ขอให้กระทู้นี้เป็นกระทู้เตือนใจ กระทู้คำแนะนำ กระทู้คลายกังวล สำหรับคนที่มีความเสี่ยงในตอนนี้นะครับ
ผมเข้าใจคนที่กังวลมากๆ มันเหมือนชีวิตแทบจะขาดใจ แต่ละวันมันผ่านไปนานมาก ทำใจให้สบายก็ยาก เพราะมันกังวล ทำได้แค่รอเวลา ผมเลยอยากตั้งกระทู้นี้ให้กับทุกคน เพื่อจะได้อ่านข้อมูลตั้งแต่แรกเริ่ม ไม่ว่าข้อใดข้อหนึ่งอาจจะเกิดกับชีวิตคุณ ขอให้ประสบการณ์ผมได้ช่วยคุณไม่มากก็น้อยนะครับ
1. หากใครที่รู้ตัวว่ามีความเสี่ยง และสงสัยว่าตัวเองเสี่ยงจะติดไหม ไม่ต้องคิดเองครับ รีบไปหาหมอเพื่อขอรับ PEP (ยาต้านฉุกเฉิน) ภายใน 72 ชม อย่าชะล่าใจเลยครับ อย่าคิดว่ามันไม่น่าติดหรอก เรารู้อยู่แก่ใจว่าเสี่ยงไหม อย่าเข้าข้างตัวเองครับ แม้ว่าจะเป็นเคสเสี่ยงติด 1% ก็ตาม ขอให้ไปหาหมอครับ คลินิกนิรนาม คลินิกต่างๆ ในกทม. หรือตจว. ให้เป็นหน้าที่หมอวินิจฉัยครับ เจ้าหน้าที่ทุกคนน่ารักและยินดีช่วยเรามากๆ หน้าที่เราคือรับยาแค่นั้นครับ แล้วคุณจะรู้ว่าโอกาสไม่ได้มีมาบ่อยนะๆครับ
2. แนะนำให้ทุกคนไปตรวจ HIV เป็นประจำ คนไทยได้สิทธิ์ฟรี 2 ครั้ง/ปี เรามีเพศสัมพันธ์กับแฟนกับคนรักก็ไปตรวจได้ เพราะเราไม่รู้อนาคตจะเป็นอย่างไร ใช้สิทธิ์เถอะครับ
3. ต่อไปเราจะพูดถึงช่วงรับยา PEP มาทานนะครับ ช่วงนี้ถ้าเรามีคำถามสงสัยอะไร ให้ถามหมอครับ ถามเจ้าหน้าที่ของคลินิกหรืออะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นผลข้างเคียงของยา หรืออาการ HIV ในระยะเฉียบพลัน อย่าปล่อยละเลยนะครับ ดูข้อมูลจาก google ได้ แต่อย่ามากครับ บางข้อมูลไม่อัพเดท บางเรื่องมันไม่ได้เป็นเหมือนกันทุกคน และเราจะจิตตกครับ
4. ในการกินยา PEP ขอให้กินตรงเวลานะครับ ตั้ง alarm ไว้ อย่าละเลยนะครับ และดูว่าเค้าห้ามกินวิตามินอะไร และรวมไปถึงอาหารที่มีวิตามินนั้นๆ สูง เพียงแค่ 28-30 วันในการกิน งดเถอะครับ เพื่อความสบายใจของเรา และยาจะได้มีประสิทธิภาพเต็มที่ ผมเผลอไปกินพวกขนมโฮลวีตที่วิตามินสูงมาก ในช่วงหน้า 6 หลัง 2 ของการกินยา (และพอมีอาการ ผมโทษตัวเองหนักเลยครับ ว่าเรารู้น้อยไป)
5. สำหรับคนที่กินยาแล้วกังวล ผมบอกเลยครับผมเจอมาเหมือนกันครับ หลังเสี่ยงเข้าอาทิตย์ที่ 3-4 อาการผมมาเลยครับ เป็นไข้อุ่นๆ ลิ้นเป็นแผล ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและตามข้อแขน - ขา มีต่อมน้ำเหลืองโตใต้คอ มีรอยจ้ำแดงๆที่ขา ท้องเสีย ถ่ายเหลว และมีเหงื่อออกตอนกลางคืน มาครบเลยใช่ไหมล่ะครับ เครียดจนโทรไปปรึกษา1663 ร้องไห้ทุกวัน ตัดพอชีวิต แม้กระทั้งเตรียมทำใจแล้วครับว่าเราทำพลาดเอง ต้องยอมรับมันให้ได้ (สำคัญระหว่างกิน pep อย่าเพิ่งมีความเสี่ยงเพิ่มเลยครับ อย่าเพิ่งเพิ่มปัญหาอีกเลยครับ แค่เดือนหนึ่งอดทนหน่อยนะครับ)
6. ผมตรวจหลังเสี่ยง 1 เดือน และ 3 เดือน เรียบร้อยครับ ผลตรวจเป็นลบทั้ง 2 ครั้งครับ หมอปิดเคสแล้วครับ ไม่ว่าจะด้วยยา pep หรือไม่ติดตั้งแต่แรก แต่ชีวิตหลังจากนี้เราได้มุมมองโลกเพิ่มมากขึ้นเลยครับ
7. พอไปย้อนดูอาการต่างๆ ที่เป็น อาจจะมาจากอาการเครียด ความวิตกกังวลครับ ผมให้หมอจับต่อมน้ำเหลือง เค้าบอกไม่ได้โต เราผอมมันเลยมีลักษณะแบบนี้ได้ เรื่องปวดข้อ ก็อาจจะผมอายุ 30แล้ว และช่วงนั้นผมออกกำลังกายหนักมาก ส่วนอื่นๆ ก็น่าจะเกิดจากอาการเครียดไปเอง จิตสั่งกาย ตอนนี้ก็ดีขึ้นมาแล้วครับ
8. สำหรับคนที่เสี่ยงหลังจากนี้ หมอแนะนำให้รับ prep นะครับ สามารถทานตลอดได้เลยถ้าเราเที่ยวบ่อย เสี่ยงถี่ๆ หรือมีเป็นแบบ on-demand ด้วย คือเลือกกินช่วงที่เราจะเสี่ยงเท่านั้นก็ได้ (อันนี้ผมแนะนำ และมองว่ามันดีมากเลยครับ) ไปปรึกษาหมอได้เลยครับ อย่าอายครับ ความอายไม่คุ้มกับการที่ต้องมาทนทุกข์ทรมานแบบนี้
9. สำหรับใครที่เครียดอยู่ อาการทั้งหมดไม่สามารถบอกเราได้ครับ เราสังเกตได้ แต่ให้คิดว่าผลที่เราจะรู้จริงๆ คือมาจากการเจาะเลือดเท่านั้นครับ ช่วงเวลาที่รอ อย่าให้เสียเปล่านะครับ ออกกำลังกาย กินอาหารที่มีประโยชน์ รักคนรอบข้างเยอะๆ เข้าวัด สวดมนต์ ทำบุญ อุทิศส่วนบุญให้สังขารตัวเอง (ผมได้ยินพระท่านหนึ่งเทศน์ให้กับอีกคนฟังครับ) และเจ้ากรรมนายเวรครับ จิตเราจะรู้สึกดีขึ้น และอย่างน้อยเราก็ได้ทำทุกอย่างครบทั้งทางโลกและทางธรรมแล้ว ผลที่เกิดขึ้นเราจะได้ไม่เสียใจภายหลัง
10. ใครที่สุดท้าย มีความเสี่ยงและติด HIV ไปแล้ว ผมขอให้กำลังใจทุกคนนะครับ ตอนนี้มียาต้านที่ทำให้เกิดเป็น u=u แล้ว คุณทุกคนเก่งมากๆ คุณคือมนุษย์ที่เก่งและมีความสุขบนโลกใบนี้ครับ
11. ผมยินดีตอบหลังไมค์นะครับ หรือใครเม้นท์ถามอะไรได้หมดเลยครับ จากความกังวลผมทั้งคุยกับ chatgpt หาข้อมูลเอง ถามเจ้าหน้าที่ และหมอ ผมพร้อมเป็นเพื่อนคลายกังวลทุกๆคน หลังจากรอดครั้งนี้ ผมได้บทเรียนชีวิตครั้งใหญ่ เลยอยากจะ contribute อะไรให้กับสังคมบ้าง แค่ไม่กี่คน ผมก็พร้อมทำเต็มที่ครับ
12. ข้อสุดท้าย ขอให้ทุกคนรอดปลอดภัย มีสติอยู่กับตัวเอง และสุขภาพแข็งแรงทั้งกายและใจ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขนะครับ
แชร์ประสบการณ์เสี่ยงติด HIV เพื่อเป็นประสบการณ์ให้กับทุกคนที่มีความเสี่ยงในตอนนี้ครับ
ผมเข้าใจคนที่กังวลมากๆ มันเหมือนชีวิตแทบจะขาดใจ แต่ละวันมันผ่านไปนานมาก ทำใจให้สบายก็ยาก เพราะมันกังวล ทำได้แค่รอเวลา ผมเลยอยากตั้งกระทู้นี้ให้กับทุกคน เพื่อจะได้อ่านข้อมูลตั้งแต่แรกเริ่ม ไม่ว่าข้อใดข้อหนึ่งอาจจะเกิดกับชีวิตคุณ ขอให้ประสบการณ์ผมได้ช่วยคุณไม่มากก็น้อยนะครับ
1. หากใครที่รู้ตัวว่ามีความเสี่ยง และสงสัยว่าตัวเองเสี่ยงจะติดไหม ไม่ต้องคิดเองครับ รีบไปหาหมอเพื่อขอรับ PEP (ยาต้านฉุกเฉิน) ภายใน 72 ชม อย่าชะล่าใจเลยครับ อย่าคิดว่ามันไม่น่าติดหรอก เรารู้อยู่แก่ใจว่าเสี่ยงไหม อย่าเข้าข้างตัวเองครับ แม้ว่าจะเป็นเคสเสี่ยงติด 1% ก็ตาม ขอให้ไปหาหมอครับ คลินิกนิรนาม คลินิกต่างๆ ในกทม. หรือตจว. ให้เป็นหน้าที่หมอวินิจฉัยครับ เจ้าหน้าที่ทุกคนน่ารักและยินดีช่วยเรามากๆ หน้าที่เราคือรับยาแค่นั้นครับ แล้วคุณจะรู้ว่าโอกาสไม่ได้มีมาบ่อยนะๆครับ
2. แนะนำให้ทุกคนไปตรวจ HIV เป็นประจำ คนไทยได้สิทธิ์ฟรี 2 ครั้ง/ปี เรามีเพศสัมพันธ์กับแฟนกับคนรักก็ไปตรวจได้ เพราะเราไม่รู้อนาคตจะเป็นอย่างไร ใช้สิทธิ์เถอะครับ
3. ต่อไปเราจะพูดถึงช่วงรับยา PEP มาทานนะครับ ช่วงนี้ถ้าเรามีคำถามสงสัยอะไร ให้ถามหมอครับ ถามเจ้าหน้าที่ของคลินิกหรืออะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นผลข้างเคียงของยา หรืออาการ HIV ในระยะเฉียบพลัน อย่าปล่อยละเลยนะครับ ดูข้อมูลจาก google ได้ แต่อย่ามากครับ บางข้อมูลไม่อัพเดท บางเรื่องมันไม่ได้เป็นเหมือนกันทุกคน และเราจะจิตตกครับ
4. ในการกินยา PEP ขอให้กินตรงเวลานะครับ ตั้ง alarm ไว้ อย่าละเลยนะครับ และดูว่าเค้าห้ามกินวิตามินอะไร และรวมไปถึงอาหารที่มีวิตามินนั้นๆ สูง เพียงแค่ 28-30 วันในการกิน งดเถอะครับ เพื่อความสบายใจของเรา และยาจะได้มีประสิทธิภาพเต็มที่ ผมเผลอไปกินพวกขนมโฮลวีตที่วิตามินสูงมาก ในช่วงหน้า 6 หลัง 2 ของการกินยา (และพอมีอาการ ผมโทษตัวเองหนักเลยครับ ว่าเรารู้น้อยไป)
5. สำหรับคนที่กินยาแล้วกังวล ผมบอกเลยครับผมเจอมาเหมือนกันครับ หลังเสี่ยงเข้าอาทิตย์ที่ 3-4 อาการผมมาเลยครับ เป็นไข้อุ่นๆ ลิ้นเป็นแผล ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและตามข้อแขน - ขา มีต่อมน้ำเหลืองโตใต้คอ มีรอยจ้ำแดงๆที่ขา ท้องเสีย ถ่ายเหลว และมีเหงื่อออกตอนกลางคืน มาครบเลยใช่ไหมล่ะครับ เครียดจนโทรไปปรึกษา1663 ร้องไห้ทุกวัน ตัดพอชีวิต แม้กระทั้งเตรียมทำใจแล้วครับว่าเราทำพลาดเอง ต้องยอมรับมันให้ได้ (สำคัญระหว่างกิน pep อย่าเพิ่งมีความเสี่ยงเพิ่มเลยครับ อย่าเพิ่งเพิ่มปัญหาอีกเลยครับ แค่เดือนหนึ่งอดทนหน่อยนะครับ)
6. ผมตรวจหลังเสี่ยง 1 เดือน และ 3 เดือน เรียบร้อยครับ ผลตรวจเป็นลบทั้ง 2 ครั้งครับ หมอปิดเคสแล้วครับ ไม่ว่าจะด้วยยา pep หรือไม่ติดตั้งแต่แรก แต่ชีวิตหลังจากนี้เราได้มุมมองโลกเพิ่มมากขึ้นเลยครับ
7. พอไปย้อนดูอาการต่างๆ ที่เป็น อาจจะมาจากอาการเครียด ความวิตกกังวลครับ ผมให้หมอจับต่อมน้ำเหลือง เค้าบอกไม่ได้โต เราผอมมันเลยมีลักษณะแบบนี้ได้ เรื่องปวดข้อ ก็อาจจะผมอายุ 30แล้ว และช่วงนั้นผมออกกำลังกายหนักมาก ส่วนอื่นๆ ก็น่าจะเกิดจากอาการเครียดไปเอง จิตสั่งกาย ตอนนี้ก็ดีขึ้นมาแล้วครับ
8. สำหรับคนที่เสี่ยงหลังจากนี้ หมอแนะนำให้รับ prep นะครับ สามารถทานตลอดได้เลยถ้าเราเที่ยวบ่อย เสี่ยงถี่ๆ หรือมีเป็นแบบ on-demand ด้วย คือเลือกกินช่วงที่เราจะเสี่ยงเท่านั้นก็ได้ (อันนี้ผมแนะนำ และมองว่ามันดีมากเลยครับ) ไปปรึกษาหมอได้เลยครับ อย่าอายครับ ความอายไม่คุ้มกับการที่ต้องมาทนทุกข์ทรมานแบบนี้
9. สำหรับใครที่เครียดอยู่ อาการทั้งหมดไม่สามารถบอกเราได้ครับ เราสังเกตได้ แต่ให้คิดว่าผลที่เราจะรู้จริงๆ คือมาจากการเจาะเลือดเท่านั้นครับ ช่วงเวลาที่รอ อย่าให้เสียเปล่านะครับ ออกกำลังกาย กินอาหารที่มีประโยชน์ รักคนรอบข้างเยอะๆ เข้าวัด สวดมนต์ ทำบุญ อุทิศส่วนบุญให้สังขารตัวเอง (ผมได้ยินพระท่านหนึ่งเทศน์ให้กับอีกคนฟังครับ) และเจ้ากรรมนายเวรครับ จิตเราจะรู้สึกดีขึ้น และอย่างน้อยเราก็ได้ทำทุกอย่างครบทั้งทางโลกและทางธรรมแล้ว ผลที่เกิดขึ้นเราจะได้ไม่เสียใจภายหลัง
10. ใครที่สุดท้าย มีความเสี่ยงและติด HIV ไปแล้ว ผมขอให้กำลังใจทุกคนนะครับ ตอนนี้มียาต้านที่ทำให้เกิดเป็น u=u แล้ว คุณทุกคนเก่งมากๆ คุณคือมนุษย์ที่เก่งและมีความสุขบนโลกใบนี้ครับ
11. ผมยินดีตอบหลังไมค์นะครับ หรือใครเม้นท์ถามอะไรได้หมดเลยครับ จากความกังวลผมทั้งคุยกับ chatgpt หาข้อมูลเอง ถามเจ้าหน้าที่ และหมอ ผมพร้อมเป็นเพื่อนคลายกังวลทุกๆคน หลังจากรอดครั้งนี้ ผมได้บทเรียนชีวิตครั้งใหญ่ เลยอยากจะ contribute อะไรให้กับสังคมบ้าง แค่ไม่กี่คน ผมก็พร้อมทำเต็มที่ครับ
12. ข้อสุดท้าย ขอให้ทุกคนรอดปลอดภัย มีสติอยู่กับตัวเอง และสุขภาพแข็งแรงทั้งกายและใจ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขนะครับ