่
-  เริ่มมีการปรับหน้าร้านตามดีไซน์ใหม่แล้ว

    การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นหลังการรวมตัวของกลุ่มธุรกิจอาหาร FAB Food Holding ที่มีแบรนด์ในเครือมากมาย เช่น เหม็ง แซ็ปนัว, Sekai no Yamachan, ส้มตำเจ๊แดง ฯลฯ

   ย้อนกลับไป ซานตาเฟ่ถือกำเนิดจากแนวคิดของ ‘สุรชัย ชาญอนุเดช’ ที่เห็นช่องว่างในตลาดร้านสเต็กแบบเข้าถึงง่ายในไทย โดยใช้ชื่อเมือง Santa Fe ที่มีประวัติเรื่องรถไฟและการเลี้ยงวัวเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบร้านและโลโก้

   กว่า 22 ปีที่แบรนด์นี้อยู่คู่คนไทย ผ่านทั้งวิกฤตและโอกาส จนมาถึงวันนี้ที่ต้องปรับตัวอีกครั้งเพื่อไปต่อในยุคใหม่

ที่มา Brand Inside

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

หันมาเห็นอีกที อ้าว! หัวรถจักรกับขบวนรถไฟหายไปไหนซะแล้ว

.

เรียกว่าเป็นหนึ่งในร้านสเต็กราคาคุ้มค่าที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนานกับ 'ซานตาเฟ่' (Santa Fe) แบรนด์สเต็กในเครือ FAB Food Holding (FAB) โดยเฉพาะภาพจำ 'หัวรถจักร' และขบวนรถไฟบนโลโก้ ซึ่งกำหนดสไตล์การตกแต่งภายในร้านด้วย

.

ล่าสุด หัวรถจักรหายไปแล้ว เพราะ 'ซานตาเฟ่' เดินหน้ารีแบรนด์ใหม่ เลือกดึงเอาสีส้มสดใสที่เคยอยู่ตรงคำว่า FE มาเป็นสีหลักในการออกแบบ ครองพื้นที่พื้นหลังทั้งหมดของโลโก้ พร้อมปรับเพิ่มคำว่า 'HAPPY STEAK' มาอยู่ต่อจากคำว่า Santa Fe รวมถึงเติม 'รอยยิ้ม' ที่สอดคล้องกับคำว่าแฮปปี้ข้างบนมาไว้บนโลโก้ด้วย

.

นอกจากโลโก้แล้ว 'ซานตาเฟ่' ยังได้ปรับรูปแบบอาร์ตเวิร์คต่างๆ ที่แบรนด์ใช้บนโซเชียลมีเดียให้ดูสดใหม่มากขึ้น มาพร้อมกับเมนูใหม่ รวมถึงเริ่มมีข่าวคราวจากผู้บริโภคถึงการปรับเปลี่ยนหน้าร้านตามการรีแบรนด์ครั้งนี้แล้ว

.

นับเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่ที่จะมีผลต่อแบรนด์อย่างแน่นอน

.

เพราะสไตล์ดั้งเดิมของแบรนด์อยู่มานานกว่า 22 ปี เริ่มต้นจากผู้ก่อตั้งแบรนด์อย่าง ‘สุรชัย ชาญอนุเดช’ มองเห็นช่องว่างของตลาดร้านอาหารตะวันตกในประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มที่มี ‘เมนูสเต็ก’ จึงเริ่มพัฒนาเมนูและรูปแบบร้านที่แตกต่างจากตลาด สร้างการจดจำจนกลายเป็น ‘ซานตาเฟ่’ ในเวลานั้น

.

โดยชื่อ ‘ซานตาเฟ่’ มาจากชื่อเมืองหนึ่งในสหรัฐอเมริกา ที่มีการเลี้ยงวัวอันเป็นวัตถุดิบหลักของเมนูสเต็ก และเพราะเมืองมีประวัติศาสตร์เกี่ยวกับรถไฟ จึงนำมาสู่การออกแบบร้านและโลโก้รูปรถไฟ

.

สาขาแรกของ ‘ซานตาเฟ่’ เปิดในห้างสรรพสินค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ ก่อนจะประสบความสำเร็จและขยายสาขาไปมากกว่า 120 ทั่วประเทศไทย ต่อมาจึงได้เผชิญหน้ากับวิกฤตหลายอย่างทั้งภาวะขาดทุนหรือวัตถุดิบขาดแคลน

.

ขณะเดียวกันก็ได้พบกับโอกาสทางธุรกิจหลายครั้งอย่างการเข้ามาของ ‘Food Facter’ ธุรกิจร้านอาหารของกลุ่มสิงห์หรือเครือบุญรอดฯ ที่ทุ่มงบประมาณ 1,800 ล้านบาท เพื่อมาถือหุ้นบริษัทในสัดส่วน 88% เมื่อหลายปีก่อน

.

และเมื่อเร็วๆ นี้ Food Factor ผู้ถือหุ้นใหญ่ของซานตาเฟ่ ยังได้ร่วมกับ อควา คอร์เปอเรชั่น และกลุ่มใบหยก จัดตั้ง FAB หรือบริษัทเอฟเอบี ฟู้ดโฮดิ้ง ขึ้น เพื่อขยายโอกาสให้กับธุรกิจอาหารภายในเครือ

.

ที่นอกจาก ‘ซานตาเฟ่’ และ ‘ซานตาเฟ่ อีซี่’ แล้วก็ยังมีแบรนด์อื่นๆ อย่างเช่น เหม็ง แซ็ปนัว, Sekai no Yamachan, ส้มตำเจ๊แดง สามย่าน, ราเมงเดส, อิคโคฉะ ราเมน และอุชิดายะ ราเมนด้วย

.

ความเปลี่ยนแปลงของ ‘ซานตาเฟ่’ ครั้งนี้เองเกิดขึ้นหลังจากการเกิดขึ้นของกลุ่ม FAB จึงอาจเป็นไปได้ว่านี่เป็นแนวทางใหม่ของแบรนด์ ภายใต้ร่มใหม่ที่ต้องการพาซานตาเฟ่ไปไกลกว่าเดิม แล้วคุณล่ะในฐานะแฟนๆ หรือคนเคยกินซานตาเฟ่คิดยังไง ชอบการรีแบรนด์ครั้งนี้ไหมล่ะ