สิววัยรุ่นใครก็เป็น แต่ผมเป็นสิวแบบไม่มีหัว เป็นก้อนอยู่ใต้ผิว สมัยวัยรุ่นก็รักษาไม่เป็นจนกลายเป็นสิวอักเสบลามไปทั่วแก้ม ทั้งสองแก้ม ทำให้ขาดความมั่นใจ และไม่ชอบสองกระจกไปเลย เหมือนเราละเลยปัญหาบนหน้าตัวเอง รักษาสิวช้าไป จนกลายเป็นแผลหลุมสิวที่ลึกมองเห็นได้ชัด
จนผ่านมาหลายปีพึ่งรู้สึกได้ว่ามันกระทบภาพลักษณ์และหลังจากนั้นยิ่งทำให้เราไม่มันใจมากขึ้นไปอีก จนต้องดิ้นรนหาวิธีแก้ปัญหานี้ให้ได้
1.
เครื่องยิงประเภทเลเซอร์ (ไม่มั่นใจชื่อเครื่องนะ)
ทำสมัยมัธยมปลายต่างจังหวัด ลักษณะที่สังเกตได้เลยคือ หลังทำแสบร้อน แดงแค่ 1 วัน และไม่มีแผลตกสะเก็ดเล็กๆรอบใบหน้า (อาจจะไม่ใช่เครื่องเลเซอร์สำหรับหลุมสิวโดยเฉพาะ)
ผลลัพธ์ส่วนตัว:
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ทำ 4 ครั้ง
- ไม่ได้ผลเลย (0 %) หลุมสิวไม่เปลี่ยนแปลง
2.
Fractional CO2 Laser
เครื่อง Lacer CO₂ ที่ยิงพลังงานเป็นจุดเล็กๆจำนวนมากลักษณะเป็นตาราง เพื่อทำให้ผิวเกิด “การอักเสบ” ขนาดเล็กเพื่อกระตุ้นคอลลาเจน
ผลลัพธ์ส่วนตัว:
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้- ทำ 4 ครั้ง จากแพ็กเกจ 6 ครั้ง
- ได้ผลเพียง 5-10% หลุมบางส่วนดูตื้นขึ้นเล็กน้อย
- ปัญหา: เจ็บ แผลตกสะเก็ด ใช้เวลาพักฟื้นเยอะ 5-7 วัน เลยไม่ได้ไปทำต่อ
- หลุมสิวลึกหรือกรณีที่มี volume loss ชัดเจนช่วยได้น้อย
3.
E-matrix
หลักการ: พลังงานคลื่นวิทยุผ่านหัวเข็ม เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
ผลลัพธ์ส่วนตัว:
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้- ทำ 3 ครั้ง
- เห็นผลน้อยมากเช่นกัน (5-10%)
- เทียบกับ Fractional CO2 ผลลัพธ์เป็นแบบเดียวกัน แต่ข้อดีคือ เวลาพักฟื้นน้อยกว่าชัดเจน ประมาณ 1-2 วัน สรุปคือไม่เหมาะกับหลุมลึกหรือ volume loss เช่นกัน
4.
Air Injection + สารเติมเต็ม (PDRN + HA)
เป็นเข็มที่พ่นล่มเข้าไปเพื่อตัดผังผืดใต้หลุมสิว แล้วฉีดสารกระตุ้นการสร้างคอลาเจนเข้าไป เพื่อเติมกระตุ้นการฟื้นฟู
สารที่ใช้: สอบถามกับหมอ แจ้งว่าเป็น ไฮยาลูรอนิกผสมกับ PDRN (สารสกัดจาก DNA แซลมอน)
ผลลัพธ์ส่วนตัว:
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้- ทำ 2 ครั้ง
- หน้าฟูขึ้นในช่วงแรก แต่ผลอยู่ไม่นาน (1-2 เดือน) ระยะยาวไม่เห็นความแตกต่างเลย
5. RF Microneedling (INFINI) + Subcision + Polynucleotide (PN)
พอดีไปเจอคลิปการรักษาของคลีนิตแห่งหนึ่งพูดถึงรักษาแบบผสมผสาน ใช้หลายวิธีเพื่อช่วยให้มีการประตุ้นได้จากหลายกลไก ทำให้ปริมาณการการสร้างคอลลาเจนเกิดได้เยอะขึ้น หลังจากศึกษาวิธีรักษามาเรื่อยๆ ประกอบกับเรียนจบ ทำงาน มีเงินเก็บเป็นของตัวเอง ผมเลยตัดสินใจครั้งใหญ่ ตัดสินใจจองคอร์สเข้าไปรักษากับคลีนิคนี้ทันที พร้อมกลับมาคิดทีหลังว่าฉันตัดสินใจเร็วไปรึเปล่านะ
วิธีการรักษา:
- Microneedling RF (Infini): RF ผ่านหัวเข็มแบบปรับระดับได้ กระตุ้นคอลลาเจนในผิวชั้นลึกและตื้นได้หลายชั้นพร้อมๆกัน
- Subcision (Nokor): ใช้เข็มพิเศษ หัวเข็มลักษณะเป็นปลายแบนคล้ายมีดหมอ ตัดพังผืดใต้หลุมสิว ที่เหนี่ยวรั้งหลุมสิวไว้ไม่ให้เด้งฟูขึ้นมา
- Rejuran S (PN): สาร Polynucleotide ที่สกัดจาก DNA ของแซลม่อน มีความหนืดคงตัวสูงคล้ายฟิลเตอร์ ข้อดีของมันคือช่วยเรื่องการเติมเต็มแบบเร่งด่วนชั่วคราวและขณะเดียวกันก็ช่วยเรื่องการสร้างคอลาเจนใหม่ เพื่อผลลัพธ์ระยะยาว ที่คุณหมอแนะนำให้ใช้เพราะว่ามีเนื้อคงตัว สามารถนำไปวางใต้หลุมสิวแต่ละหลุมได้เลย
ผลลัพธ์ส่วนตัว:
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้- Infini: 3 ครั้ง
- Subcision (Nokor): 1 ครั้ง + REJURAN S: 1 ครั้ง (2cc)
- ตื้นขึ้นประมาณ 30% ขอบหลุมมนขึ้น หลุมลึกดูตื้นขึ้น พอใจกับผลลัพธ์เบื้องต้นแต่หลุมสิวยังเห็นได้ชัดอยู่ ยงคงจะต้องรักษาต่อ
- เหมาะกับการรักษาหลุมสิวที่เป็นหลุมลึกหรือมี volume loss เยอะ แต่อาจจะต้องทำโปรแกรมนี้ซ้ำอีกครั้งถึงจะเห็นผลชัดเจน
หมายเหตุ
- คิดว่าตัวเองใจร้อนเกินไป รีบจองคอร์สช่วงมีโปร ทั้งที่ยังไม่ได้คุยกับคุณหมอเลย เชื่อการตลาดเยอะไปหน่อย
- คนวิเคราะห์วางแผนการรักษาเป็นเซล เราไม่มั่นใจว่าวิเคราะห์ปัญหาและวิธีการรักษาให้เราได้ตรงจุดทั้งหมดจริงๆ
- คิดว่าเป็นคลีนิคที่มีหมอเวียนกันเข้ามารักษา เพราะแต่ละครั้งเจอหมอไม่ซ้ำกันซักที
- หมอไม่ได้เปิดกล่องให้ดูว่า PN ที่ฉีดให้เป็นของแท้มั้ย ทำให้เราไม่ค่อยมั่นใจ ที่จริงควรจะขอดูขณะที่จะฉีดเพราะเป็นสิทธิ์ที่เราจะเช็คเพื่อความมั่นใจ
สรุป บทเรียนที่ได้ หลังจากรักษามามาพอสมควร
1. ข้อผิดพลาดแรกที่หลายคนทำ ก่อนตัดสินใจรักษาหลุมสิว
สิ่งที่สำคัญถ้าหากไม่อยากเสียเงินไปฟรีๆ ก็คือ
ต้องรู้ตัวเองก่อนว่าหลุ่มสิวบนหน้าของเรารุนแรงระดับไหน จากประสบการณ์ส่วนตัวของผม เลือกเครื่องผิดเท่ากับเสียเงินฟรี เพราะจะไม่ได้ผลเลย
อ้างอิงจาก Goodman and Baron Scarring Grading System (2006) เป็นระบบที่ใช้แบ่งระดับความรุนแรงของแผลที่เกิดจากสิวที่ใช้กันแพร่หลาย สรุปให้เข้าใจง่ายๆได้ดังนี้
แหล่งอ้างอิง:
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Combination Therapy in the Management of Atrophic Acne Scars - Scientific Figure on ResearchGate. Available from: https://www.researchgate.net/figure/Goodman-and-Baron-Qualitative-scar-grading-system_tbl1_261841076
2. เครื่องรักษาหลุ่มสิวแต่ละตัว เหมาะกับหลุมสิวไม่เท่ากัน
ต้องบอกว่าผมมีปัญหาหลุมสิวระดับ 4 หลังจากรักษาผ่านมาหลายแบบ ตอนนี้น่าจะอยู่ในระดับ 3 แล้ว
หลังจากรักษามาหลายตัว หลายรูปแบบ ประกอบกับอ่านบทความงานวิจัยมาระดับหนึ่ง ขอสรุปให้เข้าใจง่ายๆ ได้ดังนี้
Disclaimer: ตารางเปรียบเทียบเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้น เหมาะกับการอ่านเพื่อประกอบการตัดสินใจเท่านั้น ไม่เหมาะนำไปอ้างอิงใดๆ
3. วิธีการเลือกคลีนิคสำหรับการรักษาหลุมสิว
- อย่าใจร้อนเกินรีบจองคอร์สช่วงมีโปร ให้นัดคิวเข้าไปปรึกษาคุณหมอ เพื่อให้คำแนะนำและวางแผนการรักษาคราวๆให้เราก่อน เราจะได้ข้อมูลลึกขึ้นว่ารายละเอียดการรักษาเราโอเคมั้ย หรือ อย่างน้อยจะเห็นได้ชัดว่าคลินิกมีความใส่ใจปัญหาของเรามากขนาดไหน หรือ ใส่ใจการขายคอร์สมากกว่า
- คลินิกควรเป็นคลินิกมีมีหมอประจำ ประกาศหรือระบุไว้ในเว็ปไซต์ให้คนไขตรวจสอบได้ หรือบางคลินิกก็มีแพทย์ประจำเพื่อรักษาคนไข้แต่ละคนคน ก็จะยิ่งดีมากเพราะจะทำให้การรักษาและติดตามผลลัพทธ์ ทำได้ต่อเนื่องและลื่นไหล ต้องจำไว้ว่าการรักษาหลุมสิวทำหลายครั้ง ไม่ได้ทำครั้งเดียวจบ
- คนวิเคราะห์วางแผนการรักษาก็ควรเป็นแพทย์เท่านั้น รวมถึงจะต้องดูว่าแพทย์อธิบายปัญหาและวิธีการรักษาให้กับเราได้ละเอียดดีมั้ย มีแพลนการรักษาคราวๆให้เราเพื่อประมาณงบประมาณในการรักษาได้มั้ย ส่วนนี้สำคัญ เราจะต้องรู้ว่าหากรักษากับคลินิกนี้จะต้องเตรียมเงินไว้เท่าไหร่ รวมถึงป้องกันค่ารักษาบานปลาย จากการขายคอร์สเสริมจากเซลล์ หรือแม้กระทั้งคุณหมอเอง
- การฉีดสารกระตุ้นกลุ่ม PN หรือ Biostimulator ควรขอตรวจสอบหรือดูกล่องเพื่อเช็คว่าเป็นของแท้หรือไม่ก่อนให้คุณหมอฉีดเข้าไปบริเวณที่รักษา รวมถึงราคาไม่ควรถูกกว่าคลีนิคอื่นๆมากผิดปกติ เช่น ราคาตลาดอยู่ที่ 25,000 – 30,000 แต่คลินิกขาย 15,000 นับเป็นข้อสงสัยอีกประการหนึ่ง
4. เทคนิคการรักษาที่น่าสนใจในปี 2025
สำหรับผม ตอนนี้วิธีที่น่าสนใจและอยากทดลองต่อไปก็คือ เทคนิคการรักษาที่ใช้หลายวิธีร่วมกัน (Combination Treatment)
สำหรับคนที่มีปัญหาหลุมสิวลึกและมีหลุมสิวหลายประเภท วิธีการนี้น่าจะเป็น Gold Standard ในการรักษาในปัจจุบัน
---------------------------------------
เครื่อง Microneedling RF (ที่หัวเข็มสามารถปรับระดับความลึกได้) เสริมด้วย Subcision + Biostimulator
เพิ่ม TCA Cross กรณีมีหลุมสิวปากแคบแต่ลึก
---------------------------------------
ช่วงนี้พยายามหาคลีนิคและเทคนิคที่ถูกใจ ประกอบกับเก็บเงินไปพลางๆก่อน..
เดี๋ยวจะมาอัพเดทอีกที หากรักษารอบต่อไปเสร็จแล้วนะครับ ฝากติดตามด้วยครับ /|\
แชร์ประสบการณ์การรักษาหลุมสิว ทั้งหมดที่เคยทำ ตัวไหนผลลัพธ์ดีสุด
จนผ่านมาหลายปีพึ่งรู้สึกได้ว่ามันกระทบภาพลักษณ์และหลังจากนั้นยิ่งทำให้เราไม่มันใจมากขึ้นไปอีก จนต้องดิ้นรนหาวิธีแก้ปัญหานี้ให้ได้
1. เครื่องยิงประเภทเลเซอร์ (ไม่มั่นใจชื่อเครื่องนะ)
ทำสมัยมัธยมปลายต่างจังหวัด ลักษณะที่สังเกตได้เลยคือ หลังทำแสบร้อน แดงแค่ 1 วัน และไม่มีแผลตกสะเก็ดเล็กๆรอบใบหน้า (อาจจะไม่ใช่เครื่องเลเซอร์สำหรับหลุมสิวโดยเฉพาะ)
ผลลัพธ์ส่วนตัว:
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
2. Fractional CO2 Laser
เครื่อง Lacer CO₂ ที่ยิงพลังงานเป็นจุดเล็กๆจำนวนมากลักษณะเป็นตาราง เพื่อทำให้ผิวเกิด “การอักเสบ” ขนาดเล็กเพื่อกระตุ้นคอลลาเจน
ผลลัพธ์ส่วนตัว:
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
3. E-matrix
หลักการ: พลังงานคลื่นวิทยุผ่านหัวเข็ม เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
ผลลัพธ์ส่วนตัว:
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
4. Air Injection + สารเติมเต็ม (PDRN + HA)
เป็นเข็มที่พ่นล่มเข้าไปเพื่อตัดผังผืดใต้หลุมสิว แล้วฉีดสารกระตุ้นการสร้างคอลาเจนเข้าไป เพื่อเติมกระตุ้นการฟื้นฟู
สารที่ใช้: สอบถามกับหมอ แจ้งว่าเป็น ไฮยาลูรอนิกผสมกับ PDRN (สารสกัดจาก DNA แซลมอน)
ผลลัพธ์ส่วนตัว:
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
5. RF Microneedling (INFINI) + Subcision + Polynucleotide (PN)
พอดีไปเจอคลิปการรักษาของคลีนิตแห่งหนึ่งพูดถึงรักษาแบบผสมผสาน ใช้หลายวิธีเพื่อช่วยให้มีการประตุ้นได้จากหลายกลไก ทำให้ปริมาณการการสร้างคอลลาเจนเกิดได้เยอะขึ้น หลังจากศึกษาวิธีรักษามาเรื่อยๆ ประกอบกับเรียนจบ ทำงาน มีเงินเก็บเป็นของตัวเอง ผมเลยตัดสินใจครั้งใหญ่ ตัดสินใจจองคอร์สเข้าไปรักษากับคลีนิคนี้ทันที พร้อมกลับมาคิดทีหลังว่าฉันตัดสินใจเร็วไปรึเปล่านะ
วิธีการรักษา:
- Microneedling RF (Infini): RF ผ่านหัวเข็มแบบปรับระดับได้ กระตุ้นคอลลาเจนในผิวชั้นลึกและตื้นได้หลายชั้นพร้อมๆกัน
- Subcision (Nokor): ใช้เข็มพิเศษ หัวเข็มลักษณะเป็นปลายแบนคล้ายมีดหมอ ตัดพังผืดใต้หลุมสิว ที่เหนี่ยวรั้งหลุมสิวไว้ไม่ให้เด้งฟูขึ้นมา
- Rejuran S (PN): สาร Polynucleotide ที่สกัดจาก DNA ของแซลม่อน มีความหนืดคงตัวสูงคล้ายฟิลเตอร์ ข้อดีของมันคือช่วยเรื่องการเติมเต็มแบบเร่งด่วนชั่วคราวและขณะเดียวกันก็ช่วยเรื่องการสร้างคอลาเจนใหม่ เพื่อผลลัพธ์ระยะยาว ที่คุณหมอแนะนำให้ใช้เพราะว่ามีเนื้อคงตัว สามารถนำไปวางใต้หลุมสิวแต่ละหลุมได้เลย
ผลลัพธ์ส่วนตัว:
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สรุป บทเรียนที่ได้ หลังจากรักษามามาพอสมควร
1. ข้อผิดพลาดแรกที่หลายคนทำ ก่อนตัดสินใจรักษาหลุมสิว
สิ่งที่สำคัญถ้าหากไม่อยากเสียเงินไปฟรีๆ ก็คือ ต้องรู้ตัวเองก่อนว่าหลุ่มสิวบนหน้าของเรารุนแรงระดับไหน จากประสบการณ์ส่วนตัวของผม เลือกเครื่องผิดเท่ากับเสียเงินฟรี เพราะจะไม่ได้ผลเลย
อ้างอิงจาก Goodman and Baron Scarring Grading System (2006) เป็นระบบที่ใช้แบ่งระดับความรุนแรงของแผลที่เกิดจากสิวที่ใช้กันแพร่หลาย สรุปให้เข้าใจง่ายๆได้ดังนี้
แหล่งอ้างอิง:
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
2. เครื่องรักษาหลุ่มสิวแต่ละตัว เหมาะกับหลุมสิวไม่เท่ากัน
ต้องบอกว่าผมมีปัญหาหลุมสิวระดับ 4 หลังจากรักษาผ่านมาหลายแบบ ตอนนี้น่าจะอยู่ในระดับ 3 แล้ว
หลังจากรักษามาหลายตัว หลายรูปแบบ ประกอบกับอ่านบทความงานวิจัยมาระดับหนึ่ง ขอสรุปให้เข้าใจง่ายๆ ได้ดังนี้
Disclaimer: ตารางเปรียบเทียบเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้น เหมาะกับการอ่านเพื่อประกอบการตัดสินใจเท่านั้น ไม่เหมาะนำไปอ้างอิงใดๆ
3. วิธีการเลือกคลีนิคสำหรับการรักษาหลุมสิว
- อย่าใจร้อนเกินรีบจองคอร์สช่วงมีโปร ให้นัดคิวเข้าไปปรึกษาคุณหมอ เพื่อให้คำแนะนำและวางแผนการรักษาคราวๆให้เราก่อน เราจะได้ข้อมูลลึกขึ้นว่ารายละเอียดการรักษาเราโอเคมั้ย หรือ อย่างน้อยจะเห็นได้ชัดว่าคลินิกมีความใส่ใจปัญหาของเรามากขนาดไหน หรือ ใส่ใจการขายคอร์สมากกว่า
- คลินิกควรเป็นคลินิกมีมีหมอประจำ ประกาศหรือระบุไว้ในเว็ปไซต์ให้คนไขตรวจสอบได้ หรือบางคลินิกก็มีแพทย์ประจำเพื่อรักษาคนไข้แต่ละคนคน ก็จะยิ่งดีมากเพราะจะทำให้การรักษาและติดตามผลลัพทธ์ ทำได้ต่อเนื่องและลื่นไหล ต้องจำไว้ว่าการรักษาหลุมสิวทำหลายครั้ง ไม่ได้ทำครั้งเดียวจบ
- คนวิเคราะห์วางแผนการรักษาก็ควรเป็นแพทย์เท่านั้น รวมถึงจะต้องดูว่าแพทย์อธิบายปัญหาและวิธีการรักษาให้กับเราได้ละเอียดดีมั้ย มีแพลนการรักษาคราวๆให้เราเพื่อประมาณงบประมาณในการรักษาได้มั้ย ส่วนนี้สำคัญ เราจะต้องรู้ว่าหากรักษากับคลินิกนี้จะต้องเตรียมเงินไว้เท่าไหร่ รวมถึงป้องกันค่ารักษาบานปลาย จากการขายคอร์สเสริมจากเซลล์ หรือแม้กระทั้งคุณหมอเอง
- การฉีดสารกระตุ้นกลุ่ม PN หรือ Biostimulator ควรขอตรวจสอบหรือดูกล่องเพื่อเช็คว่าเป็นของแท้หรือไม่ก่อนให้คุณหมอฉีดเข้าไปบริเวณที่รักษา รวมถึงราคาไม่ควรถูกกว่าคลีนิคอื่นๆมากผิดปกติ เช่น ราคาตลาดอยู่ที่ 25,000 – 30,000 แต่คลินิกขาย 15,000 นับเป็นข้อสงสัยอีกประการหนึ่ง
4. เทคนิคการรักษาที่น่าสนใจในปี 2025
สำหรับผม ตอนนี้วิธีที่น่าสนใจและอยากทดลองต่อไปก็คือ เทคนิคการรักษาที่ใช้หลายวิธีร่วมกัน (Combination Treatment)
สำหรับคนที่มีปัญหาหลุมสิวลึกและมีหลุมสิวหลายประเภท วิธีการนี้น่าจะเป็น Gold Standard ในการรักษาในปัจจุบัน
---------------------------------------
เครื่อง Microneedling RF (ที่หัวเข็มสามารถปรับระดับความลึกได้) เสริมด้วย Subcision + Biostimulator
เพิ่ม TCA Cross กรณีมีหลุมสิวปากแคบแต่ลึก
---------------------------------------
ช่วงนี้พยายามหาคลีนิคและเทคนิคที่ถูกใจ ประกอบกับเก็บเงินไปพลางๆก่อน..
เดี๋ยวจะมาอัพเดทอีกที หากรักษารอบต่อไปเสร็จแล้วนะครับ ฝากติดตามด้วยครับ /|\