สวัสดีค่ะ เรื่องนี้เราพยายามหาทางออกมาเนิ่นนานหลายปีแล้วค่ะ ครอบครัวเรา เราสนิทกับแม่ที่สุดในบ้าน เราถูกเลี้ยงมาแบบไข่ในหินและค่อนข้างเผด็จการค่ะ ที่บ้านไม่ได้ร่ำรวยอะไรเลย หาเช้ากินค่ำ เรานี่ได้ไปเรียนบ้างไม่ไปบ้าง เรียนไม่ปะติปะต่อ เพราะเราต้องไปช่วยแม่ขายของเพื่อหาเงินเข้าบ้าน เรียนไม่รู้เรื่องก้ไม่เป็นไร เราอยากช่วยเหลือครอบครัว เราเห็นแม่เหนื่อย พ่อก็ไม่ค่อยช่วยอะไรมากมายนัก เราไม่เคยนอกลู่นอกทาง เราเชื่อฟังพ่อแม่มากค่ะ ทำงานช่วยที่บ้านแทบทุกอย่าง ไม่เคยได้ใช้ชีวิตวัยรุ่นเหมือนเพื่อนคนอื่น อะไรที่คนอื่นมี เราก้ไม่เคยมี ได้แต่นั่งมองเพื่อนในวัยเด็ก ในใจก้แอบตั้งคำถามนะ ว่าอยากมีแบบเขาบ้างจัง ถ้ามีแบบนั้นบ้าง ได้ไปเที่ยวกับเพื่อนบ้าง ได้เรียนพิเศษเยอะๆแบบคนอื่นบ้างนี่มันเป็นยังไงนะ แต่ก้ไม่เป็นไร เราอยากให้แม่เหนื่อยน้อยลงมากกว่า อดใจไว้ สักวันเราคงมี...

ทำงานช่วยที่บ้านมาแบบนี้ตั้งแต่ 7 ขวบค่ะ 🙂
แม่เลี้ยงเราแบบจัดการชีวิตเราทุกอย่าง จัดการแม้แต่เรื่องการแต่งตัว กิจกรรม หน้าที่การงาน ความคิด การวางตัว ทุกๆอย่างเลย แต่เราก้รู้ค่ะว่าแม่รัก และอยากให้เราได้ดี แม่พูดอยู่เสมอว่าตอนเด็กๆแม่ไม่เคยได้แบบนี้ แม่เลยพยายามหาให้ ทุกๆอย่างที่ทำอยู่ทุกวันนี้ก้เพื่อลูก 2 คน (เรากับน้องชาย)และที่เราได้เริ่มทะเลาะกับครอบครัวรุนแรงครั้งแรก คือตอนอายุ 19 ที่กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย ตอนนั้นพยายามมากเพื่อให้สอบติดมหาลัยดีดีเพื่อแม่แล้วก้ทำได้ เราติดที่ มข. ค่ะและอยู่ในช่วงรอ ผลสัมภาษณ์ เราพยายามมาก สำหรับคนที่หัวไม่ดีเลยแบบเรา เกรดการเรียนตอนจบม.6 ก็ได้แค่ 2.75 เพราะขาดเรียนบ่อย เกรดวิชาหลักนี่คือมีแต่ 1-1-2-1-1-2-1-1😂
เรื่องคือแม่เข้ามาจัดการเรื่องแฟนค่ะ! ช่วงนั้น เราเริ่มโตขึ้นมั้งคะ แล้วเริ่มอยากตัดสินใจเองบ้าง เราไปทำงานพารทไทม์ แล้วเราโดนเอาเปรียบเรื่องเงินนิดหน่อย เราก้กลับมาเล่าให้ครอบครัวฟังบ้างแบบเล่าให้ฟังทั่วๆไปงี้ ก็ตามปกติ แต่แม่เราก็จะไปหาเรื่องเพื่อนที่ทำงานค่ะ คือเรางงมากแบบ ห้ะ!! อะไรแม่!! มันไม่ได้ขนาดดนั้น หนูก็พลาดให้เขาเอาเปรียบเอง แม่ไม่ต้อง!!😂🫸🏻 แต่แม่คือชวนพ่อไปหาเรื่อง แบบเอาจริงจังมาก😰 จนกลายเป็นก้าวก่ายเกินไปแล้ว เราก้โมโห แล้วก้ทะเลาะกันเองแทน 😤 ก็จะเป็นแนวนี้ิอยู่เรื่อยๆค่ะในช่วงนั้น กรุ่นๆแบบนี้มาละ เพราะเราเริ่มต้องการพื้นที่ส่วนตัวเพื่อหัดโตด้วยตัวเองบ้าง แม่ก็จะคอยเอาแต่ด่าว่ารู้มาก รู้ดี ไม่ถาม แล้วก้เป็นทะเลาะหนักมากขึ้นเรื่อยๆ ...บ่อยๆ เป็นประจำ ต้องได้ปะทะฝีปากกัน
รอบที่เป็นจุดขาดแบบต่อไม่ได้ ก็มาถึงค่ะ ตอนนั้นเรามีแฟนคนแรก และแอบคบหากัน แบบเด็กวัยรุ่นทั่วไป แค่เพราะเรากลัวว่า ที่บ้านจะรู้แล้วโกรธเราเลยไม่บอก แล้วก้ตามนั้นค่ะ ความลับไม่มีในโลก พอแม่รู้ แม่เป็นหัวโจ่กพาพ่อ แอบตามเราไปดูว่าคบกันจริงมั้ย แล้วพอรู้ว่าเราคบกันจริง พ่อแม่ก้พุ่งมาแยกเรากับแฟนออกค่ะ แล้วก็ ....ทุบตี เรากับแฟนทั้งคู่..... แบบ เลือดตกยางออก นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เราโดนทำร้ายร่างกายโดยพ่อแม่ของตัวเอง ทำร้ายแค่เราไม่พอ ไปทำร้ายแฟนเราด้วย แฟนโดนหนักที่สุดเพราะเป็นผช ก็คือเลือดอ่วมท่วมตัวไปหมด เราใจแตกสลายมากๆเลย ตอนนั้นเราทั้งเจ็บปวด ตกใจ สะเทือนใจและสับสนงุนงงมากๆว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมทำกับเราแบบนี้ได้ลงคอ ไม่สงสารตัวเองแล้ว สงสารแฟน สงสารพ่อแม่แฟน อยากขอโทษ ที่ทำให้เจออะไรแบบนี้ แค่มีแฟนเราผิดอะไร ทำไมทำกับฉันแบบนี้ ที่บอกว่ารักเรามากคืออะไร ความรักสำหรับเราถ้ารักใครมากจริงๆเราคงไม่กล้าทำร้ายให้เขาเจ็บปวดเลยแม้แต่ปลายเล็บ เราไม่เคยคิดว่า คนที่เรารักมากที่สุดในชีวิตจะทำร้ายเราให้แตกสลายได้ขนาดนี้ (เราไม่เคยถูกทุบตีในทำนองนี้มาก่อนเลยในชีวิต พอได้เจอก็ยื่นคำขาดเลยค่ะว่าฉันรับไม่ได้)
เรา 2 คนโดนแยกออกจากกัน แม่โกรธและเอาแต่ตะโกนประจานเราไปทั่วตามทางกลับบ้าน ให้คนอื่นที่อยู่บนถนนได้ยินว่าเรา “อายุแค่นี้เอง มีแฟน ติดผู้ชาย ดูไว้นะ” ให้เราอับอาย เราก็ได้แต่ร้องไห้ตลอดทาง กลับถึงบ้านเราก้โดนตบตีต่ออีกนิดหน่อย แม่ให้กราบเท้าขอโทษ เราก็กราบ แล้วก็ขังเราไว้ในห้องนอน เวลาออกจากบ้านก็ล็อคโซ่ หน้าบ้าน,หน้าต่าง เพื่อไม่ให้เราออกจากบ้าน (ในใจคือแม่ทำไปทำไม) น้องชายที่เห็นก็ตกใจแอบร้องไห้ที่เห็นเราเจ็บปวดและสะเทือนใจไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เราเห็นน้อง เราเสียใจมาก เอาแต่โทษตัวเองว่าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นเพราะเราคนเดียว แฟนต้องมาเจ็บตัวเพราะเรา แต่แฟนไม่ได้เอาเรื่องพ่อแม่เราค่ะ แต่พ่อแม่เขาก้พาเขาไปแจ้งความไว้...
ส่วนเราอยู่แต่ในห้องนอนเป็นเดือน ข้าวน้ำกินไม่ลง เนื้อตัวเขียวและบอบช้ำไปหมด แม่ขู่ว่า จะไม่มีทางปล่อยให้ไปเรียนม.ดังแน่นอน เพราะเหลวแหลกแบบนี้ เราเสียสติไปสักพัก ร้องไห้จนอยากจะจากโลกนี้ไป เราไม่เข้าใจว่าเพราะเเค่เราเติบโตตามวัยแล้วเราทำอะไรผิด ที่ผ่านมาเราไม่เป็นเด็กดีพอสำหรับพวกคุณเลยเหรอ ทำไมบอกรักเราแต่ถึงได้ทำร้ายเราแบบนี้ เหมือนคุณฆ่าเราได้คงทำไปแล้ว ...พอเสียใจจนพอตั้งสติได้ เราก็ตัดสินใจดิ้นรนออกจากที่บ้าน จนสำเร็จมาคณะที่สอบติดดั่งใจหวัง ส่วนแฟนเก่าเราก้เลิกกลากัน คุยกันเข้าใจและจากกันด้วยดีค่ะ
แต่ช่วงที่มาเรียนคือ เรามีอาการซึมเศร้ารุนแรง แต่ยังพยายามจะมีชีวิตต่อไป พ่อแม่ก็เลิกกัน ในระหว่างนี้ ทำให้แม่ต้องอยู่กับน้องแค่ 2 คน
อาการซึมเศร้า ปน PTSD เล็กน้อยที่เกิดขึ้นกับเราจากการโดนทำร้ายร่างกาย ส่งผลให้เราเรียนจบช้า ถึง 8 ปี (แต่ก็จบนะ)✌🏻พอย้ายมาต่างจังหวัด เราก้ทะเลาะกันกับทางบ้าน ทางโทรศัพท์ทุกครั้ง เพราะทุกครั้งที่ติดต่อกลับหากัน หรือกลับบ้านไปหาบ้างก็ทะเลาะและ Toxic ใส่กันทุกครั้ง เราพยายามจะปรับความเข้าใจเป็นร้อยๆครั้ง พยายามควบคุมอารมย์สุดๆๆๆๆ และใช้เหตุผลมากๆ พยายามจะเข้าใจแม่ เพื่อที่จะ Fix ข้อผิดพลาดในครอบครัว ที่มันเกิดขึ้น เราเคยสะท้อนพฤติกรรมและคำพูดกับแม่ พูดความรู้สึกจริงๆกับแม่หลายครั้ง ทั้งตอนที่อารมย์ดีๆกัน ทั้งตอนทะเลาะกัน แม่ตอบเราแค่ว่า “ น่ะยึดติดอดีตเกินไป อะไรที่มันจบไปแล้วก้แล้วๆไปสิ ...”
เป็นคนกระทำ ก็มักลืมได้ง่ายๆ คนถูกกระทำมันไม่เคยลืมได้ง่ายๆแบบนั้นหรอกนะ....😢
แต่สุดท้ายก็มีแค่เราที่พังเป็น ร้อยๆครั้ง จนเราเลือกที่พยุงหัวใจของเราไว้แล้วถอยห่างมาแทน ตอนนั้นคิดแค่ว่า ฉันยอมแพ้ ฉันต้องปล่อยไปแล้ว ฉันยื้อไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เจ็บปวดจนตัวแทบจะแตกเป็นเสี่ยง อายุแค่ 22-23 ณ ตอนนั้นรู้สึกโดดเดี่ยวและแตกสลายมากๆค่ะ ฝันร้ายซ้ำๆอยู่เป็นปีๆ หวาดระแวงและไม่เชื่อใจครอบครัวอะไรอีกเลย หลังจากมาเรียนเราก้ไม่เคยเปิดเผยชีวิตเรากับเขาอีกเลยแม้แต่เรื่องเดียว ให้รับรู้แค่เบอร์โทรศัพท์เท่านั้น (ก่อนจะเปลี่ยนไปเราเปิดเผยทุกอย่าง) แต่เราคิดว่าเขาก็รู้ค่ะว่าเรามีแฟน แค่เราไม่บอก ไม่พาไปแนะนำ รู้ว่าเราปิดบังชีวิต แต่เห็นว่าเราก็จะ 30 แล้วก้คงคิดว่าควรปล่อยได้แล้ว พวกท่านเลยไม่อะไรต่อ แต่ก้แอบถามอ้อมๆ เวลาติดต่อกลับมาหาก็มา Toxic ใส่ ถามในเชิงอยากรู้ว่ามีปัญญาไปได้แค่ไหน ที่ทำๆอยู่มันไม่ดีหรอก จะให้กลับไปให้ควบคุมชีวิตอีก
ตอนนี้เราคิดถึงแต่ความรักที่มีกับแม่ ปัจุบันเราอายุ 29 แล้ว แม่ไม่ส่งเรียนต่อตั้งแต่ ปี 3 (ทะเลาะกัน) เราดิ้นรนต่อด้วยตัวเองจนจบ เรามีแฟนใหม่ คบกันมา 6 ปีแล้วค่ะ ความรักมีความสุขดี แต่ส่วนตัวเรายังมีอาการซึมเศร้าเป็นๆหายๆทุกวัน บางวันก็ร้องไห้ขึ้นมาดื้อๆ ไวต่อความรู้สึกมากๆ และอาการอีกมากมายที่อธิบายยาก แฟนคนปัจจุบันเขาก้รับฟังและเข้าใจบาดแผลของเรา
เรามีเขาคอยซัพพอรต์ในชีวิตทุกอย่างตอนนี้ค่ะ พ่อแม่เขาต้อนรับเราดี เราได้ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงตัวเอง และมีมุมมองใหม่ๆหลายอย่าง เหมือนได้มีโลกของเราที่แท้จริงครั้งแรกในชีวิต เราขอบคุณเขามากๆได้พบเจอกันในช่วงชีวิตนี้ แต่เรายังคาใจที่ไม่สามารถที่จะคืนดีกับพ่อแม่ได้ เราก็ยังคงไม่เปิดเผยชีวิตเรากับพ่อแม่เหมือนเดิมค่ะ เพราะเรากลัว ถึงแม้ว่าเรื่องจะผ่านมา 10 ปี แล้ว แต่บาดแผลในใจเรายังอยู่ 😢🥲
บางครั้งเราโดดเดี่ยวในโลกภายนอก เราก็คิดถึงครอบครัวมากๆไม่เคยอยากจะหันหลังหนีครอบครัวแบบนี้ คิดถึงตอนที่ทุกอย่างมันดีมันเคยมีความสุข เราอยากได้พลังใจจากครอบครัวเราบ้าง (คิดแล้วก็เศร้าอีก)ตอนนี้เราคิดถึงครอบครัวสลับกับฝันร้ายและความเจ็บปวดแบบนี้ไปเรื่อยๆทุกวัน ทุกคืน บอกตัวเองตอนเจ็บปวดว่าอย่ากลับไป ถึงจะอยากคืนดีเพราะรักพ่อแม่ แต่เราเปลี่ยนแค่เราไม่ได้....เราทำเรื่องนี้คนเดียวไม่ได้เลย ....เขาฟังแต่ความต้องการของพวกเขา
มันมีความรัก คิดถึงปนความโกรธ,หวาดกลัว,เศร้า .....ปนเปกันไปหมด
เราควรทำอย่างไรกับเรื่องนี้ดีค่ะ อยากได้คำแนะนำ รู้สึกหาหนทางที่จะกลับมาคืนดีกันไม่เจอ ไม่อยากต้องมาดีกันแค่ตอนเคาะฝาโรง แต่ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรให้เขารับฟัง
ขอบคุณที่อ่านมาถึงจุดนี้และให้คำแนะนำนะคะ 🙏🏻🙏🏻🙏🏻
ถ้าเรามีแม่ Toxic ทำทางไหนที่เราพอจะ Fix ความสัมพันธ์เรา 2 คนไว้ได้ข้างคะ?
แม่เลี้ยงเราแบบจัดการชีวิตเราทุกอย่าง จัดการแม้แต่เรื่องการแต่งตัว กิจกรรม หน้าที่การงาน ความคิด การวางตัว ทุกๆอย่างเลย แต่เราก้รู้ค่ะว่าแม่รัก และอยากให้เราได้ดี แม่พูดอยู่เสมอว่าตอนเด็กๆแม่ไม่เคยได้แบบนี้ แม่เลยพยายามหาให้ ทุกๆอย่างที่ทำอยู่ทุกวันนี้ก้เพื่อลูก 2 คน (เรากับน้องชาย)และที่เราได้เริ่มทะเลาะกับครอบครัวรุนแรงครั้งแรก คือตอนอายุ 19 ที่กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย ตอนนั้นพยายามมากเพื่อให้สอบติดมหาลัยดีดีเพื่อแม่แล้วก้ทำได้ เราติดที่ มข. ค่ะและอยู่ในช่วงรอ ผลสัมภาษณ์ เราพยายามมาก สำหรับคนที่หัวไม่ดีเลยแบบเรา เกรดการเรียนตอนจบม.6 ก็ได้แค่ 2.75 เพราะขาดเรียนบ่อย เกรดวิชาหลักนี่คือมีแต่ 1-1-2-1-1-2-1-1😂
เรื่องคือแม่เข้ามาจัดการเรื่องแฟนค่ะ! ช่วงนั้น เราเริ่มโตขึ้นมั้งคะ แล้วเริ่มอยากตัดสินใจเองบ้าง เราไปทำงานพารทไทม์ แล้วเราโดนเอาเปรียบเรื่องเงินนิดหน่อย เราก้กลับมาเล่าให้ครอบครัวฟังบ้างแบบเล่าให้ฟังทั่วๆไปงี้ ก็ตามปกติ แต่แม่เราก็จะไปหาเรื่องเพื่อนที่ทำงานค่ะ คือเรางงมากแบบ ห้ะ!! อะไรแม่!! มันไม่ได้ขนาดดนั้น หนูก็พลาดให้เขาเอาเปรียบเอง แม่ไม่ต้อง!!😂🫸🏻 แต่แม่คือชวนพ่อไปหาเรื่อง แบบเอาจริงจังมาก😰 จนกลายเป็นก้าวก่ายเกินไปแล้ว เราก้โมโห แล้วก้ทะเลาะกันเองแทน 😤 ก็จะเป็นแนวนี้ิอยู่เรื่อยๆค่ะในช่วงนั้น กรุ่นๆแบบนี้มาละ เพราะเราเริ่มต้องการพื้นที่ส่วนตัวเพื่อหัดโตด้วยตัวเองบ้าง แม่ก็จะคอยเอาแต่ด่าว่ารู้มาก รู้ดี ไม่ถาม แล้วก้เป็นทะเลาะหนักมากขึ้นเรื่อยๆ ...บ่อยๆ เป็นประจำ ต้องได้ปะทะฝีปากกัน
รอบที่เป็นจุดขาดแบบต่อไม่ได้ ก็มาถึงค่ะ ตอนนั้นเรามีแฟนคนแรก และแอบคบหากัน แบบเด็กวัยรุ่นทั่วไป แค่เพราะเรากลัวว่า ที่บ้านจะรู้แล้วโกรธเราเลยไม่บอก แล้วก้ตามนั้นค่ะ ความลับไม่มีในโลก พอแม่รู้ แม่เป็นหัวโจ่กพาพ่อ แอบตามเราไปดูว่าคบกันจริงมั้ย แล้วพอรู้ว่าเราคบกันจริง พ่อแม่ก้พุ่งมาแยกเรากับแฟนออกค่ะ แล้วก็ ....ทุบตี เรากับแฟนทั้งคู่..... แบบ เลือดตกยางออก นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เราโดนทำร้ายร่างกายโดยพ่อแม่ของตัวเอง ทำร้ายแค่เราไม่พอ ไปทำร้ายแฟนเราด้วย แฟนโดนหนักที่สุดเพราะเป็นผช ก็คือเลือดอ่วมท่วมตัวไปหมด เราใจแตกสลายมากๆเลย ตอนนั้นเราทั้งเจ็บปวด ตกใจ สะเทือนใจและสับสนงุนงงมากๆว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมทำกับเราแบบนี้ได้ลงคอ ไม่สงสารตัวเองแล้ว สงสารแฟน สงสารพ่อแม่แฟน อยากขอโทษ ที่ทำให้เจออะไรแบบนี้ แค่มีแฟนเราผิดอะไร ทำไมทำกับฉันแบบนี้ ที่บอกว่ารักเรามากคืออะไร ความรักสำหรับเราถ้ารักใครมากจริงๆเราคงไม่กล้าทำร้ายให้เขาเจ็บปวดเลยแม้แต่ปลายเล็บ เราไม่เคยคิดว่า คนที่เรารักมากที่สุดในชีวิตจะทำร้ายเราให้แตกสลายได้ขนาดนี้ (เราไม่เคยถูกทุบตีในทำนองนี้มาก่อนเลยในชีวิต พอได้เจอก็ยื่นคำขาดเลยค่ะว่าฉันรับไม่ได้)
เรา 2 คนโดนแยกออกจากกัน แม่โกรธและเอาแต่ตะโกนประจานเราไปทั่วตามทางกลับบ้าน ให้คนอื่นที่อยู่บนถนนได้ยินว่าเรา “อายุแค่นี้เอง มีแฟน ติดผู้ชาย ดูไว้นะ” ให้เราอับอาย เราก็ได้แต่ร้องไห้ตลอดทาง กลับถึงบ้านเราก้โดนตบตีต่ออีกนิดหน่อย แม่ให้กราบเท้าขอโทษ เราก็กราบ แล้วก็ขังเราไว้ในห้องนอน เวลาออกจากบ้านก็ล็อคโซ่ หน้าบ้าน,หน้าต่าง เพื่อไม่ให้เราออกจากบ้าน (ในใจคือแม่ทำไปทำไม) น้องชายที่เห็นก็ตกใจแอบร้องไห้ที่เห็นเราเจ็บปวดและสะเทือนใจไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เราเห็นน้อง เราเสียใจมาก เอาแต่โทษตัวเองว่าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นเพราะเราคนเดียว แฟนต้องมาเจ็บตัวเพราะเรา แต่แฟนไม่ได้เอาเรื่องพ่อแม่เราค่ะ แต่พ่อแม่เขาก้พาเขาไปแจ้งความไว้...
ส่วนเราอยู่แต่ในห้องนอนเป็นเดือน ข้าวน้ำกินไม่ลง เนื้อตัวเขียวและบอบช้ำไปหมด แม่ขู่ว่า จะไม่มีทางปล่อยให้ไปเรียนม.ดังแน่นอน เพราะเหลวแหลกแบบนี้ เราเสียสติไปสักพัก ร้องไห้จนอยากจะจากโลกนี้ไป เราไม่เข้าใจว่าเพราะเเค่เราเติบโตตามวัยแล้วเราทำอะไรผิด ที่ผ่านมาเราไม่เป็นเด็กดีพอสำหรับพวกคุณเลยเหรอ ทำไมบอกรักเราแต่ถึงได้ทำร้ายเราแบบนี้ เหมือนคุณฆ่าเราได้คงทำไปแล้ว ...พอเสียใจจนพอตั้งสติได้ เราก็ตัดสินใจดิ้นรนออกจากที่บ้าน จนสำเร็จมาคณะที่สอบติดดั่งใจหวัง ส่วนแฟนเก่าเราก้เลิกกลากัน คุยกันเข้าใจและจากกันด้วยดีค่ะ
แต่ช่วงที่มาเรียนคือ เรามีอาการซึมเศร้ารุนแรง แต่ยังพยายามจะมีชีวิตต่อไป พ่อแม่ก็เลิกกัน ในระหว่างนี้ ทำให้แม่ต้องอยู่กับน้องแค่ 2 คน
อาการซึมเศร้า ปน PTSD เล็กน้อยที่เกิดขึ้นกับเราจากการโดนทำร้ายร่างกาย ส่งผลให้เราเรียนจบช้า ถึง 8 ปี (แต่ก็จบนะ)✌🏻พอย้ายมาต่างจังหวัด เราก้ทะเลาะกันกับทางบ้าน ทางโทรศัพท์ทุกครั้ง เพราะทุกครั้งที่ติดต่อกลับหากัน หรือกลับบ้านไปหาบ้างก็ทะเลาะและ Toxic ใส่กันทุกครั้ง เราพยายามจะปรับความเข้าใจเป็นร้อยๆครั้ง พยายามควบคุมอารมย์สุดๆๆๆๆ และใช้เหตุผลมากๆ พยายามจะเข้าใจแม่ เพื่อที่จะ Fix ข้อผิดพลาดในครอบครัว ที่มันเกิดขึ้น เราเคยสะท้อนพฤติกรรมและคำพูดกับแม่ พูดความรู้สึกจริงๆกับแม่หลายครั้ง ทั้งตอนที่อารมย์ดีๆกัน ทั้งตอนทะเลาะกัน แม่ตอบเราแค่ว่า “ น่ะยึดติดอดีตเกินไป อะไรที่มันจบไปแล้วก้แล้วๆไปสิ ...”
เป็นคนกระทำ ก็มักลืมได้ง่ายๆ คนถูกกระทำมันไม่เคยลืมได้ง่ายๆแบบนั้นหรอกนะ....😢
แต่สุดท้ายก็มีแค่เราที่พังเป็น ร้อยๆครั้ง จนเราเลือกที่พยุงหัวใจของเราไว้แล้วถอยห่างมาแทน ตอนนั้นคิดแค่ว่า ฉันยอมแพ้ ฉันต้องปล่อยไปแล้ว ฉันยื้อไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เจ็บปวดจนตัวแทบจะแตกเป็นเสี่ยง อายุแค่ 22-23 ณ ตอนนั้นรู้สึกโดดเดี่ยวและแตกสลายมากๆค่ะ ฝันร้ายซ้ำๆอยู่เป็นปีๆ หวาดระแวงและไม่เชื่อใจครอบครัวอะไรอีกเลย หลังจากมาเรียนเราก้ไม่เคยเปิดเผยชีวิตเรากับเขาอีกเลยแม้แต่เรื่องเดียว ให้รับรู้แค่เบอร์โทรศัพท์เท่านั้น (ก่อนจะเปลี่ยนไปเราเปิดเผยทุกอย่าง) แต่เราคิดว่าเขาก็รู้ค่ะว่าเรามีแฟน แค่เราไม่บอก ไม่พาไปแนะนำ รู้ว่าเราปิดบังชีวิต แต่เห็นว่าเราก็จะ 30 แล้วก้คงคิดว่าควรปล่อยได้แล้ว พวกท่านเลยไม่อะไรต่อ แต่ก้แอบถามอ้อมๆ เวลาติดต่อกลับมาหาก็มา Toxic ใส่ ถามในเชิงอยากรู้ว่ามีปัญญาไปได้แค่ไหน ที่ทำๆอยู่มันไม่ดีหรอก จะให้กลับไปให้ควบคุมชีวิตอีก
ตอนนี้เราคิดถึงแต่ความรักที่มีกับแม่ ปัจุบันเราอายุ 29 แล้ว แม่ไม่ส่งเรียนต่อตั้งแต่ ปี 3 (ทะเลาะกัน) เราดิ้นรนต่อด้วยตัวเองจนจบ เรามีแฟนใหม่ คบกันมา 6 ปีแล้วค่ะ ความรักมีความสุขดี แต่ส่วนตัวเรายังมีอาการซึมเศร้าเป็นๆหายๆทุกวัน บางวันก็ร้องไห้ขึ้นมาดื้อๆ ไวต่อความรู้สึกมากๆ และอาการอีกมากมายที่อธิบายยาก แฟนคนปัจจุบันเขาก้รับฟังและเข้าใจบาดแผลของเรา
เรามีเขาคอยซัพพอรต์ในชีวิตทุกอย่างตอนนี้ค่ะ พ่อแม่เขาต้อนรับเราดี เราได้ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงตัวเอง และมีมุมมองใหม่ๆหลายอย่าง เหมือนได้มีโลกของเราที่แท้จริงครั้งแรกในชีวิต เราขอบคุณเขามากๆได้พบเจอกันในช่วงชีวิตนี้ แต่เรายังคาใจที่ไม่สามารถที่จะคืนดีกับพ่อแม่ได้ เราก็ยังคงไม่เปิดเผยชีวิตเรากับพ่อแม่เหมือนเดิมค่ะ เพราะเรากลัว ถึงแม้ว่าเรื่องจะผ่านมา 10 ปี แล้ว แต่บาดแผลในใจเรายังอยู่ 😢🥲
บางครั้งเราโดดเดี่ยวในโลกภายนอก เราก็คิดถึงครอบครัวมากๆไม่เคยอยากจะหันหลังหนีครอบครัวแบบนี้ คิดถึงตอนที่ทุกอย่างมันดีมันเคยมีความสุข เราอยากได้พลังใจจากครอบครัวเราบ้าง (คิดแล้วก็เศร้าอีก)ตอนนี้เราคิดถึงครอบครัวสลับกับฝันร้ายและความเจ็บปวดแบบนี้ไปเรื่อยๆทุกวัน ทุกคืน บอกตัวเองตอนเจ็บปวดว่าอย่ากลับไป ถึงจะอยากคืนดีเพราะรักพ่อแม่ แต่เราเปลี่ยนแค่เราไม่ได้....เราทำเรื่องนี้คนเดียวไม่ได้เลย ....เขาฟังแต่ความต้องการของพวกเขา
มันมีความรัก คิดถึงปนความโกรธ,หวาดกลัว,เศร้า .....ปนเปกันไปหมด
เราควรทำอย่างไรกับเรื่องนี้ดีค่ะ อยากได้คำแนะนำ รู้สึกหาหนทางที่จะกลับมาคืนดีกันไม่เจอ ไม่อยากต้องมาดีกันแค่ตอนเคาะฝาโรง แต่ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรให้เขารับฟัง
ขอบคุณที่อ่านมาถึงจุดนี้และให้คำแนะนำนะคะ 🙏🏻🙏🏻🙏🏻