ในโลกที่บาดแผลจากอดีตยังคงลึกเกินกว่าจะเยียวยาด้วยคำขอโทษหรือสันติภาพปลอม ๆ … เรามักจะพบผู้นำสองประเภท ประเภทที่พร้อมเผาตัวเองเพื่อให้เผ่าพันธุ์ของตนได้มีแสงสว่าง และประเภทที่ใช้เผ่าพันธุ์ของตัวเองเป็นเชื้อเพลิงเพื่อให้ตัวเองดูยิ่งใหญ่
อารองอาจเป็นปีศาจในสายตาโลกมนุษย์ แต่ในสายตาของชาวเงือก เขาคือคนที่กล้าตะโกนในวันที่ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะกระซิบ เขามีอุดมการณ์ มีเป้าหมาย และแม้แนวทางจะบิดเบี้ยว เขาก็ยัง “เชื่อ” เชื่อว่าเขาทำเพื่ออนาคตของเผ่าพันธุ์ แม้จะต้องกลายเป็นผู้ร้ายในหน้าประวัติศาสตร์ก็ยอม… เขาไม่ใช่คนดี แต่เป็นคนที่จริงใจในสิ่งที่เขาเลือกจะเป็น
อารองน่ะ ถึงจะหัวรุนแรง ถึงจะยึดติดในความเกลียดมนุษย์ ถึงจะใช้ความรุนแรงเป็นอาวุธ แต่ถ้าฟังเขาพูดดี ๆ จะรู้ว่าเขา "เจ็บ" เขาไม่ได้ตื่นมาแล้วอยากเกลียดใครโดยไร้เหตุผล เขาแค่ไม่อยากเห็นพวกเดียวกันต้องอยู่ต่ำ ต้องทน ต้องก้มหน้าอยู่ในโลกที่มนุษย์ครอง แล้วที่เขาทำ มันคือการต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรีของชาวเงือก ถึงแม้วิธีมันจะผิดก็ตาม แต่คนที่มีอุดมการณ์ แม้จะผิด มันยังจับต้องได้ว่าทำไมเขาคิดแบบนั้น
ตรงกันข้าม โฮลดี้คือความกลวงเปล่าที่แต่งหน้าเป็นอุดมการณ์ เขาหยิบความเกลียดชังมาเป็นเครื่องมือ ทั้งที่ไม่มีราก ไม่มีศรัทธา ไม่มีแม้แต่ความเข้าใจในสิ่งที่ตนทำ เขาคือเงาแห่งความคับแค้นที่กลืนตัวตนของคนรอบข้างให้กลายเป็นหมากในกระดานของตัวเอง กลับเป็นเพียงหน้ากากของอุดมการณ์ ที่ภายในคือความแค้น ความว่างเปล่า และการแสวงหาอำนาจแบบไม่แยแสแม้กระทั่งเผ่าตัวเอง เขาเสพติดความรุนแรง ดึงคนอื่นมาใช้เป็นหมาก ล้างสมองพวกเดียวกันให้เป็นเครื่องจักรของความเกลียดชัง แล้วเรียกสิ่งนั้นว่า “ความยุติธรรม”... เหมือนชายผู้ขาดความเข้าใจโลกแต่หลงว่าตัวเองคือพระเจ้า
ถ้าต้องเลือกว่าใครควรนำทางเผ่าพันธุ์ อารองอาจนำพาเราสู่ความพินาศ แต่เป็นพินาศที่มีความหมาย เป็นเปลวไฟที่ลุกโชนจากความหวัง ไม่ใช่เปลวเพลิงที่สุมขึ้นจากความแค้นส่วนตัวเหมือนของโฮลดี้
ความสัมพันธ์นี้ไม่ต่างจาก ดันโซกับรุ่นสาม…
ดันโซยกคำว่าความมั่นคงของหมู่บ้านขึ้นมาเป็นตรา แต่ภายใต้ตรานั้นคือความกลัวและความต้องการควบคุม
ขณะที่รุ่นสามอาจจะอ่อนโยนเกินไปในสายตาบางคน แต่เขารู้จัก “รับฟัง” และเห็นค่าของผู้คนมากกว่าคำว่า “ภารกิจ”
บางที… โลกนี้ไม่ได้ต้องการผู้นำที่สมบูรณ์แบบหรอก
แค่ผู้นำที่ ซื่อสัตย์กับเจตนาของตัวเอง และไม่ลืมว่า คนที่เขานำอยู่นั้นก็เป็น “มนุษย์” เหมือนกัน
ในโลกแห่งการต่อสู้ระหว่างอุดมการณ์และการแสวงหาอำนาจ… บางครั้งศัตรูที่อันตรายที่สุดก็ไม่ใช่คนที่เกลียดเรา แต่คือคนที่อยู่ฝ่ายเดียวกัน แต่ไม่เคยรักเราเลยตั้งแต่แรก
โลกมันซับซ้อน แต่ความเจ็บจากการถูกทรยศ... ซับซ้อนกว่านั้นเสมอและถ้าคุณเป็นชาวมนุษย์เงือก…
เป็นคุณ..คุณจะเลือกใคร ระหว่างเปลวไฟที่เผาตัวเอง กับเปลวไฟที่เผาทุกคนเพื่อสนองตน?
ผู้นำสองประเภทกับสันติภาพจอมปลอม
อารองอาจเป็นปีศาจในสายตาโลกมนุษย์ แต่ในสายตาของชาวเงือก เขาคือคนที่กล้าตะโกนในวันที่ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะกระซิบ เขามีอุดมการณ์ มีเป้าหมาย และแม้แนวทางจะบิดเบี้ยว เขาก็ยัง “เชื่อ” เชื่อว่าเขาทำเพื่ออนาคตของเผ่าพันธุ์ แม้จะต้องกลายเป็นผู้ร้ายในหน้าประวัติศาสตร์ก็ยอม… เขาไม่ใช่คนดี แต่เป็นคนที่จริงใจในสิ่งที่เขาเลือกจะเป็น
อารองน่ะ ถึงจะหัวรุนแรง ถึงจะยึดติดในความเกลียดมนุษย์ ถึงจะใช้ความรุนแรงเป็นอาวุธ แต่ถ้าฟังเขาพูดดี ๆ จะรู้ว่าเขา "เจ็บ" เขาไม่ได้ตื่นมาแล้วอยากเกลียดใครโดยไร้เหตุผล เขาแค่ไม่อยากเห็นพวกเดียวกันต้องอยู่ต่ำ ต้องทน ต้องก้มหน้าอยู่ในโลกที่มนุษย์ครอง แล้วที่เขาทำ มันคือการต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรีของชาวเงือก ถึงแม้วิธีมันจะผิดก็ตาม แต่คนที่มีอุดมการณ์ แม้จะผิด มันยังจับต้องได้ว่าทำไมเขาคิดแบบนั้น
ตรงกันข้าม โฮลดี้คือความกลวงเปล่าที่แต่งหน้าเป็นอุดมการณ์ เขาหยิบความเกลียดชังมาเป็นเครื่องมือ ทั้งที่ไม่มีราก ไม่มีศรัทธา ไม่มีแม้แต่ความเข้าใจในสิ่งที่ตนทำ เขาคือเงาแห่งความคับแค้นที่กลืนตัวตนของคนรอบข้างให้กลายเป็นหมากในกระดานของตัวเอง กลับเป็นเพียงหน้ากากของอุดมการณ์ ที่ภายในคือความแค้น ความว่างเปล่า และการแสวงหาอำนาจแบบไม่แยแสแม้กระทั่งเผ่าตัวเอง เขาเสพติดความรุนแรง ดึงคนอื่นมาใช้เป็นหมาก ล้างสมองพวกเดียวกันให้เป็นเครื่องจักรของความเกลียดชัง แล้วเรียกสิ่งนั้นว่า “ความยุติธรรม”... เหมือนชายผู้ขาดความเข้าใจโลกแต่หลงว่าตัวเองคือพระเจ้า
ถ้าต้องเลือกว่าใครควรนำทางเผ่าพันธุ์ อารองอาจนำพาเราสู่ความพินาศ แต่เป็นพินาศที่มีความหมาย เป็นเปลวไฟที่ลุกโชนจากความหวัง ไม่ใช่เปลวเพลิงที่สุมขึ้นจากความแค้นส่วนตัวเหมือนของโฮลดี้
ความสัมพันธ์นี้ไม่ต่างจาก ดันโซกับรุ่นสาม…
ดันโซยกคำว่าความมั่นคงของหมู่บ้านขึ้นมาเป็นตรา แต่ภายใต้ตรานั้นคือความกลัวและความต้องการควบคุม
ขณะที่รุ่นสามอาจจะอ่อนโยนเกินไปในสายตาบางคน แต่เขารู้จัก “รับฟัง” และเห็นค่าของผู้คนมากกว่าคำว่า “ภารกิจ”
บางที… โลกนี้ไม่ได้ต้องการผู้นำที่สมบูรณ์แบบหรอก
แค่ผู้นำที่ ซื่อสัตย์กับเจตนาของตัวเอง และไม่ลืมว่า คนที่เขานำอยู่นั้นก็เป็น “มนุษย์” เหมือนกัน
ในโลกแห่งการต่อสู้ระหว่างอุดมการณ์และการแสวงหาอำนาจ… บางครั้งศัตรูที่อันตรายที่สุดก็ไม่ใช่คนที่เกลียดเรา แต่คือคนที่อยู่ฝ่ายเดียวกัน แต่ไม่เคยรักเราเลยตั้งแต่แรก
โลกมันซับซ้อน แต่ความเจ็บจากการถูกทรยศ... ซับซ้อนกว่านั้นเสมอและถ้าคุณเป็นชาวมนุษย์เงือก…
เป็นคุณ..คุณจะเลือกใคร ระหว่างเปลวไฟที่เผาตัวเอง กับเปลวไฟที่เผาทุกคนเพื่อสนองตน?