บทความทุกตอนคลิกที่นี้.................
ตอนที่ 23 หาดใหญ่สงขลากับหมุดการท่องเที่ยวระดับโลก - สายสีม่วงช่วงวงเวียนน้ำพุ-แยกโรงปูน
หากต้องการให้ "หาดใหญ่สงขลา" กลายเป็นหมุดหมายการท่องเที่ยวระดับโลกเช่นเดียวกับ ภูเก็ตหรือเชียงใหม่ได้นั้น "ทะเลสาบสงขลา" คือคีย์เวิร์ดที่สำคัญที่สุด เรียกได้ว่าเป็นจุดชี้เป็นชี้ตายเลยทีเดียว ดังนั้นการสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานเข้าไปเพื่อเชื่อมทะเลสาบ เช่น ระบบถนนสายหลัก หรือระบบการเดินทางขนส่งอย่างเช่น ระบบรถไฟฟ้าโมโนเรลจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งผู้เขียนได้ระบุให้เป็น รถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีม่วง ซึ่งจะมีการเชื่อมต่อกับ "แกนกลาง" ของเมืองหาดใหญ่ ที่จะมี สนามบินนานาชาติหาดใหญ่ และสถานีรถไฟกลางหาดใหญ่ อยู่ในแกนกลางของเมืองนี้ด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว และนักอนุรักษ์จากทั่วโลก เพื่อเดินทางเข้าสู่สถานีเลสาบที่ 1 ของทะเลสาบได้โดยตรง เพื่อเริ่ม "ชาเลนจ์" ที่สำคัญ บริเวณแหลมโพธิ์ ที่กำหนดให้เป็น "สถานีเลสาบที่ 1"
แต่ทว่าด้วยลักษณะทาง "ภูมิเศรษฐศาสตร์" ของเมืองหาดใหญ่ ที่เป็นลักษณะ "1แกน 3 ปีก" จึงเลี่ยงไม่ได้เลย ที่เส้นทางรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีม่วงจะต้องวิ่งผ่าน "ถนนนิพัทธ์สงเคราะห์ 1" หรือเส้นวงเวียนน้ำพุถึงแยกโรงปูน ที่มีลักษณะทางกายภาพ "คับแคบ" กล่าวคือ กว้างแค่ 14 เมตร อีกทั้งยังมีจุดที่สำคัญอยู่ด้วยกัน 3 จุดนั่นคือ โรงพยาบาลหาดใหญ่ 1 สนามกีฬากลางจิระนคร และ แยกโรงปูน ซึ่งแยกโรงปูน จะเป็นจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า "ชานเมือง" สายสีแดงหาดใหญ่ เส้นที่จะวิ่งไปสงขลา (เส้นทางรถไฟสายเก่า)
และด้วยความสำคัญของเส้นทางนี้ ดังที่กล่าวมาข้างต้น จึงจำเป็นต้องออกแบบเสา และคานวิ่งของรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีม่วง ให้เป็นลักษณะคล้ายรูปตัว A เพื่อคร่อมถนนทั้งเส้น และจะมีการออกแบบเผื่อทางเดินลอยฟ้า หรือ skywalk เอาไว้ใต้ระบบโมโนเรลด้วย ตามรูปข้างบน ซึ่งความสำคัญของระบบ skywalk นั้น ผู้เขียนได้อธิบายเอาไว้แล้วในบทความที่ 19
ในรูปข้างบน จะแสดงโครงสร้างเสา และคานวิ่งรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีม่วงคล้ายรูปตัว A ที่จะมี "3 ประสาน" คือ ระบบรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีม่วง ทางเดินลอยฟ้า หรือ skywalk และสะพานลอยคนข้ามถนน ซึ่งผู้เขียนได้อธิบายความสำคัญของ 3 ประสานเอาไว้แล้วในบทความที่ 19 และโครงสร้างตามรูปข้างบนนี้จะสร้างไว้ที่ วงเวียนน้ำพุถึงแยกโรงปูน
ตอนต่อไปคลิกที่นี้......................
ตอนที่ 23 หาดใหญ่สงขลากับหมุดการท่องเที่ยวระดับโลก - สายสีม่วงช่วงวงเวียนน้ำพุ-แยกโรงปูน
ตอนที่ 23 หาดใหญ่สงขลากับหมุดการท่องเที่ยวระดับโลก - สายสีม่วงช่วงวงเวียนน้ำพุ-แยกโรงปูน
หากต้องการให้ "หาดใหญ่สงขลา" กลายเป็นหมุดหมายการท่องเที่ยวระดับโลกเช่นเดียวกับ ภูเก็ตหรือเชียงใหม่ได้นั้น "ทะเลสาบสงขลา" คือคีย์เวิร์ดที่สำคัญที่สุด เรียกได้ว่าเป็นจุดชี้เป็นชี้ตายเลยทีเดียว ดังนั้นการสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานเข้าไปเพื่อเชื่อมทะเลสาบ เช่น ระบบถนนสายหลัก หรือระบบการเดินทางขนส่งอย่างเช่น ระบบรถไฟฟ้าโมโนเรลจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งผู้เขียนได้ระบุให้เป็น รถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีม่วง ซึ่งจะมีการเชื่อมต่อกับ "แกนกลาง" ของเมืองหาดใหญ่ ที่จะมี สนามบินนานาชาติหาดใหญ่ และสถานีรถไฟกลางหาดใหญ่ อยู่ในแกนกลางของเมืองนี้ด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว และนักอนุรักษ์จากทั่วโลก เพื่อเดินทางเข้าสู่สถานีเลสาบที่ 1 ของทะเลสาบได้โดยตรง เพื่อเริ่ม "ชาเลนจ์" ที่สำคัญ บริเวณแหลมโพธิ์ ที่กำหนดให้เป็น "สถานีเลสาบที่ 1"
แต่ทว่าด้วยลักษณะทาง "ภูมิเศรษฐศาสตร์" ของเมืองหาดใหญ่ ที่เป็นลักษณะ "1แกน 3 ปีก" จึงเลี่ยงไม่ได้เลย ที่เส้นทางรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีม่วงจะต้องวิ่งผ่าน "ถนนนิพัทธ์สงเคราะห์ 1" หรือเส้นวงเวียนน้ำพุถึงแยกโรงปูน ที่มีลักษณะทางกายภาพ "คับแคบ" กล่าวคือ กว้างแค่ 14 เมตร อีกทั้งยังมีจุดที่สำคัญอยู่ด้วยกัน 3 จุดนั่นคือ โรงพยาบาลหาดใหญ่ 1 สนามกีฬากลางจิระนคร และ แยกโรงปูน ซึ่งแยกโรงปูน จะเป็นจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า "ชานเมือง" สายสีแดงหาดใหญ่ เส้นที่จะวิ่งไปสงขลา (เส้นทางรถไฟสายเก่า)
และด้วยความสำคัญของเส้นทางนี้ ดังที่กล่าวมาข้างต้น จึงจำเป็นต้องออกแบบเสา และคานวิ่งของรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีม่วง ให้เป็นลักษณะคล้ายรูปตัว A เพื่อคร่อมถนนทั้งเส้น และจะมีการออกแบบเผื่อทางเดินลอยฟ้า หรือ skywalk เอาไว้ใต้ระบบโมโนเรลด้วย ตามรูปข้างบน ซึ่งความสำคัญของระบบ skywalk นั้น ผู้เขียนได้อธิบายเอาไว้แล้วในบทความที่ 19
ในรูปข้างบน จะแสดงโครงสร้างเสา และคานวิ่งรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีม่วงคล้ายรูปตัว A ที่จะมี "3 ประสาน" คือ ระบบรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีม่วง ทางเดินลอยฟ้า หรือ skywalk และสะพานลอยคนข้ามถนน ซึ่งผู้เขียนได้อธิบายความสำคัญของ 3 ประสานเอาไว้แล้วในบทความที่ 19 และโครงสร้างตามรูปข้างบนนี้จะสร้างไว้ที่ วงเวียนน้ำพุถึงแยกโรงปูน
ตอนต่อไปคลิกที่นี้......................