แท้ที่จริงแล้วชีวิตเรากำหนดมิได้

ท่านทั้งหลายอย่าพึงยกตนข่มท่าน อย่าใคร่คิดว่าตนเหนือกว่า เพราะเมื่อก่อนข้าพเจ้าหลงผิด ยโสโอหัง พอวันหนึ่งเราหมดอำนาจบารมี  ทุกสิ่งก็เลือนหาย

ท่านทั้งหลาย คนส่วนใหญ่มีอำนาจเงินทองน้อย เขาอาจจะไม่ช่วยเหลือบุคคลอื่นซ้ำๆ เพราะเขากลัวการที่ตนจะถูกพึ่งพา และมันจะทำให้คนในครอบครัวเขาเดือดร้อน  ซึ่งมันก็ไม่แปลกเลย

เพราะคนที่ไม่รู้จักคิดใช้เงินไม่ยั้งคิด วันหนึ่งก็หมดตัว

แต่ท่านทั้งหลาย ถ้ามีโอกาสทำดีจงทำ เพราะเราไม่อาจรู้ว่าจะตกยากตอนไหน จะลำบากตอนไหน บางทีวันนั้น เราอาจจะไม่มีทรัพย์ทำความดีอีกต่อไป

ถ้าคนเขาพึ่งพาท่าน แปลว่า พระเจ้ากำลังเบิกทางให้ท่านทำดี ถ้าท่านรู้สึกว่าเขาเอาเปรียบท่าน ก็จงคิดเสียว่าตนไม่ใช่คนดี เพียงแต่เป็นคนหน้าซื่อใจคด เพราะคนดีนั้น เขาจะมีหน้าที่แค่เพียงรับใช้ และสงสารเห็นใจแก่ผู้ทุกข์ยาก

และผู้ทุกข์ยากไม่ได้หมายถึงคนจน คนรวยก็ทุกข์ยากได้

แน่นอนว่า กำลังใจแห่งการรับใช้นั้น ต้องดูด้วยว่า คนที่เราช่วยเหลือ เป็นคนอย่างไร ท่านต้องการช่วยใคร

ข้าพเจ้าชอบคนซื่อสัตย์ ดังนั้นข้าพเจ้าจึงช่วยคนซื่อสัตย์ หากเป็นคนชั่วร้าย ถ้าข้าพเจ้าช่วยแล้วยังกลับใจไม่ได้ ข้าพเจ้าทำได้แค่ปล่อยเขาไป

แต่ก็มีบางคนที่ข้าพเจ้ารู้จัก เขาช่วยคน แม้คนนั้นจะชั่วช้าก็มีอยู่


การที่ท่านเสียดายเงินทองนั้น เพราะท่านมีภาระหนัก ท่านก็บอกไปตามตรงว่าท่านไม่มี ท่านไม่อาจช่วยเหลือใครได้ เพราะมนุษย์อย่างเราๆ มีคนที่รัก ลูกหลานเหลนโหลน บิดามารดา คนที่มีบุญคุณ  ท่านจะโฟกัสกับคนในครอบครัวไม่แปลกเลย


แต่ในมุมมองของข้าพเจ้า พระเจ้าสร้างโลก เหล่าเทพเจ้าที่อยู่บนสวรรค์ ทั้งมิติต่างๆ ล้วนแล้วแต่ ให้มนุษย์ทำดี  แต่มนุษย์กำลังน้อย


และพระเจ้าผู้สรรสร้างก็รู้จุดนั้น พระเยซูทรงเห็นแบบนั้น ว่าพละกำลังของเราน้อย

ดังนั้น ความดีของเราจึงไม่อาจวัดค่าได้ เราไม่มีบุญมากบุญน้อย

เราไม่สามารถชั่งน้ำหนักความดีได้


มันจึงมีหลักสามประการ

รักพระเจ้าสุดจิตสุดใจ

รักบุคคลอื่น เอาใจเขามาใส่ใจเรา

รักตัวเองที่สุด


ไม่มีหลักธรรมไหน ให้เรารักนักบวช รึ องค์พระสันตะปาปาเลย แม้แต่นิดเดียว


ต่อให้ทำพิธีล้างบาป ถ้าพระเจ้าไม่ให้เราเข้าสวรรค์ เราก็เข้ามิได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่