
นี่คือก้าวสำคัญที่สั่นสะเทือนวงการวิทยาศาสตร์และมอบความหวังครั้งใหม่ให้ครอบครัวทั่วโลก! ในสหราชอาณาจักร ทารกสุขภาพดี 8 คนได้ถือกำเนิดขึ้นจากเทคโนโลยีเด็กหลอดแก้ว (IVF) สุดล้ำที่ใช้ DNA จากบุคคล 3 คน ได้แก่ พ่อ, แม่ และผู้บริจาคไข่เพศหญิง เทคนิคอันน่าทึ่งนี้ไม่เพียงแต่ให้กำเนิดชีวิตใหม่ แต่ยังสามารถหยุดยั้งการถ่ายทอดโรคร้ายทางพันธุกรรมที่เคยเป็นเหมือน "คำสาป" ส่งต่อจากแม่สู่ลูกได้สำเร็จ
หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมต้องใช้ DNA จาก 3 คน? เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับส่วนเล็กๆ ในเซลล์ของเราที่ชื่อว่า ไมโทคอนเดรีย (Mitochondria)
รู้จัก "โรงไฟฟ้าของเซลล์": ลองจินตนาการว่าเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายเรามี "โรงไฟฟ้า" เล็กๆ คอยผลิตพลังงานที่เรียกว่า ไมโทคอนเดรีย ซึ่งมี DNA เป็นของตัวเองแยกต่างหาก และเราได้รับไมโทคอนเดรียมาจากแม่เท่านั้น
เมื่อ "โรงไฟฟ้า" เสียหาย: ในผู้หญิงบางคน DNA ในไมโทคอนเดรียมีการกลายพันธุ์ ทำให้ "โรงไฟฟ้า" ทำงานผิดปกติ ไม่สามารถผลิตพลังงานได้เพียงพอ ส่งผลกระทบรุนแรงต่ออวัยวะที่ต้องการพลังงานสูง เช่น หัวใจ สมอง และกล้ามเนื้อ กลายเป็น โรคไมโทคอนเดรีย ที่รักษาไม่หายและถ่ายทอดสู่ลูกได้
ปฏิบัติการ "ย้ายบ้าน" DNA: เทคนิคนี้เรียกว่า การย้ายฝากโปรนิวเคลียส (Pronuclear Transfer) ขั้นตอนง่ายๆ คือ:
นำไข่จากแม่ (ที่มี "โรงไฟฟ้า" เสียหาย) และไข่จากผู้บริจาค (ที่มี "โรงไฟฟ้า" สมบูรณ์) มาปฏิสนธิกับอสุจิของพ่อในหลอดทดลอง
จากนั้น นักวิทยาศาสตร์จะ ย้ายเฉพาะนิวเคลียส (ซึ่งบรรจุ DNA หลักที่กำหนดลักษณะต่างๆ เช่น สีผม สีตา หน้าตา ของพ่อและแม่) ออกจากไข่ของแม่
นำนิวเคลียสนั้นไปใส่ในไข่ของผู้บริจาคที่ได้นำนิวเคลียสเดิมออกไปแล้ว
ผลลัพธ์คือตัวอ่อนที่ได้ DNA หลักทั้งหมดจากพ่อแม่ (ลูกจึงมีหน้าตาเหมือนพ่อแม่) แต่ใช้ "โรงไฟฟ้า" หรือไมโทคอนเดรียที่แข็งแรงสมบูรณ์จากผู้บริจาค
เท่านี้ก็สามารถตัดวงจรการถ่ายทอดโรคทางพันธุกรรมที่น่ากลัวนี้ได้สำเร็จ!
ความสำเร็จที่จับต้องได้และก้าวต่อไป
ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์ (NEJM) ยืนยันความสำเร็จครั้งนี้
ทารก 8 คน จากคุณแม่ 7 คน ถือกำเนิดขึ้นอย่างแข็งแรงสมบูรณ์และมีพัฒนาการตามเกณฑ์
ในทารกส่วนใหญ่ ตรวจไม่พบยีนกลายพันธุ์ที่ก่อโรค ส่วนที่ตรวจพบก็มีปริมาณน้อยมาก (ต่ำกว่า 16%) ซึ่งไม่น่าจะก่อให้เกิดอาการของโรคได้ (โดยทั่วไปต้องมีสูงกว่า 80%)
แม้จะมีปัญหาสุขภาพเล็กน้อยเกิดขึ้นกับทารก 3 คน (เช่น การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ) แต่ทีมแพทย์เชื่อว่า ไม่เกี่ยวข้องกับเทคนิคการบริจาคไมโทคอนเดรีย
ศาสตราจารย์เซอร์ ดั๊ก เทิร์นบูลล์ หนึ่งในทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล กล่าวว่า "ข่าวนี้นำความหวังครั้งใหม่มาสู่ผู้หญิงอีกมากมายที่มีความเสี่ยง พวกเธอจะมีโอกาสมีลูกที่เติบโตอย่างแข็งแรงปราศจากโรคร้ายนี้"
แม้ว่าเทคโนโลยีนี้จะยังถือเป็นการ "ลดความเสี่ยง" มากกว่า "ป้องกันได้ 100%" แต่ความสำเร็จครั้งนี้ถือเป็นแสงสว่างในอนาคตต่อไป & dinan dam
ปฏิวัติวงการแพทย์! ทลายคำสาปโรคทางพันธุกรรม กำเนิด 8 ทารกสุขภาพดีจาก 'พ่อแม่ 3 คน'
นี่คือก้าวสำคัญที่สั่นสะเทือนวงการวิทยาศาสตร์และมอบความหวังครั้งใหม่ให้ครอบครัวทั่วโลก! ในสหราชอาณาจักร ทารกสุขภาพดี 8 คนได้ถือกำเนิดขึ้นจากเทคโนโลยีเด็กหลอดแก้ว (IVF) สุดล้ำที่ใช้ DNA จากบุคคล 3 คน ได้แก่ พ่อ, แม่ และผู้บริจาคไข่เพศหญิง เทคนิคอันน่าทึ่งนี้ไม่เพียงแต่ให้กำเนิดชีวิตใหม่ แต่ยังสามารถหยุดยั้งการถ่ายทอดโรคร้ายทางพันธุกรรมที่เคยเป็นเหมือน "คำสาป" ส่งต่อจากแม่สู่ลูกได้สำเร็จ
หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมต้องใช้ DNA จาก 3 คน? เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับส่วนเล็กๆ ในเซลล์ของเราที่ชื่อว่า ไมโทคอนเดรีย (Mitochondria)
รู้จัก "โรงไฟฟ้าของเซลล์": ลองจินตนาการว่าเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายเรามี "โรงไฟฟ้า" เล็กๆ คอยผลิตพลังงานที่เรียกว่า ไมโทคอนเดรีย ซึ่งมี DNA เป็นของตัวเองแยกต่างหาก และเราได้รับไมโทคอนเดรียมาจากแม่เท่านั้น
เมื่อ "โรงไฟฟ้า" เสียหาย: ในผู้หญิงบางคน DNA ในไมโทคอนเดรียมีการกลายพันธุ์ ทำให้ "โรงไฟฟ้า" ทำงานผิดปกติ ไม่สามารถผลิตพลังงานได้เพียงพอ ส่งผลกระทบรุนแรงต่ออวัยวะที่ต้องการพลังงานสูง เช่น หัวใจ สมอง และกล้ามเนื้อ กลายเป็น โรคไมโทคอนเดรีย ที่รักษาไม่หายและถ่ายทอดสู่ลูกได้
ปฏิบัติการ "ย้ายบ้าน" DNA: เทคนิคนี้เรียกว่า การย้ายฝากโปรนิวเคลียส (Pronuclear Transfer) ขั้นตอนง่ายๆ คือ:
นำไข่จากแม่ (ที่มี "โรงไฟฟ้า" เสียหาย) และไข่จากผู้บริจาค (ที่มี "โรงไฟฟ้า" สมบูรณ์) มาปฏิสนธิกับอสุจิของพ่อในหลอดทดลอง
จากนั้น นักวิทยาศาสตร์จะ ย้ายเฉพาะนิวเคลียส (ซึ่งบรรจุ DNA หลักที่กำหนดลักษณะต่างๆ เช่น สีผม สีตา หน้าตา ของพ่อและแม่) ออกจากไข่ของแม่
นำนิวเคลียสนั้นไปใส่ในไข่ของผู้บริจาคที่ได้นำนิวเคลียสเดิมออกไปแล้ว
ผลลัพธ์คือตัวอ่อนที่ได้ DNA หลักทั้งหมดจากพ่อแม่ (ลูกจึงมีหน้าตาเหมือนพ่อแม่) แต่ใช้ "โรงไฟฟ้า" หรือไมโทคอนเดรียที่แข็งแรงสมบูรณ์จากผู้บริจาค
เท่านี้ก็สามารถตัดวงจรการถ่ายทอดโรคทางพันธุกรรมที่น่ากลัวนี้ได้สำเร็จ!
ความสำเร็จที่จับต้องได้และก้าวต่อไป
ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์ (NEJM) ยืนยันความสำเร็จครั้งนี้
ทารก 8 คน จากคุณแม่ 7 คน ถือกำเนิดขึ้นอย่างแข็งแรงสมบูรณ์และมีพัฒนาการตามเกณฑ์
ในทารกส่วนใหญ่ ตรวจไม่พบยีนกลายพันธุ์ที่ก่อโรค ส่วนที่ตรวจพบก็มีปริมาณน้อยมาก (ต่ำกว่า 16%) ซึ่งไม่น่าจะก่อให้เกิดอาการของโรคได้ (โดยทั่วไปต้องมีสูงกว่า 80%)
แม้จะมีปัญหาสุขภาพเล็กน้อยเกิดขึ้นกับทารก 3 คน (เช่น การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ) แต่ทีมแพทย์เชื่อว่า ไม่เกี่ยวข้องกับเทคนิคการบริจาคไมโทคอนเดรีย
ศาสตราจารย์เซอร์ ดั๊ก เทิร์นบูลล์ หนึ่งในทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล กล่าวว่า "ข่าวนี้นำความหวังครั้งใหม่มาสู่ผู้หญิงอีกมากมายที่มีความเสี่ยง พวกเธอจะมีโอกาสมีลูกที่เติบโตอย่างแข็งแรงปราศจากโรคร้ายนี้"
แม้ว่าเทคโนโลยีนี้จะยังถือเป็นการ "ลดความเสี่ยง" มากกว่า "ป้องกันได้ 100%" แต่ความสำเร็จครั้งนี้ถือเป็นแสงสว่างในอนาคตต่อไป & dinan dam