โดยพื้นฐานผมไม่ใช่แฟนคลับของเกมส์ persona เลย โดยเฉพาะ JRPG turnbased นี้ยิ่งห่างไกล เกมส์เดียวที่เล่นจบคือ pokemon ruby ซึ่งตามความเข้าใจเกมส์แนวนี้จะมีตลาดที่เฉพาะกลุ่ม(ถ้าผมเข้าใจผิด แก้ผมได้นะครับ) วัดจากตัวเองที่ตอนเด็กๆไม่ค่อยเล่นแนวนี้เพราะอย่างแรก text มันเยอะ ทั้ง dialog, item ต่างๆ ต่างกับแนวอื่นๆที่เราทำความเข้าใจผ่าน animation ได้ซะเป็นส่วนใหญ่
แล้วทำไมถึงเป็น Persona5 Royal?? จุดเริ่มต้นเป็นเพื่อนแนะนำ นำไปสู่การดูรีวิวที่ไปในทางดีถึงดีมาก องค์ประกอปหลายๆอย่างทั้ง Game play, UI ก็ดูทันสมัย, character design ก็ดูน่าสนใจ จากที่พูดมาก็ไม่มีเหตุเลยที่จะไม่ลองเล่น พอได้เล่นจริงๆก็ต้องยอมรับว่าดีสมคำล่ำลือ มี Interface ที่ดึงดูดคนให้คนสนใจ แต่ในด้านของเนื้อเรื่องก็ทำได้ดีถึงแม้จะไม่ได้หลุดกรอบความเป็นอนิเมะโชเน็นที่เน้นไปที่กลุ่มตัวเอกที่ต่อสู้กับความไม่ยุติธรรมในสังคม แต่ก็มีจุดหักมุมที่คาดไม่ถึงอยู่เหมือนกัน แถมประเด็นเสียดสีสังคมญี่ปุ่น+การเมืองที่ดูเป็นเรื่องหนักแต่ก็ทำมาได้เข้าใจง่าย มีคัทซีนอนิเมะใส่มาเป็นระยะๆ
ในด้านของ gameplay ขอแบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนแรก) คือพาร์ที่ตัวเอกใช้ชีวิตประจำวัน ไปเรียน อ่านหนังสือ ทำการบ้าน เที่ยวกับเพื่อน ไปเดท ที่หลายๆคนบอกว่ามันเป็นการจำลองการใช้ชีวิตเป็นนักเรียนญี่ปุ่นก็คงไม่เกินจริง และการทำแต่ละอย่างไม่ใช่แค่สนอง need ตัวเองแต่เป็นการเพิ่มค่าสถานะของตัวเอก เพื่อให้การตะลุยปราสาทหรือปราบบอสง่ายขึ้นอีกด้วย ขอชมว่าเกมส์ manage ตรงนี้ได้ดี คือไม่ถึงบังคับว่าผู้เล่นต้องทำจนเกิน แต่ถ้าทำก็จะทำให้เราเล่นเกมส์ง่ายขึ้นและสร้าง situation ให้เราต้องทำกิจกรรมนั้นแบบอ้อมๆ ที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ การจีบสาวในเรื่อง คือมันจิ้นมันฟริน เป็นอีกหนึ่งแรงจูงใจที่ทำให้เราอยากทำกิจกรรมกับตัวละครนั้นๆมากขึ้น เพื่อจะได้สานสัมพันธ์กับเธอ รวมถึงการได้รู้เนื้อเรื่องแยกของตัวละคนนั้นๆเพิ่มด้วย ส่วนที่สอง) จะเป็นการตะลุยปราสาท ส่วนตัวรู้สึกแอบน่าเบื่อนิดๆ แต่ไม่ถึงกับห่วย ในการต่อพาซเซิลเพื่อที่จะทะลุไปเจอบอสตามเนื้อเรื่อง บางครั้งเราต้องเดินไปเดินมาหลายๆรอบ แถมยังต้องคอยหลบพวกมอนส์ในปราสาทเพราะขี้เกียจจะสู้อีก แต่หลายๆพาซเซิลก็ทำมาสร้างสรรค์ดี ที่ผมชอบสุดน่าจะเป็นปราสาทของศิลปินนักวาดรูป(จำชื่อไม่ได้)
ส่วนที่สาม) การต่อสู้แบบ turn based จริงๆตัว turn based ก็ไม่ได้มีระบบอะไรที่ใหม่มาก แต่นำระบบที่มีอยู่แล้วมาเสริมเติมแต่งให้น่าเล่นมากขึ้น การเคลื่อนไหวก็ทำได้ลื่นไหลตามมาตรฐาน แถมยังดึงเสน่ห์ของเกมส์แนวนี้ออกมาได้ดี คือไม่ใช่คือตีแรงแล้วจะชนะได้ง่ายๆ บางครั้งก็ต้องอาศัยสกิลหลายๆตัวละครมาคอมโบต่อกัน และอยู่ภายใต้ข้อจำกัดของมานา ทำให้การสู้ในหลายๆครั้งต้องวางกลยุทธมาให้ดี จะมีตินิดนึงคือบอสบางตัวก็ดูโกงเกิน แบบสู้จนเหนื่อย มีเงื่อนไขประหลาดๆ ให้สู้หลายๆเวฟแบบไม่จำเป็น(ถ้าคนเล่นก็คงรู้ว่าผมหมายถึงบอสคนไหน ฮา) บวกกับเกมส์มีปลดล๊อคมอนสเตอร์ STAT สูงๆมาให้เราใช้แบบง่ายๆ เช่น เลเวลปราสาทนี้อาจจะเฉลี่ยอยู่ที่30 แต่เกมส์ให้มอนส์เตอร์เวล90เรามาใช้ (ส่วนตัวคิดว่าคงให้เรามาเคลียร์มอนส์กี้ๆตามทาง แต่มันทำให้เราไม่อยากจะพัฒนามอนตัวอื่น เพราะรู้ว่ามันมีตัวที่จบงานได้ไวกว่าเยอะ) อ่อลืมบอกว่าเกมส์นี้มีระบบฟิวชั่นมอนด้วย
ถ้าสรุปโดยรวม เป็นเกมส์ JRPG ที่ย่อยง่ายถ้าผ่านช่วง tutorial มาได้อะนะ เนื้อเรื่องดีมากๆ มีอะไรให้ทำเยอะ ภาพ เสียง ดนตรี ก็ทำได้ดีแม้จะมาเล่นในปี 2025 ก็ไม่ได้ดูตกยุคเท่าไหร่ ถ้าจะติดก็คงเป็นบอสบางตัวหรือpuzzleบางอันที่ดูยากแบบเกินความจำเป็น ถ้าใครอยากดื่มด่ำความเป็นญี่ปุ่นถือว่าตอบโจทย์มากๆ เล่นแล้วติดหนึบแน่นอน
รีวิว Persona5 เกมส์ที่ทำลายกำแพงของ JRPG !!!
แล้วทำไมถึงเป็น Persona5 Royal?? จุดเริ่มต้นเป็นเพื่อนแนะนำ นำไปสู่การดูรีวิวที่ไปในทางดีถึงดีมาก องค์ประกอปหลายๆอย่างทั้ง Game play, UI ก็ดูทันสมัย, character design ก็ดูน่าสนใจ จากที่พูดมาก็ไม่มีเหตุเลยที่จะไม่ลองเล่น พอได้เล่นจริงๆก็ต้องยอมรับว่าดีสมคำล่ำลือ มี Interface ที่ดึงดูดคนให้คนสนใจ แต่ในด้านของเนื้อเรื่องก็ทำได้ดีถึงแม้จะไม่ได้หลุดกรอบความเป็นอนิเมะโชเน็นที่เน้นไปที่กลุ่มตัวเอกที่ต่อสู้กับความไม่ยุติธรรมในสังคม แต่ก็มีจุดหักมุมที่คาดไม่ถึงอยู่เหมือนกัน แถมประเด็นเสียดสีสังคมญี่ปุ่น+การเมืองที่ดูเป็นเรื่องหนักแต่ก็ทำมาได้เข้าใจง่าย มีคัทซีนอนิเมะใส่มาเป็นระยะๆ
ในด้านของ gameplay ขอแบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนแรก) คือพาร์ที่ตัวเอกใช้ชีวิตประจำวัน ไปเรียน อ่านหนังสือ ทำการบ้าน เที่ยวกับเพื่อน ไปเดท ที่หลายๆคนบอกว่ามันเป็นการจำลองการใช้ชีวิตเป็นนักเรียนญี่ปุ่นก็คงไม่เกินจริง และการทำแต่ละอย่างไม่ใช่แค่สนอง need ตัวเองแต่เป็นการเพิ่มค่าสถานะของตัวเอก เพื่อให้การตะลุยปราสาทหรือปราบบอสง่ายขึ้นอีกด้วย ขอชมว่าเกมส์ manage ตรงนี้ได้ดี คือไม่ถึงบังคับว่าผู้เล่นต้องทำจนเกิน แต่ถ้าทำก็จะทำให้เราเล่นเกมส์ง่ายขึ้นและสร้าง situation ให้เราต้องทำกิจกรรมนั้นแบบอ้อมๆ ที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ การจีบสาวในเรื่อง คือมันจิ้นมันฟริน เป็นอีกหนึ่งแรงจูงใจที่ทำให้เราอยากทำกิจกรรมกับตัวละครนั้นๆมากขึ้น เพื่อจะได้สานสัมพันธ์กับเธอ รวมถึงการได้รู้เนื้อเรื่องแยกของตัวละคนนั้นๆเพิ่มด้วย ส่วนที่สอง) จะเป็นการตะลุยปราสาท ส่วนตัวรู้สึกแอบน่าเบื่อนิดๆ แต่ไม่ถึงกับห่วย ในการต่อพาซเซิลเพื่อที่จะทะลุไปเจอบอสตามเนื้อเรื่อง บางครั้งเราต้องเดินไปเดินมาหลายๆรอบ แถมยังต้องคอยหลบพวกมอนส์ในปราสาทเพราะขี้เกียจจะสู้อีก แต่หลายๆพาซเซิลก็ทำมาสร้างสรรค์ดี ที่ผมชอบสุดน่าจะเป็นปราสาทของศิลปินนักวาดรูป(จำชื่อไม่ได้)
ส่วนที่สาม) การต่อสู้แบบ turn based จริงๆตัว turn based ก็ไม่ได้มีระบบอะไรที่ใหม่มาก แต่นำระบบที่มีอยู่แล้วมาเสริมเติมแต่งให้น่าเล่นมากขึ้น การเคลื่อนไหวก็ทำได้ลื่นไหลตามมาตรฐาน แถมยังดึงเสน่ห์ของเกมส์แนวนี้ออกมาได้ดี คือไม่ใช่คือตีแรงแล้วจะชนะได้ง่ายๆ บางครั้งก็ต้องอาศัยสกิลหลายๆตัวละครมาคอมโบต่อกัน และอยู่ภายใต้ข้อจำกัดของมานา ทำให้การสู้ในหลายๆครั้งต้องวางกลยุทธมาให้ดี จะมีตินิดนึงคือบอสบางตัวก็ดูโกงเกิน แบบสู้จนเหนื่อย มีเงื่อนไขประหลาดๆ ให้สู้หลายๆเวฟแบบไม่จำเป็น(ถ้าคนเล่นก็คงรู้ว่าผมหมายถึงบอสคนไหน ฮา) บวกกับเกมส์มีปลดล๊อคมอนสเตอร์ STAT สูงๆมาให้เราใช้แบบง่ายๆ เช่น เลเวลปราสาทนี้อาจจะเฉลี่ยอยู่ที่30 แต่เกมส์ให้มอนส์เตอร์เวล90เรามาใช้ (ส่วนตัวคิดว่าคงให้เรามาเคลียร์มอนส์กี้ๆตามทาง แต่มันทำให้เราไม่อยากจะพัฒนามอนตัวอื่น เพราะรู้ว่ามันมีตัวที่จบงานได้ไวกว่าเยอะ) อ่อลืมบอกว่าเกมส์นี้มีระบบฟิวชั่นมอนด้วย
ถ้าสรุปโดยรวม เป็นเกมส์ JRPG ที่ย่อยง่ายถ้าผ่านช่วง tutorial มาได้อะนะ เนื้อเรื่องดีมากๆ มีอะไรให้ทำเยอะ ภาพ เสียง ดนตรี ก็ทำได้ดีแม้จะมาเล่นในปี 2025 ก็ไม่ได้ดูตกยุคเท่าไหร่ ถ้าจะติดก็คงเป็นบอสบางตัวหรือpuzzleบางอันที่ดูยากแบบเกินความจำเป็น ถ้าใครอยากดื่มด่ำความเป็นญี่ปุ่นถือว่าตอบโจทย์มากๆ เล่นแล้วติดหนึบแน่นอน