คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 13
ถ้าเทียบระหว่างโดนภาษีเมกา 36% กับโดนจีนแบนถาวร"ไม่ซื้อไม่ขายทุกอย่าง" โดนภาษี 36% ดีกว่าครับ
ประมาณ 2 ใน 3 ของการขาดดุลต่อจีน มาจาก เครื่องจักรกล, เครื่องจักรไฟฟ้า, วัตถุดิบ, สารเคมี และชิ้นส่วนอะไหล่ พูดอีกอย่างก็คือ เราขาดดุลจีนเพื่อวัตถุดิบและเครื่องจักรในการผลิตเพื่อผลิตสินค้าไปได้ดุลที่อื่น ถ้าจีนตัดขาดไม่ขายสินค้าพวกนี้ เราต้องไปซื้อเครื่องจักรกลและเครื่องจักรไฟฟ้าจากยุ่น, ยุโรป, เมกาซึ่งแพงกว่าอาจจะเป็น 10 เท่า และวัตถุดิบบางชนิดอาจจะหาไม่ได้นอกจากจีน รวมไปถึงอะไหล่บางอย่างที่อาจจะถึงขั้นต้องสร้างโรงงานและเดินสายการผลิตใหม่ไม่รู้กี่ปีเพราะไม่มีใครผลิตมันขึ้นมา ถึงตอนนั้น เราอาจจะเสียดุลจากประเทศที่เราเคยได้ดุลมากกว่าที่เราลดการขาดดุลจากจีนไปไกลโขล่ะครับ
ปล. ยกเว้น ถ้าเราขุดหาวัตถุดิบส่วนมากได้เอง แปรรูปได้เอง สร้างโรงงานผลิตวัตถุดิบและสร้างเครื่องจักรส่วนใหญ่ได้เอง เนรมิตโรงงานและสายการผลิตได้แบบ Sim City (พูดอีกอย่างก็ทำได้แบบจีนตอนนี้) อย่างนั้นก็ตัดขาดกับจีนได้เลย
ประมาณ 2 ใน 3 ของการขาดดุลต่อจีน มาจาก เครื่องจักรกล, เครื่องจักรไฟฟ้า, วัตถุดิบ, สารเคมี และชิ้นส่วนอะไหล่ พูดอีกอย่างก็คือ เราขาดดุลจีนเพื่อวัตถุดิบและเครื่องจักรในการผลิตเพื่อผลิตสินค้าไปได้ดุลที่อื่น ถ้าจีนตัดขาดไม่ขายสินค้าพวกนี้ เราต้องไปซื้อเครื่องจักรกลและเครื่องจักรไฟฟ้าจากยุ่น, ยุโรป, เมกาซึ่งแพงกว่าอาจจะเป็น 10 เท่า และวัตถุดิบบางชนิดอาจจะหาไม่ได้นอกจากจีน รวมไปถึงอะไหล่บางอย่างที่อาจจะถึงขั้นต้องสร้างโรงงานและเดินสายการผลิตใหม่ไม่รู้กี่ปีเพราะไม่มีใครผลิตมันขึ้นมา ถึงตอนนั้น เราอาจจะเสียดุลจากประเทศที่เราเคยได้ดุลมากกว่าที่เราลดการขาดดุลจากจีนไปไกลโขล่ะครับ
ปล. ยกเว้น ถ้าเราขุดหาวัตถุดิบส่วนมากได้เอง แปรรูปได้เอง สร้างโรงงานผลิตวัตถุดิบและสร้างเครื่องจักรส่วนใหญ่ได้เอง เนรมิตโรงงานและสายการผลิตได้แบบ Sim City (พูดอีกอย่างก็ทำได้แบบจีนตอนนี้) อย่างนั้นก็ตัดขาดกับจีนได้เลย
แสดงความคิดเห็น
ระหว่างอเมริกาเก็บภาษี36% กับจีนตัดขาดเรา อะไรจะเสียหายกว่ากัน