คิดว่าหนังที่สร้างจากเรื่องจริง เรื่องไหนที่ควรค่าที่จะต้องดูก่อนตายครับ?

ผมเป็นคอหนังมากก แต่ชอบหนังที่สร้างจากเรื่องจริงมากที่สุดครับ พอรู้ว่าเป็นเรื่องจริง ตอนดูจะมีอารมณ์ร่วม จะอินเป็นพิเศษ

หนังที่ควรค่ากับการดูก่อนตายของผม ก็จะมี 10 อันดับด้วยกัน หากเรื่องไหนเป็น ท๊อป 10 ในใจของทุกคน แล้วไม่มีในนี้ แชร์มาได้เลยนะครับ

- ขอแจ้งก่อนว่า 10 อันดับต่อไปนี้ ล้วนมาจากความเห็นส่วนตัวของผมทั้งสิ้นนะครับ -



อับดับ 10

ZODIAC


อันดับนี้ผมจะให้เป็นหนังเกี่ยวกับสืบสวนที่ผมชอบ ( ส่วนตัวผมชอบคดีจริงๆนี้ด้วยครับ )
เป็นหนังอาชญากรรมที่สร้างจากเรื่องจริงของคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่เกิดขึ้นในแคลิฟอร์เนียช่วงปลายยุค 60s ถึงต้น 70s
และยัง ส่งจดหมายและรหัสลับถึงหนังสือพิมพ์ท้าทายตำรวจ ทำให้ตอนนั้นกลายเป็นฆาตกรที่ตำรวจต้องการตัวมากที่สุด
เรื่องนี้จะเป็นแนวสืบสวนๆ มีเค้าโครงจากเรื่องจริง และเป็นคดีที่โด่งดัง สำหรับผมมันครบเครื่องมากครับ


อันดับ 9

GREEN BOOK

อันดับ 9 ชั่งใจอยู่นานมากครับ เพราะเป็นหนังที่ผมชอบมากจริงๆ เป็นหนังดีที่ฟีลกู๊ดสุดๆ แต่ก็สอดแทรกด้วยข้อคิดและความเป็นจริงเกี่ยวกับการเหยียดสีผิว และความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่เกิดขึ้นจริงๆในสมัยก่อนได้อย่างจุกอกไปเลยทีเดียว  

เป็นหนังเกี่ยวกับการเดินทางร่วมกันของชายสองคน ที่มีคนละสีผิว ในยุคที่ยังมีเรื่องของการเหยียดสีผิว ทั้งสองคนที่นิสัยต่างกันสุดขั้ว อยู่ร่วมกันยังไง มันสนุกตรงนี้แหละครับ เคมีระหว่างสองตัวเอกทำให้เรื่องน่าติดตามและเต็มไปด้วยพลังแห่งมิตรภาพที่แท้จริง บอกเลยว่าหนังดีจัดๆ

จริงๆอันดับ 9 นี้จะเป็นหนังฟีลกู๊ดสำหรับผม ผมก็กะจะให้เรื่อง The Blind Side แต่เพราะข่าวล่าสุดที่ออกมา ทำให้ผมไม่ค่อยอยากจะกลับไปดูเท่าไหร่ครับ ความอินลดลงไปเลย


อับดับ 8

THE EXORCIST


จะมีอะไรที่จะอิน ทำให้เข้าถึงไปกว่าหนังผีที่มีเค้าโครงจากเรื่องจริงอีกล่ะครับบ แถมยังเป็นหนังผีในตำนานอีก ส่วนตัวผมเป็นคนชอบดูหนังผีอยู่แล้วด้วย เลยอินมากๆครับ ส่วนเรื่องนี้จะเป็นหนังแนวผีปีศาจ ไล่ผี โคตรจะคลาสสิคสุดๆ

เนื้อเรื่องที่เกี่ยวกับการ ไล่ผี หรือ ขับไล่วิญญาณปีศาจ ออกจากเด็กคนนึง หนังไม่ใช่แค่น่ากลัวอย่างเดียว แต่มันพาไปสำรวจเรื่องศรัทธา ความกลัว และพลังเหนือธรรมชาติในแบบที่ฝังใจด้วย ส่วนตัวเป็นหนังผีอันดับ 1 ในใจผมเลยก็ว่าได้ เพราะ บรรยากาศอึดอัด สมจริง หนังไม่ได้ใช้ jumpscare แบบพร่ำเพรื่อ แต่ใช้ความเงียบ เสียง และจังหวะเล่าเรื่องในการสร้างความหลอน บวกกับการแสดงของ Linda Blair (เด็กที่ถูกผีสิง) ถือว่าเป็นหนึ่งในการแสดงที่ยอดเยี่ยมที่สุดในวงการหนังสยองเลยก็ว่าได้ครับ


อันดับ 7

The Battleship Island


มาโซนเอเชียกันบ้างครับ ผมภูมิใจที่จะนำเสนอหนังเรื่องนี้มากๆ เป็นหนังเกาหลีที่อยู่ในใจของผมเลย

หนังเกาหลีที่สร้างจากเหตุการณ์จริงในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เล่าเรื่องราวของชาวเกาหลีที่ถูกหลอกและบังคับให้ไปทำงานหนักบนเกาะฮาชิมะ
ของญี่ปุ่น หรือที่รู้จักกันในชื่อ เกาะเรือรบ  (Battleship Island) แล้วด้วยสภาพแวดล้อมที่โหดร้าย ทารุณ เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
ชอบตรงที่หนังไม่ได้เน้นแค่ฉากแอ็กชันระเบิดภูเขาเผากระท่อม แต่เน้น และยังขับเคลื่อนด้วย “ หัวใจ ”  “ความหวัง”
ของคนธรรมดาที่อยากมีชีวิตรอดและเป็นอิสระ มันเลยลุ้น ตื่นเต้นตรงนี้แหละครับ



อันดับ 6

มหาลัยเหมืองแร่


ถ้าไม่เอาเรื่องนี้มาเข้าอันดับ ผมก็คงจะเป็นคนที่หลอกตัวเอง เพราะอารมณ์หลังจากที่ผมดูเรื่องนี้ มันดีมากจริงๆครับ สำหรับผมนะ ผมยกให้เป็นหนังไทยอันดับ 1 ในดวงใจของผมเลยจริงๆครับ

หนังที่สร้างจากเรื่องจริงในชีวิตของ อาจินต์ ปัญจพรรค์ นักเขียนซีไรต์ชื่อดัง ซึ่งถ่ายทอดช่วงชีวิตของเขาตอนหนุ่มๆ หลังถูกรีไทร์จากมหาวิทยาลัย
แล้วถูกส่งไปทำงานในเหมืองแร่ที่จังหวัดพังงา  หนังชื่อมหาลัยเหมืองแร่ก็จริง แต่หนังไม่ได้เล่าเรื่อง “การเรียนในมหาวิทยาลัย” แบบทั่วไป แต่ใช้
“เหมืองแร่ ” เป็นสัญลักษณ์ของชีวิตและการเรียนรู้ ผ่านประสบการณ์จริง ความลำบาก ความสัมพันธ์ และธรรมชาติของผู้คนในพื้นที่นั้น


  ถึงโปรดักชั่นจะไม่ได้ดีมากเท่าหนังฝรั่ง หรือ หนังอาจจะภาพเก่าไปนิด แต่ผมก็อยากจะให้คอหนังสมัยใหม่ ที่ไม่เคยได้ดู ได้ลองเปิดใจกับหนังเรื่องนี้ดูกันซักครั้ง ผมมั่นใจเลยว่าใครที่ได้ดูต้องประทับใจจริงๆ



อันดับ 5

AllQuietOntheWesternFront


ผมขอบอกเลยว่าผมเป็นคอหนังสงครามโลกเลยก็ว่าได้ อันดับนี้และต่อๆไป ผมจะให้เป็นเกี่ยวกับหนังสงครามโลกที่เกิดขึ้นจริง แต่ส่วนใหญ่ หนังฟอร์มยัก ที่ออกมา ก็มักจะเป็นฝ่ายของทางผู้ชนะซะส่วนใหญ่  ผมจึงอยากจะนำเสนอเรื่องนี้เป็นพิเศษครับ

ผมชอบตรงที่หนังจะพาผู้ชมดำดิ่งสู่ความโหดร้ายของสนามรบ ผ่านสายตาของทหารชาวเยอรมันที่เต็มไปด้วยอุดมการณ์ในตอนแรก
ก่อนจะค่อยๆ ถูกกลืนด้วยความจริงอันน่าสะพรึงของสงครามโลก  หนังเรื่องนี้ไม่ได้พยายาม "เล่าเรื่อง" มากเท่าไหร่ แต่เน้น "ให้เรารู้สึก" ไปกับสิ่งที่ตัวละครเผชิญ ผ่านภาพ เสียง และอารมณ์ที่ชัดเจนรุนแรงทุกระลอก ซึ่งผมรู้สึกว่ามันสุดยอดไปเลย


อันดับ 4

City Of Life And Death


อันดับ 4 จะโหดๆหน่อย เพราะถ้าจะให้พูดถึงหนังที่สร้างจากเรื่องจริง ก็คงจะไม่พูดถึงเหตุการณ์สะเทือนไปทั่วโลกนี้ไม่ได้

City Of Life And Death เป็นหนังขาวดำ ที่เล่าเหตุการณ์จริงอันโหดร้ายที่เกิดขึ้นในช่วง "การสังหารหมู่ที่นานกิง"   ซึ่งกองทัพญี่ปุ่นบุกเข้าเมืองหลวงของจีนในปี 1937 และก่ออาชญากรรมต่อพลเรือนจีนอย่างรุนแรง และ โหดเหี้ยม

แต่สิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้ทรงพลังไม่ใช่แค่เนื้อหาอิงประวัติศาสตร์  แต่เป็นวิธีการเล่าเรื่องที่ ลึกซึ้ง เจ็บปวด และมนุษย์สุดๆ ของมุมมองจากชาวจีน
ทำให้รู้สึกได้เลย ไม่ว่าจะอดีต หรือ ปัจจุบัน ก็ไม่อาจลบเลือนความทรงจำของชาวจีน กับความโหดร้ายที่เคยเกิดขึ้นได้เลย



อันดับ 3

The Imitation Game


อันดับ 3  ผมกะจะยกให้เป็นหนังแนวชีวประวัติจ๋าๆ อยู่แล้ว แต่ก็มานั่งคิดว่า แล้วจะเอาใครมาเป็นอันดับสามดี เพราะหนังในดวงใจก็เยอะเหลือเกิน คิดไปคิดมา ก็คงต้องเป็น อลัน ทัวริง คนนี้นั่นแหละ (บอกแล้วว่าผมชอบหนังสงคราม)

หนังที่เล่าเกี่ยวกับ วีรกรรม ความเทพ ที่แปลกประหลาด ของนักคณิตศาสตร์ อัจฉริยะ แต่ก็ หยิ่งยโส และขี้อายในสังคม หรืออีกความสำเร็จ ที่ทำให่ผู้คนยกย่องให้เขาคนนี้เป็นถึง ‘ บิดาของวิทยาการคอมพิวเตอร์ ’ และ วีรบุรุษสงครามโลกก

แต่ในเรื่องก็ไม่ได้แค่โชว์ความเทพของพี่แกอย่างเดียวครับ ในเรื่องก็ยังทำให้เห็นถึงเหตุการณ์ ทั้งก่อนและหลัง ที่อลัน ทัวริง ได้ทำ และ ผลที่ตามมาหลังจากนั้นอีกด้วย มันทำให้เรารู้ว่า การเป็นฮีโร่ ก็ไม่ได้มีจุดจบที่สวยงามเสมอไปในโลกของความเป็นจริง



อันดับ 2

THE PIANIST


เป็นหนังสงครามในดวงใจของผมเลยครับ ถ้าจะพูดถึงเหตุการณ์จริง ก็จะไม่พูดถึงเรื่องนี้อีกก็ไม่ได้เลย

THE PIANIST เป็นหนังที่เล่าชีวิตของนักเปียโนชาวยิวในกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ต้องเผชิญกับการรุกรานของนาซี หนังไม่ได้เน้นสงครามในแง่ของการต่อสู้ แต่นำเสนอ “การเอาตัวรอด” และ “ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์” ท่ามกลางโลกที่กำลังพังทลาย

หนังได้สะท้อนภาพแท้จริง ของชะตากรรมคนยิว ที่ดูแล้วรู้สึกหดหู่ แต่ก็ยังไม่เท่ากับการได้รู้ว่า มันคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงทั้งหมด และเกิดจาก มนุษย์ ทำกับ มนุษย์ ด้วยกันเอง หนังจะทำให้เห็นถึงมุมมองต่างๆ ที่พระเอกได้เจอ ได้พบเห็น บอกเลยโคตรสะเทือนอารมณ์ ทุกวินาทีที่ได้ดู  



อันดับ 1

Schindler’s List (1993)


อันดับ 1 ของผม ขอยกให้เป็น Schindler’s List (1993) หนังขาวดำ หนังสงครามที่ดูแล้วทั้ง หดหู่ สะเทือนอารมณ์ และ อิ่มเอมใจ ที่สุด
หนังถ่ายทอดเรื่องจริงในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ผ่านสายตาของชายผู้หนึ่ง ที่จุดเริ่มต้นอาจดูไม่ต่างจากคนทั่วไป แต่การตัดสินใจของเขากลับส่งผลมหาศาลต่อชีวิตของผู้ หรือก็คือ ออสการ์ ชินด์เลอร์ นักธุรกิจชาวเยอรมันผู้ที่มีเส้นสายในกองทัพนาซี ได้เข้ามาทำธุรกิจในโปแลนด์โดยใช้แรงงานชาวยิวเป็นแรงงานราคาถูก ในตอนแรกก็มองทุกอย่างเป็นเรื่องของผลประโยชน์ แต่พอพี่แกเห็นความโหดร้ายที่ชาวยิวต้องเผชิญ พี่แกก็เริ่มเปลี่ยนแปลง และใช้อำนาจของตนช่วยเหลือผู้คนให้รอดพ้นจากชะตากรรมอันเลวร้าย




[
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่