
.
‘ณัฐพงษ์’ เรียกร้อง ‘พรรคการเมืองอื่น’ รับหลักการร่างนิรโทษกรรม บอก หากยังมีความเห็นแตกต่าง อย่าโหวตคว่ำ แต่ให้งดออกเสียง เชื่อ เป็นการเปิดประตูหาทางออกให้ประเทศ ปลดชนวนความขัดแย้งตลอด 20 ปี
.
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 16 กรกฎาคม ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร แถลงถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า วันนี้มีการพิจารณาในสภาฯ หลายอย่างเช่นร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เกี่ยวกับการนิรโทษกรรม การยืนยันในร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติตามที่ส.ส.เสนอไป รวมถึงร่างพ.ร.บ.เกี่ยวกับการคุ้มครองแรงงาน
.
โดยร่างพ.ร.บ.เกี่ยวกับการนิรโทษกรรม ตนเชื่อว่าวันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่ตัวแทนจากทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้าน รัฐบาล หรือฝ่ายประชาชน เห็นตรงกันว่าประเทศเราควรมีกฎหมายนิรโทษกรรม
.
นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า เราเห็นตรงกันแล้วว่าตลอด 20 ปีที่ผ่านมา สถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองได้ฉุดรั้งประเทศไทยและฉุดรั้งการพัฒนาประเทศมาโดยตลอด ไม่ว่าจะการรัฐประหาร 2 ครั้ง มีรัฐธรรมนูญ 4 ฉบับ นายกรัฐมนตรี 9 คน มีคนที่บาดเจ็บล้มตายหลายร้อยคน รวมถึงคนที่ได้รับความสูญเสีย และผลกระทบอีกหลายพันคน ประเทศไทยเสียหายไปหลายแสนล้านบาท จากสถานการณ์ทางการเมืองที่ผ่านมา
.
นายณัฐพงษ์ กล่าวอีกว่า เราเห็นตรงกันว่า วันนี้ถ้าเราไม่มีกฎหมายนิรโทษกรรม เราอาจจะไม่สามารถปลดชนวนระเบิดความขัดแย้งที่รอวันประทุในวันหน้าได้ รวมถึงความขัดแย้งในระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมานั้น ยังเป็นเหมือนโซ่ตรวนที่ฉุดรั้งการพัฒนาประเทศด้วย
.
ฉะนั้น ตนจึงอยากเรียกร้องความกล้าหาญ ในฐานะผู้แทนปวงชนชาวไทยทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ซีกพรรคการเมืองใด อยากจะเรียกร้องให้ทุกคน ลงคะแนนเสียง เพื่อเปิดประตูให้ร่างกฎหมายนิรโทษกรรมผ่านการพิจารณาเข้าสู่วาระ 2 ในทุกๆ ร่าง
.
“แน่นอนที่สุดว่า การเรียกร้องความกล้าหาญในวันนี้ แม้หลายพรรคจะยังไม่สะดวกใจที่จะสามารถโหวตรับได้ในทุกร่าง ตามเสียงที่พรรคประชาชนเรียกร้องไป แต่ผมเชื่อว่า ยังมีวิธีโหวต วิธีการลงคะแนนเสียงในสภาฯ วันนี้ที่อาจจะไม่ได้ขัดกับความรู้สึกของแต่ละคนมากเท่าใดนัก
.
แต่ยังเป็นทางออกให้กับสภาฯ ที่จะสามารถพิจารณาร่างกฎหมายนิรโทษกรรมแต่ละร่างได้ทั้ง 5 ร่าง ในวาระที่ 2 นั่นคือการโหวตรับร่างของตัวเองเพื่อยืนยัน และโหวตรับร่างที่คิดว่าเป็นสิ่งที่รับได้ เช่น ร่างกฎหมายของภาคประชาชน หากใครคิดว่าสามารถรับหลักการได้ ก็โหวตรับไปเลย” นายณัฐพงษ์ กล่าว
.
นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันร่างที่เรายังคงเห็นแตกต่างกันอยู่ ไม่ควรที่จะมาโหวตคว่ำ หรือปิดกั้นความคิดเห็น หรือความเห็นที่ยังแตกต่างอยู่ของภาคส่วนอื่นๆ เรายังใช้ทางเลือกในการโหวตงดออกเสียงในร่างที่เรายังเห็นแตกต่างกันอยู่ได้
.
เพราะการลงคะแนนเสียงแบบนี้ คือการยืนยันในหลักการของร่างที่เราเห็นด้วย และงดออกเสียงในร่างที่ยังเห็นต่าง ซึ่งจะเป็นกุญแจและประตูสำคัญ ที่จะทำให้ร่างกฎหมายนิรโทษกรรมทั้ง 5 ฉบับได้ผ่านการพิจารณาในวาระที่ 1 เพื่อเข้าสู่การพิจารณาในวาระที่ 2
.
นายณัฐพงษ์ กล่าวด้วยว่า การลงมติในวันนี้ ไม่ใช่การที่เราแสดงออกว่าเราไม่เห็นด้วยกับใคร แต่เราต้องยืนยันว่าเราเห็นด้วยว่า ประเทศนี้ต้องมีกฎหมายนิรโทษกรรม ดังนั้น การลงมติตรงนี้ ไม่ใช่เวทีที่เราจะมาแสดงออกถึงการจงรักภักดี หรือไม่จงรักภักดี หรือเรื่องใดๆ ก็ตาม
.
แต่เป็นสิ่งที่เราต้องหาทางออกร่วมกัน สมานฉันท์กัน การผ่านกฎหมายนิรโทษกรรมที่มีการเลือกปฏิบัติ ตนไม่เชื่อว่า จะเป็นการปลดชนวนความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในอดีต จึงอยากจะส่งข้อเรียกร้องไปยังพรรคอื่นๆ ที่ได้แสดงออกถึงจุดยืนของตัวเองแล้ว ว่าจริงๆ แล้ว ยังมีทางออกในสภาอยู่
.
เมื่อถามถึงจุดยืนของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่มีมติชัดเจนว่า จะไม่รับร่างใดเลย
.
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตามหน้าข่าวที่ออกมา สิ่งที่มีความชัดเจน คือมีหลายคนที่ระบุว่า ไม่สะดวกใจ หรือหลายพรรคไม่สะดวกใจ ในเรื่องการนิรโทษกรรมความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งพวกเรายังยืนยันว่า ข้อเห็นต่างเรื่องนี้ยังคงไปพูดคุยกันในวาระที่ 2 ได้ ดังนั้น ข้อแตกต่างนี้ควรจะลงมติงดออกเสียงในร่างที่ตนเองยังมีความไม่สะดวกใจอยู่ แต่ไม่ควรที่จะโหวตคว่ำ เพราะจะเป็นการปิดประตู หรือความคิดเห็นของภาคส่วนอื่นๆ
.
เมื่อถามว่า มองอย่างไรกรณีที่พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ออกแถลงการณ์ระบุอาจเปิดกลไกเพิ่ม ซึ่งอาจหมายถึงการเพิ่มเติมในชั้นคณะกรรมาธิการ (กมธ.)
.
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เป็นความเห็นที่รับฟังได้ ในเรื่องการรับหลักการของทั้ง 4 ร่าง ที่ยังไม่ได้รวมร่างของพรรคภูมิใจไทย หลักการเปิดไว้ค่อนข้างกว้าง ฉะนั้น หากมีร่างใดร่างหนึ่งที่ผ่านการพิจารณาเข้าไป ก็จะเป็นการเปิดประตูให้เราสามารถถกเถียงในรายละเอียดอื่นๆ ได้ ขอยืนยันอีกครั้งว่า อยากให้การลงมติในวันนี้ ลงมติด้วยใจที่เปิดกว้าง
.
.
ฝนตกหนัก น้ำป่าทะลักท่วมสวนยาง-โรงเรียน จ.เลย 1.5 ม.สั่งชาวบ้านเร่งยกของขึ้นที่สูง
https://www.matichon.co.th/region/news_5276916
.
ฝนตกหนัก น้ำป่าทะลักท่วมสวนยาง จ.เลย 1.5 ม.สั่งชาวบ้านเร่งยกของขึ้นที่สูง
.
เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์จังหวัดเลย ได้มีฝนที่ตกลงมาอย่างหนักตลอดทั้งคืนในหลายพื้นที่ ทำให้บางหมู่บ้านเริ่มมีน้ำป่าไหลทะลักลงแม่น้ำ ลำคลอง ในหลายอำเภอต้องออกประกาศ แจ้งเตือนให้ผู้ที่อาศัยอยู่ใกล้กับแม่น้ำ ให้รีบยกของขึ้นที่สูง
.
โดยเฉพาะสถานการณ์น้ำเหนือห้วยลำน้ำสวย น้ำกำลังเพิ่มระดับขึ้นเรื่อยๆ นายเสริม สารมะโน ผู้ใหญ่บ้านน้ำสวยภักดี ตำบลท่าสะอาด อำเภอนาด้วง จังหวัดเลย ได้ประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชน ที่อยู่ใกล้ลำน้ำสวย ให้เร่งขนย้ายข้าวของ และทรัพย์สินไว้ที่สูง ซึ่งมวลน้ำป่า ได้ไหลทะลักลงมาตามแม่น้ำสาขา ขณะนี้บางพื้นที่การเกษตรบางจุดน้ำเริ่มทะลักเข้าท่วมแล้ว
.
โดยในพื้นที่ตำบลท่าสะอาด อำเภอนาด้วง ฝนได้ตกลงมาอย่างหนักตลอดทั้งคืน ทำให้น้ำในลำน้ำสวยที่ไหลมาจากทางทิศเหนือของหมู่บ้าน โดยมวลน้ำจะได้ไหลลงมาทางตำบลท่าสวรรค์ ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำ ขณะนี้น้ำได้ไหลทะลักเข้าสวนยางพาราของชาวบ้านเป็นบริเวณกว้าง ระดับน้ำที่สูง ประมาณ 1-1.5 เมตร เกือบถึงถ้วยยางพารา ชาวบ้านต่างต้องเร่งเก็บขี้ยางหนีน้ำป่า ทั้งนี้ในพื้นที่ ตำบลท่าสวรรค์ ซึ่งมีโรงเรียน บ้านท่าสวรรค์ ที่มีลำน้ำสวย ไหลผ่านด้านหลังโรงเรียน และถูกน้ำท่วมเป็นประจำ คาดว่าไม่เกินเที่ยงวันนี้ ระดับน้ำจะล้นตลิ่ง ตามลำน้ำสวยไหลเข้า เข้าท่วมโรงเรียนอีกครั้งซึ่งท่วมล่าสุดเมื่อเดือนพฤษภาคม ที่ผ่าน
.
ในขณะน้ำป่าจากแม่น้ำเลยได้เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่โรงเรียนบ้านเลยตาวตาด-โนนพัฒนา ต.เลยวังใส อ.ภูหลวง จ.เลย ทำให้ไม่สามารถทำการเรียนการสอนได้ตามปกติ ครูและนักเรียนช่วยกันวิดน้ำออก เพื่อให้สถานการณ์กับสู่ภาวะปกติได้เร็วที่สุดโดยน้ำท่วมครั้งนี้ เกิดจากฝนตกหนักตลอดทั้งคืนในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงซึ่งเป็นต้นน้ำเลย วัดปริมาณน้ำฝนได้ 95.6 มิลลิเมตร เตือนภัยระดับสีเหลือง
.
.
จับชีพจร‘เอสเอ็มอี’ทั่วประเทศ ‘ระดม’ความเห็นฟื้น ศก.ฐานราก
.
ปี2568 ผ่านไปแล้ว 6 เดือน ท่ามกลางปัจจัยกดดันต่อการใช้ชีวิต การทำธุรกิจ และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทั้งจากปัจจัยภายนอกและภายใน ซึ่งหลายปัจจัยแนวโน้มรุนแรงและยืดเยื้อต่อ โดยเฉพาะภาวะสงครามในตะวันออกกลาง สงครามการค้าสหรัฐ-จีน ภูมิรัฐศาสตร์ นโยบายทรัมป์ 2.0 รวมถึงกำลังซื้อในประเทศหดตัว และความกังวลต่อเสถียรภาพทางการเมืองของไทยเพิ่มขึ้น
.
ไม่ว่าจะเกิดวิกฤตการอะไร กลุ่มแรกที่จะรับแรงกดทับจากปัญหาต่างๆ ไม่ได้นาน คือ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและรายย่อย ที่มีเสียงโอดครวญถึงปัญหาที่กำลังเผชิญ และอยากให้รัฐบาลเร่งแก้ไข
.
นายบุญชู กมุทมาโนชญ์ ประธานขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาค ภาคเหนือ สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย กล่าวว่า เศรษฐกิจฐานราก 6 เดือนแรกของภาคเหนือสะท้อนจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ส่วนใหญ่ยืนยันการซื้อขายลดลงมาตลอดตั้งแต่ต้นปีและเบาบางถึงปัจจุบัน แม้รัฐบาลจะใช้งบผ่านการแจกเงินหมื่นบาท แต่เงินดังกล่าวก็ยังไม่ถึงผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเท่าที่ควร เมื่อปัญหารายได้ไม่มากขึ้น เทียบรายได้ปี 2567 ไม่ได้เลยบวกค่าใช้จ่ายเท่าเดิม ก็เกิดปัญหาหนี้สะสม และธนาคารเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อใหม่ การจะเพิ่มเงินทุนก็ชะงัก ทำให้การทำธุรกิจก็ติดขัดและไม่ลงทุนใหม่ ดูจากการลงทุนซื้ออาคารพาณิชย์และรถยนต์เพื่อใช้ประกอบกิจการลดลงและถูกยึดจำนวนมาก บางส่วนเริ่มเจอปัญหาปรับค่าแรงและหากกำหนดให้ปรับค่าแรง 400 บาทต่อวันในภาวะรายได้ต่ำและต้นทุนสูง กังวลว่าจะเกิดการเลิกจ้างพุ่ง อาคารพาณิชย์ขายไม่ออกเพราะนิยมหันไปค้าขายบนออนไลน์ก็ไม่ต้องมีอาคารเหมือนในอดีต
“6 เดือนหลังปีนี้ เศรษฐกิจในเอสเอ็มอีคงยังไม่ดีขึ้นการปรับขึ้นภาษีทรัมป์มีผลกระทบทางจิตวิทยาต่อการลงทุนและการบริโภคของเอสเอ็มอี เมื่อสหรัฐเก็บภาษีนำเข้าจากทุกประเทศมากขึ้น สินค้าที่เคยเข้าสหรัฐ อย่างจีน ก็ต้องหาทางระบายไปประเทศต่างๆ ร่วมถึงไทยตอนนี้สินค้าจีนและประเทศเพื่อนบ้านที่มีราคาถูกก็ทะลักเข้าไทยมาก กระทบให้สินค้าเอสเอ็มอีไทยขายได้ยากเรื่องภาษีนำเข้าสินค้าไทยที่สหรัฐจะเรียกเก็บก็ไม่รู้ว่าจะออกหัวออกก้อย แม้จะเจรจาได้ต่ำ 36% ก็ยังต้องเสียภาษีนำเข้าที่สูงอยู่ดี ดังนั้น เพื่อให้ธุรกิจอยู่ได้ รัฐควรทบทวนการปรับค่าแรง 400 บาท ออกกองทุนหรือมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำลงอีก แม้ใช้ซอฟต์โลนควรจัดสรรเงินแยกเป็นธุรกิจใหญ่ 40% กลาง 30% และเล็ก 30% หากไม่แยกประเภทเงินก็จะไหลไปใหญ่-กลาง เหลือให้เล็กน้อยมาก อยากเห็นกระทรวงด้านเศรษฐกิจบูรณาการอย่างแท้จริงเพื่อลดปัญหาตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เรื่องเสถียรภาพการเมืองอย่างไรก็เชื่อว่าจะได้รับการแก้ไขและใช้เวลาสั้นกว่าการฟื้นเศรษฐกิจ ที่ผ่านไม่ปรับค่าแรง 400 บาท เร่งปล่อยสินเชื่อรายย่อย และลดขั้นตอนการทำธุรกิจ” นายบุญชูกล่าว
.
นายวรากร เจียรเสริมสิน ประธานขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาค ภาคอีสาน สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย กล่าวว่า ทั้งภาคอุตสาหกรรม การผลิต และการบริการ กำลังได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบต่างๆ หลังจากสหรัฐจะปรับขึ้นภาษีนำเข้า ภาคผลิตกระทบคำสั่งซื้อขายแล้วกว่า 20% ภาคบริการมีการปิดตัวทั่วประเทศหลายหมื่นราย ซึ่งสะสมมาตั้งแต่เกิดโควิด คนเปลี่ยนอาชีพ แรงงานไทยไม่กลับมาทำงานเท่าเดิม มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐไม่ต่อเนื่อง และกระตุ้นไม่ต้องจุด เงินที่รัฐออกมาไม่เกิดการหมุนเวียนในประเทศหลายรอบเหมือนก่อน แต่เกิดเงินไหลออกนอกประเทศผ่านแพลตฟอร์มต่างชาติมากขึ้น ไตรมาส 3 ของปีจะเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของการท่องเที่ยวและการค้าขาย จึงกดดันรายได้ของธุรกิจหายไป
.
นายวรากรกล่าวอีกว่า จากนี้จะเห็นธุรกิจเป็นเอ็นพีแอลโตพรวด จากปัญหาที่สะสมมานาน สมาพันธ์เราพูดมาตลอดเรื่องขอให้รัฐเร่งแก้การเข้าถึงสินเชื่อได้ยากและอย่าปล่อยให้เป็นหนี้นอกระบบเพิ่ม ตอนนี้หนี้นอกระบบที่เรียกว่าหมวดกันนอต ที่เก็บดอกเบี้ยกู้รายวันสูงมาก หากคิดเป็นอัตราต่อปีอาจสูงถึง 600% ข้อเสนอที่จะแก้ปัญหาเร่งด่วน คือ รัฐควรตั้งกองทุนช่วยเหลือเอสเอ็มอี จัดสรรงบเพื่ออบรมอาชีพรายย่อยต่อเนื่อง แยกมาตรการช่วยเหลือที่ตรงจุด บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เร่งแก้ปัญหาค้าชายแดน
JJNY : ณัฐพงษ์ร้องรับร่างนิรโทษฯ│น้ำป่าทะลักท่วมสวนยาง-โรงเรียน จ.เลย│จับชีพจร‘เอสเอ็มอี’ทั่วประเทศ│ทรัมป์เตือนเซเลนสกี
https://www.matichon.co.th/politics/news_5276914
.
‘ณัฐพงษ์’ เรียกร้อง ‘พรรคการเมืองอื่น’ รับหลักการร่างนิรโทษกรรม บอก หากยังมีความเห็นแตกต่าง อย่าโหวตคว่ำ แต่ให้งดออกเสียง เชื่อ เป็นการเปิดประตูหาทางออกให้ประเทศ ปลดชนวนความขัดแย้งตลอด 20 ปี
.
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 16 กรกฎาคม ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร แถลงถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า วันนี้มีการพิจารณาในสภาฯ หลายอย่างเช่นร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เกี่ยวกับการนิรโทษกรรม การยืนยันในร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติตามที่ส.ส.เสนอไป รวมถึงร่างพ.ร.บ.เกี่ยวกับการคุ้มครองแรงงาน
.
โดยร่างพ.ร.บ.เกี่ยวกับการนิรโทษกรรม ตนเชื่อว่าวันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่ตัวแทนจากทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้าน รัฐบาล หรือฝ่ายประชาชน เห็นตรงกันว่าประเทศเราควรมีกฎหมายนิรโทษกรรม
.
นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า เราเห็นตรงกันแล้วว่าตลอด 20 ปีที่ผ่านมา สถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองได้ฉุดรั้งประเทศไทยและฉุดรั้งการพัฒนาประเทศมาโดยตลอด ไม่ว่าจะการรัฐประหาร 2 ครั้ง มีรัฐธรรมนูญ 4 ฉบับ นายกรัฐมนตรี 9 คน มีคนที่บาดเจ็บล้มตายหลายร้อยคน รวมถึงคนที่ได้รับความสูญเสีย และผลกระทบอีกหลายพันคน ประเทศไทยเสียหายไปหลายแสนล้านบาท จากสถานการณ์ทางการเมืองที่ผ่านมา
.
นายณัฐพงษ์ กล่าวอีกว่า เราเห็นตรงกันว่า วันนี้ถ้าเราไม่มีกฎหมายนิรโทษกรรม เราอาจจะไม่สามารถปลดชนวนระเบิดความขัดแย้งที่รอวันประทุในวันหน้าได้ รวมถึงความขัดแย้งในระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมานั้น ยังเป็นเหมือนโซ่ตรวนที่ฉุดรั้งการพัฒนาประเทศด้วย
.
ฉะนั้น ตนจึงอยากเรียกร้องความกล้าหาญ ในฐานะผู้แทนปวงชนชาวไทยทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ซีกพรรคการเมืองใด อยากจะเรียกร้องให้ทุกคน ลงคะแนนเสียง เพื่อเปิดประตูให้ร่างกฎหมายนิรโทษกรรมผ่านการพิจารณาเข้าสู่วาระ 2 ในทุกๆ ร่าง
.
“แน่นอนที่สุดว่า การเรียกร้องความกล้าหาญในวันนี้ แม้หลายพรรคจะยังไม่สะดวกใจที่จะสามารถโหวตรับได้ในทุกร่าง ตามเสียงที่พรรคประชาชนเรียกร้องไป แต่ผมเชื่อว่า ยังมีวิธีโหวต วิธีการลงคะแนนเสียงในสภาฯ วันนี้ที่อาจจะไม่ได้ขัดกับความรู้สึกของแต่ละคนมากเท่าใดนัก
.
แต่ยังเป็นทางออกให้กับสภาฯ ที่จะสามารถพิจารณาร่างกฎหมายนิรโทษกรรมแต่ละร่างได้ทั้ง 5 ร่าง ในวาระที่ 2 นั่นคือการโหวตรับร่างของตัวเองเพื่อยืนยัน และโหวตรับร่างที่คิดว่าเป็นสิ่งที่รับได้ เช่น ร่างกฎหมายของภาคประชาชน หากใครคิดว่าสามารถรับหลักการได้ ก็โหวตรับไปเลย” นายณัฐพงษ์ กล่าว
.
นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันร่างที่เรายังคงเห็นแตกต่างกันอยู่ ไม่ควรที่จะมาโหวตคว่ำ หรือปิดกั้นความคิดเห็น หรือความเห็นที่ยังแตกต่างอยู่ของภาคส่วนอื่นๆ เรายังใช้ทางเลือกในการโหวตงดออกเสียงในร่างที่เรายังเห็นแตกต่างกันอยู่ได้
.
เพราะการลงคะแนนเสียงแบบนี้ คือการยืนยันในหลักการของร่างที่เราเห็นด้วย และงดออกเสียงในร่างที่ยังเห็นต่าง ซึ่งจะเป็นกุญแจและประตูสำคัญ ที่จะทำให้ร่างกฎหมายนิรโทษกรรมทั้ง 5 ฉบับได้ผ่านการพิจารณาในวาระที่ 1 เพื่อเข้าสู่การพิจารณาในวาระที่ 2
.
นายณัฐพงษ์ กล่าวด้วยว่า การลงมติในวันนี้ ไม่ใช่การที่เราแสดงออกว่าเราไม่เห็นด้วยกับใคร แต่เราต้องยืนยันว่าเราเห็นด้วยว่า ประเทศนี้ต้องมีกฎหมายนิรโทษกรรม ดังนั้น การลงมติตรงนี้ ไม่ใช่เวทีที่เราจะมาแสดงออกถึงการจงรักภักดี หรือไม่จงรักภักดี หรือเรื่องใดๆ ก็ตาม
.
แต่เป็นสิ่งที่เราต้องหาทางออกร่วมกัน สมานฉันท์กัน การผ่านกฎหมายนิรโทษกรรมที่มีการเลือกปฏิบัติ ตนไม่เชื่อว่า จะเป็นการปลดชนวนความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในอดีต จึงอยากจะส่งข้อเรียกร้องไปยังพรรคอื่นๆ ที่ได้แสดงออกถึงจุดยืนของตัวเองแล้ว ว่าจริงๆ แล้ว ยังมีทางออกในสภาอยู่
.
เมื่อถามถึงจุดยืนของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่มีมติชัดเจนว่า จะไม่รับร่างใดเลย
.
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตามหน้าข่าวที่ออกมา สิ่งที่มีความชัดเจน คือมีหลายคนที่ระบุว่า ไม่สะดวกใจ หรือหลายพรรคไม่สะดวกใจ ในเรื่องการนิรโทษกรรมความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งพวกเรายังยืนยันว่า ข้อเห็นต่างเรื่องนี้ยังคงไปพูดคุยกันในวาระที่ 2 ได้ ดังนั้น ข้อแตกต่างนี้ควรจะลงมติงดออกเสียงในร่างที่ตนเองยังมีความไม่สะดวกใจอยู่ แต่ไม่ควรที่จะโหวตคว่ำ เพราะจะเป็นการปิดประตู หรือความคิดเห็นของภาคส่วนอื่นๆ
.
เมื่อถามว่า มองอย่างไรกรณีที่พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ออกแถลงการณ์ระบุอาจเปิดกลไกเพิ่ม ซึ่งอาจหมายถึงการเพิ่มเติมในชั้นคณะกรรมาธิการ (กมธ.)
.
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เป็นความเห็นที่รับฟังได้ ในเรื่องการรับหลักการของทั้ง 4 ร่าง ที่ยังไม่ได้รวมร่างของพรรคภูมิใจไทย หลักการเปิดไว้ค่อนข้างกว้าง ฉะนั้น หากมีร่างใดร่างหนึ่งที่ผ่านการพิจารณาเข้าไป ก็จะเป็นการเปิดประตูให้เราสามารถถกเถียงในรายละเอียดอื่นๆ ได้ ขอยืนยันอีกครั้งว่า อยากให้การลงมติในวันนี้ ลงมติด้วยใจที่เปิดกว้าง
.
.
ฝนตกหนัก น้ำป่าทะลักท่วมสวนยาง-โรงเรียน จ.เลย 1.5 ม.สั่งชาวบ้านเร่งยกของขึ้นที่สูง
https://www.matichon.co.th/region/news_5276916
.
ฝนตกหนัก น้ำป่าทะลักท่วมสวนยาง จ.เลย 1.5 ม.สั่งชาวบ้านเร่งยกของขึ้นที่สูง
.
เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์จังหวัดเลย ได้มีฝนที่ตกลงมาอย่างหนักตลอดทั้งคืนในหลายพื้นที่ ทำให้บางหมู่บ้านเริ่มมีน้ำป่าไหลทะลักลงแม่น้ำ ลำคลอง ในหลายอำเภอต้องออกประกาศ แจ้งเตือนให้ผู้ที่อาศัยอยู่ใกล้กับแม่น้ำ ให้รีบยกของขึ้นที่สูง
.
โดยเฉพาะสถานการณ์น้ำเหนือห้วยลำน้ำสวย น้ำกำลังเพิ่มระดับขึ้นเรื่อยๆ นายเสริม สารมะโน ผู้ใหญ่บ้านน้ำสวยภักดี ตำบลท่าสะอาด อำเภอนาด้วง จังหวัดเลย ได้ประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชน ที่อยู่ใกล้ลำน้ำสวย ให้เร่งขนย้ายข้าวของ และทรัพย์สินไว้ที่สูง ซึ่งมวลน้ำป่า ได้ไหลทะลักลงมาตามแม่น้ำสาขา ขณะนี้บางพื้นที่การเกษตรบางจุดน้ำเริ่มทะลักเข้าท่วมแล้ว
.
โดยในพื้นที่ตำบลท่าสะอาด อำเภอนาด้วง ฝนได้ตกลงมาอย่างหนักตลอดทั้งคืน ทำให้น้ำในลำน้ำสวยที่ไหลมาจากทางทิศเหนือของหมู่บ้าน โดยมวลน้ำจะได้ไหลลงมาทางตำบลท่าสวรรค์ ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำ ขณะนี้น้ำได้ไหลทะลักเข้าสวนยางพาราของชาวบ้านเป็นบริเวณกว้าง ระดับน้ำที่สูง ประมาณ 1-1.5 เมตร เกือบถึงถ้วยยางพารา ชาวบ้านต่างต้องเร่งเก็บขี้ยางหนีน้ำป่า ทั้งนี้ในพื้นที่ ตำบลท่าสวรรค์ ซึ่งมีโรงเรียน บ้านท่าสวรรค์ ที่มีลำน้ำสวย ไหลผ่านด้านหลังโรงเรียน และถูกน้ำท่วมเป็นประจำ คาดว่าไม่เกินเที่ยงวันนี้ ระดับน้ำจะล้นตลิ่ง ตามลำน้ำสวยไหลเข้า เข้าท่วมโรงเรียนอีกครั้งซึ่งท่วมล่าสุดเมื่อเดือนพฤษภาคม ที่ผ่าน
.
ในขณะน้ำป่าจากแม่น้ำเลยได้เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่โรงเรียนบ้านเลยตาวตาด-โนนพัฒนา ต.เลยวังใส อ.ภูหลวง จ.เลย ทำให้ไม่สามารถทำการเรียนการสอนได้ตามปกติ ครูและนักเรียนช่วยกันวิดน้ำออก เพื่อให้สถานการณ์กับสู่ภาวะปกติได้เร็วที่สุดโดยน้ำท่วมครั้งนี้ เกิดจากฝนตกหนักตลอดทั้งคืนในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงซึ่งเป็นต้นน้ำเลย วัดปริมาณน้ำฝนได้ 95.6 มิลลิเมตร เตือนภัยระดับสีเหลือง
.
.
ไม่ว่าจะเกิดวิกฤตการอะไร กลุ่มแรกที่จะรับแรงกดทับจากปัญหาต่างๆ ไม่ได้นาน คือ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและรายย่อย ที่มีเสียงโอดครวญถึงปัญหาที่กำลังเผชิญ และอยากให้รัฐบาลเร่งแก้ไข