เราเป็นอดีตลูกสะไภ้ร้านอาหารไทยชื่อดังมิชริน8ปีซ้อนเลิกกับสามีได้7ปีแต่อดีตสามียังตามระรานก่อกวนตลอดจนเราจะเป็นซึมเศร้า!

กระทู้คำถาม
สวัสดีค่ะเราจะขอใช้พื้นที่ตรงนี้เพื่อเป็นที่ระบายความรู้สึกที่ทุกข์ทรมานของเราที่เก็บไว้ตลอด10กว่าปี​ และขอความคิดเห็น​และช่วยคิดหาทางออกจากพี่ๆน้องๆชาวพันทิพทุกคนหน่อยค่ะ
                 ขออนุญาติใช้(นามสมมุติ)​นะคะ​ เราชื่อฟ้าค่ะ​ ตอนนี้เราอายุ​36ปีค่ะ​ มีลูก3คน​ลูกคนแรกเรามีกับแฟนเก่าคนแรกค่ะแต่พ่อของน้องได้เสียชีวิตไปแล้ว(ไม่ขอกล่าวถึงนะคะ)​ ส่วนลูกอีก2คนเรามีกับอดีตสามีเก่าที่เรามีประเด็นที่กำลังจะกล่าวถึงค่ะ​ คนโตอายุ​11ขวบ​ คนรองอายุ​ 7ขวบค่ะ​ ลูกเราเป็นผู้ชายทั้งหมด​ สถานะตอนนี้เราเลิกกันไปตั้งแต่เราคลอดน้องคนเล็กใหม่ๆค่ะตอนนี้ก็ได้เข้าปีที่8​ สาเหตุที่เลิกกัน​เพราะพ่อของลูกเรามีอารมณ์รุนแรง​ ชอบทำร้ายร่างกายเราอยู่บ่อยครั้ง​จนเราถึงขั้นเข้ารพ.บ่อยครั้ง​และติดการพนันอย่างหนักในเวลานั้น​ และเจ้าชู้มาก​จนติดโรคทางเพศสัมพันธุ์ที่ชื่อว่า​ "ซิฟิลิส" ทำให้เราได้รับผลกระทบจากตรงนี้ไปด้วย​ เราจับได้หลายครั้งมากตลอดระยะเวลาที่อยู่กินกัน จนเราทนไม่ไหวขอเลิกเองค่ะ​ (กว่าจะเลิกกันได้ก็ถูกสามีเก่ามาอาระวาดนานอยู่ค่ะกว่าจะสงบ)ต่างคนก็ต่างมีแฟนใหม่ค่ะ​ อดีตสามีเราก็เปลี่ยนแฟนไปเรื่อยค่ะ​ ส่วนเราทุกครั้งที่เราจะมีแฟนอดีตสามีจะระรานก่อนตลอดทุกครั้ง​ ตอนเราไม่มีแฟนก็ก่อกวนด้วยคำพูดดูถูกเหยียดหยามดูถูกสารพัดค่ะ​​ แต่ตอนนี้เรายังอาศัยทำมาหากินขายของอยู่ที่ร้านอาหารของแม่อดีตสามีอยู่​ แต่เดี๋ยวเราจะเล่าความเป็นมาอีกครั้งนะคะ​ว่าทำไมเรายังต้องมาขายของอยู่ที่ร้านของแม่อดีตสามีทั้งที่เลิกกันแล้ว​
                   เรากับอดีตสามีรู้จักกันราวๆปี2555ค่ะในขณะนั้นเรากำลังเรียนอยู่ปวส.ตามปกติค่ะคู่รักแรกๆก็ดีตามเนื้อเรื่องค่ะ​ จึงตัดสินใจคบกันอยู่ด้วยกัน​ ตอนนั้นก็พามารู้จักพ่อแม่กันเป็นที่เรียบร้อย​ เราอยู่กับอดีตสามีและเราก็ไปเรียนรอบวันอาทิตย์ด้วย​ เราขอเล่าคร่าวๆนะคะ​  (ในขณะนั้นเป็นการตัดสินใจของเราที่ผิดมากๆ)​ข้อเเรกเลยที่ทำให้ชีวิตเราตอนนี้ไม่มีวุฒิการศึกษาสูงๆเพื่อไปทำงานหาเลี้ยงตัวเองได้ แฟนเราบอกกับเราว่าไม่ต้องไปเรียนแล้วให้เราออกมาช่วยขายของทำมาหากินที่ร้านอาหารของเขา​ แต่เหตุผลของเขาที่ให้เราออกส่วนนึงในขณะนั้นเขามีปัญหาเรื่องหึงหวงส่วนนึงในเวลานั้น​ เขาคิดว่าเพื่อนของเราในกลุ่มจะหาสามีใหม่ให้ เลยให้เราตัดสินใจเลือกว่าเลือกไปเรียนคือเลือกเพื่อน​ หรือเลือกที่จะอยู่กับเขาแล้วมาช่วยกันทำมาหากินะเขารับปากจะส่งเสียเลี้ยงดูแลเรา​และช่วยกันทำมาหากิน​ เราเลยตัดสินใจเลือกที่จะอยู่กินกับอดีตสามี
                     อยู่ด้วยกันได้ประมาณ1ปี เราก็ได้เกิดตั้งท้องลูกคนแรก​ แต่เป็นการท้องแบบไม่ได้ตั้งใจนะคะเพราะเรากินยาคุมแบบฉุกเฉิน เราก็เริ่มมีปัญหาจับได้ว่าสามีนอกใจไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่นอยู่เรื่อยๆ​แต่เราก็เลือกที่จะให้อภัยทุกครั้งเพราะเราเลือกที่จะมาอยู่กินกับเขาแล้ว​ตอนที่สามีรู้ว่าเราท้องตอนแรกก็บังคับเราให้ไปเอาออก​ ตอนนั้นเราตั้งท้องได้ประมาณ3เดือน​ มีการเอาไม้แขนเสื้อมาขดๆจะมายัดใส่ช่องคลอดเราเพื่อนำเด็กออก​แต่ไม่ได้ยัดนะคะเพราะเราขัดขืนและได้ทำการกระทืบท้องเราประมาณ3-4ครั้งที่เราจำได้​แต่โชคดีที่ลูกในท้องของเราไม่เป็นอะไร​ ตอนนั้นเรากับสามีเช่าอพาทเม้นกันอยู่ต่างหากไม่ได้อยู่รวมกับครอบครัวเขา​และครอบครัวสามีก็ยังไม่รู้ว่าเราตั้งท้อง​ เลยไม่มีใครสามารถช่วยเหลือเราได้​ ตอนนั้นเราก็นั่งคิดทบทวนจะกลับไปอยู่กับพ่อแม่จะบอกพ่อแม่ก็กลัวพ่อแม่เป็นทุกข์และเสียใจ​ เรากลับไปก็ไปเป็นภาระพ่อแม่อีก​ เพราะพ่อแม่เราก็อยู่ตจว.ไม่ได้มีฐานะอะไร​ เราเลยเลือกฝืนที่จะอยู่ต่อแต่ได้เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้กับแม่สามีฟัง​ เขาก็เห็นใจและช่วยเหลือเราค่ะ​ และให้เราย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านรวมกันกับครอบครัวแม่สามี​​ และเราก็ได้ไปขายของทำมาหากินในร้านอาหารของแม่สามีค่ะ​มี1ในเมนูในร้านอาหาร​ เราก็ยังอยู่ด้วยกันกับสามีนะคะเพราะสามีบอกจะปรับปรุงตัวและเราก็หวังว่ามันจะดีขึ้นด้วยค่ะ​ แต่เราก็มีทะเลาะกันเรื่อยๆเหมือนเดิม​ มีการนอกใจ​ มีการทำร้ายร่างกาย​ ติดเพื่อน​ ติดการพนัน​ จนเงินที่ได้จากการขายของหมด เราก็ได้แม่สามีดีค่ะคอยพูดปลอบใจเราปกป้องเรา​ แต่ก็ปกป้องได้ไม่มากเพราะอดีตสามีเราไม่กลัวแม่เขา​ และมีอารมณ์ฉุนเฉียวรุนแรง​ เราก็อดทนเรื่อยมาเพราะเราก็ตั้งท้องอยู่และเราก็ไม่กล้ากลับไปหาพ่อแม่เรา​ อดทนจนคลอดลูกคนแรก​ เราก็ได้ไปจดทะเบียนสมรสกันในปี2557  จดได้2เดือนก็หย่าเพราะสามีเราไปติดผู้หญิง​และระบุในใบหย่าว่ามีลูกด้วยกัน1คนยกให้เราปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียว​และจะส่งเสียเลี้ยงดูบุตรเดือนละ5000บาทจนกว่าจะบันลุนิติภาวะ(ด้วยรายได้ที่หาได้ของเขาขณะนั้น)​ แต่แม่สามีก็ให้เราอาศัยอยู่ที่บ้านและให้ลูกชายของเขาไปอยู่ข้างนอกแทน​ เราก็เลี้ยงลูกมาเรื่อยๆค่ะญาติสามีก็จ่ายค่านมค่าทุกอย่างให้กับลูกเรา​ส่วนตัวเราก็มีรายได้เล็กๆน้อยจากที่ร้านไม่กี่ร้อยในขณะนั้น​ก็กลับมาดีกันอีก​ รักๆเลิกๆจนเราทนไม่ไหวย้ายไปอยู่ข้างนอกแทน  ต่อมาสามีก็อยากกลับมาคืนดีมาอยู่ด้วยกันแบบพ่อแม่ลูกเหมือนเดิม​ รับปากและสัญญาว่าจะทำตัวให้ดี แม่สามีก็ช่วยพูดว่ายอมๆไปเถอะเพื่อลูก​ ลูกจะได้มีพ่อ​ สงสารหลานเค้าอดร้องไห้ไม่ได้ที่จะเห็นหลานของเขาเป็นแบบนี้​ น้าของอดีตสามีก็โทรมาคุยกับเราค่ะชื่อน้าต.(ขอใช้อักษรย่อนะคะ)​ เขาได้เสนอเงินเดือนให้เราเดือนละ15000บาทและบอกให้เรากลับมาขายของที่ร้านเหมือนเดิม​ อยากเอาอะไรมาขายก็ขายได้(เท่ากับเรามีรายได้2ทาง)​แต่ตอนนั้นเราก็มีรายได้จากการขายเครื่องสำอางของเราทางเน็ตอาทิตย์ละ8000-12000บาท​ตอนนั้นเรามีรายได้และมีความสุขมาก​แต่ลูกของเราก็ถามถึงพ่อ​ คิดถึงพ่ออยู่บ่อยครั้งเราก็นอนร้องไห้ค่ะเพราะสงสารลูก​ แต่เราก็อดทน แต่ด้วยความโน้มเน้าของแม่สามีของเราโทรมาร้องไห้เป็นประจำ​ และน้าของสามีชื่อน้าต.โทรมาหาเราว่าอยากเจอหลานและสงสารหลาน​ เราก็เลยยอมรับข้อเสนออีกค่ะ​ ตอนนั้นก็คิดอยู่นานค่ะ​ นั่งมองหน้าลูกและถามลูกลูกบอกคิดถึงพ่อ​อยากอยู่กับพ่อและกับแม่ ตอนนั้นหัวอกคนแม่ได้ยินลูกพูดมันทำให้หันกลับมาถามตัวเองจะเลือกความสุขของตัวเองหรือเลือกความสุขของลูก โทรไปปรึกษาแม่เราเอง​ แม่เราก็สอนเราว่าชีวิตครอบครัวก็ต้องอดทนสงสารลูก​ ถ้าผู้ใหญ่เขารับปากว่าจะดูแลเราอย่างนั้นเอ็งก็อดทนไปเพื่อลูกเอ็งจะได้มีความสุข​ ผัวเอ็งนอกใจก็ปล่อยมันไปเอ็งจะได้ไม่ต้องคิดมาก​ เราเลยยอมที่จะกลับไปเริ่มต้นครอบครัวใหม่อีกครั้งเพราะความเชื่อใจด้วยค่ะว่าเค้าจะดูแลเรา​ว่าเขาจะปกป้องเราจากการโดนทำร้าย​ และคำพูดของน้า​ต. ที่บอกจะให้เงินเดือนเรา15000ทุกเดือนและ​ ให้เราเอาอาหารมาขายได้ที่ร้านกี่อย่างก็ได้ (แต่ต้องให้แม่สามีเราชิมก่อนว่าผ่านไหม)​เราเลยทิ้งทุกอย่าง​ และเลือกกลับมาอยู่ด้วยกันมาจนมามีลูกคนที่2ปี2561​ เหมือนจะไปได้ดีค่ะแต่.....
                                 แต่ก่อนที่เราจะมาตั้งท้องลูกคนที่2อดีตสามีเราไปมั่วผู้หญิงอีกค่ะ!! จนติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ชื่อ​"ซิฟิลิส​" จนเรามีการติดเชื้อไปด้วย​แต่สามีเราไม่บอกเรานะคะ​ เขาแอบไปรักษาคนเดียวค่ะ​(เห็นแก่ตัวสุดๆ)​ แล้วได้ยามากินคนเดียว​ ส่วนเรายังไม่รู้ค่ะ​ แต่เราเริ่มมีอาการผิดปกติ​ ตกขาวเปลี่ยนสี​มีกลิ่นเหม็นแปลกๆ​ตอนนั้นเราคิดว่าเรากินอะไรผิดสำแดงรึเปล่า​ ตอนนั้นเราก็ยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับโรคนี้ค่ะ​และไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับเรา​ เพราะเราก็เป็นแม่บ้านตั้งใจเลี้ยงลูกอย่างเดียวเลยค่ะ​เรามารู้เนื่องจากเราไปค้นกระเป๋าของอดีตสามีเจอบัตรผู้ป่วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์แถวบางรักค่ะ​ เราจำชื่อไม่ได้แล้ว​ ตอนนั้นเรารู้สึกแย่มากๆ​และช้อคตัวสั่นอย่างหนัก​ เพราะเรากลัวว่าจะเป็นโรคร้ายอย่างHIV รึเปล่า​เพราะลูกเรากำลังเล็กและน่ารัก​ และเราก็มีความสัมพันธ์กับสามีโดยไม่คุม​ เราจึงโทรไปถามทางที่อยู่ตามบัตรบอกให้เค้าช่วยบอกเราว่าสามีเราเป็นโรคอะไร​ เราขอความเห็นใจจากทางนั้นค่ะบอกลูกเรากำลังเล็ก​ เขาจึงแจ้งมาว่าเป็น​"โรคซิฟิลิส" ตอนนั้นเราก็ไปตามไปตรวจและรักษาที่นั่นค่ะได้ยามากิน​ตอนนั้นจำไม่ได้หมอแจ้งกับเราว่าน่าจะเป็นหนองในอะไรสักอย่าง​ (เราจำไม่ได้แม่นยำมากค่ะเพราะมันนานแล้ว)​เราก็บอกแม่สามีและน้าต.นะคะ​ เค้าก็ได้แต่พูดว่ามันเอาอีกแล้ว​ เค้าก็ได้แต่ไปว่าค่ะ​เพราะเค้าก็ไม่รู้จะทำยังไง
                                  ต่อมาเรามีลูกคนที่2ค่ะและตรวจพบหลังคลอดว่าเรามีเซลส์ผิดปกติที่ปากมดลูกต้องทำการตัดชิ้นเนื้อส่วนนั้นออก​ เพราะจะกลายเป็นมะเร็งได้​ ตอนนั้นเราตกใจและกลัวมากค่ะ!! ภาพมันมาเลยถ้าเราเป็นโรคร้ายลูกเราจะอยู่ยังไงพ่อของลูกก็ไม่ได้เรื่อง​ ร้องไห้เลยค่ะเพราะความกลัวและกังวลใจมาก​ เงินค่ารักษาก็ไม่มี เราได้นำเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี่ที่สามีเราเป็นซิฟิลิสปรึกษาหมอ​ และเล่าให้หมอฟังว่าเราโดนนอกใจหลายครั้ง​ ตอนนั้นเรารักลูกมากและกลัวตายมากขึ้นชื่อว่าจะเป็นมะเร็ง​ เราก็กลัวตายทันที​ ตอนนั้นเราบอกกับแม่สามีค่ะ​ เค้ารับปากจะจ่ายค่ารักษาให้เราทั้งหมดและรับผิดชอบจนกว่าเราจะหาย​ กี่บาทว่ามาเลย หมอก็ให้คำแนะนำเราค่ะตอนนั้นว่า​ ถ้าแฟนของคุณไม่เลิกไปมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนอื่น​ คุณก็จะเป็นแบบนี้​ เขื้อพวกนี้มันก็จะมาติดคุณอีกนึกถึงลูกให้มากๆ​ เราจะต้องมีชีวิตต่อไปเพื่อดูแลลูก​ มีหลายคนเป็นพ่อเลี้ยงเดี๋ยว​ แม่เลี้ยงเดี่ยว​ ตอนนั้นเราตัดสินใจบอกเลิกสามีเลยค่ะ​ เราบอกกับตัวเราเองเลย​ "ฉันจะมีชีวิตอยู่เพื่อปกป้องดูแลลูกของฉัน​ และฉันจะตายไม่ได้" ทุกครั้งที่แฟนเรามาอาระวาดด่าเรามาง้อเรา​ เราแจ้ง191ตลอดค่ะ​ ระหว่างนั้นเราก็แยกกันอยู่ค่ะตึกแถวคนละตึก​ เราก็ได้อยู่ตึกนึงที่แม่สามีซื้อให้หลาน​ อยู่แบบนั้นนานพอสมควรค่ะกว่าจะสงบ​ เราก็รู้สึกเหมือนเป็นอิสระแล้ว​ เพราะต่างคนต่างอยู่ต่างคนต่างทำมาหากิน​ อดีตสามีก็มีแฟนใหม่เปลี่ยนไปเรื่อยค่ะ​ เราก็ทำหน้าที่แม่เลี้ยงลูก2คนไป​ ตอนนั้นเรายอมรับว่าเราสตรองมากขึ้น​ และเราเปลี่ยนไป​ กล้าต่อสู้​ กล้าตอบกลับอดีตสามีจากแต่ก่อนที่เรากลัวเค้ามากๆเค้ามาก่อกวนเราก็แจ้งความและด่าตอบโต้อดีตสามีไปด้วยค่ะ​ เหมือนกลายเป็นหญิงแกร่งจนถึงทุกวันนี้ค่ะ​ แต่เหมือนจะมีความสุขระหว่างที่อยู่ตรงนี้ใช่ไหมคะ​ เหมือนจะจบ มันมีเรื่องระหว่างทางอีกค่ะ มันเป็นสิ่งที่เราอยากจะขอคำปรึกษาและความเห็นจากพี่ๆน้องๆชาวพันทิพย์​และผู้ที่เคยมีประสบการณ์(แต่ขอย้ำนะคะว่ารอบนี้เลิกกันขาดแล้วอย่าเพิ่งว่าหนูนะคะ)​ เดี๋ยวจะเล่ารายระเอียดเพิ่มเติมค่ะ​ สิ่งที่เราได้รับและความรู้สึกของเราระหว่างที่เราอยู่ตรงนี้กับสิ่งที่เราได้เจอกับคนในครอบครัวนี้ที่เราจะมาขอคำปรึกษาและต้องการหาทางออกในชีวิตที่เราเผชิญอยู่ตอนนี้ค่ะ​ มาต่อ...
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่