ทริปลงภาคใต้ครั้งแรก ปีน "เขาเหมน" ขี่รถเที่ยว "หาดขนอม-สิชล" "น้ำตกพรหมโลก" นครศรีธรรมราช
    >> มาถึงเรื่องเล่า EP.10 กันแล้วทุกคน สำหรับใครที่ยังไม่ได้เข้าไปอ่าน EP. ก่อนหน้า สามารถเข้าไปรับชม comment และฝากติดตามเป็นกำลังใจให้กระผมได้เลยครับ
    >> เรื่องนี้มันเริ่มขึ้นเมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคม ซึ่งจะเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนที่เป็นเหมือนช่วง low season ในการท่องเที่ยวของผมเช่นกัน เพราะมันร้อนจนไม่รู้จะออกไปเที่ยวไหนเลย จนผมไม่มีแผนที่จะไปเที่ยวไหน และจะหยุดรอให้ถึงหน้าฝนค่อยว่ากันอีกที แต่วันหนึ่งขณะที่ผมไถ facebook อยู่ ด้วยความที่ผมติดตามเพจของอุทยานไว้เยอะมาก ก็เพจโพสหนึ่งที่สะดุดตาผมขึ้นมา คือ อุทยานแห่งชาติน้ำตกโยง มีเปิดเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะไกลยอดเขาเหมน จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งอันที่จริงเขาก็เปิดตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม แล้วละครับ และจะเปิดให้เดินไปถึง 30 มิถุนายน
    >> ผมเองก็ยังไม่ได้คิดที่จะลงป่าใต้ตอนนี้หรอก เพราะยงทำใจกับทากของปากใต้ไม่ได้ แต่พอไปศึกษาข้อมูลดูแล้ เขาบอกว่าที่นี่ไม่มีทาก และจากที่สอบถามเพื่อนๆ พี่ๆ ที่เคยไปภาคใต้เขาบอกว่าช่วงเดืนเมษายนทางใต้จะมีฝนตก และไม่ร้อนเหมือนทางภาคเหนือ อีสาน หรือภาคกลางที่ผมอยู่ตอนนี้ มันก็เลยเป็นว่า แผนเที่ยวผมเกิดขึ้นมาทันที
    >> หน้าเพจของ อุทยานแห่งชาติน้ำตกโยง เข้าไปติดตามกันได้ครับ อุทยานแห่งชาติน้ำตกโยง - Nam Tok Yong National Park

   >> ผมก็เลยโทรไปถามข้อมูลที่เบอร์โทร 075-809-277 และ 063-343-4751 เพื่อสอบถามรายละเอียดในการสมัคร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่แนะนำให้ inbox สอบถามทางเพจของอุทยานได้เลยจะมีแอดมินคอยดูเลยให้ข้อมูล
   >> ซึ่งผมก็ได้ inbox เข้าไปสอบถาม ซึ่งไปมาๆ ก็ลงชื่อสมัครไปเฉยเลย555 ได้โปรแกรมเที่ยวแล้ว มีกำหนด 2 วัน 1 คืน ที่ เขาเหมน ในวันที่ 5-6 เมษยน มีรายละเอียดค่าใช้จ่าย ดังนี้ ซึ่งเราต้องโอนเงินมัดจำหลังลงชื่อจอง 300 บาท
   >> แต่สำหรับตัวผมไปคนเดียวไม่มีใครให้หาร แต่อันที่จริงทางอุทยานเขาก็คิดค่าใช้จ่ายหารให้เลย เพราะค่าใช้จ่ายที่ผมเสียเพิ่มวันไปถึงเพียง 330 บาท และค่าธรรมเนียมเข้าอุทยาน 20 บาท ค่าประกันอุบัติเหตุ 10 บาท รวมแล้วค่าใช้จ่ายทั้งหมด 690 บาท ไม่รวมค่าเดินทาง ค่ากินอื่น และค่าลูกหาบ บอกเลยว่าค่าใช้จ่ายถูกมากกว่าหลายๆ ที่ผมไปมาเลย



   >> ส่วนเรื่องรถที่จะพาผมเดินทางจากสถานีรถไฟ หรือ บขส. ไปยังจุดลงทะเบียนเดินในวันเดินทางนั้น ทางแอดมินแจ้งว่า เดี๋ยวจะให้เบอร์โทรรถรับ-ส่ง วันใกล้เดินทาง และให้เราตกลงราคากับรถรับ-ส่งอีกที ซึ่งผมตองเดินทางไปถึงที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เวลาประมาณ 6-7 โมง
   >> หลังจากได้กำหนดการแล้ว ต่อจากนั้นก็ได้เวลาจองสิ่งอื่นๆ ต่อเลย ซึ่งไหนๆ ไปถึงนครศรีธรรมราชจะให้เที่ยวแค่ 2 วัน แล้วกลับคงไม่คุ้มแน่นอน ผมเลยตั้งใจว่าจะขี่รถมอเตอร์ไซค์เที่ยวไล่ประทับตราอุทยานแห่งชาติต่อไปด้วยเลย โปรแกรม 3 วัน 2 คืน 1 คน จึงเกิดขึ้น ผมวางแผนการเดินทางไว้ว่า จะนั่งรถไฟขาไป และกลับรถทัวร์ ว่าแล้วก็ไปกันไปเริ่มจองกันดีกว่า
       > จองรถไฟ ผมทำการจองตั๋วรถไฟออนไลน์ผ่านทาง จองตั๋วรถไฟออนไลน์ โดยผมเลือกจอง รถด่วน ขบวนที่ 83 เลือกแบบรถไฟนั่ง ชั้น 2 พัดลม ออกเดินทางเวลา 18.50 น. ถึงสถานีรถไฟชุมทางทุ่งสง ประมาณ 06.54 น.
       > จองรถทัวร์ ในวันขากลับ ผมทำการจองผ่าน บขส.999 โดย @Line: @bus999 หรือโทร 095-4546571 ต่อ 2 ซึ่งขึ้นรถที่ บขส.นครศรีธรรมราช เวลา 16.00 น. ในราคา 740 บาท
       > จองรถมอเตอร์ไซค์เช่า โดยผมทำการเช่ารถมอเตอร์ไซค์กับร้าน Motorbike สอบถามโทร 087-7991401, 0942417306 หรือ @Line: @moto.bike ซึ่งเขาจะมีรถให้เช่าหลายรุ่นราคาต่างกัน โดยทำการจองรถ Honda Click 150i ราคา 400 บาท/วัน เป็นเวลา 1 วัน กับอีก 2 ชั่วโมง เพราะวันแรกผมน่าจะได้รับรถประมาณบ่าย 2 หรือ บ่าย 3 เนื่องจากลงมาจากเขาเหมน และเดินทางจาก อ.ทุ่งสง ไปที่ อ.เมืองนครศรีธรรมราช และคืนรถประมาณ 16.00 น. ของอีกวัน เพื่อนั่งรถกลับ เขาเลยคิดเพิ่ม 50 บาท/ชั่วโมง เป็น 100 บาท มีค่ารับ-ส่งรถที่ บขส.นครศรีธรรมราช ขาละ 50 บาท เป็น 100 บาท (เนื่องจากผมไม่อยากไปรับรถที่ร้าน ซึ่งก็ต้องเสียค่านั่งรถไปที่ร้านอยู่ดี) และมีค่ามัดจำ 1000 บาท รวมเป็น 1600 บาท แต่ต้องมัดจำล่วงหน้า 300 บาท เพื่อจองรถไว้ก่อน ส่วนที่เหลือไปจ่ายเพิ่มตอนรับรถ
   >> ตอนแรกมีแผนเดินทางไปเที่ยวคนเดียว แต่หลังจากที่ผมจองทุกอย่างเสร็จผ่านมาได้ประมาณ 10 วัน พี่ที่ทำงานเดียวกันที่ไปเที่ยวด้วยกันบ่อยๆ พี่อุ้ม ก็มาถามผมว่าวันหยุดผมไปไหน ผมเลยบอกจะไปปีนเขาเหมน ซึ่งพี่เขาดันอยากไปด้วยอะสิ ผมเลยต้องทักไปถามแอดมินเพื่อขอสมัครเพิ่มอีก 1 คน แต่ผลปรากฏว่า เต็ม อดอะสิครับ แต่พี่เขาก็ยังอยากไปเที่ยวนครศรีธรรมราชด้วย และยังได้พี่อีก 1 คน มาเพิ่มเป็นแนวรวม พี่เปิ้ล ซึ่งคนนี้ไม่ใช่สายเดินป่า แต่ก็ไปเที่ยวด้วยกันบ่อยๆ เช่นกัน ผมเลยต้องทำการจองตั๋วรถไฟเพิ่ม ซึ่งก็ไม่ได้รอบขบวนเดียวกันเพราะเต็ม เลยต้องจองรอบ 2 ทุ่มให้ จองรถทัวร์ให้ซึ่งดีที่ได้รอบเดียวกัน จองมอเตอร์ไซค์เช่าให้จากร้านเดียวกัน และต้องจองบ้านพักอุทยานเพิ่ม ซึ่งตอนแรกผมว่าจะกางเต็นท์ โดยเรามีแผนว่าจะไปพักกันที่อุทยานแห่งชาติขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้ ที่ อ.สิชล
       > จองบ้านพัก ผมทำการจองห้องพักราคา 1000 บาท พักได้ 2 คน แต่เราก็พักได้ 3 คนสบาย จองบ้านพักอุทยาน
   >> โดยเรามีโปรแกรมว่า ผมจะไปขึ้นเขาเหมน ส่วนพี่อีก 2 คน จะไปลงรถไฟที่สถานีรถไฟนครศรีธรรมราช และรับรถมอเตอร์ไซค์เช่าก่อน เพื่อเดินทางเที่ยวนครศรีธรรมราชรอผม และเราจะไปเจอกันในเย็นวันที่ 2 ที่ อุทยานแห่งชาติขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้ นั่นเลย
   >> เล่ารายละเอียดมาเยอะละ เบื่อแล้ว ไปเดินทางกันดีกว่าเนาะ5555
   >> จัดกระเป๋าก่อนเด้อพี่น้อง ทั้งเดินป่า ทั้งขี่รถเที่ยว จะเอาอะไรไปบ้างละทีนี้ หมวกกันน็อคก็ต้องเอาไป จะเก็บไว้ไหนดีนะ ใส่ขึ้นเขาไปเลยด้วยได้ไหม555 ที่จริงรถเช่าก็มีให้แหละ แต่ๆ ใช้ร่วมกันเป็น 100 คน เอาไปเองดีกว่าเนาะ และไม่รู้หมวกใส่กันอุบัติเหตุ หรือกันพี่ ตร. นะ ดูเบาะเบาเกิ๊น ไอ้หมวกกันน็อคสีเหลืองๆ อะ


   >> เย็นวันที่ 4 เมษายน มาถึงไวเหมือนโกหก ผมเลิกงานตอน 5 โมงเย็น รีบกลับห้องพักอาบน้ำทันที เพราะมีเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง กับ 50 นาที ในการเดินทางไปขึ้นรถไฟที่ สถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ ซึ่งผมต้องเดินทางไปใช้เวลาทั้ง นั่งรถไปสถานี BTS ต่อ BTS ไปลงสถานีหมอชิต และต่อ MRT ไปสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ รวมๆ เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที กับอาบน้ำเก็บของเดินทางสัก 20 นาที ก็จะมีเวลาชิลล์ๆ รอรถไฟออก 20 นาที
   >> แต่เหมือนผมจะชิลล์เกินไปหน่อย กว่าจะไปขึ้น BTS ก็ปาเข้าไปตอน 17.50 น. แต่ตอนนั้นใจยังนิ่ง จนความร้อนรนเริ่มเกิดขึ้นเมื่อผมนั่งไปจนถึงช่วงสถานีพร้อมพงษ์ ซึ่งเป็นเวลาประมาณ 18.30 น. แล้ว จากที่ผมคำนวณเวลาดูผมต้องใช้เวลาในการเดินทางไปถึงสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ราวๆ 30-40 นาที เลย อ้าว!! งานนี้ไม่ทัน ได้ตกรถไฟแน่ๆ ทริปล่มแน่ๆ ทำไงดีๆ เกิดอาการร้อนไปทั้งตัว เหงื่อออกทั้งๆ ที่อากาศเย็นมาก หัวจะปวดเลย ชิลล์ๆ ไหมละ
   >> สิ่งแรกที่ผมคิดออก โทรไปถามการรถไฟก่อนเลย เบอร์ 1690 คำแรกที่ถามคือ
       > ผม: รถไฟขบวน 83 ออกกี่โมงครับ (ทั้งๆ ที่รู้แหละว่า 18.50 น.) รถไฟออกเลทไหมครับ
       > จนท.: รถไฟออก 18.50 น. คะ ออกตรงเวลา (ผมฟังแล้วรู้สึกโล่งขึ้นเยอะ จะบ้าเหรอ555)
       > ผม: พอดีผมดูจากเวลาแล้วน่าจะไม่ทันรถไฟ พอมีวิธีการแก้ไขได้ไหมครับ
       > จนท.: ต้องใช้วิธีลัดขึ้นที่ สถานีรถไฟบางบำหรุ หรือสถานีรถไฟนครปฐมดูนะคะ มีโอกาสทัน รถไฟจะถึงสถานีบางบำหรุประมาณ 19.01 น.
   >> โอ้ ถ้าผมพลาดสถานีบางบำหรุ นี้ต้องนั่งรถไปสถานีนครปฐมเลยเหนอเนี้ย และถ้าไม่ทันอีกนี้จบเกมส์เลย ไปไกลด้วย
   >> หลังวางสายเจ้าหน้าที่ผมก็รีบดูเส้นทาง และวิธีการเดินทางไปสถานีบางบำหรุทันที ซึ่งลักษณะก็คือ ทางรถไฟจะย้อนกลับมาใกล้กับสถานี BTS อนุเสาวรีย์ชัย ใช้เวลาเดินทางจากอนุเสาวรีย์ชัยไปประมาณเกือบ 20 นาที ทันแบบเส้นยาแดงผ่าแปด ซึ่งผมวางแผนว่าจะต่อรถ taxi ไป แต่ระหว่างรอถึงสถานีอนุเสาวรีย์ชัย ผมก็หาวิธีการอื่นๆ สำรองด้วยเผื่อพลาดอีก ทั้งรถทัวร์ซึ่งรอบเดินทางก็จะไม่ทันเวลาลงทะเบียนขึ้นเขาเหมน ทั้งกลับไปห้องขับรถไปเองเลยซึ่งก็ถ้าจะขนาดนั้นยกเลิกไปเทียวอื่นดีกว่า ส่วนจะต่อรถไปลัดที่สถานีนครปฐมผมก็ขอผ่านดีกว่า
    >> เวลาประมาณ18.50 น. ผมก็มาถึงที่อนุเสาวรีย์ชัย ผมรีบวิ่งลงจากสถานี BTS อย่างเร็วเหมือนวัวหลุดหาย เพื่อไปต่อรถตรงท่ารถเมย์ฝั่ง รพ.ราชวิถี ซึ่งก่อนลงจากสะพานลอยผมแอบมองไปเห็นคิวมอเตอร์ไซค์วินตรงตีนสะพาน ผมนี่ยิ้มเลยเพราะถ้าดูจากเวลาที่เหลือถ้านั่ง taxi สภาพรถติดแบบนี้ไม่ทันแน่ ผมวิ่งเข้าหาวินอย่างไว บอกไปสถานีรถไฟบางบำหรุ แบบนั่งรถมอเตอร์ไซค์ทุลักทุเลมากๆ หลังสะพายกระเป๋า มือซ้ายถือหมวก มือขวาหิ้วกระเป๋า และถือโทรศัพท์ เพราะพี่วินก็ดันไม่แน่ใจว่าที่จะพาผมไปส่งใช่สถานีรถไฟบางบำหรุไหม แต่ก็บอกว่าน่าจะไปถูก แต่ผมก็กลัวจะไม่ใช่เลยเป็น GPS บอกทางพี่เขาไปด้วยเลยเอาชัวร์
    >> ซึ่งผมคิดถูกที่เลือกนั่งวิน เพราะรถติดมากๆ แถมมีปิดทำถนนบางช่วงวิ่งได้เลนเดียว พี่เข้าก็ซิ่งได้ใจเลย ซอกนั้นซอกนี้จนกลัวหัวเข่าจะถูรถคนอื่นเขาเอาสักคัน แต่ผมกลับรู้สึกดีไม่กล้าโว้ยพี่เขาเลย เพราะในใจนึก พี่รีบได้อีกนะ ผมก็รีบกว่าพี่อีก ดูเวลาเป็นนาทีเลยผมตอนนี้
    >> ในที่สุดเวลาประมาณ 19.07 น. ผมก็มาถึง เินเวลาแล้ว 6 นาที ทันไหมเนี้ย รีบจ่ายเงิน และวิ่งเข้าสถานีอย่างไว้ และถาม จนท.ที่นั่งตรงหน้าประตูทางเข้าสถานีว่ารถไฟขบวน 83 ออกไปยังครับ สรุปคือ ยังมาไม่ถึงเลย ผมนี่รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันที เหมือนอยู่ภูเขาออกจากอก ก่อนที่จะเดินเข้าไปวางของที่เก้าอี้นั่ง




   >> แต่หลังจากนั่งไปได้สัก 10 นาที รถไฟก็ยังไม่มา ซึ่งตามเวลารถไฟควรจะมาถึง และออกไปก่อนที่ผมจะมาถึงที่นี่ด้วยซ้ำ ผมเลยเดินไปถามที่จุดซื้อตั๋ว เพื่อคามแน่ใจ ซึ่ง จนท.ห้องจำหน่ายตั๋วก็แจ้งว่ารถไฟยังไม่ออกจากสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ เดี๋ยวรถไฟมาถึงจะมีประกาศบอกอีกที ซึ่งพอผมกลับมานั่งทาง จนท.ก็ประกาศบอกว่าขบวนที่ 83 รถไฟล่าช้า ซึ่งในความโชคร้ายที่ผมล่าช้า แต่ก็มีโชคดีที่รถไฟล่าช้ารอผมเช่นกัน555

   >> และหน้าจอแสดงตารางเวลารถไฟก็ขึ้นเวลาดีเลย์ของขบวน 83 จะมาถึงเวลา 19.40 น.