ผู้เดินทางในม่านหมอก

บทนำ

เคราะห์กรรมของผู้รอนแรม

สวัสดีครับ
ข้าพเจ้าชื่อ สมาน
ชื่อเต็มตามทะเบียนเกิดคือ สมาน พานิชกิจ เกิดเมื่อปีระกา พุทธศักราช 2455 ที่บางกอกน้อย ริมคลองบางกอกใหญ่ ตรงข้ามวัดระฆังโฆสิตาราม

บิดาของข้าพเจ้าเป็นข้าราชการกรมไปรษณีย์ มารดาเป็นแม่เรือนผู้เพียบพร้อมด้วยคุณธรรมและเมตตา
บ้านเรือนของเรานั้นเป็นเรือนไทยยกพื้นใต้ถุนสูง ล้อมด้วยแนวไม้ดอกไม้ผล จำปีจำปาแก้วโมกปลูกเรียงกันร่มรื่น เมื่อยามเย็นเสียงลมหวิวพัดผ่านชายคา บรรยากาศช่างสงบเย็นอย่างบอกไม่ถูก

ชีวิตของข้าพเจ้าเคยเป็นดั่งนกในกรงทอง สุขพอเพียง เรียบง่าย และอบอุ่น
กระทั่งในปีพุทธศักราช 2475 บิดาข้าพเจ้าจากไปด้วยอาการหัวใจวาย
มารดาทนความเศร้าไม่ไหว อยู่ได้ไม่นานก็ตามท่านไป
ทิ้งข้าพเจ้าไว้ผู้เดียว กับบ้านว่างเปล่าที่เงียบเกินกว่าจะอยู่อาศัย

ข้าพเจ้าในวัยยี่สิบสี่ ไม่มีหน้าที่การงาน ไม่มีญาติสนิทชิดชอบ
แม้จะมีบ้านและทรัพย์ติดตัวอยู่บ้าง แต่ก็ราวกับไร้จุดหมาย
ด้วยใจที่หม่นเศร้าและหัวใจที่เหมือนจะตายจากโลกนี้ไปด้วย
ข้าพเจ้าจึงตัดสินใจ—ขายเรือนหลังนั้น และออกเดินทาง

ตั้งแต่นั้นมา ชีวิตของข้าพเจ้าก็เป็นดั่งใบไม้แห้งปลิวไปตามลม
ไปพักอยู่ที่หัวเมืองหนึ่งสองเดือน บ้างก็เป็นแรมคืนเดียว บ้างก็เพียงผ่านทาง
ได้พบผู้คนมากหน้าหลายตา ทั้งคนดี คนบ้า คนบาป และ…บางครั้ง ไม่ใช่คนเลยด้วยซ้ำ

หลายสิ่งที่ข้าพเจ้าได้พบ ได้ยิน ได้เห็น
เป็นเรื่องที่หากนำมาเล่าต่อในวงสุรา คนเขาอาจหัวร่อหาว่าเพ้อเจ้อ
แต่ข้าพเจ้าไม่ใฝ่ให้ใครเชื่อ เพียงหวังให้ได้บันทึกเอาไว้…
เพื่อผู้ใดผู้หนึ่งในภายหน้า ที่อาจเดินทางผ่านเส้นทางเดียวกับข้าพเจ้า
จะได้มี “เรื่องเล่า” เป็นเพื่อน…ในยามค่ำคืนที่ไร้แสงจันทร์

หากท่านพร้อมจะเชื่อในสิ่งที่ยังไม่เคยเห็น
ข้าพเจ้าขอเชื้อเชิญให้ท่านติดตาม
จากพระนครสู่เมืองเหนือ จากทุ่งโล่งสู่ป่าทึบ
จากห้องโดยสารที่มีคนนั่ง…หรืออาจจะไม่ใช่ “คน”
จงฟังข้าพเจ้าเถิด
เพราะตลอดเส้นทางที่รอนแรมมานั้น… ข้าพเจ้าไม่เคยเดินทางเพียงลำพัง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่