
4️⃣4️⃣4️⃣
ถ้าเราพูดถึงหนัง The Fantastic Four มันมีมากี่เวอร์ชั่นแล้วนะ? ถ้าใครตามหนังซูเปอร์ฮีโร่มาตลอดจะรู้ว่า Fantastic Four นี่รีบูตกันจนเหมือนทีมงานก็ยังงงๆ ว่าจะเอายังไงแน่
ปี 2005 – เวอร์ชั่นที่เบาสมอง มีคริส อีแวนส์ ก่อนจะไปถือโล่
ปี 2015 – รีบูตใหม่ เนื้อหาซีเรียสขึ้น แต่โดนวิจารณ์หนักเพราะเส้นเรื่องไม่ได้เลย
แล้วในปี 2025 นี้ The Fantastic Four: First Step ก็มาอีกครั้ง คราวนี้อยู่ในมือของ Marvel Studios เต็มตัว! พร้อมกับความหวังใหม่ว่าจะพากลับมาอย่างสง่างาม

4️⃣4️⃣4️⃣
หนังพูดถึงกลุ่มนักวิทย์ 4 คน เจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันจนได้พลังเหนือมนุษย์ หลังจากได้พลัง พวกเขาต้องเรียนรู้ที่จะเป็นทีม และรับมือกับศัตรูที่เข้ามาบุกโลด โดยเฉพาะ จาก Galactus มนุษย์ต่างดาวที่ต้องการจะกินโลก เพื่อการอยู่รอด ที่มาพร้อมกับ Silver Sufer ผู้ช่วยสาวสุดแกร่ง

4️⃣4️⃣4️⃣
การดำเนินเรื่อง หนังเดินเรื่องไวขึ้นกว่าเวอร์ชันเก่าเยอะ ไม่อืดไม่เยิ่นเย้อ ไม่ต้องมานั่งแนะนำว่าตัวละครไหนเป็นใคร แล้วมีพลังอะไร หนังเข้าเรื่องตอนที่ทั้ง 4 เป็นฮีโร่ของโลกแล้ว แต่ก็ยังพยายามจะหาความมีตัวตนและแก่นแท้ของความเป็นฮีโร่อยู่ ถึงแม้หนังจะเดินเร็ว แต่ก็ยังมีช่วงที่รู้สึกว่า “อืม...แล้วไงต่อล่ะ?” การเล่าเรื่องไม่มีอะไรซับซ้อน เหมาะสำหรับคนที่อยากดูเปิดจักรวาลใหม่แบบไม่ต้องคิดเยอะ ตัวโทนหนังพยายามบาลานซ์ระหว่างความซีเรียสกับความสนุก แต่บางช่วงก็ยังจับทางไม่ค่อยถูกแต่ยังไม่ถึงจุดหมาย เหมือนเดินเร็ว แต่ยังไม่ถึงจุดหมายสักที

4️⃣4️⃣4️⃣
ข้อดีของหนัง ลำดับแรกเลยกลุ่มนักแสดงเคมีเข้ากันดี โดยเฉพาะสายกัดกันอย่าง Johnny กับ Ben มีความเป็นพี่น้องปากหมาแบบน่ารัก ส่วน Sue และ Reed ก็ดูรักกันดีกว่าเวอร์ชั่นก่อนหน้า ตัวละครทุกตัวดูมีมิติให้น่าค้นหา ซึ่งในภาคต่อไปถ้าขยายความมากขึ้นก็อาจจะทำให้หนังมีอะไรให้น่าค้นหาขึ้นอีก และอีกเรื่องที่ดีคือ ในเรื่องของ CG พัฒนาดีมาก โดยเฉพาะฉากแอ็คชั่นที่โชว์พลังต่างๆ ดูสมจริงไม่ขัดตา Silver Surfer และ Galactus ดูสนุกและอลังการ

4️⃣4️⃣4️⃣
จุดที่ยังต้องพัฒนา (หนักๆ) อันดับแรก เรื่องพล็อตที่ยังเดาได้ง่าย ไม่มีจุดหักมุม หรืออะไรที่ทำให้เซอร์ไพรส์สักเท่าไหร่ ตัวร้ายก็ยังไม่เด็ด มาก ตัว Galactus ที่น่าจะโหดกว่านี้ก็ยังรู้สึกเหมือนแค่แวะผ่านมาทักทายชาวโลก แค่นั้น และเนื้อเรื่องอาจจะยังไม่โยง MCU แบบเต็มรูปแบบ เพราะเข้าใจว่านี่คืออีก 1 ทีสะรอำพ ซึ่งใครที่หวังว่า F4 จะโผล่เจอกับ New Avengers หรือ Dr.Strange ก็อาจต้องรอต่ออีกภาค และมุกตลกบางจุดยังไม่สุด เหมือนอยากจะขำ แต่ขำไม่สุด

4️⃣4️⃣4️⃣
สรุปสำหรับภาคนี้เลยคือ หนังค่อนข้างเปิดตัวได้ดี แต่ยังไม่ถึงขั้นปังสุดเท่าไหร่ นี่คือการรีบูตที่ดูแล้ว “จะเป็นก้าวต่อไปได้” ถือเป็นหนังที่ดูเพลินๆ ไม่ถึงกับว้าว แต่ก็ไม่ได้แย่ เหมาะกับคนที่อยากรู้จักทีมนี้ก่อนที่พวกเขาจะไปโผล่ในภาคอื่นๆ ของ MCU อารมณ์เหมือนดูหนังภาค Pilot ที่ปูเรื่องไว้แล้ว แต่ของดีจริงๆ น่าจะอยู่ในภาคต่อไป
ชอบอ่านรีวิวหนัง แวะมาพูดคุยกันได้นะครับ >>>
https://www.facebook.com/DooNangGunMai
[#Review] The Fantastic Four: First Step จุดเริ่มต้นปฐมบทใหม่ – ก้าวแรกในจักรวาลใหม่ ที่ยังต้องลุ้นว่าจะไปได้ไกลแค่ไหน
4️⃣4️⃣4️⃣
ถ้าเราพูดถึงหนัง The Fantastic Four มันมีมากี่เวอร์ชั่นแล้วนะ? ถ้าใครตามหนังซูเปอร์ฮีโร่มาตลอดจะรู้ว่า Fantastic Four นี่รีบูตกันจนเหมือนทีมงานก็ยังงงๆ ว่าจะเอายังไงแน่
ปี 2005 – เวอร์ชั่นที่เบาสมอง มีคริส อีแวนส์ ก่อนจะไปถือโล่
ปี 2015 – รีบูตใหม่ เนื้อหาซีเรียสขึ้น แต่โดนวิจารณ์หนักเพราะเส้นเรื่องไม่ได้เลย
แล้วในปี 2025 นี้ The Fantastic Four: First Step ก็มาอีกครั้ง คราวนี้อยู่ในมือของ Marvel Studios เต็มตัว! พร้อมกับความหวังใหม่ว่าจะพากลับมาอย่างสง่างาม
4️⃣4️⃣4️⃣
หนังพูดถึงกลุ่มนักวิทย์ 4 คน เจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันจนได้พลังเหนือมนุษย์ หลังจากได้พลัง พวกเขาต้องเรียนรู้ที่จะเป็นทีม และรับมือกับศัตรูที่เข้ามาบุกโลด โดยเฉพาะ จาก Galactus มนุษย์ต่างดาวที่ต้องการจะกินโลก เพื่อการอยู่รอด ที่มาพร้อมกับ Silver Sufer ผู้ช่วยสาวสุดแกร่ง
4️⃣4️⃣4️⃣
การดำเนินเรื่อง หนังเดินเรื่องไวขึ้นกว่าเวอร์ชันเก่าเยอะ ไม่อืดไม่เยิ่นเย้อ ไม่ต้องมานั่งแนะนำว่าตัวละครไหนเป็นใคร แล้วมีพลังอะไร หนังเข้าเรื่องตอนที่ทั้ง 4 เป็นฮีโร่ของโลกแล้ว แต่ก็ยังพยายามจะหาความมีตัวตนและแก่นแท้ของความเป็นฮีโร่อยู่ ถึงแม้หนังจะเดินเร็ว แต่ก็ยังมีช่วงที่รู้สึกว่า “อืม...แล้วไงต่อล่ะ?” การเล่าเรื่องไม่มีอะไรซับซ้อน เหมาะสำหรับคนที่อยากดูเปิดจักรวาลใหม่แบบไม่ต้องคิดเยอะ ตัวโทนหนังพยายามบาลานซ์ระหว่างความซีเรียสกับความสนุก แต่บางช่วงก็ยังจับทางไม่ค่อยถูกแต่ยังไม่ถึงจุดหมาย เหมือนเดินเร็ว แต่ยังไม่ถึงจุดหมายสักที
4️⃣4️⃣4️⃣
ข้อดีของหนัง ลำดับแรกเลยกลุ่มนักแสดงเคมีเข้ากันดี โดยเฉพาะสายกัดกันอย่าง Johnny กับ Ben มีความเป็นพี่น้องปากหมาแบบน่ารัก ส่วน Sue และ Reed ก็ดูรักกันดีกว่าเวอร์ชั่นก่อนหน้า ตัวละครทุกตัวดูมีมิติให้น่าค้นหา ซึ่งในภาคต่อไปถ้าขยายความมากขึ้นก็อาจจะทำให้หนังมีอะไรให้น่าค้นหาขึ้นอีก และอีกเรื่องที่ดีคือ ในเรื่องของ CG พัฒนาดีมาก โดยเฉพาะฉากแอ็คชั่นที่โชว์พลังต่างๆ ดูสมจริงไม่ขัดตา Silver Surfer และ Galactus ดูสนุกและอลังการ
4️⃣4️⃣4️⃣
จุดที่ยังต้องพัฒนา (หนักๆ) อันดับแรก เรื่องพล็อตที่ยังเดาได้ง่าย ไม่มีจุดหักมุม หรืออะไรที่ทำให้เซอร์ไพรส์สักเท่าไหร่ ตัวร้ายก็ยังไม่เด็ด มาก ตัว Galactus ที่น่าจะโหดกว่านี้ก็ยังรู้สึกเหมือนแค่แวะผ่านมาทักทายชาวโลก แค่นั้น และเนื้อเรื่องอาจจะยังไม่โยง MCU แบบเต็มรูปแบบ เพราะเข้าใจว่านี่คืออีก 1 ทีสะรอำพ ซึ่งใครที่หวังว่า F4 จะโผล่เจอกับ New Avengers หรือ Dr.Strange ก็อาจต้องรอต่ออีกภาค และมุกตลกบางจุดยังไม่สุด เหมือนอยากจะขำ แต่ขำไม่สุด
4️⃣4️⃣4️⃣
สรุปสำหรับภาคนี้เลยคือ หนังค่อนข้างเปิดตัวได้ดี แต่ยังไม่ถึงขั้นปังสุดเท่าไหร่ นี่คือการรีบูตที่ดูแล้ว “จะเป็นก้าวต่อไปได้” ถือเป็นหนังที่ดูเพลินๆ ไม่ถึงกับว้าว แต่ก็ไม่ได้แย่ เหมาะกับคนที่อยากรู้จักทีมนี้ก่อนที่พวกเขาจะไปโผล่ในภาคอื่นๆ ของ MCU อารมณ์เหมือนดูหนังภาค Pilot ที่ปูเรื่องไว้แล้ว แต่ของดีจริงๆ น่าจะอยู่ในภาคต่อไป
ชอบอ่านรีวิวหนัง แวะมาพูดคุยกันได้นะครับ >>> https://www.facebook.com/DooNangGunMai