แนวรับ แนวต้าน คืออะไร? สอนดูยังไงให้เซียน สำหรับมือใหม่!

* กระทู้นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะผู้ที่มี Link นี้เท่านั้นค่ะ
*หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงบทความให้ความรู้เท่านั้น ไม่ได้เป็นการชักชวนเพื่อลงทุนแต่อย่างใด โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

แนวรับ (Support) และ แนวต้าน (Resistance) คืออะไร?
แนวรับ (Support) และ แนวต้าน (Resistance) คือระดับราคาที่ทำหน้าที่เสมือนกำแพงที่หยุดการเคลื่อนไหวของราคาในตลาด

แนวรับ: คือระดับราคาที่เมื่อราคาลดลงมาถึงแล้วมักจะ หยุดลงและเด้งกลับขึ้นไป เนื่องจากมีแรงซื้อเข้ามามากพอที่จะทำให้ราคาไม่ลดลงไปอีก
ตัวอย่าง: ลองนึกภาพลูกบอลที่ตกลงมากระทบกับพื้น (แนวรับ) แล้วเด้งกลับขึ้นไป

แนวต้าน: คือระดับราคาที่เมื่อราคาเพิ่มขึ้นไปถึงแล้วมักจะ หยุดและย่อตัวลง มา เพราะมีแรงขายจำนวนมากเข้ามาป้องกันไม่ให้ราคาพุ่งสูงขึ้นไปกว่าเดิม
ตัวอย่าง: ลองนึกภาพลูกบอลที่พุ่งขึ้นไปชนเพดาน (แนวต้าน) แล้วเด้งกลับลงมา

วิธีการสังเกต
วิธีสังเกตง่ายๆ คือ แนวรับ เป็นจุดที่ราคา "เด้งกลับขึ้นไป" เมื่อปรับตัวลงมาถึง ส่วน แนวต้าน เป็นจุดที่ราคา "ย่อตัวลง" เมื่อขยับขึ้นไปทดสอบ

ทำไมต้องมีแนวรับ แนวต้าน?
แนวรับและแนวต้านเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้นักลงทุนเข้าใจพฤติกรรมราคาและจิตวิทยาของตลาด เพราะเป็นจุดที่แสดงให้เห็นว่าราคา "มีแนวโน้มที่จะเด้งกลับขึ้นไป" (แนวรับ) หรือ "มีแนวโน้มที่จะย่อตัวลงมา" (แนวต้าน)
การที่ราคาไปแตะแนวรับหรือแนวต้านแล้วมีการเคลื่อนไหวกลับทิศทาง บ่งบอกถึงการปะทะกันระหว่างแรงซื้อและแรงขายของนักลงทุน 3 กลุ่มหลัก:
- กลุ่มที่ซื้อและรอให้ราคาขึ้น
- กลุ่มที่ขายและรอให้ราคาลง
- กลุ่มที่รอจังหวะเข้าเทรด
การมีอยู่ของแนวรับ-แนวต้านจึงช่วยให้นักลงทุน ยืนยันพฤติกรรมของราคา และเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ

ข้อควรระวังและวิธีใช้งานให้มีประสิทธิภาพ
แม้ว่าแนวรับ-แนวต้านจะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ แต่การใช้เพียงอย่างเดียวไม่สามารถรับประกันความสำเร็จได้ โดยเฉพาะในตลาดที่มีความผันผวนสูงอย่าง Forex ซึ่งมักจะเกิด "สัญญาณหลอก" บ่อยครั้ง
ดังนั้น เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการเทรด ควรใช้แนวรับ-แนวต้านร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น:

- เส้นแนวโน้ม (Trend Line): เพื่อยืนยันทิศทางของตลาด
- อินดิเคเตอร์ (Indicator): เช่น RSI, Moving Average เพื่อยืนยันสัญญาณ
- กรอบเวลา (Time Frame): การวิเคราะห์หลายๆ Time Frame จะช่วยให้เห็นภาพรวมที่ชัดเจนยิ่งขึ้น

การผสมผสานเครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้นักลงทุนมีความมั่นใจในการตัดสินใจเข้า-ออกออเดอร์และเห็นภาพราคาที่แท้จริงของตลาดมากขึ้น

แนวรับ แนวต้าน ดูยังไง?
สำหรับวิธีการดูแนวรับ แนวต้านสามารถสังเกตได้จากปริมาณการซื้อขายของราคา ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้ค่ะ

1. หาจุด Swing High และ Swing Low 
หาจุด Swing High และ Swing Low เพื่อสังเกตการแกว่งตัวของราคา ซึ่งจุด Swing High (แนวต้าน) และ Swing Low (แนวรับ) ควรมีอย่างน้อย 2 จุดขึ้นไป เพราะจะช่วยให้เราสามารถเห็นการเคลื่อนไหวของราคาที่แท้จริงได้ค่ะ

2. ดูการแกว่งตัวของราคา 
ดูการแกว่งตัวของราคา หากราคาแกว่งตัวที่กรอบบน บ่งชี้ถึงแนวต้าน และหากราคาแกว่งตัวที่กรอบล่าง บ่งชี้ถึงแนวรับ สำหรับการดูการแกว่งตัวของราคา เราต้องดูปริมาณการซื้อขายเป็นส่วนประกอบด้วย เพื่อยืนยันความแข็งแกร่งของแนวรับ แนวต้านนั่นเอง

3. ดูโซนราคา
ดูโซนราคาเป็นตัวบ่งชี้แนวรับ แนวต้าน โดยดูได้จากราคาเกิดการเด้งตัว หรือราคาย่อลงมา หากโซนราคาเกิดการเด้งตัว 3 ครั้งขึ้นไป นั่นแสดงให้เห็นว่า มีแนวรับแข็งแกร่ง และหากราคาย่อตัวลงมา 2 ครั้งขึ้นไป นั่นแสดงให้เห็นว่า มีแนวต้านที่แข็งแกร่ง


รู้หรือไม่ แนวรับกลายเป็นแนวต้าน – แนวต้านกลายเป็นแนวรับได้
แนวรับและแนวต้านเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยระบุแนวโน้มราคาให้ชัดเจนขึ้น แต่สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ แนวรับสามารถเปลี่ยนเป็นแนวต้านได้ และในทางกลับกัน แนวต้านก็สามารถเปลี่ยนเป็นแนวรับได้ เช่นกัน ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า "การสลับบทบาท" (Role Reversal)

การสลับบทบาทของแนวรับและแนวต้าน

การเปลี่ยนบทบาทนี้จะเกิดขึ้นเมื่อราคาเคลื่อนที่ ทะลุ แนวรับหรือแนวต้านไปได้ ซึ่งมีข้อสังเกตดังนี้:
- เมื่อแนวต้านกลายเป็นแนวรับ: หากราคา ทะลุแนวต้านขึ้นไปได้ แนวต้านเดิมที่เคยเป็นจุดต้านการขึ้นของราคาจะเปลี่ยนบทบาทมาเป็น แนวรับใหม่
- เมื่อแนวรับกลายเป็นแนวต้าน: หากราคา ทะลุแนวรับลงมาได้ แนวรับเดิมที่เคยเป็นจุดรับราคาจะเปลี่ยนบทบาทมาเป็น แนวต้านใหม่

ข้อควรปฏิบัติสำหรับเทรดเดอร์
หลังจากที่ราคาได้ทะลุแนวรับหรือแนวต้านไปแล้ว นักเทรดควรรอสังเกตพฤติกรรมของราคาว่ามี "ปฏิกิริยาซ้ำๆ" ที่แนวรับหรือแนวต้านที่เปลี่ยนไปนั้นหรือไม่ เพื่อเป็นการยืนยันว่าการสลับบทบาทได้เกิดขึ้นอย่างแท้จริง ก่อนที่จะตัดสินใจเข้าทำรายการเทรด

สรุป แนวรับ และ แนวต้าน
แนวรับ (Support) และ แนวต้าน (Resistance) เป็นเครื่องมือพื้นฐานที่สำคัญสำหรับนักเทรด โดยเป็นระดับราคาที่ใช้สังเกตพฤติกรรมของตลาด:
แนวรับ: คือระดับราคาที่เมื่อราคาลดลงมาถึงแล้วมักจะ เด้งกลับขึ้นไป เพราะมีแรงซื้อเข้ามามาก
แนวต้าน: คือระดับราคาที่เมื่อราคาเพิ่มขึ้นไปถึงแล้วมักจะ ย่อตัวลงมา เพราะมีแรงขายเข้ามามาก

การประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
การใช้แนวรับและแนวต้านเพียงอย่างเดียวอาจไม่แม่นยำเสมอไป โดยเฉพาะในตลาดที่มีความผันผวนสูงอย่าง Forex ดังนั้น เพื่อให้การวิเคราะห์พฤติกรรมราคามีประสิทธิภาพและแม่นยำยิ่งขึ้น ควรใช้ร่วมกับเครื่องมือทางเทคนิคอื่นๆ เช่น:
เส้นแนวโน้ม (Trend Line): ช่วยยืนยันทิศทางของราคา
อินดิเคเตอร์ (Indicator): เช่น Moving Average หรือ RSI เพื่อยืนยันสัญญาณ
กรอบเวลา (Time Frame): การวิเคราะห์หลายๆ กรอบเวลาจะช่วยให้เห็นภาพรวมของตลาดที่ชัดเจนขึ้น

ข้อแนะนำสำหรับนักเทรดมือใหม่
นักเทรดมือใหม่ควรฝึกฝนการตีเส้นแนวรับและแนวต้านให้ชำนาญ เพราะเป็นพื้นฐานสำคัญของการเทรด และอย่าลืมศึกษาเครื่องมือทางเทคนิคอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการเข้าเทรด และที่สำคัญที่สุดคือ การตั้งจุด Stop Loss (ตัดขาดทุน) และ Take Profit (ทำกำไร) เพื่อบริหารความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาในตลาด Forex

สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers
บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่