ปริญญา ยันศาลรธน. ปฏฺิรูปเองได้ ยกม.58 วิธีพิจารณา ทำศาลให้เป็นศาล ไม่ต้องรอแก้รธน.
https://www.matichon.co.th/politics/news_5275774
.
.
ปริญญา เห็นต่าง นครินทร์ ยันศาลรธน. ปฏฺิรูปเองได้ ยกม.58 วิธีพิจารณา ทำศาลให้เป็นศาล ไม่ต้องรอแก้รธน.
.
เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2568 ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กแสดงความเห็นกรณีที่ นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์ถึงข้อเสนอให้มีการปฏิรูปศาลรัฐธรรมนูญว่า
.
ท่าน ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ย้ำว่า “ศาลรัฐธรรมนูญไม่ใช่ศาลการเมือง” โดยตอบคำถามเรื่องข้อเสนอให้มีการปฏิรูปศาลรัฐธรรมนูญว่า “การปฏิรูปขึ้นกับรัฐธรรมนูญ ศาลปฏิรูปเองไม่ได้”
.
ด้วยความเคารพ ผมเห็นด้วยว่าเรื่อง ที่มาของศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปฏิรูปเองไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ แต่เรื่อง วิธีการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้มีการวินิจฉัยอย่างเที่ยงธรรม ศาลสามารถปฏิรูปหรือเปลี่ยนเองได้หลายเรื่องเลยครับ
.
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดโอกาสให้ผู้ร้อง อาทิ พรรคการเมืองที่จะถูกยุบ นายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรี หรือ ส.ส. ที่จะถูกวินิจฉัยให้พ้นตำแหน่ง มีโอกาสได้ต่อสู้คดีทั้ง ข้อกฎหมาย และ ข้อเท็จจริง ได้อย่างเต็มที่ดังเช่นในศาลยุติธรรม
.
ที่ผ่านมาหลายครั้งที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่ให้ผู้ถูกร้องสู้ในประเด็นข้อกฎหมาย และบ่อยครั้งที่ไม่ให้สู้ในประเด็นข้อเท็จจริง โดยการอ้างอำนาจตาม พรป. วิธีพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ มาตรา 58 ที่บัญญัติว่า “หากศาลเห็นว่าคดีใดเป็นปัญหาข้อกฎหมาย หรือมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ ศาล อาจ ประชุมปรึกษาเพื่อพิจารณาและ วินิจฉัยโดยไม่ทำการไต่สวน หรือยุติการไต่สวนก็ได้“
.
มาตรา 58 นี้ใช้คำว่า ศาล อาจ หมายความว่าถ้าศาลจะรับฟังผู้ถูกร้องอย่างเต็มที่ ก็สามารถทำได้ การจะไม่รับฟังข้อกฎหมาย หรือไม่ไต่สวนข้อเท็จจริง ควรต้องเคร่งครัดอย่างยิ่งโดยใช้หลักเดียวกับศาลยุติธรรม คือข้อต่อสู้ของผู้ถูกร้องไม่เป็นสาระอันควรแก่การพิจารณาเท่านั้น ถึงจะปฏิเสธไม่รับฟังได้ มิใช่รับฟังก็ได้ไม่รับฟังก็ได้ทั้งที่เป็นข้อต่อสู้ที่มีสาระอันควรแก่การพิจารณา
.
ผู้ถูกร้องเขาถูกร้องยุบพรรค ถูกร้องให้ตัดสิทธิ ถูกร้องให้พ้นตำแหน่ง แล้วเขาก็มากันตามรัฐธรรมนูญ ผิดถูกอย่างไรศาลรัฐธรรมนูญต้องเปิดโอกาสให้เขาสู้คดีอย่างเต็มที่ ไม่ใช่ใช้การโหวตตัดสินกันเป็นหลัก แล้วข้อเท็จจริงกับข้อกฎหมายมาทีหลังดังเช่นที่ผ่านมาครับ
.
เรื่องที่ผมว่าไปนี้ คือให้ศาลรัฐธรรมนูญใช้ข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงในการตัดสิน โดยให้ผู้ถูกร้องสู้คดีได้อย่างเต็มที่ ศาลรัฐธรรมนูญสามารถปฏิรูปเองได้ ไม่ต้องแก้รัฐธรรมนูญ หรือให้ใครมาเปลี่ยนให้ ซึ่งจะ ทำให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นศาลจริงๆ ไม่ใช่ศาลการเมืองดังที่คนเขารู้สึกกันครับ
.
https://www.facebook.com/prinya.thaewanarumitkul/posts/pfbid02pXJ3F3FD1ZTnnUdKwgrcTSbr3WkBmZjmdacsouuCwEXPRiWQTAzo5u6wUMoWn5c5l
.
.
ทนายแจม เล่า รวมเสียงผ่านร่างนิรโทษประชาชน อึ้งบอก ‘ของพวกพี่ออกจากคุกหมดแล้ว’
https://www.matichon.co.th/politics/news_5276196
.
ทนายแจม เล่า รวมเสียงผ่านร่างนิรโทษประชาชน อึ้งบอก ‘ของพวกพี่ออกจากคุกหมดแล้ว’
.
วันที่ 15 กรกฎาคม น.ส.
ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ ส.ส.กทม.พรรคประชาชน เผยผ่านเฟซบุ๊ก ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ – ทนายแจม – Sasinan Thamnithinan ระบุว่า
.
“เราจะส่งเสริมสันติสุข สลายขั้ว และออกจากความขัดแย้งโดยทิ้งคนอีกกลุ่มไว้ได้อย่างไร?”
.
นี่คือสิ่งที่ดิฉันคิดตลอดการฟังการอภิปรายเมื่อวันพุธที่ 9 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
.
ก่อนอื่นต้องบอกว่า ดิฉันเป็นคนที่ได้รับมอบหมาย ให้ไปพูดคุยกับ สส.ต่างพรรค เพื่อรับฟังความเห็น ทำความเข้าใจ อธิบายร่างพรบ.นิรโทษกรรมของพรรคก้าวไกลและภาคประชาชน ตลอดจนขอความเห็นใจจากพวกเขา ให้โหวตรับทุกร่าง แล้วไปถกเถียงในชั้นกรรมาธิการอีกที
.
ยอมรับว่าเป็นความพยายามตั้งแต่ตอนนั่งในคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ทั้งในตอนประชุม หลังประชุม นอกเวลาประชุม วันชี้แจงรายงานฯในสภาผู้แทนราษฎร ตลอดจนวันที่ต้องไปพูดคุยเพื่อขอให้โหวตรับข้อสังเกต
.
ดิฉันได้ใช้พลังงานไปมหาศาล แบกความหวัง ความเชื่อ ความจริงใจ ความตั้งใจไปทุกครั้ง ผิดหวังก็ลุกขึ้นใหม่ แม้จะดูว่ามันยาก แต่ก็คิดว่าแม้จะมีความเป็นไปได้แค่หนึ่งเปอร์เซ็นต์ ก็ยินดีที่จะทำ
.
ดิฉันได้รับ Messege คล้ายๆกันจาก สส.หลายคนว่า “เห็นใจนะ แต่ทำไม่ได้หรอก เรื่องคดีมาตรา 112 เนี่ย กลัวจะโดนยุบพรรค ขนาดแค่แก้ไขกฎหมายยังถูกยุบเลย” บางคนก็บอกว่า “น้องแจมไปคุยกับข้างบนสิ (ข้างบนไหน?) หรือ เสนอแนวทางให้ไปขออภัยโทษแทน” และสิ่งที่แทบทุกคนพูดตรงกัน นั่นคือ “เอาคนกลุ่มใหญ่ออกมาก่อน เอาบางส่วนก่อน ที่เหลือค่อยว่ากันทีหลัง” บางคนเห็นแก่ตัวยิ่งกว่า ด้วยการสื่อสารว่า “ของพวกพี่ออกมาจากคุกกันหมดแล้ว ไม่เดือดร้อนอะไร” ก็มี
.
ผ่านมาเกือบสองปีแล้ว ที่อานนท์ และอีกหลายคนยังคงอยู่ในเรือนจำ หลายคนระหกระเหินออกไปไกลแล้ว ห้วงเวลายี่สิบปีของความขัดแย้งนี้ พรากเอาทุกสิ่งทุกอย่างไปจากพวกเขา “พวกเขา” ที่ไม่ได้หมายความถึงแค่กลุ่มใดกลุ่มนึงเท่านั้น แต่เป็นประชาชนทุกคนที่ออกมาส่งเสียง ออกมาลงถนน ออกมาแสดงความคิดเห็นทางการเมือง โดยมีเจตจำนงเสรี หวังให้ประเทศของเรานั้นไปได้ไกลกว่านี้ ซึ่งดิฉันเองก็เป็นหนึ่งในประชาชนกลุ่มนี้
.
หลายคนไม่สามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติได้
.
และบางคนไม่สามารถแม้นำร่างกลับมาประเทศไทยได้
.
เราถกเถียงกันอยู่ในห้องแอร์ว่า ควรจะนิรโทษฯให้กลุ่มนี้ก่อน กลุ่มนั้นก่อน คดีนั้นไม่ควร คดีนี้ไม่ดี โดยที่ไม่ได้คำนึงเลยว่า ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหน คดีใด พวกเขาก็เป็น “ประชาชน” เหมือนๆกัน
.
เราถกเถียงกันอยู่ในห้องแอร์ว่า ควรนิรโทษให้คนที่มีความรู้ความสามารถกลับมาทำงานให้บ้านเมืองก่อน แต่ไม่สนใจว่า อีกกลุ่มที่ถูกคดีก็มีความรู้ความสามารถที่จะกลับมาพัฒนาบ้านเมืองได้เช่นกัน
.
เราถกเถียงกันอยู่ในห้องแอร์ว่า ควรจะกำหนดเงื่อนไขให้คนกลุ่มนึง แต่ช่างแ-่งกับคนอีกกลุ่มนึงที่พวกคุณมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยทางการเมือง
.
เราถกเถียงกันอยู่ในห้องแอร์ว่า ควรให้โอกาส ควรให้โอกาส แต่กลับจะปิดโอกาสของคนอีกกลุ่ม อย่างหน้าตาเฉย
.
เราจะส่งเสริมสันติสุข สลายขั้ว และออกจากความขัดแย้งโดยทิ้งคนอีกกลุ่มไว้ได้อย่างไร?
.
นี่คือสิ่งที่ดิฉันคิดตลอดการฟังการอภิปรายเมื่อวันพุธที่ 9 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
.
ถ้าจะบอกว่าในช่วงเวลาสองปีที่เป็นนักการเมืองมา รู้สึกหมดหวังมากสุด ก็น่าจะช่วงเวลานี้ แต่แม้จะมีความหวังอยู่เพียงน้อยนิด ก็ยังเชื่อเหลือเกินว่า ในวันพรุ่งนี้ (16 กค.) ร่างกฎหมายของพรรคก้าวไกลและภาคประชาชน จะได้ผ่านเข้าไปกับร่างอื่นๆด้วย ซึ่งเพียงแค่เสียงของพรรคประชาชนบวกกับพรรคเพื่อไทย ก็ผ่านได้สบายๆ หรืออย่างน้อยที่สุด กดงดออกเสียงให้กับร่างพรรคก้าวไกล และภาคประชาชน ทั้งสองฉบับก็จะผ่านวาระหนึ่งเช่นกัน
.
ซึ่งหากว่ากันด้วยหลักการแล้ว ทุกคนควรจะมีโอกาสได้รับการนิรโทษกรรม โดยไม่แบ่งแยก และนี่เป็นเพียงวาระหนึ่งเท่านั้น อย่าเพิ่งปิดประตูความหวังอันน้อยนิดของ “ประชาชน” เลยค่ะ
.
ดิฉันเรียกร้องขอความกล้าหาญทางการเมืองของผู้แทนราษฎรทุกท่าน อีก “นิดเดียว” เท่านั้นเอง
.
https://www.facebook.com/sasinanjam/posts/pfbid02HmTTwu3YrtR3YNZEGezvEBaHDyCo4gFYhA6jeVbttEDon8w4UMdbso3wBzxCqPPnl
.
.
ลอบวางระเบิดทหารพราน เจ็บ 4 นายที่บันนังสตา ขณะออกลาดตระเวนในหมู่บ้าน
.
คนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารพราน ร้อย ทพ.3306 ชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ บาดเจ็บ 4 นาย ขณะออกลาดตระเวนในหมู่บ้าน และดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบ
.
เมื่อเวลาประมาณ 13.20 น. วันที่ 15 กรกฎาคม 2568 ศูนย์วิทยุ สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารพราน ในพื้นที่ หมู่ที่ 3 บ้านเงาะกาโป ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา หลังรับแจ้ง พ.ต.อ.อรรถพล กุลวงษ์มาณะโส ผกก.สภ.บันนังสตา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหารพราน และฝ่ายปกครอง เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุทันที โดยในเบื้องต้นพบว่า เป็นเจ้าหน้าที่ทหารพราน ร้อย ทพ.3306 ชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ สังกัดหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 33 ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 4 นาย ประกอบด้วย ส.อ.พีระชัย สาเหล่หว่า อาการหูอื้อ แน่นหน้าอก อส.ทพ.ชาติชาย นันทกรปรีดา บาดเจ็บเล็กน้อย อส.ทพ.สุวรรณ นันทการณ์ อาการหูอื้อ แน่นหน้าอก และ อส.ทพ.พรเจริญ หยกพูนผลดี อาการหูอื้อ แน่นหน้าอก ถูกนำตัวส่งไปรักษายังโรงพยาบาลบันนังสตา
.
จากการสอบสวนทราบว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารพราน ร้อย ทพ.3306 ชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ จำนวน 10 นาย ออกลาดตระเวนในหมู่บ้าน และดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบ ระหว่างทางได้มีคนร้ายที่หลบซ่อนตัวได้กดชนวนระเบิดขึ้น เป็นเหตุทำให้มีเจ้าหน้าที่ทหารพรานได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
.
ซึ่งขณะนี้ พ.ต.อ.อรรถพล กุลวงษ์มาณะโส ผกก.สภ.บันนังสตา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้าน (ชรบ.) ในพื้นที่ เข้าทำการปิดกั้นจุดเกิดเหตุ เพื่อทำพื้นที่ให้มีความปลอดภัย ก่อนเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด (EOD) เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่ 10 ยะลา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
.
ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่คาดว่าเป็นการกระทำของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ อ.บันนังสตา และพื้นที่ใกล้เคียง ที่ต้องการสร้างสถานการณ์ เพื่อแสดงศักยภาพของกลุ่มว่ายังสามารถก่อเหตุในพื้นที่ได้ โดยก่อนหน้านี้ได้มีการแจ้งเตือนหน่วยกำลังให้เพิ่มความระมัดระวังในการออกปฏิบัติหน้าที่ทุกภารกิจหลังเจ้าหน้าที่ยังคงตกเป็นเป้าหมายการก่อเหตุของกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
JJNY : 5in1 ยันศาลรธน.ปฏฺิรูปเองได้│ทนายแจมเล่า│ลอบวางระเบิดทหารพราน│ส.อ.ท.ห่วงศก.ครึ่งปีหลัง│รัสเซียยันไม่เคยปิดประตู
https://www.matichon.co.th/politics/news_5275774
.
https://www.facebook.com/prinya.thaewanarumitkul/posts/pfbid02pXJ3F3FD1ZTnnUdKwgrcTSbr3WkBmZjmdacsouuCwEXPRiWQTAzo5u6wUMoWn5c5l
.
.
ทนายแจม เล่า รวมเสียงผ่านร่างนิรโทษประชาชน อึ้งบอก ‘ของพวกพี่ออกจากคุกหมดแล้ว’
https://www.matichon.co.th/politics/news_5276196
.
ทนายแจม เล่า รวมเสียงผ่านร่างนิรโทษประชาชน อึ้งบอก ‘ของพวกพี่ออกจากคุกหมดแล้ว’
.
วันที่ 15 กรกฎาคม น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ ส.ส.กทม.พรรคประชาชน เผยผ่านเฟซบุ๊ก ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ – ทนายแจม – Sasinan Thamnithinan ระบุว่า
.
“เราจะส่งเสริมสันติสุข สลายขั้ว และออกจากความขัดแย้งโดยทิ้งคนอีกกลุ่มไว้ได้อย่างไร?”
.
นี่คือสิ่งที่ดิฉันคิดตลอดการฟังการอภิปรายเมื่อวันพุธที่ 9 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
.
ก่อนอื่นต้องบอกว่า ดิฉันเป็นคนที่ได้รับมอบหมาย ให้ไปพูดคุยกับ สส.ต่างพรรค เพื่อรับฟังความเห็น ทำความเข้าใจ อธิบายร่างพรบ.นิรโทษกรรมของพรรคก้าวไกลและภาคประชาชน ตลอดจนขอความเห็นใจจากพวกเขา ให้โหวตรับทุกร่าง แล้วไปถกเถียงในชั้นกรรมาธิการอีกที
.
ยอมรับว่าเป็นความพยายามตั้งแต่ตอนนั่งในคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ทั้งในตอนประชุม หลังประชุม นอกเวลาประชุม วันชี้แจงรายงานฯในสภาผู้แทนราษฎร ตลอดจนวันที่ต้องไปพูดคุยเพื่อขอให้โหวตรับข้อสังเกต
.
ดิฉันได้ใช้พลังงานไปมหาศาล แบกความหวัง ความเชื่อ ความจริงใจ ความตั้งใจไปทุกครั้ง ผิดหวังก็ลุกขึ้นใหม่ แม้จะดูว่ามันยาก แต่ก็คิดว่าแม้จะมีความเป็นไปได้แค่หนึ่งเปอร์เซ็นต์ ก็ยินดีที่จะทำ
.
ดิฉันได้รับ Messege คล้ายๆกันจาก สส.หลายคนว่า “เห็นใจนะ แต่ทำไม่ได้หรอก เรื่องคดีมาตรา 112 เนี่ย กลัวจะโดนยุบพรรค ขนาดแค่แก้ไขกฎหมายยังถูกยุบเลย” บางคนก็บอกว่า “น้องแจมไปคุยกับข้างบนสิ (ข้างบนไหน?) หรือ เสนอแนวทางให้ไปขออภัยโทษแทน” และสิ่งที่แทบทุกคนพูดตรงกัน นั่นคือ “เอาคนกลุ่มใหญ่ออกมาก่อน เอาบางส่วนก่อน ที่เหลือค่อยว่ากันทีหลัง” บางคนเห็นแก่ตัวยิ่งกว่า ด้วยการสื่อสารว่า “ของพวกพี่ออกมาจากคุกกันหมดแล้ว ไม่เดือดร้อนอะไร” ก็มี
.
ผ่านมาเกือบสองปีแล้ว ที่อานนท์ และอีกหลายคนยังคงอยู่ในเรือนจำ หลายคนระหกระเหินออกไปไกลแล้ว ห้วงเวลายี่สิบปีของความขัดแย้งนี้ พรากเอาทุกสิ่งทุกอย่างไปจากพวกเขา “พวกเขา” ที่ไม่ได้หมายความถึงแค่กลุ่มใดกลุ่มนึงเท่านั้น แต่เป็นประชาชนทุกคนที่ออกมาส่งเสียง ออกมาลงถนน ออกมาแสดงความคิดเห็นทางการเมือง โดยมีเจตจำนงเสรี หวังให้ประเทศของเรานั้นไปได้ไกลกว่านี้ ซึ่งดิฉันเองก็เป็นหนึ่งในประชาชนกลุ่มนี้
.
หลายคนไม่สามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติได้
.
และบางคนไม่สามารถแม้นำร่างกลับมาประเทศไทยได้
.
เราถกเถียงกันอยู่ในห้องแอร์ว่า ควรจะนิรโทษฯให้กลุ่มนี้ก่อน กลุ่มนั้นก่อน คดีนั้นไม่ควร คดีนี้ไม่ดี โดยที่ไม่ได้คำนึงเลยว่า ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหน คดีใด พวกเขาก็เป็น “ประชาชน” เหมือนๆกัน
.
เราถกเถียงกันอยู่ในห้องแอร์ว่า ควรนิรโทษให้คนที่มีความรู้ความสามารถกลับมาทำงานให้บ้านเมืองก่อน แต่ไม่สนใจว่า อีกกลุ่มที่ถูกคดีก็มีความรู้ความสามารถที่จะกลับมาพัฒนาบ้านเมืองได้เช่นกัน
.
เราถกเถียงกันอยู่ในห้องแอร์ว่า ควรจะกำหนดเงื่อนไขให้คนกลุ่มนึง แต่ช่างแ-่งกับคนอีกกลุ่มนึงที่พวกคุณมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยทางการเมือง
.
เราถกเถียงกันอยู่ในห้องแอร์ว่า ควรให้โอกาส ควรให้โอกาส แต่กลับจะปิดโอกาสของคนอีกกลุ่ม อย่างหน้าตาเฉย
.
เราจะส่งเสริมสันติสุข สลายขั้ว และออกจากความขัดแย้งโดยทิ้งคนอีกกลุ่มไว้ได้อย่างไร?
.
นี่คือสิ่งที่ดิฉันคิดตลอดการฟังการอภิปรายเมื่อวันพุธที่ 9 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
.
ถ้าจะบอกว่าในช่วงเวลาสองปีที่เป็นนักการเมืองมา รู้สึกหมดหวังมากสุด ก็น่าจะช่วงเวลานี้ แต่แม้จะมีความหวังอยู่เพียงน้อยนิด ก็ยังเชื่อเหลือเกินว่า ในวันพรุ่งนี้ (16 กค.) ร่างกฎหมายของพรรคก้าวไกลและภาคประชาชน จะได้ผ่านเข้าไปกับร่างอื่นๆด้วย ซึ่งเพียงแค่เสียงของพรรคประชาชนบวกกับพรรคเพื่อไทย ก็ผ่านได้สบายๆ หรืออย่างน้อยที่สุด กดงดออกเสียงให้กับร่างพรรคก้าวไกล และภาคประชาชน ทั้งสองฉบับก็จะผ่านวาระหนึ่งเช่นกัน
.
ซึ่งหากว่ากันด้วยหลักการแล้ว ทุกคนควรจะมีโอกาสได้รับการนิรโทษกรรม โดยไม่แบ่งแยก และนี่เป็นเพียงวาระหนึ่งเท่านั้น อย่าเพิ่งปิดประตูความหวังอันน้อยนิดของ “ประชาชน” เลยค่ะ
.
ดิฉันเรียกร้องขอความกล้าหาญทางการเมืองของผู้แทนราษฎรทุกท่าน อีก “นิดเดียว” เท่านั้นเอง
.
https://www.facebook.com/sasinanjam/posts/pfbid02HmTTwu3YrtR3YNZEGezvEBaHDyCo4gFYhA6jeVbttEDon8w4UMdbso3wBzxCqPPnl
.
.