สีกาเริงกามสงฆ์ เคยช้อปวันเดียว 3 ล้านบาท ! เป็นเงินจากสงฆ์ ที่เอาเงินบริจาคของวัดมาเปย์เธอฉ่ำๆ ยอดรวม 300 กว่าล้านบาท !

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

จะบอกว่า ถึงเวลาสังคายนาระบบสงฆ์ไทยได้แล้ว ก็คงไม่ได้
เพราะมันควรทำตั้งนานแล้ว

เคสนี้ เชื่อว่า ไม่ใช่เคสเดียวของไทย ต้องมีเคสใหญ่กว่านี้มากๆซุกอยู่แน่นอน ไม่นับเคสเล็กๆน้อยๆกระจายไปทั่วประเทศอีกมากมายที่หลบอยู่ในซอกหลืบต่างๆในสังคมไทย

นี่ขนาดสาวบ้านๆ จนๆคนนึง ใช้เต้าไต่ตั้งแต่สวยยันอวบอิ่มเอิบ คนเดียว ยังสูบเงินบริจาควัดหลายแห่งได้สูงกว่า 300 ล้านบาท แล้วเคสที่คนมีความรู้ดีครบเครื่อง แชร์ประโยชน์กับสงฆ์แบบพร้อมใจกันโกงเงินวัด ความเสียหายจะมหาศาลและมโหฬารขนาดไหน

เปรียบไปเหมือนฝีหนอง ที่ก่อนจะเกิดหนองแสบร้อน ต้องมีตุ่มอักเสบเล็กๆเกิดขึ้นนำมาก่อน หากไม่กินยาฆ่าเชื้ออย่างเคร่งครัด ตุ่มอักเสบนั้นจะลุกลามเป็นฝีหนองขนาดใหญ่ ที่กัดกินลึกถึงเนื้อในของผู้เป็นฝีเอง หมายถึง ประชาชนร้องเรียนพฤติกรรมสงฆ์หลายเคสมากๆ ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหลายสิบปีแล้ว แต่เรื่องกลับเงียบหายไป กริบสนิท เหมือนพยายามช่วยกันปกปิดไว้ จนมาวันนี้ ลุกลาม แตกออกมาหนึ่งดอกในวันนี้ และก็คงมีฝีอีกหลายๆดอก เตรียมแตกอีก

เงินนั้นหอมหวานเสมอ และจะหอมหวานมากขึ้น เมื่อผู้ครอบครองไม่ได้ลำบากหามันมาเอง แต่ได้มาโดยง่ายจากการหยิบยื่นจากคนอื่น การจะเอาไปใช้โดยไม่ไตร่ตรองให้ดี ใช้โดยไม่คิด ย่อมเกิดแน่ๆ

สงฆ์ส่วนใหญ่บวชเพื่อหนีความจน จากชีวิตที่ไม่เคยเห็นหรือได้จับเงินมากๆมาก่อน  ก็มีโอกาสได้เห็นได้จับเงินมหาศาล ที่ตัวเองไม่ได้หามาเอง แต่มีคนเต็มใจใส่พานนำมาให้ กอปรกับตำแหน่งชั้นยศใหญ่โต ที่คนไม่กล้าเข้ามาแตะต้องตรวจสอบ ย่อมเปิดช่องให้เกิดการถลุงเงินนั้นไปในทางเสื่อม ยิ่งสงฆ์หย่อนในข้อปฎิบัติเืท่าไหร่ เงินนั้น ยิ่งสูญมลายหายไปง่ายๆ มากเท่านั้น เพราะได้มาฟรีๆ จึงไม่มีวันรู้คุณค่าของมัน

ไทยเรา จึงมีคำว่า "โล้นห่มเหลือง" เกิดขึ้น
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่