วันที่ 14 สิงหาคม กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ภายใต้การสั่งการของ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ประสงค์ ผบก.ปปป., พ.ต.อ.สุมรภูมิ ไทยเขียว รอง ผบก.ปปป., และ พ.ต.อ.ศานุวงศ์ ผกก.4 บก.ปปป. นำกำลังจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ
ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมรายแรกเป็นอดีตเจ้าอาวาส-อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ลงวันที่ 6 สิงหาคม 2568 ในความผิดตามมาตรา 147 และ 157 จับกุมได้ในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์
ส่วนผู้ต้องหารายที่สอง เป็นหญิงใกล้ชิดอดีตเจ้าอาวาส ถูกออกหมายจับตามศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาคกลาง ลงวันที่ 6 สิงหาคม 2568 ในความผิดตามมาตรา 147, 157 ประกอบมาตรา 86 จับกุมได้ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี
สืบเนื่องจากช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2568 อดีตเจ้าคณะ จ.นครสวรรค์ ถูกกล่าวหาว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับหญิงคนดังกล่าว พร้อมทั้งยักยอกเงินวัดใน จ.นครสวรรค์ จากการสอบสวนพบว่า ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2567 – 10 กรกฎาคม 2568 อดีตพระรูปนี้ สั่งให้พระลูกวัดเบิกถอนเงินจากบัญชีวัดแล้วฝากเข้าบัญชีลูกวัด ก่อนโอนต่อเข้าบัญชีส่วนตัวของตัวเองรวมกว่า 4,100,000 บาท จากนั้นมีการโอนเงินบางส่วนจากบัญชีของตน เข้าบัญชีหญิงคนสนิทจำนวน 405,000 บาท ซึ่งพบพฤติการณ์สมคบกันยักยอกเงินวัด
ลูกวัดที่เกี่ยวข้องให้การยืนยันว่าได้รับคำสั่งให้เบิกถอนและโอนเงินโดยตรง และพบเห็นหญิงคนสนิทมาพบอดีตเจ้าอาวาสหลายครั้ง จึงมอบตัวแทนเข้าแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาฐานเป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ และปฏิบัติหรือละเว้นหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น
เบื้องต้น ช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. ของวันนี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ จะนำการแถลงข่าวการจับกุมครั้งนี้ด้วยตนเอง
ในวันเดียวกัน (14 ส.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจปราบปราม เจ้าหน้าที่กองกำกับการ 4 บก.ปปป. ได้นำตัว หญิงคนสนิท ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาคกลาง ที่ 75/2568 ในข้อหาตามมาตรา 147 และ 157 มาลงบันทึกจับกุมที่ สภ.คูคต ก่อนคุมตัวมาที่ บก.ปปป. เวลา 14.20 น.
ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามหลายประเด็น ทั้งเรื่องความสัมพันธ์กับอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ การเกี่ยวข้องกับการยักยอกเงินวัด และประเด็นเงิน 45,000 บาทที่ถูกโอนเข้าบัญชีของเธอว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ แต่เจ้าตัว ไม่ได้ตอบคำถามใด ๆ พร้อมใช้ซองเอกสารสีน้ำตาลปิดใบหน้า ก่อนเจ้าหน้าที่นำตัวขึ้นไปสอบปากคำทันทีที่ บก.ปปป.
บก.ปปป. รวบอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์–หญิงคนสนิท แจ้งข้อหายักยอกเงินวัด
ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมรายแรกเป็นอดีตเจ้าอาวาส-อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ลงวันที่ 6 สิงหาคม 2568 ในความผิดตามมาตรา 147 และ 157 จับกุมได้ในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์
ส่วนผู้ต้องหารายที่สอง เป็นหญิงใกล้ชิดอดีตเจ้าอาวาส ถูกออกหมายจับตามศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาคกลาง ลงวันที่ 6 สิงหาคม 2568 ในความผิดตามมาตรา 147, 157 ประกอบมาตรา 86 จับกุมได้ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี
สืบเนื่องจากช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2568 อดีตเจ้าคณะ จ.นครสวรรค์ ถูกกล่าวหาว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับหญิงคนดังกล่าว พร้อมทั้งยักยอกเงินวัดใน จ.นครสวรรค์ จากการสอบสวนพบว่า ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2567 – 10 กรกฎาคม 2568 อดีตพระรูปนี้ สั่งให้พระลูกวัดเบิกถอนเงินจากบัญชีวัดแล้วฝากเข้าบัญชีลูกวัด ก่อนโอนต่อเข้าบัญชีส่วนตัวของตัวเองรวมกว่า 4,100,000 บาท จากนั้นมีการโอนเงินบางส่วนจากบัญชีของตน เข้าบัญชีหญิงคนสนิทจำนวน 405,000 บาท ซึ่งพบพฤติการณ์สมคบกันยักยอกเงินวัด
ลูกวัดที่เกี่ยวข้องให้การยืนยันว่าได้รับคำสั่งให้เบิกถอนและโอนเงินโดยตรง และพบเห็นหญิงคนสนิทมาพบอดีตเจ้าอาวาสหลายครั้ง จึงมอบตัวแทนเข้าแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาฐานเป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ และปฏิบัติหรือละเว้นหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น
เบื้องต้น ช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. ของวันนี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ จะนำการแถลงข่าวการจับกุมครั้งนี้ด้วยตนเอง
ในวันเดียวกัน (14 ส.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจปราบปราม เจ้าหน้าที่กองกำกับการ 4 บก.ปปป. ได้นำตัว หญิงคนสนิท ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาคกลาง ที่ 75/2568 ในข้อหาตามมาตรา 147 และ 157 มาลงบันทึกจับกุมที่ สภ.คูคต ก่อนคุมตัวมาที่ บก.ปปป. เวลา 14.20 น.
ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามหลายประเด็น ทั้งเรื่องความสัมพันธ์กับอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ การเกี่ยวข้องกับการยักยอกเงินวัด และประเด็นเงิน 45,000 บาทที่ถูกโอนเข้าบัญชีของเธอว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ แต่เจ้าตัว ไม่ได้ตอบคำถามใด ๆ พร้อมใช้ซองเอกสารสีน้ำตาลปิดใบหน้า ก่อนเจ้าหน้าที่นำตัวขึ้นไปสอบปากคำทันทีที่ บก.ปปป.