สวัสดีทุกคนจากกรุงเวียนนาประเทศออสเตรียนะคะ คุณอยู่กับฟ...ผิด!
ขอเริ่มใหม่นะคะ อะ...แฮ่ม โหลๆ หนึ่ง ส่อง สั่ม ขอสวัสดีทุกคนและแนะนำตัวอย่างเป็นทางการกับโปรเจค
หวำจะไป... ไป ไป ไปป ไป
เราชื่อหวำนะคะ มนุษย์เงินเดือน / (เบ๊) คนหนึ่ง ที่ถ่ายรูปได้นิดหน่อย และมีโอกาสได้ไปเที่ยว นี่ นั่น นู่น เพื่อเติมไฟให้ชีวิตบ้างในบางครั้ง มีเพจเล็กๆ เอาไว้โพสรูปที่ถ่ายมาตามประสาคนอยากรำลึกความหลัง แต่ไม่เคยได้ทำอะไรจริงๆจังๆ วันนึงรูปที่มีมันเริ่มเยอะ เลยเกิดไอเดียขึ้นมา ปิ๊ง!
ทำไมเราไม่เอารูปที่เราบันทึกมา มาเติมเรื่องราว แล้วแบ่งปันมันกับทุกๆคนล่ะ... ประกอบกับช่วงนี้ได้เป็นเบ๊ชั้นสูง เริ่มมีเวลาว่าง ก็เลยได้ฤกษ์ทำสิ่งที่อยากทำ สานต่อความฝัน เผื่อวันนึงจะได้เด่นได้ดังกับเขาบ้าง ฮี่ๆๆ
โครงการ
หวำจะไป... (Pwhaum Would Go) จึงคลอดแล้ววันนี้ ที่พันทิป สังคมอุดมปัญญา (ผิด!) แห่งนี้ค่า
จะขอเริ่มต้นด้วยทริปล่าสุดที่เราเพิ่งไปมาเมื่อต้นปี สดๆร้อน นั่นก็คือ ประเทศออสเตรีย เดือนมีนาคม 2025 ค่ะ
ทริปนี้เริ่มต้น จากการได้มีโอกาสไปดูงานที่เวียนนาในช่วงเรียนต่อ เลยพอมีเวลาได้ไปเปิดหูเปิดตา ในเมืองหลวงที่เคยได้ชื่อว่าน่าอยู่ที่สุดในโลก (World's most livable city in the 2022-2024 Global Liveability Index) ถึงสามปีซ้อนกันเลยทีเดียว ซึ่งวิธีการเดินทางไป การหาตั๋วราคาเป็นมิตร รวมถึงเทคนิคการขอวีซ่า เราจะไม่ได้พูดถึงในกระทู้นะคะ เพื่อนๆที่สงสัยสามารถ หาข้อมูลเพิ่มเติม หรือ inbox มาถามโดยตรงได้เลยค่ะ
หลังจากเตรียมตัวขอวีซ่า จัดการตั๋ว รวมถึงที่พัก ก็กินเวลาร่วม 3 เดือน เราก็ได้ฤกษ์ take off จาก สนามบินสุวรรณภูมิ และเหยียบผืนแผ่นดินทวีปยุโรปในที่สุด เราบินจาก กรุงเทพ > ดูไบ > Vienna ใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 12 ชั่วโมงบนเครื่องบิน ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อย ก็ออกเดินทางไปยังที่พักที่จองไว้ในตัวเมือง (สนามบินอยู่นอกเมือง ต้องต่อรถไฟเข้าไปประมาณ 40 นาที) ซึ่งสามารถซื้อตั๋วได้ที่ Platform ด้านล่าง terminal ได้เลยค่ะ เราซื้อตั๋วธรรมดา เที่ยวเดียวราคาใบประมาณ 2 Euro ค่ะ การเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะในเวียนนาค่อนข้างสะดวกสบาย สะอาด และตรงเวลามากๆค่ะ มี Metro / Tram / Bus ทั่วเมือง เรียกว่าไปไหนมาไหนไม่ต้องง้อรถยนต์เลยค่ะ ที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถซื้อตั๋วรายสัปดาห์ได้ตาม Metro (U-bahn) หรือ Train station (S-bahn) ใหญ่ๆ เช่น
Wien Hauptbahnhof (Hbf) – Vienna Central Station ค่ะ ซื้อครั้งเดียว สามารถใช้ได้ทั้ง Train, Tram และ Bus เลยค่ะ
สำคัญมาก! หลังจากซื้อตั๋วมา ต้อง Validate ตั๋วก่อนใช้งาน ย้ำนะคะ!
ถ้าเจ้าหน้าที่ตรวจพบค่าปรับแพงมาก 105 Euro กันเลย
อ๋อ... รู้ได้ไงหน่ะเหรอคะ ...ใช่ค่ะ ดิฉันโดนปรับค่าาา TT
ทราบวิธีการเดินทางกันไปแล้ว ก็ได้เวลาไปเที่ยวเวียนนาด้วยกันแล้วค่ะทุกคน เราจะเล่าเม้าท์มอยไปเรื่อยๆ นะคะ ไม่รู้เป็นเหมือนกันหรือเปล่า เวลาหาจะหาข้อมูลอะไร เราจะชอบอ่านแบบเป็นตัวหนังสือมากกว่า อ่านแล้วมันมั่นใจว่าดูหรือฟังเยอะเลย (คนอ่านบอก อย่าให้เห็นแกตัดวิดีโอนะยะ)
สัปดาห์แรกผ่านไปไว เพราะเน้นศึกษาดูงานอย่างหนักหน่วง 7AM - 7PM ท่ามกลางอากาศหนาวเย็น ได้แว่บไปแวะ Belvedere Palace พอหอมปากหอมคอ บ้านของรูป The kiss ที่มีชื่อเสียง และผลงานศิลปะอื่นๆอีกมากมาย (แปะรูปไว้ข้างบนนิดหน่อย, ขอแอบเม้าท์ว่าวันที่เราไป เพื่อนเราซื้อตั๋ว walk-in ได้เป็น 2 ใบสุดท้ายของวันค่ะ ฮริ้ง มากับดวงจริงๆจ้า ) และแล้วววว เราก็ได้หยุดเสาร์อาทิตย์ซักทีค่า 555555555 เย้!
Weekend แรก เรากับเพื่อนนั่งรถไฟจาก Vienna ไปเที่ยวกันที่เมืองเล็กๆ ที่มีชื่อว่า Hallstat - ไฮส์สตึด (ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนคงเคยเห็นรีวิวกันไปแล้วแปดพันล้านครั้ง) แต่เราก็จะยังเล่าให้ฟังอีกอยู่ดีนะคะ ดิฉันจะสู้! ดิฉันเป็น Fighter
วิธีการเดินทาง ต้องซื้อตั๋วรถไฟจาก Central station (Wien) ไปยัง สถานี Hallstat Bahnhst ราคาประมาณ 100 Euro ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-4 ชั่วโมง แล้วแต่ว่าต้องเปลี่ยนขบวนมั้ย ตั๋วไม่ระบุที่นั่ง แต่แนะนำนั่งด้านซ้ายนะคะ วิวสวย อิอิ จากนั้นก็ต้องไปต่อเรือข้ามฟาก ส่วนขากลับก็เหมือนกันนะคะ แต่แนะนำว่าให้ไปถึงเมืองก่อนค่อยซื้อ (โดยเฉพาะถ้าจะค้างคืน) เนื่องจากเรือเที่ยวแรกออกไม่พร้อมกันในแต่ละวัน และแต่ละ season ค่ะ ถ้าคุณซื้อไปก่อนในเที่ยวที่ราคาถูก คุณอาจจะต้องซื้อใหม่เนื่องจากมะมีเรือออก TT และใช่ค่ะ ดิฉันคือคนคนนั้น อีกแล้ว Birth but with me
ตารางดูได้ที่ท่าเรือฝั่งเมืองนะคะ จะมีแปะอยู่ อ่านอย่างรอบคอบนะคะ (ค่าเรือรับเฉพาะเงินสดเท่านั้น เตรียมไปด้วยนะคะ)
เราค้างคืนที่นั่น 1 คืน เพื่อตื่นมาดูเมืองตอนเช้าตรู่ที่ยังไม่มีคนเยอะ เดินชมวิวโบสถ์จากมุมมหาชนได้อีก 25 รอบ (โม้ไปงั้น ของจริงเดินไกลนิดหน่อย แต่หนาวมากๆ) เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆ แต่สวยมากจริงๆค่ะ สมแล้วที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองเทพนิยาย (เป็นต้นแบบของ Arendelle ใน animation Frozen ของดิสนีย์ด้วยนะ) มื้อเย็นได้กินปลาสดๆย่างหอมๆที่จับมาจากทะเลสาบของเมือง แกล้ม Mulled wine ร้อนๆ ตอนอากาศหนาวๆ แสนจะฟินและอิ่มใจสุดๆไปเลยค่ะ (พิกัดร้านเดี๋ยวแปะให้ด้านล่างนะคะ ขอบอกว่าครีมโคน - Schuamrolle ร้านที่แปะพิกัดไว้ ทานร้อนๆตอนเช้าๆ กระเพาะเคลือบทองไปเลยล่ะค่ะ) แต่ถ้าใครมีเวลาจำกัด สามารถไปเช้าเย็นกลับได้เช่นกันนะคะ มีอีกเมืองใกล้ๆ ชื่อ Salzberg ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวถัดจากเมืองนี้ ห่างไปประมาณ 2 ชม.โดยรถไฟค่ะ
Hallstat เป็นเมืองขนาดไม่ใหญ่ เน้นเดินเท้าก็เที่ยวได้ทั่วเมืองแล้ว แต่ยังคงความน่ารัก local และเงียบสงบ เหมาะมากที่จะมาพักผ่อนกับครอบครัว หรือขึ้นเขาไปเที่ยวเหมืองเกลือใกล้ๆ ก็น่าสนใจเช่นกันค่ะ
เราไปถึงช่วงบ่ายสามโมง แสงกำลังสวย เดินถ่ายรูปจนกันน่องปูดเลยค่ะ เอารูปถ่ายช่วงที่เราไปมามาฝากกันเล็กน้อยค่ะ
มุมนี้เป็นมุมจากท่าเรือของเมือง มองไปยังสถานีรถไฟ ช่วงเช้าไม่มีคนเลย กดไปเลยค่ะ 100 ใบเหนาะๆ
ถ่ายรูปนี้เป็นรูปแรกของม้วน เปิดม้วนตรงท่าเรือข้ามฝาก เสียดายมากที่เรือข้ามฝากดันไปอยู่ตรงหัวฟิล์มเฉยเลย นอยอ่าคุณน้า
รูปสุดท้ายขอใช้เป็นรูปปิด session กับมุมมหาชนของเมือง ที่นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องมาถ่ายเป็นที่ระลึกกลับบ้าน รูปที่ทำให้ใครหลายๆคนอยากมา Hallstat เพื่อมาชมภาพนี้ด้วยตาเนื้อ ถือว่าคุ้มค่าที่ได้มาเห็น ถ้าได้มาอีกครั้ง ก็คงจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจในการมาพักผ่อน ยิ่งถ้าได้มาอีกในช่วงฤดูหนาว ก็คงจะมีรูปสวยๆ กลับมาให้ใจฟูอีกแน่นอน
สัปดาห์แรกใน Austria ของเราและเพื่อนจบลงอย่างน่าประทับใจ ก็ขอฝากรูป และเรื่องราวยาวๆ ที่ไม่รู้ว่าสนุกมั้ย ไว้ในอ้อมใจของทุกๆคนนะคะ เราจะมาอัพเดทรูปที่เหลือในทริป (อีกมากมายก่ายกอง) ให้ทุกคนได้ดูอีกแน่นอน อดใจรอนะคะ สำหรับวันนี้ สวัสดีค่า
พิกัด ร้านอาหารเย็นที่เราทาน : Schirmbar Hallstatt (Umbrella Bar Hallstatt) ร้าน Schuamrolle : Rührwerk Hallstatt Ofenfrische Schaumrollen
แล้วเจอกันใหม่นะคะทุกคน ซาโยนาระ
ก่อนลากันไป ขอฝากร้าน แปะไอจี แปะเพจ ไว้พูดคุย ลงรูป เม้ามอย ตามประสาคนไทยพูดไปเรื่อยนะคะ ฮริ้ง ~
หวำจะไป - Austria ไม่ใช่ Australia และไม่มีจิงโจ้! | ทริปเรียน เล่น เต้นระบำ? กลางเดือนมีนา แต่เมื่อไหร่นะเธอจะมีใจ
เราชื่อหวำนะคะ มนุษย์เงินเดือน / (เบ๊) คนหนึ่ง ที่ถ่ายรูปได้นิดหน่อย และมีโอกาสได้ไปเที่ยว นี่ นั่น นู่น เพื่อเติมไฟให้ชีวิตบ้างในบางครั้ง มีเพจเล็กๆ เอาไว้โพสรูปที่ถ่ายมาตามประสาคนอยากรำลึกความหลัง แต่ไม่เคยได้ทำอะไรจริงๆจังๆ วันนึงรูปที่มีมันเริ่มเยอะ เลยเกิดไอเดียขึ้นมา ปิ๊ง! ทำไมเราไม่เอารูปที่เราบันทึกมา มาเติมเรื่องราว แล้วแบ่งปันมันกับทุกๆคนล่ะ... ประกอบกับช่วงนี้ได้เป็นเบ๊ชั้นสูง เริ่มมีเวลาว่าง ก็เลยได้ฤกษ์ทำสิ่งที่อยากทำ สานต่อความฝัน เผื่อวันนึงจะได้เด่นได้ดังกับเขาบ้าง ฮี่ๆๆ
โครงการ หวำจะไป... (Pwhaum Would Go) จึงคลอดแล้ววันนี้ ที่พันทิป สังคมอุดมปัญญา (ผิด!) แห่งนี้ค่า
จะขอเริ่มต้นด้วยทริปล่าสุดที่เราเพิ่งไปมาเมื่อต้นปี สดๆร้อน นั่นก็คือ ประเทศออสเตรีย เดือนมีนาคม 2025 ค่ะ
ทริปนี้เริ่มต้น จากการได้มีโอกาสไปดูงานที่เวียนนาในช่วงเรียนต่อ เลยพอมีเวลาได้ไปเปิดหูเปิดตา ในเมืองหลวงที่เคยได้ชื่อว่าน่าอยู่ที่สุดในโลก (World's most livable city in the 2022-2024 Global Liveability Index) ถึงสามปีซ้อนกันเลยทีเดียว ซึ่งวิธีการเดินทางไป การหาตั๋วราคาเป็นมิตร รวมถึงเทคนิคการขอวีซ่า เราจะไม่ได้พูดถึงในกระทู้นะคะ เพื่อนๆที่สงสัยสามารถ หาข้อมูลเพิ่มเติม หรือ inbox มาถามโดยตรงได้เลยค่ะ
หลังจากเตรียมตัวขอวีซ่า จัดการตั๋ว รวมถึงที่พัก ก็กินเวลาร่วม 3 เดือน เราก็ได้ฤกษ์ take off จาก สนามบินสุวรรณภูมิ และเหยียบผืนแผ่นดินทวีปยุโรปในที่สุด เราบินจาก กรุงเทพ > ดูไบ > Vienna ใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 12 ชั่วโมงบนเครื่องบิน ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อย ก็ออกเดินทางไปยังที่พักที่จองไว้ในตัวเมือง (สนามบินอยู่นอกเมือง ต้องต่อรถไฟเข้าไปประมาณ 40 นาที) ซึ่งสามารถซื้อตั๋วได้ที่ Platform ด้านล่าง terminal ได้เลยค่ะ เราซื้อตั๋วธรรมดา เที่ยวเดียวราคาใบประมาณ 2 Euro ค่ะ การเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะในเวียนนาค่อนข้างสะดวกสบาย สะอาด และตรงเวลามากๆค่ะ มี Metro / Tram / Bus ทั่วเมือง เรียกว่าไปไหนมาไหนไม่ต้องง้อรถยนต์เลยค่ะ ที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถซื้อตั๋วรายสัปดาห์ได้ตาม Metro (U-bahn) หรือ Train station (S-bahn) ใหญ่ๆ เช่น Wien Hauptbahnhof (Hbf) – Vienna Central Station ค่ะ ซื้อครั้งเดียว สามารถใช้ได้ทั้ง Train, Tram และ Bus เลยค่ะ
Hallstat เป็นเมืองขนาดไม่ใหญ่ เน้นเดินเท้าก็เที่ยวได้ทั่วเมืองแล้ว แต่ยังคงความน่ารัก local และเงียบสงบ เหมาะมากที่จะมาพักผ่อนกับครอบครัว หรือขึ้นเขาไปเที่ยวเหมืองเกลือใกล้ๆ ก็น่าสนใจเช่นกันค่ะ
เราไปถึงช่วงบ่ายสามโมง แสงกำลังสวย เดินถ่ายรูปจนกันน่องปูดเลยค่ะ เอารูปถ่ายช่วงที่เราไปมามาฝากกันเล็กน้อยค่ะ
มุมนี้เป็นมุมจากท่าเรือของเมือง มองไปยังสถานีรถไฟ ช่วงเช้าไม่มีคนเลย กดไปเลยค่ะ 100 ใบเหนาะๆ
ถ่ายรูปนี้เป็นรูปแรกของม้วน เปิดม้วนตรงท่าเรือข้ามฝาก เสียดายมากที่เรือข้ามฝากดันไปอยู่ตรงหัวฟิล์มเฉยเลย นอยอ่าคุณน้า
รูปสุดท้ายขอใช้เป็นรูปปิด session กับมุมมหาชนของเมือง ที่นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องมาถ่ายเป็นที่ระลึกกลับบ้าน รูปที่ทำให้ใครหลายๆคนอยากมา Hallstat เพื่อมาชมภาพนี้ด้วยตาเนื้อ ถือว่าคุ้มค่าที่ได้มาเห็น ถ้าได้มาอีกครั้ง ก็คงจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจในการมาพักผ่อน ยิ่งถ้าได้มาอีกในช่วงฤดูหนาว ก็คงจะมีรูปสวยๆ กลับมาให้ใจฟูอีกแน่นอน
สัปดาห์แรกใน Austria ของเราและเพื่อนจบลงอย่างน่าประทับใจ ก็ขอฝากรูป และเรื่องราวยาวๆ ที่ไม่รู้ว่าสนุกมั้ย ไว้ในอ้อมใจของทุกๆคนนะคะ เราจะมาอัพเดทรูปที่เหลือในทริป (อีกมากมายก่ายกอง) ให้ทุกคนได้ดูอีกแน่นอน อดใจรอนะคะ สำหรับวันนี้ สวัสดีค่า