Battle For Wesnoth คือเกมวางแผน turn-based แนวแฟนตาซีที่ค่อนข้างมีความโดดเด่นและเอกลักษณ์เฉพาะตัว (ที่สำคัญคือฟรี) มียูนิตที่สามารถเลือกเล่นได้หลายรูปแบบและสามารถพัฒนาเพื่อปรับให้เข้ากับภูมิศาสตร์หรือกลยุทธ์ที่เราถนัดได้ (ยูนิตแต่ละตัวมี Trait แตกต่างกันไป ทำให้มีจุดเด่นหลากหลายแม้ว่าจะเป็นยูนิตประเภทเดียวกัน) นอกจากนี้ยังมีเนื้อเรื่องที่น่าสนใจและยาวนานมาก ผิดกับตัวเกมที่ดูเรียบง่ายไม่ต่างจากเกมทั่วไปนั้นเอง
ดังนั้นในกระทู้นี้ ผมจึงขอนำเสนอประวัติความเป็นมาของโลกแห่ง Irdya อันเก่าแก่และลึกลับ ผ่านมุมมองของอาณาจักร Wesnoth ของชาว Wesnothians ผู้ผ่านยุคสมัยแห่งไฟสงครามและความสงบนับครั้งไม่ถ้วน ถึงแม้ว่าจะมีเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้น แต่บันทึกมากมายกลับถูกทำลายหรือกลืนหายไปตามกาลเวลา คงเหลือเพียงแต่คำบอกเล่าสืบต่อกันมา ที่ได้กล่าวไว้ว่า....
ก่อนจะเป็น Wesnoth
โลกแห่ง Irdya นั้นมีตำนานการสร้างโลกมากมาย ขึ้นอยู่กับแต่ละความเชื่อแต่ละเผ่าพันธุ์ที่มีตำนานเรื่องเล่าแตกต่างกันไป แต่นั้นไม่ใช่ประเด็นหลัก เพราะโดยสรุปแล้ว โลกแห่ง Irdya นั้นถูกแบ่งเป็นทั้งหมด 2 ทวีปใหญ่อันถูกคั่นกลางด้วยมหาสมุทรคือ
1. ทวีปเก่า หรือ ทวีปไกล (Old Continent/ The Far West) เป็นทวีปที่เก่าแก่และลึกลับมากที่สุด อีกทั้งยังเข้าถึงได้ยากมากหากเดินทางข้ามมาจากมหาสมุทรทางทิศตะวันออกเนื่องด้วยสภาพอากาศแปรปรวน และยังเป็นทวีปที่เป็นบ้านเกิดของเผ่าพันธุ์ออร์คกับมนุษย์ แต่เพราะด้วยภัยสงครามมากมายจึงบีบให้มนุษย์หลายกลุ่มต้องหนีลี้ภัยไปยังเกาะ Green Isle และหมู่เกาะน้อยใหญ่ทางตะวันออก ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มนุษย์ขาดการติดต่อกับทวีปเก่าในท้ายที่สุด
2. มหาทวีป (The Great Continent) เป็นทวีปที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางภูมิศาสตร์และเป็นบ้านเกิดของหลากหลายเผ่าอย่างเช่น เอลฟ์, คนแคระ, โทรล์, ซอเรียน (เผ่ามนุษย์กิ้งก่า), เมอร์แมน (เผ่ามนุษย์เงือก), ชนเผ่าทะเลทราย ฯลฯ ทั้งยังเป็นทวีปหลักที่ปรากฏในเกมเป็นส่วนใหญ่
แผนที่ของเกาะ Green Isle ที่มนุษย์ส่วนใหญ่ต่างอพยพมาเพื่อหนีภัยสงครามจากทวีปเก่า
ลำดับเหตุการณ์ช่วงยุคเก่า - 1 YW (Years Wesnoth)
- แต่ดั้งเดิมผู้คนจากทวีปเก่าได้ทำการอพยพมาตั้งรกรากที่ Green Isle พร้อมได้สถาปนาอาณาจักรมากมายขึ้น เช่น Southbay, Stormvale, Clearwater, Midlands ฯลฯ
- ถัดไปทางทิศตะวันออกใจกลางมหาสมุทร มีเกาะ Morogor ซึ่งเป็นเกาะที่เผ่า Drakes (ลูกหลานมังกร) ตั้งรกรากอยู่ โดยอาศัยออกล่าสัตว์ตามหมู่เกาะต่างๆ ในมหาสมุทรเพื่อดำรงชีพ ทำให้มีมนุษย์น้อยคนนักที่กล้าแล่นเรือผ่านเพื่อข้ามมหาสมุทรไปอีกฟากได้
- ปี 200 BW (Before Wesnoth) ชาว Wesfolk นำโดยเหล่า Lich-Lord ที่แพ้สงครามในทวีปเก่าได้ข้ามมายัง Green Isle ก่อนจะเกิดขัดแย้งเป็นสงคราม Wesfolk ครั้งที่ 1 ซึ่งชาว Wesfolk เป็นกลุ่มที่มีความรู้ศาสตร์มืดและเวทย์มนต์เป็นอย่างดี ต่างจากมนุษย์ทั่วไปที่ไม่รู้เวทย์มนต์ นอกจากนี้ยังได้นำเอาของวิเศษติดตัวมาด้วย 2 อย่างคือ ทับทิมเพลิง (Ruby of Fire) กับคัมภีร์แห่งเพลิงและความมืด (Book of Fire and Darkness) ทำให้ได้เปรียบในสงคราม แต่หลังจากที่อาณาจักรต่างๆ เริ่มเรียนรู้เวทย์มนต์จึงทำให้สามารถพลิกกลับมาเอาชัย โดยปิดผนึกทับทิมเพลิงและขับไล่ชาว Wesfolk กลับไปยังที่มั่นเดิมตามแนวชายฝั่งได้สำเร็จ
การเผชิญหน้ากันระหว่างชาว Wesfolk กับกองทัพของ Stormvale
- ปี 12-7 BW องค์ชายแห่ง Southbay ได้ทำการเดินเรือไปตะวันออกจนได้ค้นพบมหาทวีป ด้วยความช่วยเหลือจากองค์หญิง Jessene แห่ง Wesfolk กับเผ่าเมอร์แมนที่ช่วยเปิดทางผ่านเกาะ Morogor ของพวก Drakes แต่หลังจากเดินทางกลับมากลับพบว่าองค์ชายได้เสียชีวิตไปอย่างปริศนา ซึ่งองค์ชายรองเองก็เป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่มีส่วนรู้เห็นกับเหตุการณ์นี้
- ปี 6 BW องค์ชายรองแห่ง Southbay ได้เบี่ยงประเด็นทางการเมืองด้วยการประกาศสงครามกวาดล้างชาว Wesfolk โดยอ้างว่าเป็นต้นเหตุของการลอบสังหาร พร้อมระดมกำลังจากทั่วทั้งเกาะเป็นทัพใหญ่ไร้เทียมทาน ทำให้ Lich-Lord Jevyan ผู้นำของ Wesfolk ได้ทำการเปิดประตูมิติเพื่อชักจูงฝูงออร์คจากทวีปเก่าเข้าสู้รบทำลายอาณาจักรต่างๆ ใน Green Isle แต่ก็ทำให้ชาว Wesfolk จำนวนมากต่างพากันหลบหนีตีห่างจาก Lich-Lord ด้วยหวาดกลัวพวกออร์คที่ไล่จับมนุษย์เป็นทาสและอาหาร ส่วนกองทัพขององค์ชายรองแห่ง Southbay และพันธมิตรถูกบดขยี้โดยไม่ทันตั้งตัวโดยศัตรูที่โหดเหี้ยมและก้าวร้าวอย่างไม่เคยรับมือมาก่อน
- ปี 5-2 BW อาณาจักร Stormvale กลายเป็นอาณาจักรแรกที่ถูกเข้าตีอย่างหนักหน่วงผ่านช่องเขา Broken Mountains แม้จะสามารถยันเอาไว้ได้ด้วยอาศัยแนวป้องกันทางธรรมชาติ แต่สุดท้ายพวกออร์คก็อาศัยกำลังที่เยอะกว่าอ้อมแนวเขาเข้าตีทางตะวันออก ทำให้ราชา Eldaric IV ได้สละชีพเพื่อยันทัพออร์ค ในขณะที่องค์ชาย Haldric ผู้เป็นบุตรได้นำพาประชาชนและกองทัพที่เหลือรอดหลบหนีไปทางใต้ พร้อมๆ กับองค์หญิง Jessene กับชาว Wesfolk บางส่วน
วาระสุดท้ายของราชา Eldaric IV และการล่มสลายของอาณาจักร Stormvale
- ในระหว่างการหลบหนีเข้าเมืองท่า Clearwater องค์ชาย Haldric ได้ทำการเก็บกู้ทับทิมเพลิงที่ถูกปิดผนึก เพื่อไม่ให้ตกอยู่ในมือของ Lich-Lord ด้วยความช่วยเหลือขององค์หญิง Jessene ผู้แปลศาสตร์การคุมพลังทับทิมเพลิงผ่านคัมภีร์แห่งเพลิงและความมืด
- เมืองท่า Clearwater ถูกปิดล้อมหลังจากราชาแห่ง Clearwater พยายามเข้าตีเพื่อขับไล่แต่พลาดท่าในการศึก ณ บึง Esten ทำให้นายพล Aethyr แห่ง Clearwater ได้เปิดทางให้องค์ชาย Haldric นำผู้อพยพหนีตายผ่านทางเรือ ก่อนที่จะเสียเมืองให้พวกออร์คในท้ายที่สุด
- องค์ชาย Haldric กับนายพล Aethyr ได้พาผู้อพยพหลบหนีมาพึ่งพิงกับเมือง South Bay ที่ยังยืนหยัดตั้งรับกองทัพออร์คได้อยู่ภายใต้การนำโดยราชา Addroran IX พร้อมความหวังที่จะตีโต้กลับ แต่เมื่อ Lich-Lord Jevyan ได้ยกทัพมาเองพร้อมกับศพขององค์ชายรองแห่ง Southbay ที่ถูกปลุกชีพให้มารบกับราชา Addroran IX เพื่อบั่นทอนขวัญ ทำให้องค์ชาย Haldric ได้นำพาผู้อพยพที่เหลือรอดแล่นเรือหนีไปทางตะวันออกตามคำแนะนำของ องค์หญิง Jessene โดยมีเผ่าเมอร์แมนช่วยนำทาง ส่วนราชา Addroran IX ยอมสละชีพเพื่อถ่วงเวลาไว้
ในท้ายที่สุด อาณาจักรต่างๆ บนเกาะ Green Isle ก็ถูกกองทัพออร์คเข้าทำลายจนพินาศ
- ปี 1 BW หลังการเดินทางอย่างยากลำบากและอันตราย ในที่สุดองค์ชาย Haldric และคณะ ได้เดินทางมาถึงชายฝั่งของมหาทวีป ณ Bay of Pearls แต่เมื่อมาถึงได้ไม่นาน กลับได้มีการปะทะกันกับกองกำลังผสมระหว่างเอลฟ์กับคนแคระ ที่เข้าใจว่ากองเรือขององค์ชาย Haldric เป็นกองกำลังที่ยกพลเพื่อรุกรานมหาทวีป แต่หลังจากการเจรจาทางการทูตจึงทำให้ต่างฝ่ายต่างยอมวางอาวุธลงได้
- สภาเอลฟ์แห่งป่า Wesmere ได้ตกลงมอบดินแดนทั้งสองฝั่งมหานที (Great River) ให้ แลกกับการที่องค์ชาย Haldric ต้องทำภารกิจเพื่อพิสูจน์ตนเอง (ซึ่งโดยหลักก็คือการทำศึกไล่ที่พวกเผ่าต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้นแต่แรกอยู่แล้ว)
- องค์ชาย Haldric ได้ลงพันธสัญญาเป็นพันธมิตรกับพวกเอลฟ์ เพื่อช่วยเหลือกันและกันหากว่ากองทัพออร์คได้บุกตามมาถึงมหาทวีป แต่องค์ชาย Haldric กลับแอบทราบภายหลังว่าสภาเอลฟ์วางแผนให้มนุษย์กับออร์คตีกันเองจนอ่อนแรงก่อน แล้วจึงหาโอกาสเข้าร่วมด้วยที่หลัง ทำให้องค์ชาย Haldric เกิดความไม่ไว้ใจพวกเอลฟ์มากนัก
แผนที่ของมหาทวีปในส่วนตะวันตก
- หลังจากนั้นเพียงไม่กี่เดือน กองทัพออร์คก็เดินทางมาถึงชายฝั่งของมหาทวีป พร้อมยังได้พันธมิตรจากเผ่านากะและซอเรียนที่ต้องการแก้แค้นจากการถูกองค์ชาย Haldric เข้าตีขับไล่พื้นที่ หลังจากการปะทะ แม้ว่าจะขับไล่ออร์คบางส่วนไปได้ แต่กองกำลังส่วนใหญ่ของออร์คนั้นก็กำลังเดินทางมาสมทบเพิ่มภายใต้การนำโดย Lich-Lord Jevyan ด้วยกำลังที่เหนือกว่ามาก พร้อมมีเป้าหมายหลักคือ การแย่งชิงทับทิมเพลิงกลับคืน
- ด้วยเหตุนี้องค์ชาย Haldric จึงวางแผนว่าจะแอบนำทับทิมเพลิงไปซ่อนไว้ชั่วคราว แล้วหลอกให้ Lich-Lord Jevyan เข้าใจว่าทัมทิมเพลิงนั้นอยู่ภายใต้การครอบครองของสภาเอลฟ์ โดยในระหว่างที่กองทัพออร์คกำลังเข้าตี นายพล Aethyr กับกองกำลังบางส่วนจะสละชีวิตเข้าตีกองทัพของ Lich-Lord โดยตรง โดยในตัวนายพลนั้นได้พกเอกสารภาษาเอลฟ์ที่ถูกปลอมขึ้นมา ทำให้ Lich-Lord Jevyan กับเหล่านายกองออร์ค ต่างพากันหลงเชื่อว่าทัมทิมเพลิงนั้นอยู่กับสภาเอลฟ์จริงๆ
- หลังการศึกครั้งนี้ กองทัพออร์คได้ถอยหนีกลับไปเพื่อเตรียมทำศึกกับพวกเอลฟ์ต่อ ส่วนตัว Lich-Lord Jevyan นั้นกลับพลาดท่ากลางสนามรบจนถูกองค์ชาย Haldric ปราบได้ในท้ายที่สุด แต่ก่อนสิ้นใจ Lich-Lord Jevyan ก็ได้สาปแช่งให้ลูกหลานของ Haldric ต้องประสบแต่ความขัดแย้งและทุกข์ยาก
หลังจากพ้นภัยอันตรายต่างๆ องค์ชาย Haldric จึงได้สถาปนาตนขึ้นเป็นกษัตริย์
- ปี 1 YW องค์ชาย Haldric ได้สถาปนาอาณาจักร Wesnoth ขึ้น เพื่อเป็นการรำลึกถึงดินแดนเก่าที่ต้องจากมา แล้วได้ขึ้นเป็นกษัตริย์องค์แรกแห่ง Wesnoth (Haldric I / Haldric the Great) โดยมีองค์หญิง Jessene เคียงข้างเป็นองค์ราชินี อันเป็นการบ่งบอกถึงการรวมชาติพันธุ์ทั้งสองเข้าด้วยกันจนเป็นชาว Wesnothians
- ราชา Haldric ได้ทำการสถาปนาเมืองหลวงลึกเข้าไปในผืนทวีป เพื่อให้ห่างไกลจากชายฝั่งที่สุ่มเสี่ยงต่อการถูกคุกคามโดยทัพออร์คได้ จนมาลงเอย ณ ริมแม่น้ำ Weldyn (ซึ่งจะเป็นชื่อของเมืองหลวงในเวลาต่อมา)
- ราชวงศ์ของ Haldric ปกครองอาณาจักรอย่างสงบสุข แม้ว่าจะมีการคุกคามตามแนวชายแดนอยู่บ้าง แต่โดยภาพรวมอาณาจักร Wesnoth ก็ได้เติบโตและมีการขยายดินแดนตามแต่ละช่วงเวลา แม้บางครั้งจะมีการแตกแยกเป็นสงครามกลางเมืองหรือถูกรุกรานจากศัตรูภายนอกอย่างหนักหน่วงในบางรัชสมัย แต่ในท้ายที่สุดชาว Wesnothians ก็ยังคงยืนหยัดอยู่ได้ในทุกช่วงเวลาบนหน้าประวัติศาสตร์
อาณาจักร Wesnoth อันแสนสงบสุข แต่ก็ยังคงเหลือคำถามว่า สุดท้ายแล้วความสงบสุขนี้จะคงอยู่ตลอดไปหรือไม่?
และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวก่อนจะมาเป็นอาณาจักร Wesnoth ในเกมนั้นเองครับ ซึ่งสำหรับใครที่สนใจและเป็นคอเกมส์แนว turn-based อยู่แล้ว ก็ลองไปหาเล่นดูได้นะครับ เพราะยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่เล่าได้ไม่รู้จบอีกมากจากในเกมนี้ ซึ่งทั้งหมดที่ผมเล่าไปนั้นเป็นเพียงแค่การเกริ่นนำเรื่องราว ไว้สำหรับคนที่สนใจนั้นเองครับ
Battle For Wesnoth พงศาวดารแห่ง Irdya: ปฐมบทแห่ง Wesnoth