จดหมายฝากของเปาโลเป็นพระวจนะของพระเจ้าหรือไม่ ?

คริสตชนเชื่อว่า ข้อความในคัมภีร์ไบเบิลถูกเขียนขึ้นโดยได้รับการดลใจจากพระเจ้า
ดังนั้นคริสตชนจึงเชื่อว่า ข้อความในคัมภีร์ไบเบิลเป็นพระวจนะของพระเจ้า

คริสตชนส่วนใหญ่เชื่อและประพฤติตามคำสอนในคัมภีร์ไบเบิล  มากบ้างน้อยบ้างตามความศรัทธาของแต่ละคน
โดยเชื่อว่าเมื่อประพฤติตามคำสอนของพระเจ้าแล้ว  พระเจ้าจะช่วยนำชีวิตให้ดีและมีสันติสุข

คัมภีร์ไบเบิลประกอบไปด้วยหนังสือหลายเล่มด้วยกัน โดยมีผู้บันทึกมากมายหลายคน (ประมาณ 40 คน)
ประกอบด้วย  ผู้เผยพระวจนะของพระเจ้า (ตามความเชื่อ)  อัครสาวกของพระเยซูคริสต์ (ที่ติดตามพระองค์)
และสาวกของพระเยซูคริสต์รุ่นหลัง (หลังจากพระเยซูคริสต์ทรงสิ้นพระชนม์แล้ว)  เป็นต้น

ในส่วนของพระคัมภีร์เดิมจำนวน 39 เล่ม (นิกายโปรเตสแตนต์) ได้ยึดถือตามคัมภีร์ฮีบรูของศาสนายูดาห์ (ยิว)
สำหรับพระคัมภีร์ใหม่จำนวน 27 เล่ม ได้บันทึกหลังจากที่พระเยซูคริสต์ทรงประสูติ โดยที่บางส่วนเป็นจดหมายฝาก
ที่เขียนโดยเปาโล ซึ่งเป็นสาวกรุ่นหลัง

ความเป็นมา
สาเหตุที่คริสตชนนำเอาจดหมายฝากของเปาโลมาเป็นส่วนหนึ่งของคัมภีร์ไบเบิลนั้น
เนื่องจากคริสตชนในยุคแรกๆ ได้พิจารณาแล้วเชื่อว่า ข้อความในจดหมายฝากของเปาโลเป็นพระวจนะของพระเจ้า
แล้วคริสตชนในยุคต่อๆ มา  ได้เชื่อตามกันมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

ประเด็น
ความเชื่อของคริสตนในยุคแรกๆ ถูกต้องหรือไม่ ?
=>  คริสตชนในยุคหลังควรตรวจสอบและทำการพิสูจน์ความเชื่อดังกล่าว  เท่าที่กำลังสติปัญญาของมนุษย์จะทำได้

ผลการตรวจสอบ
สามารถตรวจสอบได้เพียงบางส่วน  โดยเปรียบเทียบกับคำสอนของพระเยซูคริสต์ และความคิดเห็นของอัครสาวก
ซึ่งพบว่าเงื่อนไขที่มนุษย์จะได้รับความรอดเข้าสู่สวรรค์  มีการบันทึกแตกต่างกัน ดังนี้

1. ยอห์น 5:24  เยซูคริสต์ตรัสดังนี้
เราบอกความจริงกับพวกท่านว่า ถ้าใครฟังคำของเราและวางใจผู้ทรงใช้เรามา 
คนนั้นก็มีชีวิตนิรันดร์และไม่ถูกพิพากษา  แต่ผ่านพ้นความตายไปสู่ชีวิตแล้ว

2. ยอห์น 6:47  เยซูคริสต์ตรัสดังนี้
เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ผู้ที่วางใจในเราก็มีชีวิตนิรันดร์

3. มัทธิว 7:21  เยซูคริสต์ตรัสดังนี้
ไม่ใช่ทุกคนที่เรียกเราว่า "องค์พระผู้เป็นเจ้า" จะได้เข้าในแผ่นดินสวรรค์  
แต่ผู้ที่ปฏิบัติตามพระทัยพระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์จึงจะเข้าได้

4. ยากอบ 2:14,22,24  ยากอบ (อัครสาวก) ได้บันทึกดังนี้
พี่น้องของข้าพเจ้า  แม้ใครจะกล่าวว่าตนมีความเชื่อ  แต่ไม่ได้ประพฤติตามจะมีประโยชน์อะไร  
ความเชื่อนั้นจะช่วยให้เขารอดได้หรือ  ท่านก็เห็นแล้วว่า ความเชื่อนั้นทำงานควบคู่กับการประพฤติของเขา  
และความเชื่อก็สมบูรณ์โดยการประพฤตินั้น  พวกท่านก็เห็นแล้วว่า คนหนึ่งคนใดจะถูกชำระให้ชอบธรรมได้
ก็เพราะการประพฤติ และไม่ใช่เพราะความเชื่อเพียงอย่างเดียว

*** 5. โรม 10:9  เปาโลได้บันทึกดังนี้
คือว่าถ้าท่านจะยอมรับด้วยปากของท่านว่าพระเยซูทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า
และเชื่อในใจว่า พระเจ้าได้ทรงให้พระองค์เป็นขึ้นมาจากความตาย ท่านจะรอด

*** 6. โรม 10:13  เปาโลได้บันทึกดังนี้
เพราะว่า ผู้ที่ร้องออกพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะรอด

คำอธิบาย 
การทำตามพระประสงค์ (พระทัย) ของพระเจ้าผู้ประเสริฐ  เป็นการแสดงออกมาว่าวางใจพระเจ้าอย่างแท้จริง
จึงเป็นเหตุผลเดียวที่พระเจ้าจะนำให้มนุษย์ได้รับความรอดเข้าสู่สวรรค์  ดังนั้นคริสตชนผู้ใดเพียงแค่เชื่อพระเจ้า
แต่มักไม่ทำตามคำสอนของพระเจ้า และมักไม่ทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า ย่อมจะไม่ได้รับความรอดเข้าสู่สวรรค์
เพราะว่าเขาไม่ได้วางใจพระเจ้าผู้ประเสริฐ  เขาจึงไม่ใช่ลูกที่แท้จริงของพระองค์

สรุป 
ข้อความในโรม 10:9 และโรม 10:13 ไม่ถูกต้อง  แสดงว่าถูกเขียนขึ้นโดยไม่ได้รับการดลใจจากพระเจ้าผู้ประเสริฐ
ดังนั้นข้อความบางส่วนในจดหมายฝากของเปาโล จึงไม่ใช่พระวจนะของพระเจ้า

***ความเชื่อตามข้างต้นนี้ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล  
ซึ่งเกิดจากความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างผมกับพระเจ้าผู้ประเสริฐ  
โดยที่ไม่เกี่ยวข้องกับความเชื่อของคริสตชนคณะใดทั้งสิ้น***
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่