รวมหนังแนวโศกนาฏกรรมสงครามห้ามพลาด : Schindler's List , The Pianist , The Killing Field และอื่นๆ

รวมหนังแนวโศกนาฏกรรมสงครามน่าดูที่คอหนังพลาดไม่ได้

       สงครามล้วนสร้างความสูญเสียให้แก่ผู้คน สงครามบางสงครามก่อให้เกิดความบาดหมางร้าวลึกชนิดที่ไม่มีวันจากหาย และในวันนี้ผมอยากจะมาแนะนำหนังโศกนาฏกรรมที่ผมได้มีโอกาสชม และคิดว่าน่าดู น่าสนใจ พลาดไม่ได้ หนังเหล่านี้ยังทำให้เราสามารถศึกษาและเห็นภาพประวัติศาสตร์ได้ง่าย โดยเฉพาะใครที่กำลังเรียนประวัติศาสตร์หรือชื่นชอบสนใจในประวัติศาสตร์จะทำให้เห็นภาพประวัติศาสตร์ได้ชัดเจนขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่ในหนังที่ผมกล่าวมาก็อ้างอิงมาจากเรื่องจริงหรือเหตุการณ์จริงทั้งนั้น

       แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อย่าไปยึดถือว่ามันจะจริงๆทั้งหมดตามหนังนะครับ เพราะหนังก็คือหนัง ไม่ใช่ภาพเหตุการณ์จริง แค่เลียนแบบและสะท้อนภาพออกมาตามความเห็นผู้สร้าง ดังนั้นเราดูเพื่อให้เข้าใจและตระหนักถึงความโหดร้ายของสงครามจะดีกว่า รวมถึงไทม์ไลน์ต่างๆตามประวัติศาสตร์

       ช่วงยุคที่หนังโศกนาฏกรรมสงครามนิยมสร้าง มักจะคาบเกี่ยวกับช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เพราะ ช่วงนี้เป็นสงครามที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา และรบกันทั้งในยุโรป เอเชีย แอฟริกา มีหลายเหตุการณ์ที่เป็นดั่งโศกนาฏกรรมเกิดขึ้นทั้งในเอเชียและยุโรป ในยุโรปมีการสังหารหมู่ชาวยิวโดยนาซี ส่วนในเอเชีย มีการสังหารหมู่คนจีนที่นานกิงโดยทหารญี่ปุ่น

       เรื่องที่แนะนำ (เน้นไปทางโศกนาฏกรรมจากสงคราม)
       - Schindler's List (1993) : เรื่องราวของนายออสการ์ ชินเดอร์ ผู้ช่วยชีวิตชาวยิวมากมาย
       - The Pianist (2002) : ชีวิตของนักเปียโนหนุ่มชาวยิวในโปแลนด์ที่ต้องเอาชีวิตรอดจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของนาซี
       - Katyn (2007) : เหตุการณ์สังหารหมู่ชาวโปแลนด์โดยทหารโซเวียต (ไม่เป็นที่รับรู้มากนัก)
       - The Killing Field (1984) : การสังหารหมู่ชาวกัมพูชาในยุคเขรแดง
       - City of life and death (2009) : เหตุการณ์สังหารหมู่ที่นานกิง
       - The Flower of war (2011) : เหตุการณ์สังหารหมู่ที่นานกิง (กำกับโดยจาง อี้โหมว)
       - Back to 1942 (2012) : กลียุคในประเทศจีน ภัยความอดยาก ฝนแล้ง ญี่ปุ่นบุก และปัญหาคอรัปชันภายในประเทศ
       - May 18 (2007) : การปิดเมืองสังหารหมู่ชาวเมืองกวางจูในประเทศเกาหลีใต้
       - Grave of the Fireflies (1998) : สองพี่น้อง เป็นเหยื่อสงครามช่วงก่อนประเทศญี่ปุ่นพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2
       - In This Cornner of the World (2016) : ความเป็นอยู่ของชาวญี่ปุ่นในสภาวะสงคราม & เหตุการณ์หลังโดนระเบิดนิวเคลียร์
       - Downfall (2004) : เรื่องราว 7 วันสุดท้ายก่อนฮิตเลอร์อัตวินิบาตกรรม (คุณฮาริมะคุงแนะนำมาใน คห.4 และผมเขียนแนะนำเพิ่มเติมใน 4-1)

       แต่ละเรื่องที่ผมแนะนำ ส่วนใหญ่เป็นหนังที่ไม่ธรรมดา ทั้งได้ออสการ์ ลูกโลกทองคำ รางวัลจากเทศกาลภาพยนตร์ต่างๆ รวมถึงคำชมจากนักวิจารณ์  หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยนะครับ (ตัวเลขด้านหลังที่ผมใส่ในแต่ละเรื่องคือ คะแนนความเยี่ยมของหนังในมุมมองผมนะครับ)

---------------------------------------------------------------

เรื่องที่ 1 Schindler's List (1993) : ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 - เหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว [5/5 คะแนน]

" ยอดเยี่ยม หดหู่ และตราตรึงใจ "


      เริ่มเรื่องแรกที่ Schindler's List หากพูดถึงหนังโศกนาฏกรรมสงครามอันดับ 1 สำหรับผมคงบอกเรื่องอื่นไม่ได้นอกจากเรื่องนี้ Schindler's List กำกับโดย Steven Spielberg โดยเล่าเรื่องราวของ Oskar Schindler นักธุรกิจชาวเยอรมันที่ได้ช่วยเหลือชีวิตชาวยิวกว่า 1,000 คน ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ให้รอดพ้นจากเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของนาซี

      Schindler's List (1993) แม้จะเป็นหนังยุคก่อนปี 2000 และทำเป็นสีขาวดำทั้งเรื่อง แต่ความเก๋าของเรื่องนี้ยังคงคลาสสิคและเป็นอมตะมาจนถึงทุกวันนี้ Schindler's List เป็นหนังที่โชว์พลังการกำกับของสปีลเบิร์กได้โดดเด่นมาก (และยังเป็นหนังที่ผมชอบที่สุดของสปีลเบิร์กอีกด้วย) ดีกรีหนังก็ไม่ธรรมดาคว้าถึง ออสการ์ 7 รางวัล พร้อมกับเข้าชิงอีก 5 รางวัล เรียกได้ว่าโกยรางวัลใหญ่ในปีนั้นมาได้หมดเลย และยังเป็น Top Rated Movies #6 ของ Imdb ด้วย

      ตั้งแต่ดูมาทั้งหมด Schindler's List มีองค์ประกอบของหนังแนวโศกนาฏกรรมสงครามที่สมบูรณ์ที่สุด เด่นในทุกด้าน ทุกๆส่วนของหนังเกื้อกูลกันอย่างเต็มรูปแบบ แม้ว่าหนังจะดำเนินเรื่องด้วยความนิ่งเรียบและยาวนานถึงสามชั่วโมง แต่ทว่าผมกลับละสายตาจากเรื่องนี้ไม่ได้เลย และหนังสามารถตรึงเราให้ดูจนจบได้อย่างน่าประทับใจ แถมยังหดหู่และซาบซึ้งจนน้ำตาไหล (ตอนผมดูนี่น้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัวเลย 555)

      อีกอย่างที่ทำให้พลาดไม่ได้คือ ใครที่อยากดูการแสดงที่ดีที่สุดของลุง Liam Neeson ซึ่งแกรับบทเป็นพระเอกของเรื่องนี้

      รางวัลที่ได้รับและเข้าชิง
      [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

      เรื่อง Schindler's List ผมเคยรีวิวอย่างละเอียดเอาไว้ ใครสนใจก็เข้าไปอ่านต่อได้นะครับ



---------------------------------------------------------------

เรื่องที่ 2 The Pianist (2002) : ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 - เหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว [5/5 คะแนน]

      The Pianist (2002) หนังชั้นเยี่ยมอมตะเช่นเดียวกับ Schindler's List (1993) และเป็นหนังที่อยู่ในช่วงเดียวกันคือยุคฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุชาวยิว สร้างจากชีวิตจริงของนักเปียโนชาวโปแลนด์เชื้อสายยิวที่มีชื่อว่า Wladyslaw Szpilman The Pianist จะฉายภาพในมุมมองของคนยิวที่ผู้ถูกกระทำ (ส่วน Schindler's List ฉายภาพในมุมของผู้ช่วยเหลือ) ดีกรีหนังเข้าคว้า ออสการ์ 3 รางวัล และเข้าชิงอีก 4 รางวัล ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะทำได้ขนาดนี้ [Top Rated Movies #40 from Imdb]


      โดยเฉพาะไฮไลต์ที่เด่นที่สุดในหนังคือ การแสดงของ Adrian Brody ในระดับโคตรสุดยอด เฮียแกทุ่มพลังสุดๆ ขนาดลดน้ำหนักจนผอมแห้งเหลือแต่กระดูก รวมถึงการแสดงอารมณ์ได้ราวกับเหมือนเฮียแกเป็นเหยื่อของสงครามจริงๆ ซึ่งก็สามารถคว้าออสการ์นักแสดงนำชายมาได้อย่างง่ายดายในปีนั้น รู้สึกเคยอ่านข่าวคุ้นๆ เจอว่าแกยังคงทุกข์ทรมาณจากการรับบทนี้ด้วย


      แต่หากพูดถึงภาพรวมหนัง โดยรวมผมยังชอบ The Pianist น้อยกว่า Schindler's List เนื่องจาก The Pianist จะเน้นการให้ความรู้สึกหน่วงกับหนังและเน้นการใช้พระเอกแบกหนังมากกว่า (แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ดีนะครับ ถือเป็นหนังคลาสสิคระดับตำนานเช่นกัน) ส่วน Schindler's List อันนี้คือสมบูรณ์ทุกองค์ประกอบในมุมมองผม อย่างไรก็ตามก็ถือว่าเป็นหนึ่งในหนังที่ผมว่าควรดูก่อนตาย คุ้ม !

      รางวัลที่ได้รับและเข้าชิง
      [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

---------------------------------------------------------------

(เพิ่มเติม) Katyn (2007) : ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 - เหตุการณ์โซเวียตฆ่าล้างชาวโปแลนด์ [4/5 คะแนน]

      Katyn (2007) หนังนอกกระแสโปแลนด์ที่มาไกลถึงขนาดเข้าชิงออสการ์ตปท.ยอดเยี่ยม Katyn เล่าถึงเหตุการณ์สังหารหมู่ชาวโปแลนด์ ราวปี 1940 ช่วงนั้นเป็นช่วงต้นสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อโซเวียตกับเยอรมันจับมือกัน เข้ายึดโปแลนด์ แบ่งประเทศออกเป็น 2 ส่วน ทางโซเวียตมีความกังวลว่า ชาวโปแลนด์อาจจะลุกฮือขึ้นมาต่อต้านโซเวียตได้ จึงทำการสังหารหมู่ชาวโปแลนด์โดยเฉพาะทหารและเจ้าหน้าที่กว่า 20,000 คน เพื่อกำจัดเสี้ยน ณ ป่า Katyn

      เหตุการณ์นี้ ไม่เป็นที่รับรู้นัก เพราะประวัติศาสตร์หลักนิยมสนใจแต่เรื่องการสังหารหมู่ชาวยิวกับหรือชาวจีนที่นานกิงมากกว่า อีกทั้งเยอรมันและญี่ปุ่นเป็นผู้แพ้สงครามโดยตรง ส่วนโซเวียตเป็นผู้ชนะสงครามในสงครามโลกครั้งที่ 2 รวมถึงมีตำแหน่งในคณะมนตรีความมั่นคง(ถาวร) แห่งสหประชาชาติ เหตุการณ์ที่โซเวียตสังหารหมู่จึงไม่ได้โด่งดังเท่ากับสองเหตุการณ์ข้างต้น ดังนั้นเรื่องนี้เป็นหนังโปแลนด์สร้างโดยชาวโปแลนด์ จุดประสงค์เพื่อสร้างความรับรู้ในเหตุการณ์ที่โซเวียตเคยกระทำเรื่องเลวร้ายต่อบ้านเกิดเมืองนอนเขา

      Katyn เป็นหนังที่แนวเรื่องสไตล์หนังนอกกระแสที่เรียลๆ นิ่งๆ คล้ายกึ่งสารคดี ตัวหนังอาจจะไม่สนุกหวือหวา แต่ก็เรียลจนสร้างความหดหู่มากทีเดียว

      รางวัลที่ได้รับและเข้าชิง
      OSCARS : Best Foreign Language Film of the Year (Nominated) และรางวัลต่างๆจากเทศกาลภาพยนตร์มากมาย

---------------------------------------------------------------

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่