สวัสดีค่ะ เราจะมาแชร์ประสบการณ์ ที่ยังไม่รู้จะจบยังไง? ตอนไหน?
เรื่องคือเราโดนดูดเงินออกไปจากธนาคารกสิกรไทย เมื่อวันที่ 27/07/25 เวลา 18:23 น.
โดยเหตุการณ์คือ เรากำลังนั่งดูซีรีย์ผ่านแอป Ne****x อยู่ที่บ้านผ่านโทรศัพท์ แล้วเห็นแจ้งเตือนจากแอพ K PLUS ว่ามียอดเงินถูกตัดออกไป 9,120 บาท แล้วในขณะเดียวกันมี SMS จาก Kbank ส่งมาว่า "ชำระ 9,120.00บ บัตร x-6867@POPMART 18:23น เหลือ xxx.xxบ"
เราจึงรีบโทรไปที่ K-Contact center ทันที โดยสรุปได้ว่า
1. เราได้ทำการอายัดบัตรเดบิตใบนั้นไป และยังไม่ได้สมัครใหม่
2. พนักงานธนาคารท่านนั้นบอกว่า ถ้ามีการรั่วไหลของข้อมูลบัตร มักจะเกิดจากฝั่งผู้ใช้เปิดเผยข้อมูลเอง ไม่ใช่การแฮกข้อมูลบัตรของเราไป เพราะบัตรของเราเป็นบัตรเดบิตออนไลน์ (K Online Debit) ถ้าหมายเลขบัตรและ ccv จะรั่วไหลก็เป็นเพราะเราแสกนหน้าในแอพ K PLUS และบอกข้อมูลต่อบุคคลอื่น
3. พนักงานธนาคารบอกว่าธนาคารจะโอนเงินสำรองตามยอดที่ถูกถอนออกไปมาให้เราภายใน 3 ชั่วโมง และจะขอเวลาไปตรวจสอบ หากมีการชำระจริง จะขอดึงเงินกลับ จากนั้น 2 ชั่วโมงต่อมาพนักงานธนาคารอีกคนโทรมาอีกครั้งและบอกว่าในเคสของเรา ธนาคารไม่สามารถโอนเงินสำรองมาให้ได้เนื่องจากไม่ตรงเงื่อนไข จะขอเวลาตรวจสอบ 5 วัน
4. เราได้ถามพนักงานธนาคารไปว่า @POPMART ที่แสดงใน SMS คือ OFFICIAL หรือมิจฉาชีพ พนักงานบอกยังไม่ทราบ ต้องตรวจสอบก่อน เราถามต่อว่า หลังจากมีการตรวจสอบใดๆแล้ว จะโทรกลับมาแจ้งผลเราด้วยไหม พนักงานธนาคารบอกว่าจะไม่มีการแจ้ง ถ้าเราอยากรู้อะไรเกี่ยวกับ @POPMART เราต้องไปถามเอง
หลังจากโทรคุยกับพนักงานธนาคารเสร็จ เราได้เดินทางไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ และได้ใบบันทึกประจำวันมา
ทั้งหมดที่กล่าวมา คือเรื่องราวที่เกิดขึ้น และต่อจากนี้คือความรู้สึกของเราที่มีต่อเหตุการณ์นี้
ตั้งแต่ที่เกิดเรื่อง และได้โทรคุยกับพนักงานธนาคารกสิกรไทย เราไม่มีความสบายใจใดๆเลยแม้พนักงานธนาคารกสิกรไทยจะพูดหลายครั้งว่า "ไม่ต้องกังวลเลยค่ะ" เพราะพนักงานธนาคารกสิกรไทยตอบคำถามเราไม่กระจ่าง แม้ว่าจะพยายามถามซ้ำหลายครั้ง ก็ยังตอบตามสคริป แต่ในเมื่อพนักงานกสิกรไทยบอกว่าขอเวลาตรวจสอบ 5 วัน เราก็จะรอ ซึ่งเรารอมา 4 วันด้วยความใจเย็นและเชื่อใจ เราไม่ตามเรื่อง ไม่ได้โทรซ้ำก่อนถึงกำหนดเวลาที่ตกลงกันไว้ จนถึงวันนี้ เราเห็นโพสในกลุ่ม Facebook มีหลายท่านพบเจอเหตุการณ์คล้ายเรา ต่างกันที่ บางคนเป็นบัตรเครดิต บางคนได้ข้อความที่แจ้งด้วยว่าเป็น @POPMART สาขาไหน หรืออื่นๆ
มีเคสที่ลักษณะใกล้เคียงกับเรา ตามข้อมูลที่เราเห็นจากโพสต์ใน Facebook ท่านนั้นใช้บัตร K Online Debit และยอดเงินที่ถูกตัด 9,120 บาท ต่างที่เขาถูกตัดไปอีก 2 ยอดคือ 6,000+ และ 4,000+
เขาได้โพสเล่าเรื่องราวของเขาผ่าน Facebook และได้มา comment ในโพสของตัวเองในเวลาต่อมาว่าได้รับเงินคืนแล้ว ซึ่งแนบรูป SMS ที่เงินถูกตัดไปและเงินถูกคืนมาในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง
ตรงนี้เป็นประเด็นที่ทำให้เรารู้สึกแย่กับการดำเนินการของธนาคารกสิกรไทยมาก เกิดคำถามว่าทำไมท่านนั้นถึงได้รับเงินคืนภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง
สงสัยว่าขั้นตอนการดำเนินงานอาจไม่เท่าเทียมกันในแต่ละเคสใช้เกณฑ์อะไร พอวันนี้โทรไปถามพนักงานธนาคารอีกครั้ง พนักงานธนาคารบอกว่า ลำดับในการได้เงินคืนขึ้นอยู่กับทาง @POPMART ธนาคารไม่สามารถบอกได้ เราจึงถามต่อว่า การแสดงความรับผิดชอบของธนาคารคืออะไรบ้าง ชดเชยอะไรให้เราในระหว่างรอได้บ้าง พนักงานธนาคารตอบว่าทางธนาคารจะเป็นผู้ประสานงานกับ @POPMART ให้ เราถามต่อว่า การที่เงินในบัญชีเราเหลือหลักร้อย แล้วเราต้องใช้เงินจำนวนเท่านี้ในแต่ละวันเพื่อรอธนาคารดำเนินการ ธนาคารชดเชยอะไรให้เราได้บ้าง พนักงานธนาคารก็ตอบว่า ทางธนาคารไม่ได้นิ่งนอนใจ กำลังประสานงานกับทาง @POPMART อยู่ค่ะ
เราเสียความรู้สึกกับการบริการและเสียความเชื่อมั่นทางความปลอดภัยของธนาคารกสิกรไทยอย่างมาก เราไม่ใช่เคสแรก แต่ธนาคารยังไม่สามารถอธิบายหรือป้องกันเหตุการณ์ลักษณะนี้ได้อย่างชัดเจนในมุมมองของเรา และไม่มีวิธีการรับมือที่ทำให้เราที่เป็นลูกค้าของธนาคารคนหนึ่งพึงพอใจ
หวังว่าโพสนี้จะเป็นแรงกระตุ้นให้ธนาคารดำเนินการกับเราในเกณฑ์ที่เท่าเทียมกับท่านอื่นบ้างนะคะ
โดนตัดเงินจากธนาคารกสิกรไทยไปที่ @POPMART
เรื่องคือเราโดนดูดเงินออกไปจากธนาคารกสิกรไทย เมื่อวันที่ 27/07/25 เวลา 18:23 น.
โดยเหตุการณ์คือ เรากำลังนั่งดูซีรีย์ผ่านแอป Ne****x อยู่ที่บ้านผ่านโทรศัพท์ แล้วเห็นแจ้งเตือนจากแอพ K PLUS ว่ามียอดเงินถูกตัดออกไป 9,120 บาท แล้วในขณะเดียวกันมี SMS จาก Kbank ส่งมาว่า "ชำระ 9,120.00บ บัตร x-6867@POPMART 18:23น เหลือ xxx.xxบ"
เราจึงรีบโทรไปที่ K-Contact center ทันที โดยสรุปได้ว่า
1. เราได้ทำการอายัดบัตรเดบิตใบนั้นไป และยังไม่ได้สมัครใหม่
2. พนักงานธนาคารท่านนั้นบอกว่า ถ้ามีการรั่วไหลของข้อมูลบัตร มักจะเกิดจากฝั่งผู้ใช้เปิดเผยข้อมูลเอง ไม่ใช่การแฮกข้อมูลบัตรของเราไป เพราะบัตรของเราเป็นบัตรเดบิตออนไลน์ (K Online Debit) ถ้าหมายเลขบัตรและ ccv จะรั่วไหลก็เป็นเพราะเราแสกนหน้าในแอพ K PLUS และบอกข้อมูลต่อบุคคลอื่น
3. พนักงานธนาคารบอกว่าธนาคารจะโอนเงินสำรองตามยอดที่ถูกถอนออกไปมาให้เราภายใน 3 ชั่วโมง และจะขอเวลาไปตรวจสอบ หากมีการชำระจริง จะขอดึงเงินกลับ จากนั้น 2 ชั่วโมงต่อมาพนักงานธนาคารอีกคนโทรมาอีกครั้งและบอกว่าในเคสของเรา ธนาคารไม่สามารถโอนเงินสำรองมาให้ได้เนื่องจากไม่ตรงเงื่อนไข จะขอเวลาตรวจสอบ 5 วัน
4. เราได้ถามพนักงานธนาคารไปว่า @POPMART ที่แสดงใน SMS คือ OFFICIAL หรือมิจฉาชีพ พนักงานบอกยังไม่ทราบ ต้องตรวจสอบก่อน เราถามต่อว่า หลังจากมีการตรวจสอบใดๆแล้ว จะโทรกลับมาแจ้งผลเราด้วยไหม พนักงานธนาคารบอกว่าจะไม่มีการแจ้ง ถ้าเราอยากรู้อะไรเกี่ยวกับ @POPMART เราต้องไปถามเอง
หลังจากโทรคุยกับพนักงานธนาคารเสร็จ เราได้เดินทางไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ และได้ใบบันทึกประจำวันมา
ทั้งหมดที่กล่าวมา คือเรื่องราวที่เกิดขึ้น และต่อจากนี้คือความรู้สึกของเราที่มีต่อเหตุการณ์นี้
ตั้งแต่ที่เกิดเรื่อง และได้โทรคุยกับพนักงานธนาคารกสิกรไทย เราไม่มีความสบายใจใดๆเลยแม้พนักงานธนาคารกสิกรไทยจะพูดหลายครั้งว่า "ไม่ต้องกังวลเลยค่ะ" เพราะพนักงานธนาคารกสิกรไทยตอบคำถามเราไม่กระจ่าง แม้ว่าจะพยายามถามซ้ำหลายครั้ง ก็ยังตอบตามสคริป แต่ในเมื่อพนักงานกสิกรไทยบอกว่าขอเวลาตรวจสอบ 5 วัน เราก็จะรอ ซึ่งเรารอมา 4 วันด้วยความใจเย็นและเชื่อใจ เราไม่ตามเรื่อง ไม่ได้โทรซ้ำก่อนถึงกำหนดเวลาที่ตกลงกันไว้ จนถึงวันนี้ เราเห็นโพสในกลุ่ม Facebook มีหลายท่านพบเจอเหตุการณ์คล้ายเรา ต่างกันที่ บางคนเป็นบัตรเครดิต บางคนได้ข้อความที่แจ้งด้วยว่าเป็น @POPMART สาขาไหน หรืออื่นๆ
มีเคสที่ลักษณะใกล้เคียงกับเรา ตามข้อมูลที่เราเห็นจากโพสต์ใน Facebook ท่านนั้นใช้บัตร K Online Debit และยอดเงินที่ถูกตัด 9,120 บาท ต่างที่เขาถูกตัดไปอีก 2 ยอดคือ 6,000+ และ 4,000+
เขาได้โพสเล่าเรื่องราวของเขาผ่าน Facebook และได้มา comment ในโพสของตัวเองในเวลาต่อมาว่าได้รับเงินคืนแล้ว ซึ่งแนบรูป SMS ที่เงินถูกตัดไปและเงินถูกคืนมาในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง
ตรงนี้เป็นประเด็นที่ทำให้เรารู้สึกแย่กับการดำเนินการของธนาคารกสิกรไทยมาก เกิดคำถามว่าทำไมท่านนั้นถึงได้รับเงินคืนภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง
สงสัยว่าขั้นตอนการดำเนินงานอาจไม่เท่าเทียมกันในแต่ละเคสใช้เกณฑ์อะไร พอวันนี้โทรไปถามพนักงานธนาคารอีกครั้ง พนักงานธนาคารบอกว่า ลำดับในการได้เงินคืนขึ้นอยู่กับทาง @POPMART ธนาคารไม่สามารถบอกได้ เราจึงถามต่อว่า การแสดงความรับผิดชอบของธนาคารคืออะไรบ้าง ชดเชยอะไรให้เราในระหว่างรอได้บ้าง พนักงานธนาคารตอบว่าทางธนาคารจะเป็นผู้ประสานงานกับ @POPMART ให้ เราถามต่อว่า การที่เงินในบัญชีเราเหลือหลักร้อย แล้วเราต้องใช้เงินจำนวนเท่านี้ในแต่ละวันเพื่อรอธนาคารดำเนินการ ธนาคารชดเชยอะไรให้เราได้บ้าง พนักงานธนาคารก็ตอบว่า ทางธนาคารไม่ได้นิ่งนอนใจ กำลังประสานงานกับทาง @POPMART อยู่ค่ะ
เราเสียความรู้สึกกับการบริการและเสียความเชื่อมั่นทางความปลอดภัยของธนาคารกสิกรไทยอย่างมาก เราไม่ใช่เคสแรก แต่ธนาคารยังไม่สามารถอธิบายหรือป้องกันเหตุการณ์ลักษณะนี้ได้อย่างชัดเจนในมุมมองของเรา และไม่มีวิธีการรับมือที่ทำให้เราที่เป็นลูกค้าของธนาคารคนหนึ่งพึงพอใจ
หวังว่าโพสนี้จะเป็นแรงกระตุ้นให้ธนาคารดำเนินการกับเราในเกณฑ์ที่เท่าเทียมกับท่านอื่นบ้างนะคะ