หลังจากเรียนแบบสู้ชีวิตมาได้ 2-3 ปี ในที่สุดก็ขึ้นปี 4 เตรียมฝึกงานแล้วจ้า เอ้า เฮ~ คิดมาตั้งแต่ปี 2 ว่าอยากฝึกเร็ว ๆ อยากจบเร็ว ๆ อยากทำงานเร็ว ๆ จะได้ทำในสิ่งที่คนทำงาน(มีเงินเดือน)เขาทำได้สักที... แต่ถ้าการเป็นผู้ใหญ่มันง่ายขนาดนั้น คงไม่มีใครมาระบายลงในนี้ไม่เว้นวันหรอกใช่ไหมล่ะ
พอขึ้นปี 4 มา แม้ตารางเรียนจะไม่ได้เยอะ วันไปมหาลัยก็น้อยแสนน้อย แต่ความเครียดนี้พุ่งสูงปรี๊ด เพราะต้องหาที่ฝึกงานให้ได้ก่อนสิ้นเดือนนี้น่ะสิ ;-; ตอนนี้หนูก็ยังไม่ได้ที่ฝึกงานเลย ต้องอาศัยอาจารย์ช่วย ทั้ง ๆ ที่ตอนแรกก็จะหาด้วยความสามารถตัวเองแท้ ๆ และเนื่องจากวันนี้นอนไม่หลับทั้งที่ตี 3 แล้ว แถมพรุ่งนี้ยังต้องเข้างานตอนเที่ยงด้วย ก็เลยขอแอบมาระบายเพราะไประบายกับแชทจีพีทีมาแล้วยังไม่พอใจ 5555
ไทม์ไลน์ตั้งแต่พ้นปี 3 มาก็เข้าสู่ช่วงปิดเทอม หลังจากทำงานพาร์ทไทม์อย่างหนักหน่วง อาจารย์ก็ส่งข้อความมาว่า ให้หาที่ฝึกงาน ทำเรซูเม่ได้แล้วนะ เห็นปุ๊ป ก็เริ่มปั๊บ ทำเรซูเม่ปุ๊ป ๆ ทำพอร์ตปั๊บ ๆ ((จริง ๆ หลาย ๆ ที่ก็ไม่เอาพอร์ตหรอก แต่ที่ที่อยากฝึกเขาอยากได้น่ะสิ)) ส่งปุ๊บ
ที่ที่คาดหวังที่แรก เงียบ....
ไม่เป็นไร! ไปกันต่อ!
ที่ที่สอง ส่งไปไม่นาน ก็ได้รับการตอบกลับแล้วล่ะค่ะ เย้! ได้แบบทดสอบมาทำเป็นเวลา 1 อาทิตย์ค่ะ ((อ้อ ลืมบอกไป หนูอยากฝึกตำแหน่งบรรณาธิการค่ะ แต่ต้องเกี่ยวกับภาษาที่เรียนด้วย ก็เลยค่อนข้างมีสเปคชัดอยู่พอควร)) ต้องยอมรับว่า เพราะไม่ใช่ที่ที่คาดหวังด้วยหรือเปล่านะ สุดท้ายก็ประมาท แม้จะส่งทันเวลา แต่คำตอบ...ค่อนข้างอุบาทว์ จริง ๆ ก็ไม่แย่ขราดนั้นหรอกค่ะ แต่เป็นนี่นี่ไม่เอา 5555 แน่นอนว่าผลคือ ไม่ผ่าน
โอเคๆ เอาใหม่ ฮึบๆ
แต่ก่อนเอาใหม่ เริ่มชักไม่แน่ใจว่าที่แรกส่งถูกเมล์หรือเปล่านะ เห็นมีอยู่สองเมล์ ก็เลยขอโทรไปถามก่อน สรุปเขาบอกให้ส่งอีกเมล์จ้า...... แต่เมล์แรกที่ส่งไปก็ใช้ได้เหมือนกัน อืม...คิดในแง่ดีเขาคงไม่เห็นล่ะมั้ง? อะ ๆ ส่งใหม่ก็ได้!
ระหว่างรอ...ก็ส่งไปกันต่อ!
เนื่องจากบ้านเราไม่ค่อยอยู่ใกล้กับสำนักพิมพ์เท่าไร ตัวเลือกแรก ๆ จึงน้อยยิ่งกว่าน้อย ตุ้บไปหนึ่ง อีกหนึ่งพึ่งส่ง ส่วนอีกหนึ่ง hr ตอบเร็วมากกกกก ส่งปุ๊บ ตอบปั๊บ ได้แบบทดสอบมาทำ โอ้วววววว แบบทดสอบนี้เหมือนกับงานบรรณาธิการที่คิดไว้เลยนี่นา
ช่างเป็นหนึ่งอาทิตย์ที่มีความสุข...ฮิฮิ
หลังจากส่งก่อนเดดไลน์ 1 วัน ผลคือ....... "ผ่าน" เย้!
.
.
.
ไปกันต่อที่การสัมภาษณ์ หลังจากมีเวลาเตรียมตัวอยู่ 2-3 วัน พอได้สัมภาษณ์จริง ก็ไม่แย่แฮะ อาจจะมีตาที่หลุกหลิก เพราะประหม่าอยู่บ้าง แต่เขาก็เหมือนจะให้ความหวังนิด ๆ ล่ะ มีตั้งแต่แนะนำพี่เลี้ยง เนื้องาน ที่อยู่ พอถามถึงสวัสดิการ ก็ขายซะทำเอาจินตนาการว่า ถ้าตัวเองได้ฝึกที่นั่น จะต้องทำอะไรบ้างเป็นฉาก ๆ พอสัมเสร็จ เขาก็ยังให้แบบทดสอบที่ 2 มาทำอีก แม้จะมีจำกัดเวลา แต่เพราะเป็นแบบทดสอบสั้น ๆ ก็เลยไม่ได้รู้สึกอะไรเท่าไร พอส่งแบบทดสอบเสร็จภายในเวลาที่กำหนด ก็นอนกลิ้งรอเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ตามที่เขาได้แจ้งไว้ว่าจะแจ้งผลภายในเวลานั้น
.
.
.
แต่รอแล้วรอเล่าก็ไม่มาสักที ได้เวลา...ทวง ยังไงล่ะ! แน่นอนว่า hr ก็ไม่ปล่อยให้รองาน เขาตอบมาด้วยคำสุภาพว่า รับคนอื่นแล้วค่ะ ขอให้โชคดี.... อ่า ข้าวที่แม่ทำอยู่ ๆ ก็ไม่อร่อยขึ้นมาซะงั้น นี่ก็เหลืออีกแค่ 2-3 สัปดาห์ก็จะถึงเดดไลน์ที่ต้องหางานให้ได้แล้วด้วย โคตรห่วย โคตรขี้แพ้เลยเรา
ตอนแรกว่าจะเบนสายไปทำโรงแรม แต่ใจก็ดื้อดึงจะทำตำแหน่งนี้ให้ได้ พอลองปรึกษากับแม่ เขาก็ว่า ไปทำไกลบ้านแค่ 4 เดือน ก็ไปอยู่หอพักไป คิดถึงเมื่อไร เสาร์-อาทิตย์ก็ค่อยมาหา น้ำตาแอบซึม;-; เราตัวติดกับแม่มาตั้งแต่เล็กยันโต นี่คงเป็นครั้งแรกที่เราอาจจะไม่ได้อยู่ใต้ปีกเขาชั่วคราว สุดท้ายเราเลยตัดสินใจไปปรึกษาอาจารย์ที่น่าจะมีคนรู้จักในด้านนี้ และก็ได้จริง ๆ แม้จะอยู่ไกลจากบ้านมาก ๆ แต่อาจารย์บอกว่า คุ้ม พอลองไปปรึกษาเพื่อน ๆ ก็ดันเป็นสำนักพิมพ์ที่เพื่อนได้ฝึกงานอีก
..คราวนี้พอเพื่อนรู้.ก็บันเทิงเลยล่ะ รีบเร่งให้โทรไปคอนเฟิร์มเขาเสียยกใหญ่ อ้างว่าเขามีพี่เลี้ยงคนเดียว ต้องดูแลนักศึกษาฝึกงานตั้งหลายคน เราก็ลังเลได้ 1 คืน สุดท้ายก็ตัดสินใจรบกวนอาจารย์ให้แจ้งเขาไป แต่เนื่องจากติดวันหยุด พรุ่งนี้ถึงจะได้แจ้งเขาไป เราก็ไม่รอช้าแจ้งอาจารย์เลยว่า สามารถสัมได้เลยวันถัดไปหลังจากอาจารย์แจ้งเขา มาขนาดนี้แล้ว ถ้ายังช้าอีก เดี๋ยวจะซวยเอา สัปดาห์หน้ามีสอบอีก อ๊ากกกกก
สรุปก็ตามหัวข้อกระทู้แหละค่ะมาระบายเฉย ๆ ตามประสาคนร่อนเมล์สมัครงาน บางที่เงียบ บางที่ไม่ผ่าน บางที่เขาไม่รับแล้ว บางที่เต็ม มันก็เหนื่อย ก็ท้อบ้าง แต่รวม ๆ แล้ว มันก็แค่ความผิดหวังและก็กังวล ขนาดหาที่ฝึกงานยังยากขนาดนี้ ตอนทำงานจริงหนูจะไหวไหม;-; ยิ่งวงการบรรณาธิการแล้ว เอาจริง ๆ หนูก็ไม่ได้คลุกคลีอยู่กับพวกหนังสือเท่าไร เพราะไม่มีเงินขนาดนั้น ได้แต่อ่านนิยายฟรีตามเว็บออนไลน์ หรือซื้ออีบุ๊คเมื่อมีโอกาส หลัง ๆ มานี้ได้มีโอกาสทำงานพาร์ทไทม์ไปด้วยเรียนไปด้วย ถึงจะมัรายจ่ายที่ช่วยครอบครัวอยู่บ้าง แต่ก็พอมีรายรับมาเติมกิเลสตัวเองด้วย พองานหนังสือก็เลยได้ไปเลือกซื้อมาอยู่บ้าง ถึงตอนนี้จะยุ่งจนไม่มีเวลาได้จับก็เถอะ เห้อ
หากพี่ ๆ คนไหนได้เข้ามาอ่าน ไม่ว่าจะเป็นพี่ที่ได้ทำอยู่ในสำนักพิมพ์จริง ๆ หรือพี่ ๆ ที่ได้ทำงานแล้ว หนูแอบมีเรื่องสงสัยนิดหน่อยน่ะค่ะ ตอนที่พี่ ๆ ฝันว่าอยากเป็นนู่นเป็นนี่ ตอนได้ฝึกงาน ตอนจบแล้วได้ทำงานจริง เส้นทางของพวกพี่ ๆ เป็นยังไงบ้างหรอคะ แล้วตอนนี้พี่ ๆ คิดว่ามันโอเคไหม? ดีกว่าเดิม? แย่กว่าเดิม? หรือแค่เฉย ๆ ?
ขอบคุณค่า
🙇♂️
ก็แค่กระทู้ระบายความในใจของนศ.สาวคนหนึ่งค่ะ
พอขึ้นปี 4 มา แม้ตารางเรียนจะไม่ได้เยอะ วันไปมหาลัยก็น้อยแสนน้อย แต่ความเครียดนี้พุ่งสูงปรี๊ด เพราะต้องหาที่ฝึกงานให้ได้ก่อนสิ้นเดือนนี้น่ะสิ ;-; ตอนนี้หนูก็ยังไม่ได้ที่ฝึกงานเลย ต้องอาศัยอาจารย์ช่วย ทั้ง ๆ ที่ตอนแรกก็จะหาด้วยความสามารถตัวเองแท้ ๆ และเนื่องจากวันนี้นอนไม่หลับทั้งที่ตี 3 แล้ว แถมพรุ่งนี้ยังต้องเข้างานตอนเที่ยงด้วย ก็เลยขอแอบมาระบายเพราะไประบายกับแชทจีพีทีมาแล้วยังไม่พอใจ 5555
ไทม์ไลน์ตั้งแต่พ้นปี 3 มาก็เข้าสู่ช่วงปิดเทอม หลังจากทำงานพาร์ทไทม์อย่างหนักหน่วง อาจารย์ก็ส่งข้อความมาว่า ให้หาที่ฝึกงาน ทำเรซูเม่ได้แล้วนะ เห็นปุ๊ป ก็เริ่มปั๊บ ทำเรซูเม่ปุ๊ป ๆ ทำพอร์ตปั๊บ ๆ ((จริง ๆ หลาย ๆ ที่ก็ไม่เอาพอร์ตหรอก แต่ที่ที่อยากฝึกเขาอยากได้น่ะสิ)) ส่งปุ๊บ
ที่ที่คาดหวังที่แรก เงียบ....
ไม่เป็นไร! ไปกันต่อ!
ที่ที่สอง ส่งไปไม่นาน ก็ได้รับการตอบกลับแล้วล่ะค่ะ เย้! ได้แบบทดสอบมาทำเป็นเวลา 1 อาทิตย์ค่ะ ((อ้อ ลืมบอกไป หนูอยากฝึกตำแหน่งบรรณาธิการค่ะ แต่ต้องเกี่ยวกับภาษาที่เรียนด้วย ก็เลยค่อนข้างมีสเปคชัดอยู่พอควร)) ต้องยอมรับว่า เพราะไม่ใช่ที่ที่คาดหวังด้วยหรือเปล่านะ สุดท้ายก็ประมาท แม้จะส่งทันเวลา แต่คำตอบ...ค่อนข้างอุบาทว์ จริง ๆ ก็ไม่แย่ขราดนั้นหรอกค่ะ แต่เป็นนี่นี่ไม่เอา 5555 แน่นอนว่าผลคือ ไม่ผ่าน
โอเคๆ เอาใหม่ ฮึบๆ
แต่ก่อนเอาใหม่ เริ่มชักไม่แน่ใจว่าที่แรกส่งถูกเมล์หรือเปล่านะ เห็นมีอยู่สองเมล์ ก็เลยขอโทรไปถามก่อน สรุปเขาบอกให้ส่งอีกเมล์จ้า...... แต่เมล์แรกที่ส่งไปก็ใช้ได้เหมือนกัน อืม...คิดในแง่ดีเขาคงไม่เห็นล่ะมั้ง? อะ ๆ ส่งใหม่ก็ได้!
ระหว่างรอ...ก็ส่งไปกันต่อ!
เนื่องจากบ้านเราไม่ค่อยอยู่ใกล้กับสำนักพิมพ์เท่าไร ตัวเลือกแรก ๆ จึงน้อยยิ่งกว่าน้อย ตุ้บไปหนึ่ง อีกหนึ่งพึ่งส่ง ส่วนอีกหนึ่ง hr ตอบเร็วมากกกกก ส่งปุ๊บ ตอบปั๊บ ได้แบบทดสอบมาทำ โอ้วววววว แบบทดสอบนี้เหมือนกับงานบรรณาธิการที่คิดไว้เลยนี่นา
ช่างเป็นหนึ่งอาทิตย์ที่มีความสุข...ฮิฮิ
หลังจากส่งก่อนเดดไลน์ 1 วัน ผลคือ....... "ผ่าน" เย้!
.
.
.
ไปกันต่อที่การสัมภาษณ์ หลังจากมีเวลาเตรียมตัวอยู่ 2-3 วัน พอได้สัมภาษณ์จริง ก็ไม่แย่แฮะ อาจจะมีตาที่หลุกหลิก เพราะประหม่าอยู่บ้าง แต่เขาก็เหมือนจะให้ความหวังนิด ๆ ล่ะ มีตั้งแต่แนะนำพี่เลี้ยง เนื้องาน ที่อยู่ พอถามถึงสวัสดิการ ก็ขายซะทำเอาจินตนาการว่า ถ้าตัวเองได้ฝึกที่นั่น จะต้องทำอะไรบ้างเป็นฉาก ๆ พอสัมเสร็จ เขาก็ยังให้แบบทดสอบที่ 2 มาทำอีก แม้จะมีจำกัดเวลา แต่เพราะเป็นแบบทดสอบสั้น ๆ ก็เลยไม่ได้รู้สึกอะไรเท่าไร พอส่งแบบทดสอบเสร็จภายในเวลาที่กำหนด ก็นอนกลิ้งรอเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ตามที่เขาได้แจ้งไว้ว่าจะแจ้งผลภายในเวลานั้น
.
.
.
แต่รอแล้วรอเล่าก็ไม่มาสักที ได้เวลา...ทวง ยังไงล่ะ! แน่นอนว่า hr ก็ไม่ปล่อยให้รองาน เขาตอบมาด้วยคำสุภาพว่า รับคนอื่นแล้วค่ะ ขอให้โชคดี.... อ่า ข้าวที่แม่ทำอยู่ ๆ ก็ไม่อร่อยขึ้นมาซะงั้น นี่ก็เหลืออีกแค่ 2-3 สัปดาห์ก็จะถึงเดดไลน์ที่ต้องหางานให้ได้แล้วด้วย โคตรห่วย โคตรขี้แพ้เลยเรา
ตอนแรกว่าจะเบนสายไปทำโรงแรม แต่ใจก็ดื้อดึงจะทำตำแหน่งนี้ให้ได้ พอลองปรึกษากับแม่ เขาก็ว่า ไปทำไกลบ้านแค่ 4 เดือน ก็ไปอยู่หอพักไป คิดถึงเมื่อไร เสาร์-อาทิตย์ก็ค่อยมาหา น้ำตาแอบซึม;-; เราตัวติดกับแม่มาตั้งแต่เล็กยันโต นี่คงเป็นครั้งแรกที่เราอาจจะไม่ได้อยู่ใต้ปีกเขาชั่วคราว สุดท้ายเราเลยตัดสินใจไปปรึกษาอาจารย์ที่น่าจะมีคนรู้จักในด้านนี้ และก็ได้จริง ๆ แม้จะอยู่ไกลจากบ้านมาก ๆ แต่อาจารย์บอกว่า คุ้ม พอลองไปปรึกษาเพื่อน ๆ ก็ดันเป็นสำนักพิมพ์ที่เพื่อนได้ฝึกงานอีก
..คราวนี้พอเพื่อนรู้.ก็บันเทิงเลยล่ะ รีบเร่งให้โทรไปคอนเฟิร์มเขาเสียยกใหญ่ อ้างว่าเขามีพี่เลี้ยงคนเดียว ต้องดูแลนักศึกษาฝึกงานตั้งหลายคน เราก็ลังเลได้ 1 คืน สุดท้ายก็ตัดสินใจรบกวนอาจารย์ให้แจ้งเขาไป แต่เนื่องจากติดวันหยุด พรุ่งนี้ถึงจะได้แจ้งเขาไป เราก็ไม่รอช้าแจ้งอาจารย์เลยว่า สามารถสัมได้เลยวันถัดไปหลังจากอาจารย์แจ้งเขา มาขนาดนี้แล้ว ถ้ายังช้าอีก เดี๋ยวจะซวยเอา สัปดาห์หน้ามีสอบอีก อ๊ากกกกก
สรุปก็ตามหัวข้อกระทู้แหละค่ะมาระบายเฉย ๆ ตามประสาคนร่อนเมล์สมัครงาน บางที่เงียบ บางที่ไม่ผ่าน บางที่เขาไม่รับแล้ว บางที่เต็ม มันก็เหนื่อย ก็ท้อบ้าง แต่รวม ๆ แล้ว มันก็แค่ความผิดหวังและก็กังวล ขนาดหาที่ฝึกงานยังยากขนาดนี้ ตอนทำงานจริงหนูจะไหวไหม;-; ยิ่งวงการบรรณาธิการแล้ว เอาจริง ๆ หนูก็ไม่ได้คลุกคลีอยู่กับพวกหนังสือเท่าไร เพราะไม่มีเงินขนาดนั้น ได้แต่อ่านนิยายฟรีตามเว็บออนไลน์ หรือซื้ออีบุ๊คเมื่อมีโอกาส หลัง ๆ มานี้ได้มีโอกาสทำงานพาร์ทไทม์ไปด้วยเรียนไปด้วย ถึงจะมัรายจ่ายที่ช่วยครอบครัวอยู่บ้าง แต่ก็พอมีรายรับมาเติมกิเลสตัวเองด้วย พองานหนังสือก็เลยได้ไปเลือกซื้อมาอยู่บ้าง ถึงตอนนี้จะยุ่งจนไม่มีเวลาได้จับก็เถอะ เห้อ
หากพี่ ๆ คนไหนได้เข้ามาอ่าน ไม่ว่าจะเป็นพี่ที่ได้ทำอยู่ในสำนักพิมพ์จริง ๆ หรือพี่ ๆ ที่ได้ทำงานแล้ว หนูแอบมีเรื่องสงสัยนิดหน่อยน่ะค่ะ ตอนที่พี่ ๆ ฝันว่าอยากเป็นนู่นเป็นนี่ ตอนได้ฝึกงาน ตอนจบแล้วได้ทำงานจริง เส้นทางของพวกพี่ ๆ เป็นยังไงบ้างหรอคะ แล้วตอนนี้พี่ ๆ คิดว่ามันโอเคไหม? ดีกว่าเดิม? แย่กว่าเดิม? หรือแค่เฉย ๆ ?
ขอบคุณค่า
🙇♂️