มันช่างถูกน่าใช้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ Iron Dome 1 แบตเตอรี่ (ประกอบด้วย 4 แท่นยิง และขีปนาวุธ 80 ลูก) พร้อมอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันให้ครับ
อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทวันนี้ (28 กรกฎาคม 2568):
ค่าเงินบาทโดยประมาณอยู่ที่ 32.28 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ (อ้างอิงจากข้อมูลล่าสุดในวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 ซึ่งเป็นข้อมูลที่ใกล้เคียงที่สุดที่มี ณ ปัจจุบัน)
สรุปราคารวมสำหรับ Iron Dome 1 แบตเตอรี่ (ประกอบด้วย 4 แท่นยิง และขีปนาวุธ 80 ลูก):
* ราคาระบบ Iron Dome ทั้งชุด 1 แบตเตอรี่ (ไม่รวมขีปนาวุธ):
* ช่วงราคาโดยประมาณ: 50 ล้าน - 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
* คิดเป็นเงินบาท:
* ต่ำสุด: 1,614,000,000 บาท (หนึ่งพันหกร้อยสิบสี่ล้านบาท)
* สูงสุด: 3,228,000,000 บาท (สามพันสองร้อยยี่สิบแปดล้านบาท)
* ราคาขีปนาวุธสกัดกั้น Tamir จำนวน 80 ลูก (บรรจุเต็ม 4 แท่นยิง):
* ช่วงราคาต่อลูก: 20,000 - 150,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ
* คิดเป็นเงินบาทสำหรับ 80 ลูก:
* ต่ำสุด: 51,648,000 บาท (ห้าสิบเอ็ดล้านหกแสนสี่หมื่นแปดพันบาท)
* สูงสุด: 387,360,000 บาท (สามร้อยแปดสิบเจ็ดล้านสามแสนหกหมื่นบาท)
ราคารวมทั้งหมดของ Iron Dome 1 แบตเตอรี่ (รวมระบบและขีปนาวุธ 80 ลูก):
* ราคารวมต่ำสุดโดยประมาณ:
1,614,000,000 บาท (ค่าระบบ) + 51,648,000 บาท (ค่าจรวด) = 1,665,648,000 บาท (หนึ่งพันหกร้อยหกสิบห้าล้านหกแสนสี่หมื่นแปดพันบาท)
* ราคารวมสูงสุดโดยประมาณ:
3,228,000,000 บาท (ค่าระบบ) + 387,360,000 บาท (ค่าจรวด) = 3,615,360,000 บาท (สามพันหกร้อยสิบห้าล้านสามแสนหกหมื่นบาท)
สรุปช่วงราคารวมทั้งหมดของ Iron Dome 1 แบตเตอรี่ (พร้อมขีปนาวุธเต็ม):
ประมาณ 1,666 ล้านบาท ถึง 3,615 ล้านบาท
โปรดจำไว้ว่านี่เป็นเพียงการประมาณการ และราคาจริงอาจแตกต่างกันไปตามข้อตกลง สัญญา และการสนับสนุนจากรัฐบาลหรือองค์กรต่างๆ ครับ
พิสูจน์ ตนเองมาอย่างโชกโชน เป็นม้างานมาอย่างยาวนาน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Iron Dome เป็นระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ได้พิสูจน์ประสิทธิภาพในการรบจริงมาแล้วหลายครั้ง โดยเฉพาะในสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มติดอาวุธในฉนวนกาซาและเลบานอน นี่คือสรุปสถานที่และสถานการณ์หลักที่ Iron Dome ได้ถูกใช้งาน:
* ฉนวนกาซา (Gaza Strip): นี่คือสมรภูมิหลักที่ Iron Dome ถูกใช้งานมากที่สุดและบ่อยที่สุด ตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมา ระบบนี้ได้สกัดกั้นจรวดและกระสุนปืนใหญ่จำนวนมากที่ยิงมาจากฉนวนกาซาโดยกลุ่มฮามาสและกลุ่มติดอาวุธอื่นๆ ตัวอย่างเหตุการณ์สำคัญได้แก่:
* เมษายน 2011: การสกัดกั้นจรวด Grad ที่ยิงมาจากฉนวนกาซาเป็นครั้งแรก ถือเป็นการใช้งานจริงครั้งแรกของระบบ
* พฤศจิกายน 2012 (ปฏิบัติการ Pillar of Defense): Iron Dome สกัดกั้นจรวดได้กว่า 400 ลูก
* กรกฎาคม-สิงหาคม 2014 (ปฏิบัติการ Protective Edge): Iron Dome สกัดกั้นจรวดได้กว่า 700 ลูก
* พฤษภาคม 2021: ในช่วงความขัดแย้งครั้งใหญ่ Iron Dome สกัดกั้นจรวดเกือบ 1,000 ลูกที่ยิงมาจากฉนวนกาซา
* ตุลาคม 2023 และต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน: ในสงครามอิสราเอล-ฮามาส Iron Dome ได้รับมือกับการยิงจรวดจำนวนมหาศาลจากฉนวนกาซา และยังคงเป็นส่วนสำคัญในการป้องกันพลเรือนและโครงสร้างพื้นฐานของอิสราเอล
* เลบานอน (Lebanon): Iron Dome ยังถูกใช้เพื่อสกัดกั้นจรวดที่ยิงมาจากเลบานอนโดยกลุ่มฮิซบอลเลาะห์และกลุ่มติดอาวุธอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ความตึงเครียดตามแนวชายแดนเพิ่มขึ้น
* การโจมตีโดยตรงจากอิหร่าน (เมษายน 2024 และต่อเนื่อง): ในการโจมตีครั้งใหญ่ของอิหร่านต่ออิสราเอลเมื่อเดือนเมษายน 2024 (และในเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกันในเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2025 ตามข้อมูลที่ค้นพบ) Iron Dome ได้ถูกนำมาใช้ร่วมกับระบบป้องกันภัยทางอากาศอื่นๆ ของอิสราเอล (เช่น David's Sling และ Arrow) เพื่อสกัดกั้นขีปนาวุธและโดรนที่ยิงมาจากอิหร่านและกลุ่มตัวแทนในภูมิภาค Iron Dome มุ่งเน้นไปที่ภัยคุกคามระยะใกล้และระยะสั้นในระบบป้องกันหลายชั้นนี้
สรุปโดยรวม:
Iron Dome ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันประเทศอิสราเอลจากภัยคุกคามจากจรวดและกระสุนปืนใหญ่ระยะสั้นถึงกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการรับมือกับการโจมตีแบบ Salvo หรือการยิงจำนวนมากพร้อมกัน และได้ช่วยลดจำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุการณ์เหล่านี้ได้อย่างมหาศาลครับ
แต่…บางครั้ง ประสิทธิภาพก็ตามราคา…เพราะมัน Mini
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เพื่อให้ข้อมูลที่ชัดเจนและถูกต้อง ผมจะแยกตอบเป็นข้อๆ ครับ
1. Iron Dome ป้องกัน BM-21 Salvo ได้ไหม?
* ได้ครับ Iron Dome ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อรับมือกับการโจมตีแบบ Salvo (การยิงจรวดจำนวนมากพร้อมกัน) จากระบบอย่าง BM-21 Grad และจรวดที่คล้ายคลึงกัน (เช่น Qassam, Katyusha, Fajr) ที่กลุ่มติดอาวุธในฉนวนกาซาและเลบานอนใช้งาน
* ประสิทธิภาพ: Iron Dome มีประวัติที่พิสูจน์แล้วว่ามีอัตราการสกัดกั้นจรวดประเภท Grad ที่มุ่งเป้าหมายไปยังพื้นที่สำคัญสูงกว่า 90% ในสถานการณ์การรบจริงหลายครั้ง
* ความท้าทาย: อย่างไรก็ตาม การโจมตีแบบ Salvo ที่มีปริมาณจรวดมากเกินกว่าขีดความสามารถในการสกัดกั้นของแบตเตอรี่ Iron Dome (จำนวนขีปนาวุธสกัดกั้น Tamir ที่มีและการตอบสนองของระบบ) ก็ยังคงเป็นความท้าทายที่อาจทำให้จรวดบางส่วนหลุดรอดไปได้ นี่คือสิ่งที่เรียกว่า "การทำให้ระบบอิ่มตัว" (system saturation)
2. Iron Dome กัน PHL-03 ได้ไหม?
* ไม่เหมาะเป็นหลัก และอาจมีข้อจำกัดสูงมากครับ PHL-03 เป็นระบบจรวดหลายลำกล้องขนาด 300 มม. ที่มีพิสัยยิงไกลกว่า (70-160 กม.) และมีอำนาจทำลายล้างสูงกว่า BM-21 มาก
* เหตุผล:
* พิสัยทำการ: Iron Dome มีพิสัยการสกัดกั้นสูงสุดประมาณ 70 กิโลเมตร ซึ่งอาจสั้นเกินไปสำหรับจรวด PHL-03 ที่ถูกยิงมาจากระยะที่ไกลกว่ามาก
* ขนาดและลักษณะเป้าหมาย: Iron Dome ออกแบบมาเพื่อรับมือกับจรวดที่ไม่นำวิถีระยะสั้นถึงกลาง และกระสุนปืนใหญ่เป็นหลัก จรวดของ PHL-03 มีขนาดใหญ่กว่า บินเร็วกว่า และอาจมีวิถีโคจรที่แตกต่างออกไป ซึ่งอยู่นอกขอบเขตความสามารถที่เหมาะสมของ Iron Dome
* ระบบป้องกันหลายชั้น: อิสราเอลใช้ระบบป้องกันภัยทางอากาศแบบ "หลายชั้น" (multi-layered defense) ซึ่งแต่ละชั้นออกแบบมาเพื่อรับมือกับภัยคุกคามที่แตกต่างกัน
* Iron Dome: สำหรับจรวดระยะสั้น (4-70 กม.) และกระสุนปืนใหญ่
* David's Sling: สำหรับจรวดพิสัยกลาง (100-200 กม.), ขีปนาวุธร่อน (cruise missiles), และโดรน
* Arrow System (Arrow 2, Arrow 3): สำหรับขีปนาวุธพิสัยไกลและขีปนาวุธข้ามทวีป (ballistic missiles)
* ดังนั้น หากมีจรวด PHL-03 ถูกยิงเข้ามา ระบบ David's Sling หรือ Arrow จะเป็นระบบที่เหมาะสมกว่าและมีขีดความสามารถในการสกัดกั้นจรวดประเภทนี้มากกว่า Iron Dome
3. Iron Dome กันจรวดจากพม่าได้ไหม?
* ตอบตามหลักการทางเทคนิคได้ครับ แต่ขึ้นอยู่กับประเภทของจรวด:
* ถ้าพม่าใช้จรวดประเภทเดียวกับ BM-21 Grad หรือจรวดที่คล้ายคลึงกัน (ระยะสั้นถึงกลาง และไม่นำวิถี): Iron Dome ก็จะสามารถสกัดกั้นได้เช่นเดียวกับที่สกัดกั้นจรวดจากกาซาหรือเลบานอน
* ถ้าพม่าใช้จรวดพิสัยไกลกว่า หรือขีปนาวุธประเภทอื่นที่ซับซ้อนกว่า (เช่น ขีปนาวุธนำวิถี, ขีปนาวุธร่อน, หรือขีปนาวุธทางยุทธวิธี): Iron Dome จะมีข้อจำกัดในการสกัดกั้น และระบบป้องกันภัยทางอากาศชั้นอื่นๆ ที่ซับซ้อนกว่า (เช่น David's Sling หรือ Arrow) จะเป็นระบบที่เหมาะสมกว่าในการรับมือ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หากมีการตกลงหยุดยิงแล้ว โอกาสที่จะเกิดการปะทะขึ้นอีกครั้ง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ารัฐนั้นเป็นเผด็จการหรือไม่โดยตรง แต่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง โดยเฉพาะ "ธรรมชาติของระบอบการปกครอง" นั้นๆ อาจส่งผลต่อ "วิธีการและเหตุผล" ในการตัดสินใจทางการเมืองและการทหาร
รัฐเผด็จการกับโอกาสปะทะหลังหยุดยิง
ในบริบทของรัฐเผด็จการ มีลักษณะบางประการที่อาจส่งผลต่อการตัดสินใจกลับมาปะทะกันอีก:
* การตัดสินใจรวมศูนย์: ในรัฐเผด็จการ การตัดสินใจมักจะขึ้นอยู่กับผู้นำเพียงไม่กี่คนหรือคนเดียว ซึ่งหมายความว่าการตัดสินใจว่าจะรักษาสันติภาพหรือกลับมาใช้กำลัง สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้นำโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบที่ซับซ้อน
* การควบคุมข้อมูลและโฆษณาชวนเชื่อ: รัฐเผด็จการมักจะควบคุมสื่อและข้อมูล ทำให้ง่ายต่อการสร้างภาพศัตรู หรือปลุกกระแสชาตินิยมเพื่อสนับสนุนการใช้กำลังทางทหาร แม้ว่าจะมีการหยุดยิงไปแล้วก็ตาม
* เป้าหมายด้านความมั่นคงภายใน: บางครั้งผู้นำเผด็จการอาจใช้ความขัดแย้งภายนอกเป็นเครื่องมือในการเสริมสร้างอำนาจภายใน หรือเบี่ยงเบนความสนใจจากปัญหาภายในประเทศ ซึ่งอาจทำให้ความขัดแย้งเกิดขึ้นซ้ำ
* การขาดกลไกตรวจสอบ: ไม่มีกลไกตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจที่เข้มแข็ง (เช่น รัฐสภาอิสระ หรือศาล) ที่จะทัดทานการตัดสินใจใช้กำลังทางทหารของผู้นำได้
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการปะทะ (ไม่ว่าจะเผด็จการหรือไม่)
ถึงแม้ว่าลักษณะของระบอบเผด็จการอาจทำให้การตัดสินใจกลับมาปะทะเกิดขึ้นได้ง่ายขึ้น แต่ปัจจัยหลักๆ ที่กำหนดว่าการหยุดยิงจะยั่งยืนหรือไม่ ยังคงเป็น:
* การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งพื้นฐาน: หากประเด็นที่เป็นต้นตอของการปะทะ เช่น ปัญหาเขตแดนที่ทับซ้อน ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างถาวรและเป็นที่ยอมรับของทั้งสองฝ่าย โอกาสที่จะปะทะซ้ำก็ยังคงสูง
* ความน่าเชื่อถือของข้อตกลงหยุดยิง: ข้อตกลงที่ชัดเจน มีกลไกการตรวจสอบ และมีการรับรองจากบุคคลที่สามที่น่าเชื่อถือ จะช่วยลดโอกาสการละเมิด
* เจตนาของผู้นำ: ไม่ว่าจะเป็นระบอบใด หากผู้นำมีเจตนาที่จะแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธีอย่างแท้จริง การหยุดยิงก็จะยั่งยืนกว่า
* แรงกดดันจากภายนอก: การแทรกแซงหรือแรงกดดันจากประชาคมระหว่างประเทศอาจมีบทบาทสำคัญในการรักษาสถานะการหยุดยิง
สรุป
การเป็นรัฐเผด็จการ ไม่ได้แปลว่าต้องปะทะหลังหยุดยิงเสมอไป แต่รูปแบบการตัดสินใจและสภาพแวดล้อมทางการเมืองภายในของรัฐเผด็จการ อาจทำให้การกลับมาปะทะกันเกิดขึ้นได้ง่ายขึ้น หากประเด็นความขัดแย้งหลักยังไม่ได้รับการแก้ไข และไม่มีแรงกดดันเพียงพอที่จะรักษาสันติภาพอย่างยั่งยืนครับ
แต่ยังไงซะ ครอบคลุมพื้นที่กว้างขวาง ด้วยงบ กระทัดรัด … มันช่างน่าถอยซะจริง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Iron Dome ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อ "ครอบคลุมพื้นที่" ในแง่ของการป้องกันภัยแบบเป็นโดมทั่วทั้งประเทศเหมือนโดมจริงๆ ครับ แต่เป็นการป้องกันภัยทางอากาศในลักษณะ 'จุด' หรือ 'พื้นที่สำคัญ'
นี่คือรายละเอียดเกี่ยวกับความสามารถในการครอบคลุมพื้นที่ของ Iron Dome:
* ระยะการยิงสกัดกั้น (Engagement Range): ระบบ Iron Dome สามารถตรวจจับและยิงสกัดกั้นเป้าหมายได้ในระยะ 4 กิโลเมตร ถึง 70 กิโลเมตร (ประมาณ 2.5 ถึง 43 ไมล์) นี่หมายถึงจรวดหรือกระสุนปืนใหญ่ที่เข้ามาในระยะนี้เท่านั้นที่ Iron Dome สามารถตอบโต้ได้
* พื้นที่ที่ครอบคลุมต่อหนึ่งแบตเตอรี่: Iron Dome 1 แบตเตอรี่ (ซึ่งประกอบด้วยเรดาร์, ศูนย์ควบคุม และแท่นยิงหลายแท่น) ถูกรายงานว่าสามารถป้องกันพื้นที่เมืองได้ประมาณ 150 ตารางกิโลเมตร (ประมาณ 58 ตารางไมล์)
* การเลือกเป้าหมาย (Selective Defense): จุดเด่นของ Iron Dome คือ ความสามารถในการแยกแยะ ว่าจรวดหรือกระสุนที่ถูกยิงเข้ามานั้นมีแนวโน้มที่จะตกในพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นหรือพื้นที่สำคัญหรือไม่ หากระบบประเมินแล้วว่าจรวดจะตกในพื้นที่เปิดโล่งหรือไม่เป็นอันตราย ก็จะ ไม่ทำการยิงสกัดกั้น เพื่อประหยัดขีปนาวุธ Tamir ที่มีราคาแพง
IronDome มันช่างราคาย่อมเยาซะจริง
มันช่างถูกน่าใช้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พิสูจน์ ตนเองมาอย่างโชกโชน เป็นม้างานมาอย่างยาวนาน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แต่…บางครั้ง ประสิทธิภาพก็ตามราคา…เพราะมัน Mini
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แต่ยังไงซะ ครอบคลุมพื้นที่กว้างขวาง ด้วยงบ กระทัดรัด … มันช่างน่าถอยซะจริง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้