รัสเซียเปิดตัวเครื่องบินขับไล่ SU-57M1 ในราคาเพียงครึ่งหนึ่งของ F-35

รัสเซียเปิดตัวเครื่องบินขับไล่ SU-57M1 ในราคาเพียงครึ่งหนึ่งของ F-35
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2025 บริษัท United Aircraft Corporation (UAC) ของรัสเซีย ได้เปิดตัวเครื่องบินรบ Su-57M1 อย่างเป็นทางการในรุ่นที่ได้รับการอัปเกรด ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่แสดงถึงความมุ่งมั่นของรัสเซียที่จะเสริมสร้างอิทธิพลในเวทีเครื่องบินรบยุคที่ 5 การประกาศครั้งนี้ถูกเปิดเผยโดย Sergei Bogdan นักบินทดสอบระดับปรมาจารย์ ในงานแถลงข่าวใหญ่ที่กรุงมอสโก โดยเขาได้แสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงหลากหลายด้านที่ออกแบบมาเพื่อให้แน่ใจว่าอุตสาหกรรมการบินของรัสเซียยังคงสามารถแข่งขันในด้านการครองน่านฟ้า การโจมตีอย่างแม่นยำ และการทำสงครามในอนาคตที่ต้องอาศัยโดรนเป็นหลัก

Su-57M1 หรือที่ NATO ตั้งรหัสเรียกว่า “Felon” คือการพัฒนาก้าวสำคัญของเครื่องบิน Su-57 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่มอสโกเคยใช้เป็นคำตอบของเครื่องบินรบสเตลท์จากชาติตะวันตกอย่าง F-22 Raptor และ F-35 Lightning II

Su-57M1 รุ่นล่าสุดได้รวมเอาการออกแบบโครงสร้างที่ลดการตรวจจับด้วยเรดาร์ (stealth air frame) ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่, เครื่องยนต์รุ่นใหม่, ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ผสานรวมเข้ากับระบบ และความสามารถในการปฏิบัติการร่วมกับ loyal wingman หรือเครื่องบินโดรนคู่หู ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการรักษาห่วงโซ่การโจมตี (kill chain) ให้มีประสิทธิภาพและยืดหยุ่นในสมรภูมิที่มีความเสี่ยงสูง


การออกแบบและคุณสมบัติทางกายภาพ

ด้วยขนาดความยาวประมาณ 14.8 เมตร, ความกว้างปีก 9.8 เมตร และความสูง 4.6 เมตร โครงสร้างที่ออกแบบใหม่ของ Su-57M1 ใช้สารประกอบขั้นสูงล่าสุด รวมถึงโพลิเมอร์, โครงสร้างรวงผึ้งอลูมิเนียม และคาร์บอนไฟเบอร์ วิธีการนี้มุ่งเน้นไปที่การลดน้ำหนักและการจัดการ Radar Cross Section (RCS) เพื่อให้เกิดความสมดุลที่เหมาะสมระหว่างการเป็นเครื่องบินสเตลท์กับสมรรถนะการบินที่ยอดเยี่ยม


ระดับการล่องหนที่แตกต่าง

RCS ของ Su-57M1 ถูกประมาณไว้ที่ 0.1–1 ตารางเมตร ซึ่งแตกต่างจาก RCS ที่ต่ำมากของ F-22 ที่คาดว่ามีเพียง 0.0001 ตารางเมตร ซึ่งการแลกเปลี่ยนเชิงกลยุทธ์นี้ได้ให้ความสำคัญกับความคล่องแคล่วและตัวเลือกการบรรทุกอาวุธที่ยืดหยุ่น เพื่อตอบสนองความต้องการในการปฏิบัติภารกิจที่ครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่ของรัสเซีย


ระบบอาวุธ

ภายในเครื่องบินจะมีช่องเก็บอาวุธ (weapon bays) ที่บริเวณโคนปีกและใต้ลำตัวที่สามารถซ่อนขีปนาวุธได้ ในขณะที่จุดแขวนภายนอกสามารถใช้ได้เมื่อระดับการล่องหนไม่จำเป็นต้องเป็นปัจจัยสำคัญ ซึ่งตัวเลือกนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับภารกิจโจมตีที่รุนแรงข้ามแนวหน้าในวงกว้าง เช่นที่เกิดขึ้นในยูเครนในปัจจุบัน


เครื่องยนต์รุ่นใหม่: Izdeliye 30 และ Supercruise

เครื่องบิน Felon Su-57M1 รุ่นล่าสุดติดตั้งเครื่องยนต์ Saturn AL-51F1 ใหม่ หรือที่เรียกว่า Izdeliye 30 ซึ่งมีแรงขับสูงถึง 15,000–18,000 กิโลกรัม เครื่องยนต์รุ่นใหม่นี้ทำให้ Su-57M1 สามารถบินในโหมด supercruise ที่ความเร็ว Mach 1.6 (ประมาณ 1,200 ไมล์ต่อชั่วโมง) โดยไม่ต้องใช้เครื่องยนต์สันดาปท้าย (afterburner) ซึ่งจะช่วยประหยัดเชื้อเพลิงและเพิ่มรัศมีการรบให้ยาวนานขึ้น โดยมีรายงานว่าอยู่ที่ประมาณ 1,500 กิโลเมตร


ระยะปฏิบัติการและทักษะการบิน

ความสามารถด้านระยะปฏิบัติการนี้เหนือกว่า F-35 ทำให้กองทัพอากาศรัสเซียมีขีดความสามารถเชิงยุทธศาสตร์ในการควบคุมน่านฟ้าจากเมืองคาลีนินกราดไปจนถึงวลาดิวอสตอค อีกหนึ่งจุดเด่นคือความสามารถในการบินที่คล่องตัวขั้นสุด (supermanuver) ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่โดดเด่นของเครื่องบินรุ่นนี้ อันเป็นผลมาจากการใช้เทคโนโลยีท่อไอเสียแบบ 3D thrust-vectoring ซึ่งยังคงสืบทอดมรดกการออกแบบที่ยอดเยี่ยมของ Sukhoi อย่าง Su-27 Flanker และ Su-35 Super Flanker

แม้ว่าการรบทางอากาศในปัจจุบันจะพึ่งพาขีปนาวุธแบบ Beyond Visual Range (BVR) หรือการรบในระยะที่ไกลเกินกว่าจะมองเห็น แต่ในการต่อสู้ระยะประชิด (dogfight) ความสามารถของ Su-57M1 ในการบินแบบ “post-stall manuver” ที่ซับซ้อนก็ยังคงเป็นจุดดึงดูดที่สำคัญ


ระบบอิเล็กทรอนิกส์และ AI

ระบบอิเล็กทรอนิกส์การบิน (avionics) ของ Su-57M1 สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัสเซียที่จะลดช่องว่างทางเทคโนโลยีกับคู่แข่งจากชาติตะวันตก
เรดาร์ AESA (Active Electronically Scanned Array) ที่ส่วนหัวของ Su-57M1 มีโมดูลรับ-ส่งสัญญาณมากกว่า 1,500 ตัว ทำให้มีความสามารถในการตรวจจับเทียบเท่ากับเรดาร์ AN/APG-81 ของ F-35 นอกจากนี้ยังมีเรดาร์ AESA เพิ่มเติมอีกสองตัวที่ด้านข้างเพื่อขยายขอบเขตการตรวจจับ ช่วยเพิ่มความเข้าใจในสถานการณ์การรบแบบหลายทิศทาง ที่สำคัญไปกว่านั้น Su-57M1 ยังถูกรวมเข้ากับเครือข่าย AI ที่แข็งแกร่งเพื่อปฏิบัติภารกิจโดยอัตโนมัติ, วินิจฉัยระบบ และช่วยนักบินประมวลผลข้อมูลจากเซ็นเซอร์แบบเรียลไทม์ พร้อมให้คำแนะนำทางยุทธวิธีแบบทันที ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญในยุคของสงครามอิเล็กทรอนิกส์และการโจมตีด้วยฝูงโดรน แนวทางของรัสเซียนี้สอดคล้องกับแนวคิด cognitive cockpit ที่ปรากฏในโครงการ NGAD ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ และโครงการ Tempest ของกองทัพอากาศสหราชอาณาจักรเช่นกัน

ในเชิงยุทธศาสตร์ Su-57M1 ไม่เพียงถูกออกแบบมาให้เป็นแพลตฟอร์มเดี่ยว แต่ยังเป็นองค์ประกอบสำคัญในความพยายามของรัสเซียที่จะพัฒนากลยุทธ์การปฏิบัติการแบบ ‘loyal wingman’ ความสามารถของเครื่องบินรบนี้ในการทำงานร่วมกับอากาศยานรบไร้คนขับ S-70 Okhotnik-B อย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันจะเปิดกลยุทธ์การโจมตีแบบเครือข่ายใหม่ โดยรวมข้อดีของเครื่องบินที่มีนักบินและโดรนเข้าด้วยกันเพื่อโจมตีระบบป้องกันภัยทางอากาศของข้าศึกพร้อมๆ กัน

การปฏิบัติการแบบ loyal wingman กำลังกลายเป็นจุดสนใจระดับโลก ด้วยโครงการอย่าง Skyborg ของสหรัฐฯ และ Ghost Bat ของออสเตรเลีย ซึ่งบ่งชี้ถึงการแข่งขันในการกำหนดรูปแบบของ ‘kill chain’ ในอนาคต

ต้นทุนและศักยภาพในตลาดส่งออก

ในแง่ของต้นทุน Su-57M1 คาดว่ามีราคาอยู่ที่ประมาณ 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อลำ (ประมาณ 1,840 ล้านบาท) ซึ่งถูกกว่า F-35 ที่มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 110 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 4,050 ล้านบาท) อย่างมาก ราคาที่แข่งขันได้นี้ทำให้ Felon กลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับตลาดส่งออกทั่วโลก แต่คำถามสำคัญยังคงอยู่ว่า รัสเซียจะสามารถรักษาอัตราการผลิตในระดับที่ใหญ่ได้หรือไม่ ท่ามกลางมาตรการคว่ำบาตรระหว่างประเทศและอุปสรรคทางอุตสาหกรรม

จนถึงปัจจุบัน มีรายงานว่ามี Su-57 (รวมถึงเครื่องต้นแบบ) เพียงประมาณ 15 ลำที่พร้อมใช้งาน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ยังห่างไกลจาก F-22 และ F-35 หลายร้อยลำที่สหรัฐฯ ใช้งานอยู่


ความเห็นของนักวิเคราะห์

นักวิเคราะห์ด้านการทหารให้ความเห็นว่า แม้การออกแบบสเตลท์ของ Su-57M1 จะดีขึ้น แต่ก็ยังคงตามหลังคู่แข่งจากชาติตะวันตก ในบริบทของความขัดแย้งในยูเครน การใช้งาน Su-57M1 มีจำกัด โดยเชื่อว่าเพื่อป้องกันไม่ให้เทคโนโลยีที่อ่อนไหวตกไปอยู่ในมือของข้าศึก

อย่างไรก็ตาม Su-57M1 ชัดเจนว่าถูกสร้างขึ้นตามหลักการทางยุทธศาสตร์ที่ไม่เหมือนใครของรัสเซีย ซึ่งให้ความสำคัญกับความเร็ว, ระยะปฏิบัติการ และความอเนกประสงค์ มากกว่าการพึ่งพาระดับการล่องหนแบบสมบูรณ์เพียงอย่างเดียว แนวทางนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อของรัสเซียที่ว่าสงครามอิเล็กทรอนิกส์, การใช้ล่อหลอก, และการป้องกันภัยทางอากาศหลายชั้นสามารถชดเชยข้อด้อยด้านการล่องหนได้ในสมรภูมิที่มีความซับซ้อน


อนาคตของตลาดส่งออก

แม้จะยอมรับความท้าทายด้านการผลิต มอสโกมั่นใจว่า Felon รุ่นล่าสุดนี้จะสามารถช่วยให้รัสเซียทวงคืนส่วนแบ่งตลาดส่งออกเครื่องบินรบที่เคยครองมาได้จากรุ่น MiG-29 และ Su-30 ลูกค้าที่มีศักยภาพรวมถึงพันธมิตรดั้งเดิมอย่างอินเดีย, เวียดนาม และแอลจีเรีย แต่ความสำเร็จในการส่งออกนี้ก็ขึ้นอยู่กับวิธีการที่รัสเซียจะจัดการกับใบอนุญาตการส่งออก, การถ่ายโอนเทคโนโลยี และการจัดหาเงินทุนในยุคที่มาตรการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตกมีความรุนแรงมากขึ้น

ตลาดโลกกำลังก้าวไปสู่เครื่องบินรบยุคที่ 6 และการปฏิบัติการที่รวมคนกับโดรนเข้าด้วยกัน ทำให้ Su-57M1 เป็นเครื่องเตือนใจว่ารัสเซียยังคงเป็นผู้เล่นสำคัญ ที่พร้อมจะปรับตัวในอุตสาหกรรมการบินและอวกาศให้เข้ากับความเป็นจริงทางภูมิรัฐศาสตร์ในปัจจุบันอีกด้วย

ห้าปีข้างหน้าจะเป็นบททดสอบที่แท้จริงว่า UAC จะสามารถเปลี่ยนคำสัญญาเหล่านี้ให้เป็นการผลิตจำนวนมากอย่างต่อเนื่องและการใช้งานในแนวหน้าของกองทัพอากาศรัสเซียได้หรือไม่ หากทำสำเร็จ Su-57M1 ที่ได้รับการอัปเกรดนี้อาจสามารถเขย่าตลาดเครื่องบินรบสเตลท์ระดับกลาง โดยนำเสนอทางเลือกให้กับประเทศที่ระมัดระวังการคว่ำบาตรจากตะวันตกหรือไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายมหาศาลของ F-35 ได้

ไม่ว่าจะบินเดี่ยวเหนือทุ่งทุนดราในไซบีเรียหรือตามล่าศัตรูร่วมกับฝูงโดรน Okhotnik เครื่องบินรบ Su-57M1 ก็ยังคงเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่ารัสเซียยังไม่พร้อมที่จะยอมแพ้น่านฟ้าให้กับใคร
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่