จับ 6 พนักงานร้านมือถือดัง ลอบแอร์ดร็อปภาพลูกค้าปล่อยเว็บ
ตอนนี้ เปลี่ยนมือถือแล้วให้โอนข้อมูลเครื่องเก่าต้องระวัง
จับ 6 พนักงานร้านมือถือดัง ลอบแอร์ดร็อปภาพลูกค้าปล่อยเว็บ ตร.เปิดกระบวนการ-แจ้งข้อหาหนัก
จากกรณี ผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.วัชรากร สุวรรณ รอง (สว.) สอบสวน สภ.วิชิต เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา ว่าถูกพนักงานของร้านขายโทรศัพท์ในศูนย์การค้า จังหวัดภูเก็ต ขโมยข้อมูลลูกค้า โดยพนักงานรายนี้ได้นำรูปภาพส่วนตัวของผู้เสียหายเข้าเครื่องส่วนตัวของพนักงานของร้าน และนำรูปไปส่งต่อในกลุ่มแอพพ์ Telegram ซึ่งภายในกลุ่มประกอบด้วยพนักงานของร้านรวม 6 คน โดยผู้เสียหายเป็นผู้หญิงจำนวนมาก ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
จากนั้น Studio 7 เซ็นทรัล ภูเก็ต ได้แถลงการณ์ เบื้องต้น ทางบริษัทได้เลิกจ้างพนักงานที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้เป็นที่เรียบร้อย และอยู่ระหว่างดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีทางกฎหมายกับพนักงานที่ทำให้บริษัทเสียหายเช่นเดียวกัน พร้อมกับขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอยืนยันว่าบริษัทได้ดำเนินการทบทวนปรับปรุง และเพิ่มมาตรการควบคุมภายใน รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูลเพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้อีกในอนาคตนั้น
เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าล่าสุดว่า สภ.วิชิต จับกุมผู้ต้องหา รวม 6 ราย กรณีลักลอบนำข้อมูลรูปภาพลูกค้าไปเผยแพร่ ตามหมายจับในข้อหา “นำเข้าระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้” ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด พร้อมของกลาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.ต.วิทยา กุลน้อย สารวัตรสืบสวน สภ.วิชิต อำเภอเมืองภูเก็ต นำกำลังชุดสืบสวน พร้อมหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต ลงวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เข้าจับกุมตัวนายศิวะสันต์ หรือโค้ด ธัญญการ อายุ 26 ปี อดีตช่างประจำร้าน Studio 7 ในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต โดยเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมที่ห้องพักแห่งหนึ่งในเขตอำเภอเมืองภูเก็ต ก่อนนำตัวมาสอบสวนปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.วิชิต ในการกระทำความผิดข้อหาหรือฐานนำเข้าข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึง
ทั้งนี้การจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา ประมาณ 18.20 น. วันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีผู้เสียหายผู้หญิงรายหนึ่งเข้าไปซื้อโทรศัพท์ iPhone 16 Pro Max ที่ร้าน Studio 7 โดยได้นำโทรศัพท์มือถือ iPhone 15 Pro Max เครื่องเก่าเปลี่ยนเป็นโทรศัพท์มือเครื่องใหม่
โดยมีนายศิวะสันต์ หรือโค้ด ช่างประจำร้านรับผิดชอบทำการถ่ายโอนข้อมูลจากโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหาย ต่อมาวันที่ 27 กรกฎาคม ผู้เสียหายเพิ่งทราบว่าได้มีบุคคลไม่ทราบว่าเป็นใครนำรูปภาพของผู้เสียหายไปใช้เปิดบัญชีในแอพพลิเคชั่น Tinder หรือแอพพลิเคชั่นหาคู่ ชื่อบัญชี Nam30 โดยที่ผู้เสียหายไม่เคยลงทะเบียนเปิดใช้บัญชีนี้มาก่อนแต่อย่างใด จึงเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.วิชิต เพื่อติดตามสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด
ต่อมาชุดสืบสวนทราบว่า พนักงานช่างประจำร้านจำหน่ายโทรศัพท์ Studio 7 ทราบชื่อในเวลาต่อมาคือ นายศิวะสันต์ ได้ส่งภาพถ่ายของผู้เสียหายที่อยู่ในโทรศัพท์มือถือเข้าไปเก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือของตนเอง
เมื่อตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดภายในร้าน พบว่านายศิวะสันต์ได้ใช้โอกาสขณะย้ายข้อมูลจากโทรศัพท์มือถือเครื่องเก่าของผู้เสียหายมายังโทรศัพท์เครื่องใหม่ และทำการส่งรูปส่วนตัวของผู้เสียหายเข้าโทรศัพท์มือถือของตนเอง โดยวิธีการแชร์ผ่าน Airdrop แล้วนำรูปภาพของผู้เสียหายไปที่กลุ่มแอพพลิคชั่น Telegram ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีพนักงานของร้าน Studio 7 เป็นสมาชิกอยู่รวมจำนวน 6 คน ทำให้ผู้เสียหายได้รับความเสียหาย จนชุดสืบสวน สภ.วิชิต สามารถจับกุมตัวนายศิวะสันต์เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.อ.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง ผกก.สภ.วิชิต กล่าวว่า คดีนี้เป็นการขโมยข้อมูล-คลิปของลูกค้าที่เข้าไปซื้อโทรศัพท์มือถือที่ร้าน Studio 7 จากนั้นผู้ต้องหาที่เป็นช่างได้ทำการถ่ายโอนข้อมูล-คลิปลับของลูกค้าไปเก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือของตัวเองก่อนที่จะส่งเข้าไปยังกลุ่มที่ตัวเองและเพื่อนๆ พนักงานของร้านตั้งขึ้น จากนั้นได้มีการนำภาพผู้เสียหายไปเข้าแอพพ์หาคู่ ขณะเดียวกันผู้เสียหายมีคลิปส่วนตัวที่เป็นความลับ ซึ่งถ่ายไว้ถูกนำคลิปดังกล่าวไป ทำให้ลูกค้าซึ่งเป็นผู้เสียหายหวั่นวิตกว่าคลิปจะถูกนำไปเผยแพร่ในกลุ่มลับต่างๆ จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดี
สำหรับคดีนี้เป็นคดีที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้ต้องหาฉวยโอกาสในการเป็นช่างประจำร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือแล้วขโมยข้อมูลและคลิปของลูกค้าที่นำโทรศัพท์มือถือไปถ่ายโอนข้อมูล ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจพบหลักฐานผู้ต้องหา 1 คน ส่วนยังมีอีก 5 คนที่อยู่ในกลุ่มไลน์ อยู่ระหว่างการตรวจสอบจาก เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเพื่อหาความเชื่อมโยงข้อมูล ซึ่งถ้าพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับคนใดก็จะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้อยากฝากไปถึงประชาชนที่จะซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ กรณีจะต้องมีการถ่ายโอนข้อมูลและภาพ-คลิปต่างๆ ที่อยู่ในโทรศัพท์มือถือเครื่องเดิมให้ระวังและต้องคอยสอดส่องดูการถ่ายโอนข้อมูล-ภาพและคลิปอย่างใกล้ชิดด้วย...
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.th/region/news_5300298
จับ 6 พนักงานร้านมือถือดัง ลอบแอร์ดร็อปภาพลูกค้าปล่อยเว็บ
จับ 6 พนักงานร้านมือถือดัง ลอบแอร์ดร็อปภาพลูกค้าปล่อยเว็บ ตร.เปิดกระบวนการ-แจ้งข้อหาหนัก
จากกรณี ผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.วัชรากร สุวรรณ รอง (สว.) สอบสวน สภ.วิชิต เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา ว่าถูกพนักงานของร้านขายโทรศัพท์ในศูนย์การค้า จังหวัดภูเก็ต ขโมยข้อมูลลูกค้า โดยพนักงานรายนี้ได้นำรูปภาพส่วนตัวของผู้เสียหายเข้าเครื่องส่วนตัวของพนักงานของร้าน และนำรูปไปส่งต่อในกลุ่มแอพพ์ Telegram ซึ่งภายในกลุ่มประกอบด้วยพนักงานของร้านรวม 6 คน โดยผู้เสียหายเป็นผู้หญิงจำนวนมาก ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
จากนั้น Studio 7 เซ็นทรัล ภูเก็ต ได้แถลงการณ์ เบื้องต้น ทางบริษัทได้เลิกจ้างพนักงานที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้เป็นที่เรียบร้อย และอยู่ระหว่างดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีทางกฎหมายกับพนักงานที่ทำให้บริษัทเสียหายเช่นเดียวกัน พร้อมกับขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอยืนยันว่าบริษัทได้ดำเนินการทบทวนปรับปรุง และเพิ่มมาตรการควบคุมภายใน รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูลเพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้อีกในอนาคตนั้น
เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าล่าสุดว่า สภ.วิชิต จับกุมผู้ต้องหา รวม 6 ราย กรณีลักลอบนำข้อมูลรูปภาพลูกค้าไปเผยแพร่ ตามหมายจับในข้อหา “นำเข้าระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้” ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด พร้อมของกลาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.ต.วิทยา กุลน้อย สารวัตรสืบสวน สภ.วิชิต อำเภอเมืองภูเก็ต นำกำลังชุดสืบสวน พร้อมหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต ลงวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เข้าจับกุมตัวนายศิวะสันต์ หรือโค้ด ธัญญการ อายุ 26 ปี อดีตช่างประจำร้าน Studio 7 ในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต โดยเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมที่ห้องพักแห่งหนึ่งในเขตอำเภอเมืองภูเก็ต ก่อนนำตัวมาสอบสวนปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.วิชิต ในการกระทำความผิดข้อหาหรือฐานนำเข้าข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึง
ทั้งนี้การจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา ประมาณ 18.20 น. วันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีผู้เสียหายผู้หญิงรายหนึ่งเข้าไปซื้อโทรศัพท์ iPhone 16 Pro Max ที่ร้าน Studio 7 โดยได้นำโทรศัพท์มือถือ iPhone 15 Pro Max เครื่องเก่าเปลี่ยนเป็นโทรศัพท์มือเครื่องใหม่
โดยมีนายศิวะสันต์ หรือโค้ด ช่างประจำร้านรับผิดชอบทำการถ่ายโอนข้อมูลจากโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหาย ต่อมาวันที่ 27 กรกฎาคม ผู้เสียหายเพิ่งทราบว่าได้มีบุคคลไม่ทราบว่าเป็นใครนำรูปภาพของผู้เสียหายไปใช้เปิดบัญชีในแอพพลิเคชั่น Tinder หรือแอพพลิเคชั่นหาคู่ ชื่อบัญชี Nam30 โดยที่ผู้เสียหายไม่เคยลงทะเบียนเปิดใช้บัญชีนี้มาก่อนแต่อย่างใด จึงเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.วิชิต เพื่อติดตามสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด
ต่อมาชุดสืบสวนทราบว่า พนักงานช่างประจำร้านจำหน่ายโทรศัพท์ Studio 7 ทราบชื่อในเวลาต่อมาคือ นายศิวะสันต์ ได้ส่งภาพถ่ายของผู้เสียหายที่อยู่ในโทรศัพท์มือถือเข้าไปเก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือของตนเอง
เมื่อตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดภายในร้าน พบว่านายศิวะสันต์ได้ใช้โอกาสขณะย้ายข้อมูลจากโทรศัพท์มือถือเครื่องเก่าของผู้เสียหายมายังโทรศัพท์เครื่องใหม่ และทำการส่งรูปส่วนตัวของผู้เสียหายเข้าโทรศัพท์มือถือของตนเอง โดยวิธีการแชร์ผ่าน Airdrop แล้วนำรูปภาพของผู้เสียหายไปที่กลุ่มแอพพลิคชั่น Telegram ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีพนักงานของร้าน Studio 7 เป็นสมาชิกอยู่รวมจำนวน 6 คน ทำให้ผู้เสียหายได้รับความเสียหาย จนชุดสืบสวน สภ.วิชิต สามารถจับกุมตัวนายศิวะสันต์เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.อ.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง ผกก.สภ.วิชิต กล่าวว่า คดีนี้เป็นการขโมยข้อมูล-คลิปของลูกค้าที่เข้าไปซื้อโทรศัพท์มือถือที่ร้าน Studio 7 จากนั้นผู้ต้องหาที่เป็นช่างได้ทำการถ่ายโอนข้อมูล-คลิปลับของลูกค้าไปเก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือของตัวเองก่อนที่จะส่งเข้าไปยังกลุ่มที่ตัวเองและเพื่อนๆ พนักงานของร้านตั้งขึ้น จากนั้นได้มีการนำภาพผู้เสียหายไปเข้าแอพพ์หาคู่ ขณะเดียวกันผู้เสียหายมีคลิปส่วนตัวที่เป็นความลับ ซึ่งถ่ายไว้ถูกนำคลิปดังกล่าวไป ทำให้ลูกค้าซึ่งเป็นผู้เสียหายหวั่นวิตกว่าคลิปจะถูกนำไปเผยแพร่ในกลุ่มลับต่างๆ จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดี
สำหรับคดีนี้เป็นคดีที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้ต้องหาฉวยโอกาสในการเป็นช่างประจำร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือแล้วขโมยข้อมูลและคลิปของลูกค้าที่นำโทรศัพท์มือถือไปถ่ายโอนข้อมูล ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจพบหลักฐานผู้ต้องหา 1 คน ส่วนยังมีอีก 5 คนที่อยู่ในกลุ่มไลน์ อยู่ระหว่างการตรวจสอบจาก เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเพื่อหาความเชื่อมโยงข้อมูล ซึ่งถ้าพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับคนใดก็จะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้อยากฝากไปถึงประชาชนที่จะซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ กรณีจะต้องมีการถ่ายโอนข้อมูลและภาพ-คลิปต่างๆ ที่อยู่ในโทรศัพท์มือถือเครื่องเดิมให้ระวังและต้องคอยสอดส่องดูการถ่ายโอนข้อมูล-ภาพและคลิปอย่างใกล้ชิดด้วย...
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.th/region/news_5300298