บางคนเหงา แต่มองว่า มันอยากให้ครอบครัวยังเหนียวแน่นมากกว่าครับ คนไทยถูกสอนมาแบบนั้น

คุณต้องถามเขาว่า พ่อแม่ของปู้ย่าสอนมายังไง แต่ผมว่าคนไทย ไม่กล้าถาม หรือ ถามไปคนถูกถามก็จำไม่ได้เพาะอายุเยอะ

ผมว่าหลายครอบครัวพูดกันเลยนะ อยากให้ตระกูลใหญ่ มีลูกหลานเยอะ เต็มบ้านเต็มเมืองเป็นคนใหญ่คนโต เป็นราชวงศ์เหมือนพวกขุนนาง พวกคนใหญ่คนโตในอดีตสู่ปัจจุบัน ดังนั้น เขาจะมีลูกไม่หยุดตามความเชื่อตัวนี้มาเรื่อยๆ และ นี่คือแนวคิดที่ไม่ต่างจาก จีน หรือ การแพร่อำนาจผ่านลูกหลาน

ผมว่าหลายคนต้องเคยได้ยินคำว่า "รับราชการรับใช้แผ่นดินทั้งตระกูลไหมหละครับ" นั่นแหละ main concept

ถ้าลูกหลานในสายตระกูลมีทั้งหมด 20 คนนับรวมนะไม่ได้แยกสายเอาแค่ 10 คนได้ดีเรียนจบมีธุรกิจ คุณคิดว่ามันจะรวยไหมหละครับ แล้วนี่แหละ หลานม่า concept  มันคือค่านิยมที่เหมือนใช้ความ กตัญญู แต่แฝงไปด้วย ทุนนิยมอยู่ในนั้นครับ

ผมกล้าเถียงเลยด้วย ในยุค 1000 ปีก่อนนู้น จะประวัติศาสตร์ชาติไหนก็ตาม มีลูกหลานเยอะไว้ก่อนทำไม ยุค dark age ก็ลำบากเหมือนกัน ลำบากหนาวตายด้วยเอาดิ แต่ทำไมมีลูกเยอะ ไม่มีถุงยางหรอ หรือ ไม่สน??

เขาต้องการให้ลูก ได้กลายเป็นชาวนา ช่วยทำมาหากิน เป็นอัศวิน เป็นนักรบ นั่นแหละครับพอได้ไปเป็นสักอาชีพ ชีวิตมันก็จะดีขึ้นเองระดับนึงเลยแหละเพราะสุดท้าย คนที่ไปได้ดี ถ้าไม่ได้หนีหรือพลัดพรากจากยุคมืด ก็จะย้อนกลับมาถิ่นบ้านเกิดตามแนวคิดความเชื่อทางศาสนาอยู่ดีในการมาเผ่าศพพ่อแม่

นี่คือ กลอุบายที่บอกเลยว่า มัน combo ได้เฉียบ และ ฝังลงสมองมนุษย์มานานมากกว่า 1000 ปีอะครับคิดเอาแล้วกันนะว่า รากไม้ต้นนี้จะถอนยังไง

จนกระทั่งการมาของ internet และ gen Y รุ่นผม คือ the first edition เลยแหละ ที่นำเสนอว่า มีลูกแต่ลำบากมีทำไม?? ดูประวัติศาสตร์เราดิ มีแล้วลำบาก พ่อแม่เรายังลำบาก ติดหนี้หัวโตมาให้ gen Y ผ่อนบ้านต่อ นั่นนู่นนี่โอ้โห บอกเลยลำบากกว่าผมมีอีกเยอะเอาชีวิตไม่รอด มันจึงเป็นรุ่นแรงที่แหกแนวคิดครับดั้งเดิมที่มันใช้ไม่ได้แล้วออกไปให้หมด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ลองคิดดู

ถ้าแผ่นดินไทย มีประชากร 4 เท่า หรือ 200 ล้านคน แต่ที่ดินไทยนั้นไม่ได้ใหญ่ ทรัพยากรไม่ได้เยอะ สิ่งแรกที่ไทยจะเจอรู้ไหมคืออะไร??
1. แย่งงาน
2. แย่งที่ดิน
3. แย่งกันอยู่
4. ขาดอาหาร
5. สวัสดิการเข้าไม่ถึง
6. ความเหลื่อมล้ำสูงขึ้นมหาศาร เพราะ คนส่วนนึงจน อีกส่วนก็จะรวย แต่มันคิดมาจาก 200 ล้านคนนะ มันต่างกันถึง 100 ล้านคน ไม่ใช้ 30-40 ล้านคน
7. อาชญากรรมจะเพิ่มสูง จาก คนพยายามดิ้นรนเอาตัวรอด
8. อนามัยจะต่ำ

เห็นมะ มันเลยต่างจากรุ่นปู่ย่ารุ่นเดอะเยอะครับ

แต่ว่า แนวคิดนี้มันพึ่งริเริ่ม ขนาด อา ป้า น้า พ่อ แม่ ของรุ่นเรา gen Y ยังบอกให้เรารีบหาเมียจริ้ง คือ เขามองว่า ทำลูก แล้วเอามาให้เยี่ยม มาคุยกันกับฝั่ง น้องสาว ฝั่งลูกพี่ลูกน้องคนอื่นที่เขาก็พึ่งมีลูก พึ่งคลอดเข้าอนุบาล หรือ ตามหลังกันไม่กี่ปีเป็นลูกพี่ลูกน้องสนิทๆ กัน

ผมเงินเดือน 80K จะแบบให้เมียอยู่บ้านเป็นสะใภ้นอนชิวแบ่งนิดหน่อยก็ได้ ทำงานนิดหน่อยก็ได้ เขามองว่า ผมมีเยอะนำครบอครัวได้ และ สอนลูกชายกันส่วนมากให้เป็นช้างเท้าหน้าเลี้ยงลูกสบาย พูดกันเงี้ย เขามองแค่เงินครับ เขาไม่ได้มอง data แบบที่ผมมอง เขามองว่าเรามั่นคงสูงมากกว่าใคร เลยคิดว่ามันไม่ใช่ปัญหาเลย เขาพูดเขามองแบบนี้เลย เขาไม่ได้ห่วงว่าเราจะแก่ไม่มีใครดูแลนะ เพราะ เขารู้นิสัยเราดีว่า เราดูแลตัวเองเก่งเกินไป

เราทำอะไรไม่ได้ เราเลยอ้าง และ fade ตัวเองออกมาใช้ชีวิตของเราให้เงียบ สงบสุขแบบที่ชอบ คือ ดีย์ ไม่ toxic ไม่ต้องมีใครรู้ใครเห็นว่าเราทำอะไรกินใช้ชีวิตยังไง

ฟิลลิ่งก็ประมาณว่า คนรุ่นผมอีกฝั่งนึง ที่ไม่ใช่ทางสายผมนะ ผมแยกสายตระกูลกันค่อนข้างชัดเจน รวมแล้วจะวุ่นวาย เริ่มเอาลูกหลานมากองรวมกันให้เป็น ลูกพี่ลูกน้องใน next generation แล้วครับ เช่น รุ่นผมมี 6 คนใช่ไหม รุ่นหลานตอนนี้ก็จะ 6 คนแล้ว ก็คือมันอยู่ในสภาพไม่ได้สายตระกูลขาดหนะครับ

ให้นึกถึงประมาณว่า ถ้ารวมญาติ ก็จะมีเด็ก ประมาณ 5-7 คนแล้วอะที่เราเรียกว่า รุ่นหลานอะครับ คิดเอาแล้วกันว่ามันเยอะแค่ไหน แล้วเด็กพวกนี้ โตไป จะมีลูกหลานแต่งงาน งอกมาอีกกี่คนหละ??

ทั้งหมดของนามสกุลเรา มีกี่คน สปอยเลย ตระกูลเราใหญ่นะแต่ไม่ได้คุณภาพทั่วถึง มีลูกหลาน ลูกพี่ลูกน้อง พ่อแม่ พี่น้อง พี่ ป้า น้า อา ลุง active รวมถึงลูกติดที่หย่ากันไป 20 คนกว่าครับ แต่ว่ามีการย้ายนามสกุลหรือแต่งออก แต่ทุกคนรู้หมดว่า โตมาจากสายตระกูลเดียวกัน
ได้ดี 50% อีก 50% ไม่ได้ดีครับ

แต่ว่าปลายสุดของสาย เรียนจบ ป.ตรี กันหมดนะ ^^

นี่แหละ power of family ครับ เอาจริงๆ ผมไม่ค่อยชอบเลยด้วยซ้ำ รวมญาติทีโคตรน่าเบื่อ 555