รีวิวฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรกที่ vinfinity Clinic ปังจริงไม่จกตา! (พร้อมตอบทุกข้อสงสัย)
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ชาวพันทิปทุกคน! วันนี้ขอมาแชร์ประสบการณ์ตรงกับการฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรกในชีวิต ที่ v
infinity Clinic ค่ะ บอกเลยว่าประทับใจมากกกก จนอยากจะมาบอกต่อ เผื่อใครกำลังลังเลหรือหาข้อมูลอยู่ จะได้ตัดสินใจง่ายขึ้นค่ะ
จุดเริ่มต้นของความอยากฉีดฟิลเลอร์
ปกติเป็นคนที่มีปัญหาใต้ตาคล้ำและดูโทรมตลอดเวลาค่ะ ถึงจะนอนพอ พักผ่อนเต็มที่ แต่ก็ยังดูเหมือนคนอดนอนตลอดเวลา แถมพออายุเริ่มเยอะขึ้น ร่องแก้มก็เริ่มมาเยือน ทำให้หน้าดูมีอายุและไม่สดใสเลยค่ะ
เห็นเพื่อนๆ หลายคนไปฉีดฟิลเลอร์แล้วหน้าดูเด็กลง สดใสขึ้น ก็เลยเริ่มสนใจ แต่ก็มีความกลัวอยู่ลึกๆ นะคะ กลัวเจ็บ กลัวไม่ธรรมชาติ กลัวหน้าแข็ง กลัวโน่นนี่เต็มไปหมดค่ะ 😅
ทำไมถึงเลือก vinfinity Clinic?
ก่อนตัดสินใจฉีด ก็หาข้อมูลคลินิกเยอะมากค่ะ ทั้งจากรีวิวใน Pantip, Facebook, Instagram ดูรูป Before/After เยอะแยะไปหมด จนมาเจอชื่อ v
infinity Clinic ที่มีรีวิวค่อนข้างดีและดูเป็นธรรมชาติ ที่สำคัญคือเห็นว่าคุณหมอที่นี่มีความเชี่ยวชาญด้านฟิลเลอร์โดยเฉพาะ และใช้ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์แท้ที่ตรวจสอบได้ ก็เลยลองตัดสินใจโทรไปปรึกษาค่ะ
วันปรึกษาคุณหมอ (สำคัญมาก!)
พอไปถึงคลินิก บรรยากาศก็ดูสะอาด ปลอดภัย พนักงานต้อนรับดีมากค่ะ ไม่มีการฮาร์ดเซลล์เลย ซึ่งตรงนี้ชอบมาก!
จากนั้นก็ได้เข้าพบคุณหมอค่ะ คุณหมอใจดีมากค่ะ ให้คำปรึกษาละเอียดสุดๆ ไม่รีบเลยค่ะ คุณหมอจะประเมินรูปหน้าของเราอย่างละเอียด อธิบายว่าปัญหาของเราคืออะไร และฟิลเลอร์จะช่วยแก้ปัญหาตรงไหนได้บ้าง เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม หรือคาง และจะใช้ปริมาณเท่าไหร่ถึงจะดูเป็นธรรมชาติ
ที่สำคัญคือคุณหมอจะอธิบายถึงชนิดของฟิลเลอร์ (ซึ่งมีหลายยี่ห้อ หลายรุ่น) คุณสมบัติของแต่ละตัว และเลือกตัวที่เหมาะสมกับปัญหาและงบประมาณของเราค่ะ คุณหมอจะโชว์กล่องฟิลเลอร์ให้ดู และแกะกล่องต่อหน้าเราเลย เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นของแท้ 100% ตรงนี้ทำให้เราสบายใจขึ้นเยอะเลยค่ะ
ตอนแรกกังวลเรื่องใต้ตามาก แต่คุณหมอแนะนำว่าการเติมร่องแก้มและปรับคางเล็กน้อย จะช่วยให้ภาพรวมของใบหน้าดูสมดุลและอ่อนเยาว์ขึ้นด้วย ซึ่งเราก็เห็นด้วยค่ะ เลยตัดสินใจทำทั้ง 3 จุดเลย
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ (เจ็บไหม?!)
หลังจากปรึกษาและตัดสินใจเรียบร้อย ก็เริ่มขั้นตอนการเตรียมผิวค่ะ พนักงานจะทำความสะอาดหน้าและแปะยาชาให้ทั่วบริเวณที่จะฉีดค่ะ ทิ้งไว้ประมาณ 30-45 นาที เพื่อให้ยาชาออกฤทธิ์เต็มที่
พอถึงเวลาฉีด บอกเลยว่าตื่นเต้นมากค่ะ! 😅 แต่คุณหมอมือเบามากกกกกกกก จริงๆ ค่ะ! ตอนฉีดจะรู้สึกแค่จี๊ดๆ ตอนเข็มลงผิวเท่านั้นค่ะ ตัวฟิลเลอร์เองก็มียาชาผสมอยู่แล้ว เลยไม่รู้สึกเจ็บอะไรเลยค่ะ คุณหมอจะคอยถามตลอดว่าเจ็บไหม ไหวไหม และคอยเช็กทรงตลอดเวลา เพื่อให้ได้รูปหน้าที่สวยที่สุดและเป็นธรรมชาติที่สุด
ใช้เวลาฉีดไม่นานเลยค่ะ ประมาณ 30-40 นาทีก็เสร็จแล้ว เร็วกว่าที่คิดไว้เยอะเลยค่ะ
ผลลัพธ์หลังฉีดทันที และการดูแลหลังฉีด
หลังฉีดเสร็จทันที สิ่งแรกที่เห็นคือ
ใต้ตาที่เคยคล้ำและโบ๋ดูเต็มขึ้นมาทันที ร่องแก้มก็ตื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หน้าดูสดใสขึ้นมาทันตาเห็นเลยค่ะ! คุณหมอจะให้กระจกมาส่องดู และปรับแก้ให้เราพอใจที่สุดค่ะ
หลังฉีดอาจมีรอยแดงเล็กน้อย หรืออาจมีรอยช้ำบ้างในบางจุด (ซึ่งของเรามีรอยช้ำจิ๋วๆ ตรงใต้ตานิดหน่อยค่ะ) แต่คุณหมอก็ให้คำแนะนำในการดูแลหลังฉีดอย่างละเอียด เช่น งดนวดหน้า งดดื่มแอลกอฮอล์ งดออกกำลังกายหนักๆ งดเข้าซาวน่า/อบไอน้ำ ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก และประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมช้ำค่ะ
ผลลัพธ์หลังจากฟิลเลอร์เข้าที่ (ประมาณ 1-2 สัปดาห์)
หลังจากผ่านไปประมาณ 1-2 สัปดาห์ ฟิลเลอร์ก็เข้าที่แล้วค่ะ หน้าดูเป็นธรรมชาติมาก ไม่มีใครทักว่าไปทำอะไรมาเลยค่ะ มีแต่คนทักว่า "ไปทำอะไรมา ทำไมดูสดใสขึ้น หน้าเด็กขึ้น" ซึ่งเป็นคำชมที่อยากได้ยินที่สุดเลยค่ะ! 🥰
ใต้ตาที่เคยคล้ำก็ดูเต็มและสว่างขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ร่องแก้มตื้นลง ทำให้หน้าดูอ่อนเยาว์ลงไปหลายปีเลยค่ะ ส่วนคางที่ปรับเล็กน้อยก็ช่วยให้ใบหน้าดูเรียวและมีมิติมากขึ้นค่ะ
สรุปความประทับใจ
บอกเลยว่าการฉีดฟิลเลอร์ที่ v
infinity Clinic เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องมากค่ะ!
คุณหมอเก่งและมือเบามาก: ประเมินได้ตรงจุด ให้คำแนะนำดี และฉีดได้สวยเป็นธรรมชาติ
คลินิกสะอาด ปลอดภัย: บรรยากาศดี พนักงานบริการดี
ใช้ฟิลเลอร์แท้ 100%: ตรวจสอบได้ ทำให้มั่นใจในความปลอดภัย
ผลลัพธ์น่าพอใจ: หน้าดูดีขึ้น สดใสขึ้น แต่ยังคงความเป็นธรรมชาติ
สำหรับใครที่กำลังลังเลเรื่องการฉีดฟิลเลอร์ หรือกำลังมองหาคลินิกดีๆ ที่ไว้ใจได้ เราแนะนำ

v
infinity Clinic เลยค่ะ ไม่ผิดหวังแน่นอน!
ข้อควรรู้เพิ่มเติม (สำหรับมือใหม่หัดฉีด):
ปรึกษาคุณหมอสำคัญที่สุด: อย่าเพิ่งตัดสินใจเอง ควรให้คุณหมอประเมินและแนะนำ
เลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ: มีใบอนุญาต มีคุณหมอที่มีประสบการณ์ และใช้ฟิลเลอร์แท้
ฟิลเลอร์สลายได้เอง: ฟิลเลอร์ส่วนใหญ่จะอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน - 2 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดฟิลเลอร์และการดูแลของเราค่ะ
ผลลัพธ์แต่ละคนไม่เหมือนกัน: ขึ้นอยู่กับโครงสร้างใบหน้าเดิมและการตอบสนองของร่างกายด้วยนะคะ
หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังสนใจฉีดฟิลเลอร์นะคะ ถ้ามีคำถามเพิ่มเติม ถามมาได้เลยน้า ยินดีตอบทุกคำถามค่ะ! 😊
[SR] รีวิวคลินิกเสริมความงามอุดรธานี
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ชาวพันทิปทุกคน! วันนี้ขอมาแชร์ประสบการณ์ตรงกับการฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรกในชีวิต ที่ vinfinity Clinic ค่ะ บอกเลยว่าประทับใจมากกกก จนอยากจะมาบอกต่อ เผื่อใครกำลังลังเลหรือหาข้อมูลอยู่ จะได้ตัดสินใจง่ายขึ้นค่ะ
จุดเริ่มต้นของความอยากฉีดฟิลเลอร์
ปกติเป็นคนที่มีปัญหาใต้ตาคล้ำและดูโทรมตลอดเวลาค่ะ ถึงจะนอนพอ พักผ่อนเต็มที่ แต่ก็ยังดูเหมือนคนอดนอนตลอดเวลา แถมพออายุเริ่มเยอะขึ้น ร่องแก้มก็เริ่มมาเยือน ทำให้หน้าดูมีอายุและไม่สดใสเลยค่ะ
เห็นเพื่อนๆ หลายคนไปฉีดฟิลเลอร์แล้วหน้าดูเด็กลง สดใสขึ้น ก็เลยเริ่มสนใจ แต่ก็มีความกลัวอยู่ลึกๆ นะคะ กลัวเจ็บ กลัวไม่ธรรมชาติ กลัวหน้าแข็ง กลัวโน่นนี่เต็มไปหมดค่ะ 😅
ทำไมถึงเลือก vinfinity Clinic?
ก่อนตัดสินใจฉีด ก็หาข้อมูลคลินิกเยอะมากค่ะ ทั้งจากรีวิวใน Pantip, Facebook, Instagram ดูรูป Before/After เยอะแยะไปหมด จนมาเจอชื่อ vinfinity Clinic ที่มีรีวิวค่อนข้างดีและดูเป็นธรรมชาติ ที่สำคัญคือเห็นว่าคุณหมอที่นี่มีความเชี่ยวชาญด้านฟิลเลอร์โดยเฉพาะ และใช้ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์แท้ที่ตรวจสอบได้ ก็เลยลองตัดสินใจโทรไปปรึกษาค่ะ
วันปรึกษาคุณหมอ (สำคัญมาก!)
พอไปถึงคลินิก บรรยากาศก็ดูสะอาด ปลอดภัย พนักงานต้อนรับดีมากค่ะ ไม่มีการฮาร์ดเซลล์เลย ซึ่งตรงนี้ชอบมาก!
จากนั้นก็ได้เข้าพบคุณหมอค่ะ คุณหมอใจดีมากค่ะ ให้คำปรึกษาละเอียดสุดๆ ไม่รีบเลยค่ะ คุณหมอจะประเมินรูปหน้าของเราอย่างละเอียด อธิบายว่าปัญหาของเราคืออะไร และฟิลเลอร์จะช่วยแก้ปัญหาตรงไหนได้บ้าง เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม หรือคาง และจะใช้ปริมาณเท่าไหร่ถึงจะดูเป็นธรรมชาติ
ที่สำคัญคือคุณหมอจะอธิบายถึงชนิดของฟิลเลอร์ (ซึ่งมีหลายยี่ห้อ หลายรุ่น) คุณสมบัติของแต่ละตัว และเลือกตัวที่เหมาะสมกับปัญหาและงบประมาณของเราค่ะ คุณหมอจะโชว์กล่องฟิลเลอร์ให้ดู และแกะกล่องต่อหน้าเราเลย เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นของแท้ 100% ตรงนี้ทำให้เราสบายใจขึ้นเยอะเลยค่ะ
ตอนแรกกังวลเรื่องใต้ตามาก แต่คุณหมอแนะนำว่าการเติมร่องแก้มและปรับคางเล็กน้อย จะช่วยให้ภาพรวมของใบหน้าดูสมดุลและอ่อนเยาว์ขึ้นด้วย ซึ่งเราก็เห็นด้วยค่ะ เลยตัดสินใจทำทั้ง 3 จุดเลย
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ (เจ็บไหม?!)
หลังจากปรึกษาและตัดสินใจเรียบร้อย ก็เริ่มขั้นตอนการเตรียมผิวค่ะ พนักงานจะทำความสะอาดหน้าและแปะยาชาให้ทั่วบริเวณที่จะฉีดค่ะ ทิ้งไว้ประมาณ 30-45 นาที เพื่อให้ยาชาออกฤทธิ์เต็มที่
พอถึงเวลาฉีด บอกเลยว่าตื่นเต้นมากค่ะ! 😅 แต่คุณหมอมือเบามากกกกกกกก จริงๆ ค่ะ! ตอนฉีดจะรู้สึกแค่จี๊ดๆ ตอนเข็มลงผิวเท่านั้นค่ะ ตัวฟิลเลอร์เองก็มียาชาผสมอยู่แล้ว เลยไม่รู้สึกเจ็บอะไรเลยค่ะ คุณหมอจะคอยถามตลอดว่าเจ็บไหม ไหวไหม และคอยเช็กทรงตลอดเวลา เพื่อให้ได้รูปหน้าที่สวยที่สุดและเป็นธรรมชาติที่สุด
ใช้เวลาฉีดไม่นานเลยค่ะ ประมาณ 30-40 นาทีก็เสร็จแล้ว เร็วกว่าที่คิดไว้เยอะเลยค่ะ
ผลลัพธ์หลังฉีดทันที และการดูแลหลังฉีด
หลังฉีดเสร็จทันที สิ่งแรกที่เห็นคือ ใต้ตาที่เคยคล้ำและโบ๋ดูเต็มขึ้นมาทันที ร่องแก้มก็ตื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หน้าดูสดใสขึ้นมาทันตาเห็นเลยค่ะ! คุณหมอจะให้กระจกมาส่องดู และปรับแก้ให้เราพอใจที่สุดค่ะ
หลังฉีดอาจมีรอยแดงเล็กน้อย หรืออาจมีรอยช้ำบ้างในบางจุด (ซึ่งของเรามีรอยช้ำจิ๋วๆ ตรงใต้ตานิดหน่อยค่ะ) แต่คุณหมอก็ให้คำแนะนำในการดูแลหลังฉีดอย่างละเอียด เช่น งดนวดหน้า งดดื่มแอลกอฮอล์ งดออกกำลังกายหนักๆ งดเข้าซาวน่า/อบไอน้ำ ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก และประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมช้ำค่ะ
ผลลัพธ์หลังจากฟิลเลอร์เข้าที่ (ประมาณ 1-2 สัปดาห์)
หลังจากผ่านไปประมาณ 1-2 สัปดาห์ ฟิลเลอร์ก็เข้าที่แล้วค่ะ หน้าดูเป็นธรรมชาติมาก ไม่มีใครทักว่าไปทำอะไรมาเลยค่ะ มีแต่คนทักว่า "ไปทำอะไรมา ทำไมดูสดใสขึ้น หน้าเด็กขึ้น" ซึ่งเป็นคำชมที่อยากได้ยินที่สุดเลยค่ะ! 🥰
ใต้ตาที่เคยคล้ำก็ดูเต็มและสว่างขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ร่องแก้มตื้นลง ทำให้หน้าดูอ่อนเยาว์ลงไปหลายปีเลยค่ะ ส่วนคางที่ปรับเล็กน้อยก็ช่วยให้ใบหน้าดูเรียวและมีมิติมากขึ้นค่ะ
สรุปความประทับใจ
บอกเลยว่าการฉีดฟิลเลอร์ที่ vinfinity Clinic เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องมากค่ะ!
คุณหมอเก่งและมือเบามาก: ประเมินได้ตรงจุด ให้คำแนะนำดี และฉีดได้สวยเป็นธรรมชาติ
คลินิกสะอาด ปลอดภัย: บรรยากาศดี พนักงานบริการดี
ใช้ฟิลเลอร์แท้ 100%: ตรวจสอบได้ ทำให้มั่นใจในความปลอดภัย
ผลลัพธ์น่าพอใจ: หน้าดูดีขึ้น สดใสขึ้น แต่ยังคงความเป็นธรรมชาติ
สำหรับใครที่กำลังลังเลเรื่องการฉีดฟิลเลอร์ หรือกำลังมองหาคลินิกดีๆ ที่ไว้ใจได้ เราแนะนำ
vinfinity Clinic เลยค่ะ ไม่ผิดหวังแน่นอน!
ข้อควรรู้เพิ่มเติม (สำหรับมือใหม่หัดฉีด):
ปรึกษาคุณหมอสำคัญที่สุด: อย่าเพิ่งตัดสินใจเอง ควรให้คุณหมอประเมินและแนะนำ
เลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ: มีใบอนุญาต มีคุณหมอที่มีประสบการณ์ และใช้ฟิลเลอร์แท้
ฟิลเลอร์สลายได้เอง: ฟิลเลอร์ส่วนใหญ่จะอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน - 2 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดฟิลเลอร์และการดูแลของเราค่ะ
ผลลัพธ์แต่ละคนไม่เหมือนกัน: ขึ้นอยู่กับโครงสร้างใบหน้าเดิมและการตอบสนองของร่างกายด้วยนะคะ
หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังสนใจฉีดฟิลเลอร์นะคะ ถ้ามีคำถามเพิ่มเติม ถามมาได้เลยน้า ยินดีตอบทุกคำถามค่ะ! 😊
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น