วิธีการลอยตัวในน้ำที่ถูกต้องและปลอดภัยที่สุดคือการ
ใช้ลมในปอด เพื่อช่วยพยุงร่างกาย เพื่อรอการช่วยเหลือ เพราะปอดมีขนาดใหญ่และทำหน้าที่เหมือนทุ่นลอยน้ำตามธรรมชาติ เมื่อปอดเต็มไปด้วยอากาศ ร่างกายของเราจะมีแรงลอยตัวมากขึ้น ทำให้ลอยน้ำได้ง่าย
ขั้นตอนการลอยตัวด้วยการใช้ลมในปอด
1. ตั้งสติและควบคุมลมหายใจ
สิ่งสำคัญที่สุดคืออย่าตกใจ ให้พยายามควบคุมลมหายใจให้ช้าและลึก
หายใจเข้าให้เต็มปอด มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และกลั้นหายใจไว้ชั่วครู่ สิ่งนี้จะช่วยให้ปอดมีอากาศเต็มที่และพยุงร่างกายให้ลอยขึ้น
2. ท่าลอยตัวที่ช่วยพยุง
เมื่อหายใจเข้าเต็มปอดแล้ว ให้ทำท่าดังต่อไปนี้:
ท่าปลาดาว: นอนหงาย เหยียดแขนและขาออกให้กว้างเหมือนรูปดาว เผยอคางขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้ปากและจมูกอยู่เหนือน้ำ ท่านี้จะช่วยกระจายน้ำหนักและทำให้ร่างกายลอยได้ง่ายที่สุด
ท่าลูกบอล: หากรู้สึกไม่มั่นคง ให้นั่งยอง ๆ ในน้ำแล้วใช้แขนกอดเข่าไว้แน่น ๆ ให้ศีรษะอยู่เหนือผิวน้ำ ท่านี้จะช่วยให้ร่างกายพยุงตัวเองได้ แต่จะทำให้เหนื่อยง่ายกว่า
3. สลับการหายใจอย่างถูกวิธี
เมื่อรู้สึกว่ากำลังจะหมดลม ให้ค่อยๆ
หายใจออกทางปาก ช้าๆ แล้ว
หายใจเข้าทางปากและจมูก ให้เร็วที่สุดเพื่อเติมอากาศเข้าไปในปอดอีกครั้ง ทำซ้ำๆ โดยไม่ทำให้ร่างกายเกร็งหรือตื่นตกใจ
สิ่งที่ควรระวัง:
อย่าใช้ลมเข้าท้อง: การใช้ลมเข้าท้องเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้องและอันตราย เพราะลมในกระเพาะอาหารไม่ได้ช่วยให้ลอยตัวได้ แต่กลับเพิ่มความเสี่ยงที่จะสำลักน้ำหรืออาเจียนออกมา
ผ่อนคลายร่างกาย: ยิ่งร่างกายผ่อนคลายมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งลอยตัวได้ง่ายขึ้น การเกร็งตัวจะทำให้คุณจมเร็วขึ้น
มองหาที่ยึดเกาะ: ขณะที่กำลังลอยตัว ให้กวาดตามองหาสิ่งของที่ลอยน้ำได้ เช่น ท่อนไม้ ขวดพลาสติก หรือห่วงยาง เพื่อใช้เป็นอุปกรณ์ช่วยชีวิตชั่วคราว
การฝึกฝนท่าลอยตัวที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณสามารถเอาตัวรอดในสถานการณ์ฉุกเฉินได้เป็นอย่างดี
#lifeguard #rescuetube
เทคนิค วิธีเอาตัวรอดจากการจมน้ำ ด้วยวิธีการเอาลมเข้าปอด โดยไม่ต้องใช้แรง
ขั้นตอนการลอยตัวด้วยการใช้ลมในปอด
1. ตั้งสติและควบคุมลมหายใจ
สิ่งสำคัญที่สุดคืออย่าตกใจ ให้พยายามควบคุมลมหายใจให้ช้าและลึก หายใจเข้าให้เต็มปอด มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และกลั้นหายใจไว้ชั่วครู่ สิ่งนี้จะช่วยให้ปอดมีอากาศเต็มที่และพยุงร่างกายให้ลอยขึ้น
2. ท่าลอยตัวที่ช่วยพยุง
เมื่อหายใจเข้าเต็มปอดแล้ว ให้ทำท่าดังต่อไปนี้:
ท่าปลาดาว: นอนหงาย เหยียดแขนและขาออกให้กว้างเหมือนรูปดาว เผยอคางขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้ปากและจมูกอยู่เหนือน้ำ ท่านี้จะช่วยกระจายน้ำหนักและทำให้ร่างกายลอยได้ง่ายที่สุด
ท่าลูกบอล: หากรู้สึกไม่มั่นคง ให้นั่งยอง ๆ ในน้ำแล้วใช้แขนกอดเข่าไว้แน่น ๆ ให้ศีรษะอยู่เหนือผิวน้ำ ท่านี้จะช่วยให้ร่างกายพยุงตัวเองได้ แต่จะทำให้เหนื่อยง่ายกว่า
3. สลับการหายใจอย่างถูกวิธี
เมื่อรู้สึกว่ากำลังจะหมดลม ให้ค่อยๆ หายใจออกทางปาก ช้าๆ แล้ว หายใจเข้าทางปากและจมูก ให้เร็วที่สุดเพื่อเติมอากาศเข้าไปในปอดอีกครั้ง ทำซ้ำๆ โดยไม่ทำให้ร่างกายเกร็งหรือตื่นตกใจ
สิ่งที่ควรระวัง:
อย่าใช้ลมเข้าท้อง: การใช้ลมเข้าท้องเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้องและอันตราย เพราะลมในกระเพาะอาหารไม่ได้ช่วยให้ลอยตัวได้ แต่กลับเพิ่มความเสี่ยงที่จะสำลักน้ำหรืออาเจียนออกมา
ผ่อนคลายร่างกาย: ยิ่งร่างกายผ่อนคลายมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งลอยตัวได้ง่ายขึ้น การเกร็งตัวจะทำให้คุณจมเร็วขึ้น
มองหาที่ยึดเกาะ: ขณะที่กำลังลอยตัว ให้กวาดตามองหาสิ่งของที่ลอยน้ำได้ เช่น ท่อนไม้ ขวดพลาสติก หรือห่วงยาง เพื่อใช้เป็นอุปกรณ์ช่วยชีวิตชั่วคราว
การฝึกฝนท่าลอยตัวที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณสามารถเอาตัวรอดในสถานการณ์ฉุกเฉินได้เป็นอย่างดี
#lifeguard #rescuetube