ทภ.2 เผย EOD พบทุ่นระเบิด PMN-2 ในเขตไทย เพิ่มอีก 3 ทุ่น จุดเดียวกับ ส.อ.ธีรพล เหยียบ
https://www.matichon.co.th/politics/news_5320128
.
.
กองทัพภาคที่ 2 ส่ง EOD-พฐ. ตรวจพิสูจน์เหตุ ส.อ.ธีรพล เหยียบทุ่นระเบิด ขาขาด ชัด เป็นทุ่นระเบิด PMN-2 พบเพิ่มเติมอีก 3 ทุ่น ที่เขมรลอบเข้ามาวาง
.
เพจกองทัพภาคที่ 2 รายงานว่า จากเหตุการณ์ที่ สิบเอก ธีรพล เพียขันที สังกัด กองร้อยทหารพรานที่ 2610 ทำการลาดตระเวนบริเวณ ฐานปฏิบัติการจุบตะโมก อยู่ทางตะวันตก ปราสาทตาเหมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ได้ประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิด PMN-2 ได้รับบาดเจ็บสาหัส
.
กองทัพภาคที่ 2 ได้ดำเนินการส่งหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด และพิสูจน์หลักฐาน
เดินทางลงพื้นที่เกิดเหตุบริเวณฐานปฏิบัติการจุบตะโมก พื้นที่ปราสาทตาเหมือนธม เข้าไปเก็บหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อนำพิสูจน์ทราบ
.
ล่าสุด
ผลการพิสูจน์ 100% เป็นทุ่นระเบิด PMN-2 เพิ่มเติม 3 ทุ่น ซึ่งอยู่ใน “สภาพใหม่” พร้อมใช้งาน ไม่ใช่ของเก่า และอยู่ในเขตอธิปไตยของไทย
.
.
"ธนพร" แนะ "ภูมิธรรม" ตัดขา ยินดีออกเงินให้ จะได้เข้าใจหัวอกทหาร
https://www.pptvhd36.com/news/การเมือง/254627
.
"ธนพร" แนะ "ภูมิธรรม" ตัดขา 1 ข้าง ยินดีออกเงินให้ จะได้เข้าใจหัวอกทหาร ไม่แน่ใจเป็นคนไทยหรือไม่ บอกทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดเป็นอุบัติเหตุ ซัดรัฐบาลนบนอบ "ฮุน เซน" สูงมาก แม้กัมพูชาละเมิดกติกาหลายครั้ง
.
จากกรณีที่ ทหารไทยเหยียบกับระเบิดบริเวณปราสาทตาเมือนธม เมื่อช่วงเช้าวันที่ 12 สิงหาคม 2568 นับเป็นรายที่ 6 แล้วที่ทหารไทยต้องเสียขาให้กับทุ่นระเบิดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่ง รศ.ธนพร ศรียากูล นักวิเคราะห์การเมือง ได้ให้ความเห็นถึงกรณีดังกล่าวว่า เป็นเพราะรัฐบาลอ่อนแอ ทำให้ทหารต้องได้รับบาดเจ็บจากการละเมิดกติกาสากลของกัมพูชาไม่หยุด
.
รศ.ธนพร บอกว่า รัฐบาล ยังมีท่าทีที่เคารพ นบนอบ เกรงใจต่อ ฮุน เซน สูงมาก แม้เขมรจะละเมิดกติกาหลายครั้ง แต่รัฐบาลก็ดำเนินมาตรการตอบโต้ล่าช้า
.
ส่วนกรณีล่าสุด ที่กัมพูชาส่งรัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาไปส่งจดหมายร้องเลขาฯ UN และ UNSC อ้างไทยละเมิดอธิปไตยและข้อตกลงหยุดยิง โดยรุกล้ำวางลวดหนามและก่อสร้างในดินแดนกัมพูชา แต่รัฐบาลไทยทำได้เพียงออกแถลงการณ์ประณามกัมพูชาเรื่องละเมิดอนุสัญญาออตตาวา รศ.ธนพร บอกว่า ประท้วงอยู่นั้น ทั้งที่รู้ดีแก่ใจว่า ฮุน เซน ไม่สนใจกติกาสากล ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ทหารไทยได้เสียขาทั้งกองทัพแน่
.
รศ.ธนพร ยังตำหนิท่าทีของ นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา บอกว่าเรื่องที่ทหารไทยเหยียบกับระเบิดได้รับบาดเจ็บเป็นอุบัติเหตุ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นใหม่ และยังบอกอีกว่า ต้องกำชับให้ทหารไทยระมัดระวัง แทนที่จะประณามกัมพูชาที่ลอบกัด แต่ดันมาบอกให้ทหารไทยระวัง ไม่เท่านั้น
.
นายภูมิธรรม ยังพูดมาได้ว่า กัมพูชาไม่ตั้งใจยิงใส่โรงพยาบาล รศ.ธนพร บอกว่า ไม่แน่ใจ นายภูมิธรรมคือคนไทยหรือเปล่า และแนะว่าให้นายภูมิธรรมไปตัดขาทิ้ง 1 ข้างจะได้เข้าใจหัวอกทหาร และ รศ.ธนพร ยินดีออกเงินขาตัดขาให้ด้วย
.
รศ.ธนพร บอกว่า จากตัวเลขนิด้าโพล สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนไม่มีความเชื่อใจต่อรัฐบาลเพื่อไทยอีกต่อไป แต่ถามว่า แล้วเรื่องนี้ นายทักษิณ ชินวัตร แคร์หรือไม่ ก็ไม่แคร์ ถ้าแคร์ ป่านนี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ลาออกไปนานแล้ว และเชื่อว่าตอนนี้นายทักษิณ กำลังเดินเกมใต้ดินทำทุกทางเพื่อโกงความตายให้ลูกสาวรอดคดี
.
รศ.ธนพร ยังย้ำว่า นายทักษิณทำทุกทางเพื่อให้ตัวเองยังมีอำนาจทางการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องที่นายทักษิณ ศีลเสมอกับฮุน เซน
.
สุดท้าย รศ.ธนพร เชื่อว่า การปะทะกันระหว่างไทย-กัมพูชาจะเกิดขึ้นอีก ประชาชนนับแสนจะต้องเดือดร้อนอีก หากรัฐบาลยังเป็นรัฐบาลจากพรรคเพื่อไทย และแม้กองทัพไทยจะเหนือกว่ากัมพูชาหลายเท่า แต่หากรัฐบาลชุดนี้ยังอยู่ การเมืองจะดึงให้กองทัพอ่อนแอ และไทยจะไม่มีทางชนะกัมพูชาได้
.
.
ไทยประท้วงครั้งที่ 4 ประณามกัมพูชาใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ละเมิดหยุดยิง-อนุสัญญาออตตาวา เตรียมฟ้อง UN
.
ผิดซ้ำซาก กต.ประท้วงครั้งที่ 4 ประณามกัมพูชาไร้มนุษยธรรม ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง-อนุสัญญาออตตาวา เตรียมฟ้อง UN พร้อมเรียกร้องยุติการกระทำที่ละเมิดอนุสัญญาฯ โดยทันที
.
วันนี้ (12 ส.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศ ออกแถลงการณ์ ประท้วงต่อเหตุการณ์ครั้งที่ 4 ในการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ระบุว่า ตามที่เมื่อวันที่ 12 ส.ค.68 กำลังพลกองร้อยทหารพรานที่ 2610 รวม 7 นาย ซึ่งทำการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องจุบตะโมก จังหวัดสุรินทร์ ประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล นั้น รัฐบาลไทยขอประณามอย่างรุนแรงที่สุดต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลโดยฝ่ายกัมพูชา ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากพฤติการณ์ที่ไม่สุจริตใจของฝ่ายกัมพูชา การกระทำดังกล่าวขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ รวมทั้งขัดต่อหลักการพื้นฐานของกฎบัตรสหประชาชาติ และเป็นการละเมิดพันธกรณีตามอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (อนุสัญญาออตตาวา) และกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างชัดเจน
.
เหตุการณ์ในครั้งนี้ และเมื่อวันที่ 9 ส.ค.68 สะท้อนความไม่จริงใจของกัมพูชา และเป็นการขัดต่อมาตรการหยุดยิงที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้ในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ เมื่อวันที่ 7 ส.ค.68 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ในการนี้ ไทยจึงขอเรียกร้องฝ่ายกัมพูชายุติการกระทำที่ละเมิดอนุสัญญาฯ โดยทันที
.
ไทยจะประท้วงไปยังกัมพูชา และประธานอนุสัญญาฯ รวมถึงเลขาธิการสหประชาชาติ พร้อมเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศ รวมถึงองค์กรระหว่างประเทศต่าง ๆ ที่ให้ความช่วยเหลือกัมพูชาในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด พิจารณาทบทวนการให้ความช่วยเหลือ นอกจากนี้ ไทยจะพิจารณาดำเนินมาตรการอื่น ๆ เพื่อตอบโต้กัมพูชาตามที่เห็นเหมาะสมต่อไป
.
ไทยยืนยันความมุ่งมั่นในการปฏิบัติตามอนุสัญญาฯ และผิดหวังอย่างยิ่งที่กัมพูชา ซึ่งเคยผ่านเหตุการณ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และแสดงตนเป็นผู้ยึดมั่นในพันธกรณีตามอนุสัญญาฯ กลับใช้ทุ่นระเบิดเพื่อสังหารมนุษย์ด้วยกันอย่างไร้มนุษยธรรม และขอเรียกร้องให้ประชาคมอาเซียน ซึ่งทำงานบนพื้นฐานของกฎกติกาสากล เรียกร้องให้กัมพูชาดำเนินการตามกฎหมายระหว่างประเทศอย่างจริงจัง และให้คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวของอาเซียนที่จัดตั้งขึ้นตามมติที่ประชุม GBC สมัยวิสามัญ ข้างต้น พิจารณาเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วนระหว่างการลงพื้นที่ในอนาคต ทั้งนี้ เพื่อให้พื้นที่ชายแดนเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับประชาชนผู้บริสุทธิ์ของทั้งสองประเทศ
.
.
ชาวบ้านระทม น้ำยมท่วม 1 เมตร เกือบเดือน ไม่มีคนช่วย ไร้ห้องน้ำ ต้องขับรถ 1 กม.ไปเข้าที่วัด
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9890591
.
ชาวบ้านระทม 18 หลังคาเรือน เดือดร้อนหนัก แม่น้ำยมท่วมสูง1 เมตร เกือบเดือนแล้ว ไม่มีห้องน้ำ ต้องขับรถ 1 กม.ไปขอเข้าห้องน้ำวัด ขาดแคลนน้ำดื่ม
.
เมื่อวันที่ 12 ส.ค.68 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์แม่น้ำยม ที่ต.สามง่าม อ.สามง่าม จ.พิจิตร โดยพบว่าวันนี้แม่น้ำยมยังมีมวลน้ำจากพื้นที่ภาคเหนือตอนบน และมวลน้ำจากทุ่งบางระกำ จ.พิษณุโลก ไหลบ่าลงมาอย่างต่อเนื่อง เพิ่มระดับสูงขึ้น
.
โดยที่สถานีวัดน้ำ Y-17 หน้าที่ว่าการอำเภอสามง่าม วัดได้ 5.26 เมตร ซึ่งมวลน้ำดังกล่าว เอ่อล้นตลิ่งไหลท่วมบ้านเรือนประชาชน ที่อยู่พื้นที่ลุ่มต่ำหลาย 10 ครัวเรือน โดยเฉพาะบ้านเกาะกระดี่ หมู่ที่ 11 ตำบลสามง่าม มีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วม 20 ครัวเรือน ระดับน้ำท่วมสูงเฉลี่ย 1 เมตร
.
และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อไปอีก ชาวบ้านต้องนำเรือออกขนย้ายสิ่งของมาไว้ริมถนนสามง่าม-รังนก ฝั่งตะวันออก พร้อมทั้งอพยพลูกหลาน 18 ครัวเรือน มาปลูกเพิ่งพักอาศัยชั่วคราว
.
ทั้งนี้ชาวบ้านเกาะกระดี่ ยังได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาขาดแคลนน้ำดื่มสะอาดในการดื่มกิน โดยชาวบ้านต้องซื้อน้ำขวดมากินในช่วงนี้ รวมทั้งปัญหาที่เดือดร้อนหนักมากๆ คือปัญหาห้องสุขาหรือห้องส้วม ถูกน้ำท่วมใช้การไม่ได้
.
ชาวบ้านต้องขับขี่รถจักรยานยนต์ไปขอเข้าห้องสุขา ที่วัดจระเข้ผอมอีกหมู่บ้านหนึ่ง ซึ่งไกลออกไปจากหมู่บ้านไปกลับราวๆ 2 กิโลเมตร ส่วนเด็กๆก็จะขับถ่ายลงน้ำบ้างในป่าแถวนี้บ้าง อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านบอกว่าน้ำท่วมมาเกือบ 1 เดือน ยังไม่มีหน่วยงานไหนมาช่วยเลย
.
นาย
สุเทพ เปลี่ยนเปีย อาย 41 ปี ชาวบ้านเกาะกระดี่ หมู่ที่ 11 ต.สามง่าม อ.สามง่าม ชาวบ้านที่อพยพ เล่าให้ฟังว่า ตรงนี้เป็นพื้นที่หมู่ที่ 11 บ้านเกาะกระดี่ ระดับน้ำยมที่ท่วมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีชาวบ้านอาศัยอยู่ 2 กลุ่ม จำนวน 18 ครัวเรือนถูกน้ำท่วมหมด ใช้เรือพายเข้าออกหมู่บ้าน และชาวบ้านต้องขนย้ายสิ่งของอพยพลูกหลาน ขึ้นมาอยู่บนถนนกันหมด
.
ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีใครมาช่วยเหลือชาวบ้าน ไม่มีอะไรมาเลย ระดับน้ำก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ประมาณ ระดับอก หรือประมาณ 1.2 เมตร ชาวบ้านเข้าออกก็ใช้เรืออย่างเดียว เด็กๆเดินไม่ได้เลย น้ำมิดหัว ระดับน้ำก็ขึ้นเรื่อยๆ วันนี้ก็ขึ้นมาประมาณ 20-30 ซม.
.
ด้านคุณยาย
รอด สัพเนียด อายุ 63 ปี ชาวบานเกาะกระดี่ หมู่ที่ 11 ต.สามง่าม อ.สามง่าม กล่าวว่า บ้านถูกแม่น้ำยมไหลมาท่วมบ้านมากว่า 20 กว่าวันแล้ว พอน้ำท่วมก็ขนของมาอยู่ริมถนนกัน พอเช้าก็จะพายเรือมาเฝ้าของเพิงพักที่อยู่บนถนน มาทำอาหาร ทำอะไรกินกัน พอกลางคืนก็จะพายเรือกลับเข้าไปนอนบ้าน
.
“
ตอนนี้ก็ยังไม่มีใครมาช่วยเหลือเลย ชาวบ้านเดือดร้อนกันมาก โดยเฉพาะ เวลาเข้าห้องน้ำ ก็ต้องไปขอเพื่อนบ้านเข้าบ้าง หรือไปที่วัดจระเข้ผอมบ้าง ส่วนเด็กก็ถ่ายลงน้ำบ้าง ผู้ใหญ่ก็ไปเข้าที่วัด ตอนนี้เดือดร้อนมากอยากได้ห้องน้ำ ของอุปโภคบริโภค ข้าวสาร น้ำดื่ม เพราะบางคนที่เขาไม่ได้ไปทำงาน หรือไม่มีงานทำ ก็เดือดร้อน ซึ่งชาวบ้านขาดแคลนน้ำดื่มต้องซื้อน้ำขวดมากิน” ยาย
รอด กล่าว
JJNY : 5in1 พบทุ่นระเบิดจุดส.อ.เหยียบ│แนะ"ภูมิธรรม"ตัดขา│ไทยประท้วงครั้งที่ 4│น้ำยมท่วม ไม่มีคนช่วย│เขมรปฏิเสธข้อกล่าวหา
https://www.matichon.co.th/politics/news_5320128
.
กองทัพภาคที่ 2 ได้ดำเนินการส่งหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด และพิสูจน์หลักฐาน เดินทางลงพื้นที่เกิดเหตุบริเวณฐานปฏิบัติการจุบตะโมก พื้นที่ปราสาทตาเหมือนธม เข้าไปเก็บหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อนำพิสูจน์ทราบ
.
ล่าสุด ผลการพิสูจน์ 100% เป็นทุ่นระเบิด PMN-2 เพิ่มเติม 3 ทุ่น ซึ่งอยู่ใน “สภาพใหม่” พร้อมใช้งาน ไม่ใช่ของเก่า และอยู่ในเขตอธิปไตยของไทย
.
.
"ธนพร" แนะ "ภูมิธรรม" ตัดขา ยินดีออกเงินให้ จะได้เข้าใจหัวอกทหาร
https://www.pptvhd36.com/news/การเมือง/254627
.
.
.
วันนี้ (12 ส.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศ ออกแถลงการณ์ ประท้วงต่อเหตุการณ์ครั้งที่ 4 ในการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ระบุว่า ตามที่เมื่อวันที่ 12 ส.ค.68 กำลังพลกองร้อยทหารพรานที่ 2610 รวม 7 นาย ซึ่งทำการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องจุบตะโมก จังหวัดสุรินทร์ ประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล นั้น รัฐบาลไทยขอประณามอย่างรุนแรงที่สุดต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลโดยฝ่ายกัมพูชา ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากพฤติการณ์ที่ไม่สุจริตใจของฝ่ายกัมพูชา การกระทำดังกล่าวขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ รวมทั้งขัดต่อหลักการพื้นฐานของกฎบัตรสหประชาชาติ และเป็นการละเมิดพันธกรณีตามอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (อนุสัญญาออตตาวา) และกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างชัดเจน
.
เหตุการณ์ในครั้งนี้ และเมื่อวันที่ 9 ส.ค.68 สะท้อนความไม่จริงใจของกัมพูชา และเป็นการขัดต่อมาตรการหยุดยิงที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้ในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ เมื่อวันที่ 7 ส.ค.68 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ในการนี้ ไทยจึงขอเรียกร้องฝ่ายกัมพูชายุติการกระทำที่ละเมิดอนุสัญญาฯ โดยทันที
.
ไทยจะประท้วงไปยังกัมพูชา และประธานอนุสัญญาฯ รวมถึงเลขาธิการสหประชาชาติ พร้อมเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศ รวมถึงองค์กรระหว่างประเทศต่าง ๆ ที่ให้ความช่วยเหลือกัมพูชาในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด พิจารณาทบทวนการให้ความช่วยเหลือ นอกจากนี้ ไทยจะพิจารณาดำเนินมาตรการอื่น ๆ เพื่อตอบโต้กัมพูชาตามที่เห็นเหมาะสมต่อไป
.
ไทยยืนยันความมุ่งมั่นในการปฏิบัติตามอนุสัญญาฯ และผิดหวังอย่างยิ่งที่กัมพูชา ซึ่งเคยผ่านเหตุการณ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และแสดงตนเป็นผู้ยึดมั่นในพันธกรณีตามอนุสัญญาฯ กลับใช้ทุ่นระเบิดเพื่อสังหารมนุษย์ด้วยกันอย่างไร้มนุษยธรรม และขอเรียกร้องให้ประชาคมอาเซียน ซึ่งทำงานบนพื้นฐานของกฎกติกาสากล เรียกร้องให้กัมพูชาดำเนินการตามกฎหมายระหว่างประเทศอย่างจริงจัง และให้คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวของอาเซียนที่จัดตั้งขึ้นตามมติที่ประชุม GBC สมัยวิสามัญ ข้างต้น พิจารณาเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วนระหว่างการลงพื้นที่ในอนาคต ทั้งนี้ เพื่อให้พื้นที่ชายแดนเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับประชาชนผู้บริสุทธิ์ของทั้งสองประเทศ
.
ชาวบ้านระทม น้ำยมท่วม 1 เมตร เกือบเดือน ไม่มีคนช่วย ไร้ห้องน้ำ ต้องขับรถ 1 กม.ไปเข้าที่วัด
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9890591
.
ชาวบ้านระทม 18 หลังคาเรือน เดือดร้อนหนัก แม่น้ำยมท่วมสูง1 เมตร เกือบเดือนแล้ว ไม่มีห้องน้ำ ต้องขับรถ 1 กม.ไปขอเข้าห้องน้ำวัด ขาดแคลนน้ำดื่ม
.
เมื่อวันที่ 12 ส.ค.68 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์แม่น้ำยม ที่ต.สามง่าม อ.สามง่าม จ.พิจิตร โดยพบว่าวันนี้แม่น้ำยมยังมีมวลน้ำจากพื้นที่ภาคเหนือตอนบน และมวลน้ำจากทุ่งบางระกำ จ.พิษณุโลก ไหลบ่าลงมาอย่างต่อเนื่อง เพิ่มระดับสูงขึ้น
.
โดยที่สถานีวัดน้ำ Y-17 หน้าที่ว่าการอำเภอสามง่าม วัดได้ 5.26 เมตร ซึ่งมวลน้ำดังกล่าว เอ่อล้นตลิ่งไหลท่วมบ้านเรือนประชาชน ที่อยู่พื้นที่ลุ่มต่ำหลาย 10 ครัวเรือน โดยเฉพาะบ้านเกาะกระดี่ หมู่ที่ 11 ตำบลสามง่าม มีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วม 20 ครัวเรือน ระดับน้ำท่วมสูงเฉลี่ย 1 เมตร
.
และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อไปอีก ชาวบ้านต้องนำเรือออกขนย้ายสิ่งของมาไว้ริมถนนสามง่าม-รังนก ฝั่งตะวันออก พร้อมทั้งอพยพลูกหลาน 18 ครัวเรือน มาปลูกเพิ่งพักอาศัยชั่วคราว
.
ทั้งนี้ชาวบ้านเกาะกระดี่ ยังได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาขาดแคลนน้ำดื่มสะอาดในการดื่มกิน โดยชาวบ้านต้องซื้อน้ำขวดมากินในช่วงนี้ รวมทั้งปัญหาที่เดือดร้อนหนักมากๆ คือปัญหาห้องสุขาหรือห้องส้วม ถูกน้ำท่วมใช้การไม่ได้
.
ชาวบ้านต้องขับขี่รถจักรยานยนต์ไปขอเข้าห้องสุขา ที่วัดจระเข้ผอมอีกหมู่บ้านหนึ่ง ซึ่งไกลออกไปจากหมู่บ้านไปกลับราวๆ 2 กิโลเมตร ส่วนเด็กๆก็จะขับถ่ายลงน้ำบ้างในป่าแถวนี้บ้าง อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านบอกว่าน้ำท่วมมาเกือบ 1 เดือน ยังไม่มีหน่วยงานไหนมาช่วยเลย
.
นายสุเทพ เปลี่ยนเปีย อาย 41 ปี ชาวบ้านเกาะกระดี่ หมู่ที่ 11 ต.สามง่าม อ.สามง่าม ชาวบ้านที่อพยพ เล่าให้ฟังว่า ตรงนี้เป็นพื้นที่หมู่ที่ 11 บ้านเกาะกระดี่ ระดับน้ำยมที่ท่วมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีชาวบ้านอาศัยอยู่ 2 กลุ่ม จำนวน 18 ครัวเรือนถูกน้ำท่วมหมด ใช้เรือพายเข้าออกหมู่บ้าน และชาวบ้านต้องขนย้ายสิ่งของอพยพลูกหลาน ขึ้นมาอยู่บนถนนกันหมด
.
ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีใครมาช่วยเหลือชาวบ้าน ไม่มีอะไรมาเลย ระดับน้ำก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ประมาณ ระดับอก หรือประมาณ 1.2 เมตร ชาวบ้านเข้าออกก็ใช้เรืออย่างเดียว เด็กๆเดินไม่ได้เลย น้ำมิดหัว ระดับน้ำก็ขึ้นเรื่อยๆ วันนี้ก็ขึ้นมาประมาณ 20-30 ซม.
.
ด้านคุณยายรอด สัพเนียด อายุ 63 ปี ชาวบานเกาะกระดี่ หมู่ที่ 11 ต.สามง่าม อ.สามง่าม กล่าวว่า บ้านถูกแม่น้ำยมไหลมาท่วมบ้านมากว่า 20 กว่าวันแล้ว พอน้ำท่วมก็ขนของมาอยู่ริมถนนกัน พอเช้าก็จะพายเรือมาเฝ้าของเพิงพักที่อยู่บนถนน มาทำอาหาร ทำอะไรกินกัน พอกลางคืนก็จะพายเรือกลับเข้าไปนอนบ้าน
.
“ตอนนี้ก็ยังไม่มีใครมาช่วยเหลือเลย ชาวบ้านเดือดร้อนกันมาก โดยเฉพาะ เวลาเข้าห้องน้ำ ก็ต้องไปขอเพื่อนบ้านเข้าบ้าง หรือไปที่วัดจระเข้ผอมบ้าง ส่วนเด็กก็ถ่ายลงน้ำบ้าง ผู้ใหญ่ก็ไปเข้าที่วัด ตอนนี้เดือดร้อนมากอยากได้ห้องน้ำ ของอุปโภคบริโภค ข้าวสาร น้ำดื่ม เพราะบางคนที่เขาไม่ได้ไปทำงาน หรือไม่มีงานทำ ก็เดือดร้อน ซึ่งชาวบ้านขาดแคลนน้ำดื่มต้องซื้อน้ำขวดมากิน” ยายรอด กล่าว