ตั้งแต่หนูเกิดมา หนูก็อยู่และโตในหอในตึกในอาคาร นานๆจะได้ไปเที่ยว ไปทำอย่างอื่น จนอายุ7ปี หนูป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว จนต้องรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช นานเป็นปี จนออกมา ก็ต้องไปเจาะหลัง ให้คีโมบ่อยๆ จนอาการทรงตัวดี เลยไปนานๆครั้ง แต่พออายุ15 โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวก็กลับมาอีก ทำให้หนูก็ต้องนอนโรงพยาบาลอีก และหนูไม่สามารถทำอะไรแบบคนอื่นได้เลย หนูอยากวิ่งเล่น ทำกิจกรรมกลางแจ้งแต่ทำไม่ได้ เพราะมีโรคแทรกซ้อนมาอีก โรคลมชัก มะเร็งเม็ดเลือด และโพแทสเซียมรั่ว เนื่องจากกินยาเยอะจนร่างกายรับไม่ไหว เลยต้องกินยาโพแทสเซียมเค้าไปอีก ชีวิตหนูตอนนี้หนูรู้สึกอีดอัด เบื่อ อยากนอนนิ่งๆ แต่ในใจอยากไปเที่ยว อยากไปพิพิธภัณฑ์ศิริราช หนูอยากไปตั้งแต่อายุ14แล้ว แต่ไม่เคยมีใครพาไป เพราะทุกคนบอกว่า ไม่ว่าง ไม่สะดวก หนูเป็นลูกคนกลาง มีพี่สาว1คน น้องชาย1คน ทุกคนได้เรียน แต่หนูต้องเรียน กศน. ศึกษาเองที่บ้าน หนูพยายามแล้วแต่หนูรู้สึกสมองหนูไม่รับอะไรเลย หนูพอมีความรู้ แต่หนูไม่เก่ง วิทย์-คณิต แต่หนูเก่งด้านภาษาและวาดรูป แต่พอหนูลงมือทำ คนในบ้านก็บอกทำไปทำไม มันได้เงินมั้ย มันดูไร้สาระเอาเวลาทำอย่างอื่นดีกว่า หนูเลยเลิกทำไป ทุกวันนี้หนูไม่ได้ทำอะไร แต่หนูก็เปิดคลิปสอนภาษาดูกับทริควาดรูป เพราะมันคือสองสิ่งที่หนูชอบ แต่บางคนบอกเอาแต่จ้องมือถือ แต่การที่หนูจ้องมันทำให้หนูได้ศัพท์ในคำพูดได้มากมายเลยค่ะ หนูสามารถสื่อสารกับต่างชาติได้ เขียนได้ พิมพ์ได้ ในทุกวันของหนู หนูจะทำหน้าที่ทำงานบ้านแทนค่ะ หนูไม่มีวันหยุดในการทำงานบ้าน มันอาจจะเหนื่อยเมื่อยแต่สำหรับหนู หนูคิดว่า หนูคงดูสบายที่สุดในบ้านแล้ว แค่ตื่นมา กินยากินข้าว นั่งทำอะไรไปเรื่อย หรือออกไปรับอากาศ กับแดด แค่นี้ ก็คงสบาย มันก็สบายแต่หนูต้องเจอคำพูดแซะเหน็บแนมตลอด ให้ไปหาสิ่งที่มีสาระทำ หนูก็อยากทำขนม เผื่อจะทำขายแต่พอมันไม่สำเร็จสองครั้ง ทุกคนก็บอกให้เลิกมันเปลืองมันเสียเวลา หนูเลยไม่ได้ทำอะไรเลย ที่มันสามารถหารายได้ ได้เลย หนูรู้สึกท้อมาก ทุกเดือนหนูต้องไปหาหมอไปรับยาให้คีโมและไปหาจิตแพทย์ หนูไม่กล้าเล่าให้จิตแพทย์ฟังว่าคำพูดจากคนในครอบครัวมันอึดอัดแค่ไหน หนูพยายามปั้นหน้าต่อหน้าทุกคนว่าโอเค หนูไหว หนูอิจฉาน้องหนูมากที่ได้เรียนได้มีเพื่อน ได้ทำกิจกรรม แต่หนูต้องทำงานบ้าน เรียนเอง ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจก็ต้องศึกษาอ่านซ้ำๆ กดดันตัวเอง เพื่อให้สมองมันฉลาดตามวัย แต่ด้วยความที่หนูไปโรงเรียนแค่ไม่กี่ครั้ง มันทำให้หนูเหมือนสมองไม่ซึมซับ ทุกวันนี้ ตอนที่ทุกคนไม่อยู่ หนูใช้เวลา เล่นกับแมว หนูเลี้ยงมา3ปีดูแลเอง แต่ก็ต้องใช้เงินพ่อแม่ แต่หนูรู้สึกว่า แมวคือสิ่งที่ฮิลใจมากที่สุด เราได้เล่นด้วยกัน ชมวิวหลังห้อง มองท้องฟ้า ดูการ์ตูน กินขนมกินข้าวด้วยกัน หนูมีความสุขมาก และหนูก็มีแฟน1คน เขาออกเป็นคนที่Toxicด้านคำพูดแต่หนูอดทน เพราะแฟนหนูก็ดูไม่ต่างอะไรกับคนในบ้านเลย ที่ใช้ำพูดรุนแรง จนหนูชินกับมันไปเอง ถึงจะมีน้อยใจเศร้า หรือกดดันตัวเองเสมอ แต่หนูไม่คิดจะโทษใครเพราะเกิดมาหนูก็ป่วยเอง โทษใครไม่ได้ และหนูคงทำตัวเป็นภาระในสายตาคนอื่นเสมอ แต่หนูแปลกใจทำไมไม่มีใครเห็นด้านดีของหนูเลย ตอนนี้ชีวิตหนูมันเหมือนมีแค่แมวที่ฮิลใจ ส่วนแฟนเขาก็ฮิลใจได้ เขาก็ให้กำลังใจบ้าง และบอกให้หนูไปหาอะไรทำ เขาเปรียบเทียบหนูกับน้องเขา ทำให้หนูรู้สึกแย่ได้ในทุกวัน แต่หนูอดทน เพราะอยากใช้ชีวิต อยากไปหลายๆที่ ที่หนูอยากจะไป และอยากจะพาแมวไปทะเลกับหนูด้วย หนูแค่อยากรู้ว่า หนูผิดมั้ยที่หนูทำตัวเองแบบนี้ แต่เพราะหนูรู้สึกหมดไฟในตัวเองมากๆ มันรู้สึกดิ่ง รู้สึกท้อ เศร้า ทุกคืน หรือตอนอาบน้ำ หนูจะร้องไห้คนเดียว การร้องไห้มันทำให้หนูรู้สึกได้ปลดปล่อยสิ่งที่เจอและสะสมมาตลอด หนูแค่อยากมีที่ระบายหรือคนรับฟังหนู การได้เล่ามันเป็นสิ่งที่หนูต้องการตลอด เผื่อจะมีสักคนให้คำปรึกษา บอกวิธีแก้หรือสอนหนูได้
หนูรู้สึกเบื่อชีวิตตัวเองมากๆ