คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
>>>>มาเล่าต่อค่ะ🙏
เราขอบอกพี่ๆเพื่อนๆก่อนนะคะ ว่าที่เรามาระบายเราไม่ได้ร้องขอความสงสารจากใครแต่เราขอความคิดเห็นและหนทางออกในการดำเนินชีวิตที่ดีจากพี่ๆเพื่อนๆชาวพันทิพทุกคนที่มีประสบการณ์ในการเผชิญชีวิต เพราะเราสุดจะทนแล้วจริงๆเราคิดคนเดียวเราหาทางออกไม่ได้ เรายอมทุกคนมามากแล้ว และเราก็ทุกข์สุดๆจนเราคิดว่ามันนานเกินไปแล้วความทุกข์ของเราที่เราเผชิญ และยอมมาตลอด
จำที่เราบอกว่าน้าของอดีตสามีบอกว่าถ้าเราพาลูกกลับมาจะให้เงินเดือนเราทุกเดือน เดือนละ15000ได้ไหมคะและอยากขายอะไรก็ขายเอามาให้แม่สามีชิมก่อนถ้าดีก็ขายได้ เรากลับมาเค้าให้เราแค่เดือนเดียวค่ะ และให้เหตุผลในตอนนั้นว่าของที่เราขายของในร้านขายดีแล้ว เค้าของดให้รายเดือนเรา ตอนนั้นเหมือนเราทิ้งทุกอย่างกลับมาอยู่กับครอบครัวเค้าแล้ว อาชีพที่เรามีขายเครื่องสำอางเราก็เลิกไปมาทุ่มเทตรงนี้ มันเลือกหรือโต้แย้งอะไรไม่ได้เราจึงยอม เห็นว่าค่านมค่าแพมเพิสเค้าก็ดูแลตลอด ไม่เป็นไร แต่ยังไม่จบตอนนั้นเราขายของดีมาก น้าของอดีตสามีมาว่าเรา ขายอะไรแบบโลภมาก คือตอนนั้นพนักงานที่ร้านช่วยเราขายแนะนำเมนูพิเศษ เราให้เปอร์%จานละ10บาทพนักงานก็เลยอยากได้%ตรงนั้นมาซื้อสบู่มาซื้อของใช้ส่วนตัวของเขาสะสมเป็นค่าอาหารเล็กๆน้อยๆช่วงวันหยุดของเขา(พนักงานเราเป็นต่างด้าว)เราก็มีความสุขที่พวกเขามีตังค์ซื้ออะไรตรงนี้ แต่น้าต.กลับมาว่าเราทุกครั้งที่ขายดีและมาว่าพนักงานทุกคนที่ช่วยเราขาย จนเราไม่กล้าขายดี ลูกค้าถามเราต้องบอกว่าอาหารของเราหมดเพื่อไม่ให้ถูกด่า เราต้องยอมค่ะเพราะเป็นร้านอาหารของเขา แต่เราต้องมาแอบร้องไห้ค่ะเสียดายที่เราไม่ได้ขาย พนักงานที่ร้านก็กลัวถูกว่าค่ะ และเรามีน้าอีกคนที่ไม่ใช่คนในครอบครัวอดีตสามีที่ทำงานที่ร้านกับเรา เขาก็เมตตาเราก็บอกเราตลอดว่าน้าต.ไม่ชอบเราเกลียดเรามาก และว่าเราให้น้าคนนี้ฟังทุกครั้ง ตอนนั้นเราเสียใจมาก เราคิดว่าเราไปทำอะไรให้น้าเขาไม่พอใจ แต่เราคิดว่ามันเกิดจากการที่เราขายของดีค่ะ เพราะเราจะมีปัญหาเรื่องนี้กับน้าของอดีตสามีตลอด และเขาจะเก็บอาการแสดงทางสีหน้าไม่อยู่จนเราดูออกทุกครั้ง ต่อมาช่วงโควิด19ร้านอาหารเปิดขายหน้าร้านไม่ได้เมนูของเราก็ขายไม่ดีรายได้ของเราเหลือไม่กี่ร้อย เราจะดิ้นรนอย่างไรก็ไม่ได้เพราะอาหารของเราไม่มีในเมนูของร้านต้องเชียร์ด้วยปากอย่างเดียว แต่จะทำไงล่ะ เมื่อไม่มีคนมาทานในร้าน เราก็ทำงานที่ร้านอย่างเต็มที่ทุ่มเททุกอย่างด้วยความเต็มใจเพราะถือว่าเราอาศัยอยู่กับเขา จัดอาหารกับบ้านทำงานอย่างหนักมากตอนนั้นร้านเปิดยันร้านปิดทางร้านขายอาหารกลับบ้านดีมาก จนพนักงานช่วยพูดให้เราได้เงินเดือนเพราะเรามีรายได้น้อยแถมเราป่วยต้องเข้าออกรพ.บ่อยในช่วงนั้น(การรักษาต่อเนื่องจากเซลส์ปากมดลูกผิดปกติในตอนนั้น)จนน้าต.ของดีตสามีเสนอให้เราเดือนละ5000บาท ซึ่งมันน้อยมากจริงๆลูก2คนอยู่กินกับเราให้เราแค่5000บาท เราทำงานร้านเปิดยันร้านปิด ทำงานเหมือนพนักงานคนนึง ตอนนั้นเราคิดในใจเหมือนกัน ทำไมเขาให้เงินเราแค่นี้เราก็ป่วยอยู่ค่าหาหมออะไรเราก็เองทั้งหมด จากที่แม่อดีตสามี บอกว่าจะช่วยรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลเราเอาบิลไปยื่นให้แม่เค้า แม่เค้าก็บอกทุกครั้งว่าไม่ค่อยมีเงิน แม่อดีตสามีบ่นทุกครั้ง และพูดต่อท้ายว่าเดี๋ยวน้าต.บ่นอีก ตอนนั้นเราก็กลัวน้าคนนี้มากเราก็เลยตัดปัญหาจ่ายค่ารักษาพยาบาลเองทุกครั้ง แต่เราก็แอบคิดนะคะจะไม่มีเงินขนาดนั้นเลยหรอร้านอาหารก็ใหญ่โตขายดีมาก😢แต่ต่อมาน้าต.ก็ให้เราแค่เดือนเดียวอีกเหมือนเคย และเค้าก็ทำทีเงียบๆไปตอนจ่ายเงินเดือนพนักงาน ตอนนั้นเราทำใจเลยค่ะ ตอนนั้นที่เราคลอดลูกคนที่2ใหม่ๆเราเข้าออกรพ.ทุกเดือนหลายปีเลยค่ะ หมดไปหลายบาท ทองรูปพรรณที่เรามีนำมาขายรักษาตัวเองหมด หลายแสนเลยค่ะ ทองเรามีเก็บเกือบ20บาทที่ได้จากการขายเครื่องสำอางสมัยก่อนและแม่เราให้ด้วย เงินเก็บที่เรามีหมดตัวเลยค่ะก็ว่าได้ เราทำใจยอมรับการหมดตัวครั้งนั้นอยู่นานมากค่ะว่าโรคที่อดีตสามีนำมาติดเรา มาทำให้ชีวิตเราเป็นแบบนี้ โรคที่เราไม่ได้เป็นคนก่อ ไม่มีใครรับผิดชอบเราตามที่สัญญาและรับปากเราอย่างตอนแรก เราเสียใจมากว่าทำไมชีวิตเราไม่ได้รับความเป็นธรรมเลย เราต้องมายอมเสียทุกอย่างที่เรามีในตอนนั้นที่เราสร้างมาเก็บหอมรอมริดมาแต่เราต้องยอมเพราะเราต้องรักษาตัวเราจริงๆค่ะ เพราะเราต้องมีชีวิตอยู่และแข็งแรงเพื่อลูกๆของเราเอง เราหาหมอตลอดเพราะปากมดลูกตีบ ประจำเดือนออกมาไม่ได้เราปวดท้องอย่างหนักและทรมานมาก พอประจำเดือนออกมาได้ก็เหม็นเน่าอย่างกับสากศพ ต้องไปใส่สายใสๆที่ต่อจากปากมดลูกเพื่อขยายปากมดลูกเพื่อไม่ให้ปากมดลูกตีบ พอถอดสายสักไม่กี่อาทิตย์ก็ตีบใหม่เป็นแบบนี้อยู่หลายครั้ง จนคุณหมอท่านนึงแนะนำให้เราไปรักษาที่รพ.บำรุงราษฎ์ คุณหมอท่านเห็นประวัติการรักษาของเราและสงสารเรามาก และเราบอกกับคุณหมอว่าเราหมดตัวแล้วและท้อใจเป็นอย่างมาก เราอยากมีชีวิตอยู่ต่อเพื่อดูแลลูกๆของเรา คุณหมอบอกถ้าไปหาคุณหมอท่านนี้ที่รพ.นี้เราจะดีขึ้นแน่นอน เราก็ไปรักษาที่นั่นค่ะและขอความช่วยเหลือจากแม่อดีตสามีเราบอกว่าเราหมดตัวแล้วจริงๆ พอเรารักษาเค้าก็ช่วยจ่ายค่ารักษาค่าส่วนต่างจากประกันให้เราค่ะจำนวน60000บาท ตอนนั้นแม่อดีตสามีก็ไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่ค่ะ แต่เราก็ดีขึ้นจริงๆค่ะหายจากการหาหมอไปสักพักใหญ่เลยค่ะ
ตลอดเวลาที่เราอยู่ในครอบครัวนี้ ช่วงหลังเราถูกละเลยความรู้สึกตลอด เค้ามีงานเลี้ยง งานแต่งภายในครอบครัวเขาก็ไม่ได้ชวนเรา จนน้าคนที่ทำงานกับเรามาแซวเราแล้วหัวเราะเราเป็นเรื่องสนุก อ้าว..เขาไม่ได้เชิญหรอแล้วหัวเราะขำขันกัน ลูกหลานเขา(บางคน)เจอหน้าเราก็ไม่ได้นับถือเราไม่ได้สวัสดีอะไรเรา แต่เขามาสอนบอกลูกเราให้สวัสดีพวกเขา แต่พวกเขากลับไม่สวัสดีเรา.. (แปลกไหมล่ะ)และไม่ได้ให้ความเคารพว่าเราเป็นอดีตพี่สะไภ้ เป็นแม่ของหลานๆ เราก็เลยให้กำลังใจและปลอบใจตัวเองค่ะว่าเราคือคนอื่น อย่าไปสนใจ ตอนนี้เราก็เหมือนกับของตายที่ไปไหนก็ไม่ได้ วุฒิก็แค่ม.6 อายุก็36 เงินเก็บก็ไม่มีเลยสักบาท แถมเป็นหนี้แม่เราอีกที่ขอยืมมารักษาตัวเราอีกประมาณเกือบ2แสน ที่อดีตแม่สามีรับปากจะรับผิดชอบเราก็ไม่ได้รับหมดอย่างที่บอก น้าที่รับปากให้สัญญากับเราก็ไม่ได้ทำตามที่ให้ เราจะเอาอะไรมาขายเพิ่มเพื่อหาเงินเพิ่มเติมก็ไม่ได้ เราเสียใจมากที่เราคิดผิด ผิดมาตั้งแต่ต้นที่ทำให้ชีวิตเราเป็นแบบนี้ ไม่สามารถไปไหนได้ ตั้งตัวก็ไม่ได้ พอเรามีแฟนใหม่อดีตสามีเก่าก็ตามพูดจาระรานเราภายในร้าน แฟนเรามานั่งรอเราที่ร้านก็ไม่ได้ทั้งๆที่อดีตสามีก็มีภรรยาใหม่ไปแล้ว ต่างคนต่างมีชีวิต มาสั่งเราว่าอย่าพาเข้ามาในร้าน มาท้าเราต่อยอีก และจะมาท้าแฟนเราต่อย เขาจะคอยมาหาเรื่องเราตลอด เหมือนเกลียดเรา เห็นเรามีความสุขไม่ได้ อดีตสามีจะไปฟ้องพี่ชายเขาให้มาบอกเราว่าอย่าจับมืออย่าหอมแก้มหรือทำอะไรให้ลูกเห็น(ซึ่งเราไม่เคยทำให้ลูกเห็น) คือมาก้าวก่ายเรา แต่พี่ชายเค้ายังดีค่ะพูดจาเป็นกลางและเข้าใจเรา อดีตสามีอยากให้เราไปจากครอบครัวเขา แต่ก็ไม่ได้ช่วยสนับสนุนเราออกไปได้ดี แถมที่ระบุในใบหย่าว่าจะจ่ายให้เราเดือนละ5000ทุกเดือนในตอนนั้นก็ไม่เคยจ่ายเลยสักเดือน ตอนนี้เราเหมือนติดอยู่ในพันธนาการ เงินเก็บไม่มี อาชีพที่จะออกไปทำก็ไม่มีเพราะไม่มีเงินเก็บแถมเป็นหนี้แม่เราอีกที่เรายืมมารักษาเราจากโรคที่อดีตสามีนำมาติดจนทำให้เซลส์ปากมดลูกผิดปกติ(แม่เราก็ไปยืมคนอื่นมาอีกทีต้องรับภาระเอง) เราอยากจะอยู่กับลูกเอง อยากออกจากตรงนี้ เรารับความอึดอัดตรงนี้ไม่ไหวแล้ว เลยอยากจะระบายเพื่อหาทางออกในชีวิต เราอยากมีชีวิตใหม่ที่ดี่ อะไรที่ผ่านมาแล้วเราอโหสิกรรมให้ทั้งหมดกับทุกคนที่ทำไว้กับเรา เราอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ หากใครช่วยแนะนำเราได้เรายินดีรับฟังทุกความคิดเห็นค่ะ🙏
สุดท้ายเราขอขอบคุณพี่ๆเพื่อนๆทุกคนในพันทิพที่อ่านข้อความของเราหมดครบทุกบรรทัดนะคะ (อันนี้เป็นแค่รายระเอียดคร่าวๆเท่านั้นค่ะ)ไม่ได้มีเจตนาทำให้ใครเสียหาย แต่เราหมดหนทางและหาที่พึ่งและหาทางออกไม่ได้จริงๆ คนรอบตัวเรา เพื่อนๆในโซเชี่ยลต่างๆคิดว่าเราอยู่อย่างมีความสุขเป็นถึงอดีตลูกสะใภ้ร้านอาหารชื่อดังแต่ความจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย เรารับแรงกดดันมากมาย ทำดีก็ไม่เคยได้รับคำชม สัญญาอะไรกับเราไว้ตั้งแต่แรกก็ลืมกันหมด เราขอขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆทุกคนทีอ่านบทความของเราจนจบและแสดงความคิดเห็นอีกครั้งนะคะ ขอบคุณค่ะ🙏
เราขอบอกพี่ๆเพื่อนๆก่อนนะคะ ว่าที่เรามาระบายเราไม่ได้ร้องขอความสงสารจากใครแต่เราขอความคิดเห็นและหนทางออกในการดำเนินชีวิตที่ดีจากพี่ๆเพื่อนๆชาวพันทิพทุกคนที่มีประสบการณ์ในการเผชิญชีวิต เพราะเราสุดจะทนแล้วจริงๆเราคิดคนเดียวเราหาทางออกไม่ได้ เรายอมทุกคนมามากแล้ว และเราก็ทุกข์สุดๆจนเราคิดว่ามันนานเกินไปแล้วความทุกข์ของเราที่เราเผชิญ และยอมมาตลอด
จำที่เราบอกว่าน้าของอดีตสามีบอกว่าถ้าเราพาลูกกลับมาจะให้เงินเดือนเราทุกเดือน เดือนละ15000ได้ไหมคะและอยากขายอะไรก็ขายเอามาให้แม่สามีชิมก่อนถ้าดีก็ขายได้ เรากลับมาเค้าให้เราแค่เดือนเดียวค่ะ และให้เหตุผลในตอนนั้นว่าของที่เราขายของในร้านขายดีแล้ว เค้าของดให้รายเดือนเรา ตอนนั้นเหมือนเราทิ้งทุกอย่างกลับมาอยู่กับครอบครัวเค้าแล้ว อาชีพที่เรามีขายเครื่องสำอางเราก็เลิกไปมาทุ่มเทตรงนี้ มันเลือกหรือโต้แย้งอะไรไม่ได้เราจึงยอม เห็นว่าค่านมค่าแพมเพิสเค้าก็ดูแลตลอด ไม่เป็นไร แต่ยังไม่จบตอนนั้นเราขายของดีมาก น้าของอดีตสามีมาว่าเรา ขายอะไรแบบโลภมาก คือตอนนั้นพนักงานที่ร้านช่วยเราขายแนะนำเมนูพิเศษ เราให้เปอร์%จานละ10บาทพนักงานก็เลยอยากได้%ตรงนั้นมาซื้อสบู่มาซื้อของใช้ส่วนตัวของเขาสะสมเป็นค่าอาหารเล็กๆน้อยๆช่วงวันหยุดของเขา(พนักงานเราเป็นต่างด้าว)เราก็มีความสุขที่พวกเขามีตังค์ซื้ออะไรตรงนี้ แต่น้าต.กลับมาว่าเราทุกครั้งที่ขายดีและมาว่าพนักงานทุกคนที่ช่วยเราขาย จนเราไม่กล้าขายดี ลูกค้าถามเราต้องบอกว่าอาหารของเราหมดเพื่อไม่ให้ถูกด่า เราต้องยอมค่ะเพราะเป็นร้านอาหารของเขา แต่เราต้องมาแอบร้องไห้ค่ะเสียดายที่เราไม่ได้ขาย พนักงานที่ร้านก็กลัวถูกว่าค่ะ และเรามีน้าอีกคนที่ไม่ใช่คนในครอบครัวอดีตสามีที่ทำงานที่ร้านกับเรา เขาก็เมตตาเราก็บอกเราตลอดว่าน้าต.ไม่ชอบเราเกลียดเรามาก และว่าเราให้น้าคนนี้ฟังทุกครั้ง ตอนนั้นเราเสียใจมาก เราคิดว่าเราไปทำอะไรให้น้าเขาไม่พอใจ แต่เราคิดว่ามันเกิดจากการที่เราขายของดีค่ะ เพราะเราจะมีปัญหาเรื่องนี้กับน้าของอดีตสามีตลอด และเขาจะเก็บอาการแสดงทางสีหน้าไม่อยู่จนเราดูออกทุกครั้ง ต่อมาช่วงโควิด19ร้านอาหารเปิดขายหน้าร้านไม่ได้เมนูของเราก็ขายไม่ดีรายได้ของเราเหลือไม่กี่ร้อย เราจะดิ้นรนอย่างไรก็ไม่ได้เพราะอาหารของเราไม่มีในเมนูของร้านต้องเชียร์ด้วยปากอย่างเดียว แต่จะทำไงล่ะ เมื่อไม่มีคนมาทานในร้าน เราก็ทำงานที่ร้านอย่างเต็มที่ทุ่มเททุกอย่างด้วยความเต็มใจเพราะถือว่าเราอาศัยอยู่กับเขา จัดอาหารกับบ้านทำงานอย่างหนักมากตอนนั้นร้านเปิดยันร้านปิดทางร้านขายอาหารกลับบ้านดีมาก จนพนักงานช่วยพูดให้เราได้เงินเดือนเพราะเรามีรายได้น้อยแถมเราป่วยต้องเข้าออกรพ.บ่อยในช่วงนั้น(การรักษาต่อเนื่องจากเซลส์ปากมดลูกผิดปกติในตอนนั้น)จนน้าต.ของดีตสามีเสนอให้เราเดือนละ5000บาท ซึ่งมันน้อยมากจริงๆลูก2คนอยู่กินกับเราให้เราแค่5000บาท เราทำงานร้านเปิดยันร้านปิด ทำงานเหมือนพนักงานคนนึง ตอนนั้นเราคิดในใจเหมือนกัน ทำไมเขาให้เงินเราแค่นี้เราก็ป่วยอยู่ค่าหาหมออะไรเราก็เองทั้งหมด จากที่แม่อดีตสามี บอกว่าจะช่วยรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลเราเอาบิลไปยื่นให้แม่เค้า แม่เค้าก็บอกทุกครั้งว่าไม่ค่อยมีเงิน แม่อดีตสามีบ่นทุกครั้ง และพูดต่อท้ายว่าเดี๋ยวน้าต.บ่นอีก ตอนนั้นเราก็กลัวน้าคนนี้มากเราก็เลยตัดปัญหาจ่ายค่ารักษาพยาบาลเองทุกครั้ง แต่เราก็แอบคิดนะคะจะไม่มีเงินขนาดนั้นเลยหรอร้านอาหารก็ใหญ่โตขายดีมาก😢แต่ต่อมาน้าต.ก็ให้เราแค่เดือนเดียวอีกเหมือนเคย และเค้าก็ทำทีเงียบๆไปตอนจ่ายเงินเดือนพนักงาน ตอนนั้นเราทำใจเลยค่ะ ตอนนั้นที่เราคลอดลูกคนที่2ใหม่ๆเราเข้าออกรพ.ทุกเดือนหลายปีเลยค่ะ หมดไปหลายบาท ทองรูปพรรณที่เรามีนำมาขายรักษาตัวเองหมด หลายแสนเลยค่ะ ทองเรามีเก็บเกือบ20บาทที่ได้จากการขายเครื่องสำอางสมัยก่อนและแม่เราให้ด้วย เงินเก็บที่เรามีหมดตัวเลยค่ะก็ว่าได้ เราทำใจยอมรับการหมดตัวครั้งนั้นอยู่นานมากค่ะว่าโรคที่อดีตสามีนำมาติดเรา มาทำให้ชีวิตเราเป็นแบบนี้ โรคที่เราไม่ได้เป็นคนก่อ ไม่มีใครรับผิดชอบเราตามที่สัญญาและรับปากเราอย่างตอนแรก เราเสียใจมากว่าทำไมชีวิตเราไม่ได้รับความเป็นธรรมเลย เราต้องมายอมเสียทุกอย่างที่เรามีในตอนนั้นที่เราสร้างมาเก็บหอมรอมริดมาแต่เราต้องยอมเพราะเราต้องรักษาตัวเราจริงๆค่ะ เพราะเราต้องมีชีวิตอยู่และแข็งแรงเพื่อลูกๆของเราเอง เราหาหมอตลอดเพราะปากมดลูกตีบ ประจำเดือนออกมาไม่ได้เราปวดท้องอย่างหนักและทรมานมาก พอประจำเดือนออกมาได้ก็เหม็นเน่าอย่างกับสากศพ ต้องไปใส่สายใสๆที่ต่อจากปากมดลูกเพื่อขยายปากมดลูกเพื่อไม่ให้ปากมดลูกตีบ พอถอดสายสักไม่กี่อาทิตย์ก็ตีบใหม่เป็นแบบนี้อยู่หลายครั้ง จนคุณหมอท่านนึงแนะนำให้เราไปรักษาที่รพ.บำรุงราษฎ์ คุณหมอท่านเห็นประวัติการรักษาของเราและสงสารเรามาก และเราบอกกับคุณหมอว่าเราหมดตัวแล้วและท้อใจเป็นอย่างมาก เราอยากมีชีวิตอยู่ต่อเพื่อดูแลลูกๆของเรา คุณหมอบอกถ้าไปหาคุณหมอท่านนี้ที่รพ.นี้เราจะดีขึ้นแน่นอน เราก็ไปรักษาที่นั่นค่ะและขอความช่วยเหลือจากแม่อดีตสามีเราบอกว่าเราหมดตัวแล้วจริงๆ พอเรารักษาเค้าก็ช่วยจ่ายค่ารักษาค่าส่วนต่างจากประกันให้เราค่ะจำนวน60000บาท ตอนนั้นแม่อดีตสามีก็ไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่ค่ะ แต่เราก็ดีขึ้นจริงๆค่ะหายจากการหาหมอไปสักพักใหญ่เลยค่ะ
ตลอดเวลาที่เราอยู่ในครอบครัวนี้ ช่วงหลังเราถูกละเลยความรู้สึกตลอด เค้ามีงานเลี้ยง งานแต่งภายในครอบครัวเขาก็ไม่ได้ชวนเรา จนน้าคนที่ทำงานกับเรามาแซวเราแล้วหัวเราะเราเป็นเรื่องสนุก อ้าว..เขาไม่ได้เชิญหรอแล้วหัวเราะขำขันกัน ลูกหลานเขา(บางคน)เจอหน้าเราก็ไม่ได้นับถือเราไม่ได้สวัสดีอะไรเรา แต่เขามาสอนบอกลูกเราให้สวัสดีพวกเขา แต่พวกเขากลับไม่สวัสดีเรา.. (แปลกไหมล่ะ)และไม่ได้ให้ความเคารพว่าเราเป็นอดีตพี่สะไภ้ เป็นแม่ของหลานๆ เราก็เลยให้กำลังใจและปลอบใจตัวเองค่ะว่าเราคือคนอื่น อย่าไปสนใจ ตอนนี้เราก็เหมือนกับของตายที่ไปไหนก็ไม่ได้ วุฒิก็แค่ม.6 อายุก็36 เงินเก็บก็ไม่มีเลยสักบาท แถมเป็นหนี้แม่เราอีกที่ขอยืมมารักษาตัวเราอีกประมาณเกือบ2แสน ที่อดีตแม่สามีรับปากจะรับผิดชอบเราก็ไม่ได้รับหมดอย่างที่บอก น้าที่รับปากให้สัญญากับเราก็ไม่ได้ทำตามที่ให้ เราจะเอาอะไรมาขายเพิ่มเพื่อหาเงินเพิ่มเติมก็ไม่ได้ เราเสียใจมากที่เราคิดผิด ผิดมาตั้งแต่ต้นที่ทำให้ชีวิตเราเป็นแบบนี้ ไม่สามารถไปไหนได้ ตั้งตัวก็ไม่ได้ พอเรามีแฟนใหม่อดีตสามีเก่าก็ตามพูดจาระรานเราภายในร้าน แฟนเรามานั่งรอเราที่ร้านก็ไม่ได้ทั้งๆที่อดีตสามีก็มีภรรยาใหม่ไปแล้ว ต่างคนต่างมีชีวิต มาสั่งเราว่าอย่าพาเข้ามาในร้าน มาท้าเราต่อยอีก และจะมาท้าแฟนเราต่อย เขาจะคอยมาหาเรื่องเราตลอด เหมือนเกลียดเรา เห็นเรามีความสุขไม่ได้ อดีตสามีจะไปฟ้องพี่ชายเขาให้มาบอกเราว่าอย่าจับมืออย่าหอมแก้มหรือทำอะไรให้ลูกเห็น(ซึ่งเราไม่เคยทำให้ลูกเห็น) คือมาก้าวก่ายเรา แต่พี่ชายเค้ายังดีค่ะพูดจาเป็นกลางและเข้าใจเรา อดีตสามีอยากให้เราไปจากครอบครัวเขา แต่ก็ไม่ได้ช่วยสนับสนุนเราออกไปได้ดี แถมที่ระบุในใบหย่าว่าจะจ่ายให้เราเดือนละ5000ทุกเดือนในตอนนั้นก็ไม่เคยจ่ายเลยสักเดือน ตอนนี้เราเหมือนติดอยู่ในพันธนาการ เงินเก็บไม่มี อาชีพที่จะออกไปทำก็ไม่มีเพราะไม่มีเงินเก็บแถมเป็นหนี้แม่เราอีกที่เรายืมมารักษาเราจากโรคที่อดีตสามีนำมาติดจนทำให้เซลส์ปากมดลูกผิดปกติ(แม่เราก็ไปยืมคนอื่นมาอีกทีต้องรับภาระเอง) เราอยากจะอยู่กับลูกเอง อยากออกจากตรงนี้ เรารับความอึดอัดตรงนี้ไม่ไหวแล้ว เลยอยากจะระบายเพื่อหาทางออกในชีวิต เราอยากมีชีวิตใหม่ที่ดี่ อะไรที่ผ่านมาแล้วเราอโหสิกรรมให้ทั้งหมดกับทุกคนที่ทำไว้กับเรา เราอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ หากใครช่วยแนะนำเราได้เรายินดีรับฟังทุกความคิดเห็นค่ะ🙏
สุดท้ายเราขอขอบคุณพี่ๆเพื่อนๆทุกคนในพันทิพที่อ่านข้อความของเราหมดครบทุกบรรทัดนะคะ (อันนี้เป็นแค่รายระเอียดคร่าวๆเท่านั้นค่ะ)ไม่ได้มีเจตนาทำให้ใครเสียหาย แต่เราหมดหนทางและหาที่พึ่งและหาทางออกไม่ได้จริงๆ คนรอบตัวเรา เพื่อนๆในโซเชี่ยลต่างๆคิดว่าเราอยู่อย่างมีความสุขเป็นถึงอดีตลูกสะใภ้ร้านอาหารชื่อดังแต่ความจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย เรารับแรงกดดันมากมาย ทำดีก็ไม่เคยได้รับคำชม สัญญาอะไรกับเราไว้ตั้งแต่แรกก็ลืมกันหมด เราขอขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆทุกคนทีอ่านบทความของเราจนจบและแสดงความคิดเห็นอีกครั้งนะคะ ขอบคุณค่ะ🙏
แสดงความคิดเห็น
เราเป็นอดีตลูกสะไภ้ร้านอาหารไทยชื่อดังมิชริน8ปีซ้อนเลิกกับสามีได้7ปีแต่อดีตสามียังตามระรานก่อกวนตลอดจนเราจะเป็นซึมเศร้า!
ขออนุญาติใช้(นามสมมุติ)นะคะ เราชื่อฟ้าค่ะ ตอนนี้เราอายุ36ปีค่ะ มีลูก3คนลูกคนแรกเรามีกับแฟนเก่าคนแรกค่ะแต่พ่อของน้องได้เสียชีวิตไปแล้ว(ไม่ขอกล่าวถึงนะคะ) ส่วนลูกอีก2คนเรามีกับอดีตสามีเก่าที่เรามีประเด็นที่กำลังจะกล่าวถึงค่ะ คนโตอายุ11ขวบ คนรองอายุ 7ขวบค่ะ ลูกเราเป็นผู้ชายทั้งหมด สถานะตอนนี้เราเลิกกันไปตั้งแต่เราคลอดน้องคนเล็กใหม่ๆค่ะตอนนี้ก็ได้เข้าปีที่8 สาเหตุที่เลิกกันเพราะพ่อของลูกเรามีอารมณ์รุนแรง ชอบทำร้ายร่างกายเราอยู่บ่อยครั้งจนเราถึงขั้นเข้ารพ.บ่อยครั้งและติดการพนันอย่างหนักในเวลานั้น และเจ้าชู้มากจนติดโรคทางเพศสัมพันธุ์ที่ชื่อว่า "ซิฟิลิส" ทำให้เราได้รับผลกระทบจากตรงนี้ไปด้วย เราจับได้หลายครั้งมากตลอดระยะเวลาที่อยู่กินกัน จนเราทนไม่ไหวขอเลิกเองค่ะ (กว่าจะเลิกกันได้ก็ถูกสามีเก่ามาอาระวาดนานอยู่ค่ะกว่าจะสงบ)ต่างคนก็ต่างมีแฟนใหม่ค่ะ อดีตสามีเราก็เปลี่ยนแฟนไปเรื่อยค่ะ ส่วนเราทุกครั้งที่เราจะมีแฟนอดีตสามีจะระรานก่อนตลอดทุกครั้ง ตอนเราไม่มีแฟนก็ก่อกวนด้วยคำพูดดูถูกเหยียดหยามดูถูกสารพัดค่ะ แต่ตอนนี้เรายังอาศัยทำมาหากินขายของอยู่ที่ร้านอาหารของแม่อดีตสามีอยู่ แต่เดี๋ยวเราจะเล่าความเป็นมาอีกครั้งนะคะว่าทำไมเรายังต้องมาขายของอยู่ที่ร้านของแม่อดีตสามีทั้งที่เลิกกันแล้ว
เรากับอดีตสามีรู้จักกันราวๆปี2555ค่ะในขณะนั้นเรากำลังเรียนอยู่ปวส.ตามปกติค่ะคู่รักแรกๆก็ดีตามเนื้อเรื่องค่ะ จึงตัดสินใจคบกันอยู่ด้วยกัน ตอนนั้นก็พามารู้จักพ่อแม่กันเป็นที่เรียบร้อย เราอยู่กับอดีตสามีและเราก็ไปเรียนรอบวันอาทิตย์ด้วย เราขอเล่าคร่าวๆนะคะ (ในขณะนั้นเป็นการตัดสินใจของเราที่ผิดมากๆ)ข้อเเรกเลยที่ทำให้ชีวิตเราตอนนี้ไม่มีวุฒิการศึกษาสูงๆเพื่อไปทำงานหาเลี้ยงตัวเองได้ แฟนเราบอกกับเราว่าไม่ต้องไปเรียนแล้วให้เราออกมาช่วยขายของทำมาหากินที่ร้านอาหารของเขา แต่เหตุผลของเขาที่ให้เราออกส่วนนึงในขณะนั้นเขามีปัญหาเรื่องหึงหวงส่วนนึงในเวลานั้น เขาคิดว่าเพื่อนของเราในกลุ่มจะหาสามีใหม่ให้ เลยให้เราตัดสินใจเลือกว่าเลือกไปเรียนคือเลือกเพื่อน หรือเลือกที่จะอยู่กับเขาแล้วมาช่วยกันทำมาหากินะเขารับปากจะส่งเสียเลี้ยงดูแลเราและช่วยกันทำมาหากิน เราเลยตัดสินใจเลือกที่จะอยู่กินกับอดีตสามี
อยู่ด้วยกันได้ประมาณ1ปี เราก็ได้เกิดตั้งท้องลูกคนแรก แต่เป็นการท้องแบบไม่ได้ตั้งใจนะคะเพราะเรากินยาคุมแบบฉุกเฉิน เราก็เริ่มมีปัญหาจับได้ว่าสามีนอกใจไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่นอยู่เรื่อยๆแต่เราก็เลือกที่จะให้อภัยทุกครั้งเพราะเราเลือกที่จะมาอยู่กินกับเขาแล้วตอนที่สามีรู้ว่าเราท้องตอนแรกก็บังคับเราให้ไปเอาออก ตอนนั้นเราตั้งท้องได้ประมาณ3เดือน มีการเอาไม้แขนเสื้อมาขดๆจะมายัดใส่ช่องคลอดเราเพื่อนำเด็กออกแต่ไม่ได้ยัดนะคะเพราะเราขัดขืนและได้ทำการกระทืบท้องเราประมาณ3-4ครั้งที่เราจำได้แต่โชคดีที่ลูกในท้องของเราไม่เป็นอะไร ตอนนั้นเรากับสามีเช่าอพาทเม้นกันอยู่ต่างหากไม่ได้อยู่รวมกับครอบครัวเขาและครอบครัวสามีก็ยังไม่รู้ว่าเราตั้งท้อง เลยไม่มีใครสามารถช่วยเหลือเราได้ ตอนนั้นเราก็นั่งคิดทบทวนจะกลับไปอยู่กับพ่อแม่จะบอกพ่อแม่ก็กลัวพ่อแม่เป็นทุกข์และเสียใจ เรากลับไปก็ไปเป็นภาระพ่อแม่อีก เพราะพ่อแม่เราก็อยู่ตจว.ไม่ได้มีฐานะอะไร เราเลยเลือกฝืนที่จะอยู่ต่อแต่ได้เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้กับแม่สามีฟัง เขาก็เห็นใจและช่วยเหลือเราค่ะ และให้เราย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านรวมกันกับครอบครัวแม่สามี และเราก็ได้ไปขายของทำมาหากินในร้านอาหารของแม่สามีค่ะมี1ในเมนูในร้านอาหาร เราก็ยังอยู่ด้วยกันกับสามีนะคะเพราะสามีบอกจะปรับปรุงตัวและเราก็หวังว่ามันจะดีขึ้นด้วยค่ะ แต่เราก็มีทะเลาะกันเรื่อยๆเหมือนเดิม มีการนอกใจ มีการทำร้ายร่างกาย ติดเพื่อน ติดการพนัน จนเงินที่ได้จากการขายของหมด เราก็ได้แม่สามีดีค่ะคอยพูดปลอบใจเราปกป้องเรา แต่ก็ปกป้องได้ไม่มากเพราะอดีตสามีเราไม่กลัวแม่เขา และมีอารมณ์ฉุนเฉียวรุนแรง เราก็อดทนเรื่อยมาเพราะเราก็ตั้งท้องอยู่และเราก็ไม่กล้ากลับไปหาพ่อแม่เรา อดทนจนคลอดลูกคนแรก เราก็ได้ไปจดทะเบียนสมรสกันในปี2557 จดได้2เดือนก็หย่าเพราะสามีเราไปติดผู้หญิงและระบุในใบหย่าว่ามีลูกด้วยกัน1คนยกให้เราปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียวและจะส่งเสียเลี้ยงดูบุตรเดือนละ5000บาทจนกว่าจะบันลุนิติภาวะ(ด้วยรายได้ที่หาได้ของเขาขณะนั้น) แต่แม่สามีก็ให้เราอาศัยอยู่ที่บ้านและให้ลูกชายของเขาไปอยู่ข้างนอกแทน เราก็เลี้ยงลูกมาเรื่อยๆค่ะญาติสามีก็จ่ายค่านมค่าทุกอย่างให้กับลูกเราส่วนตัวเราก็มีรายได้เล็กๆน้อยจากที่ร้านไม่กี่ร้อยในขณะนั้นก็กลับมาดีกันอีก รักๆเลิกๆจนเราทนไม่ไหวย้ายไปอยู่ข้างนอกแทน ต่อมาสามีก็อยากกลับมาคืนดีมาอยู่ด้วยกันแบบพ่อแม่ลูกเหมือนเดิม รับปากและสัญญาว่าจะทำตัวให้ดี แม่สามีก็ช่วยพูดว่ายอมๆไปเถอะเพื่อลูก ลูกจะได้มีพ่อ สงสารหลานเค้าอดร้องไห้ไม่ได้ที่จะเห็นหลานของเขาเป็นแบบนี้ น้าของอดีตสามีก็โทรมาคุยกับเราค่ะชื่อน้าต.(ขอใช้อักษรย่อนะคะ) เขาได้เสนอเงินเดือนให้เราเดือนละ15000บาทและบอกให้เรากลับมาขายของที่ร้านเหมือนเดิม อยากเอาอะไรมาขายก็ขายได้(เท่ากับเรามีรายได้2ทาง)แต่ตอนนั้นเราก็มีรายได้จากการขายเครื่องสำอางของเราทางเน็ตอาทิตย์ละ8000-12000บาทตอนนั้นเรามีรายได้และมีความสุขมากแต่ลูกของเราก็ถามถึงพ่อ คิดถึงพ่ออยู่บ่อยครั้งเราก็นอนร้องไห้ค่ะเพราะสงสารลูก แต่เราก็อดทน แต่ด้วยความโน้มเน้าของแม่สามีของเราโทรมาร้องไห้เป็นประจำ และน้าของสามีชื่อน้าต.โทรมาหาเราว่าอยากเจอหลานและสงสารหลาน เราก็เลยยอมรับข้อเสนออีกค่ะ ตอนนั้นก็คิดอยู่นานค่ะ นั่งมองหน้าลูกและถามลูกลูกบอกคิดถึงพ่ออยากอยู่กับพ่อและกับแม่ ตอนนั้นหัวอกคนแม่ได้ยินลูกพูดมันทำให้หันกลับมาถามตัวเองจะเลือกความสุขของตัวเองหรือเลือกความสุขของลูก โทรไปปรึกษาแม่เราเอง แม่เราก็สอนเราว่าชีวิตครอบครัวก็ต้องอดทนสงสารลูก ถ้าผู้ใหญ่เขารับปากว่าจะดูแลเราอย่างนั้นเอ็งก็อดทนไปเพื่อลูกเอ็งจะได้มีความสุข ผัวเอ็งนอกใจก็ปล่อยมันไปเอ็งจะได้ไม่ต้องคิดมาก เราเลยยอมที่จะกลับไปเริ่มต้นครอบครัวใหม่อีกครั้งเพราะความเชื่อใจด้วยค่ะว่าเค้าจะดูแลเราว่าเขาจะปกป้องเราจากการโดนทำร้าย และคำพูดของน้าต. ที่บอกจะให้เงินเดือนเรา15000ทุกเดือนและ ให้เราเอาอาหารมาขายได้ที่ร้านกี่อย่างก็ได้ (แต่ต้องให้แม่สามีเราชิมก่อนว่าผ่านไหม)เราเลยทิ้งทุกอย่าง และเลือกกลับมาอยู่ด้วยกันมาจนมามีลูกคนที่2ปี2561 เหมือนจะไปได้ดีค่ะแต่.....
แต่ก่อนที่เราจะมาตั้งท้องลูกคนที่2อดีตสามีเราไปมั่วผู้หญิงอีกค่ะ!! จนติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ชื่อ"ซิฟิลิส" จนเรามีการติดเชื้อไปด้วยแต่สามีเราไม่บอกเรานะคะ เขาแอบไปรักษาคนเดียวค่ะ(เห็นแก่ตัวสุดๆ) แล้วได้ยามากินคนเดียว ส่วนเรายังไม่รู้ค่ะ แต่เราเริ่มมีอาการผิดปกติ ตกขาวเปลี่ยนสีมีกลิ่นเหม็นแปลกๆตอนนั้นเราคิดว่าเรากินอะไรผิดสำแดงรึเปล่า ตอนนั้นเราก็ยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับโรคนี้ค่ะและไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับเรา เพราะเราก็เป็นแม่บ้านตั้งใจเลี้ยงลูกอย่างเดียวเลยค่ะเรามารู้เนื่องจากเราไปค้นกระเป๋าของอดีตสามีเจอบัตรผู้ป่วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์แถวบางรักค่ะ เราจำชื่อไม่ได้แล้ว ตอนนั้นเรารู้สึกแย่มากๆและช้อคตัวสั่นอย่างหนัก เพราะเรากลัวว่าจะเป็นโรคร้ายอย่างHIV รึเปล่าเพราะลูกเรากำลังเล็กและน่ารัก และเราก็มีความสัมพันธ์กับสามีโดยไม่คุม เราจึงโทรไปถามทางที่อยู่ตามบัตรบอกให้เค้าช่วยบอกเราว่าสามีเราเป็นโรคอะไร เราขอความเห็นใจจากทางนั้นค่ะบอกลูกเรากำลังเล็ก เขาจึงแจ้งมาว่าเป็น"โรคซิฟิลิส" ตอนนั้นเราก็ไปตามไปตรวจและรักษาที่นั่นค่ะได้ยามากินตอนนั้นจำไม่ได้หมอแจ้งกับเราว่าน่าจะเป็นหนองในอะไรสักอย่าง (เราจำไม่ได้แม่นยำมากค่ะเพราะมันนานแล้ว)เราก็บอกแม่สามีและน้าต.นะคะ เค้าก็ได้แต่พูดว่ามันเอาอีกแล้ว เค้าก็ได้แต่ไปว่าค่ะเพราะเค้าก็ไม่รู้จะทำยังไง
ต่อมาเรามีลูกคนที่2ค่ะและตรวจพบหลังคลอดว่าเรามีเซลส์ผิดปกติที่ปากมดลูกต้องทำการตัดชิ้นเนื้อส่วนนั้นออก เพราะจะกลายเป็นมะเร็งได้ ตอนนั้นเราตกใจและกลัวมากค่ะ!! ภาพมันมาเลยถ้าเราเป็นโรคร้ายลูกเราจะอยู่ยังไงพ่อของลูกก็ไม่ได้เรื่อง ร้องไห้เลยค่ะเพราะความกลัวและกังวลใจมาก เงินค่ารักษาก็ไม่มี เราได้นำเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี่ที่สามีเราเป็นซิฟิลิสปรึกษาหมอ และเล่าให้หมอฟังว่าเราโดนนอกใจหลายครั้ง ตอนนั้นเรารักลูกมากและกลัวตายมากขึ้นชื่อว่าจะเป็นมะเร็ง เราก็กลัวตายทันที ตอนนั้นเราบอกกับแม่สามีค่ะ เค้ารับปากจะจ่ายค่ารักษาให้เราทั้งหมดและรับผิดชอบจนกว่าเราจะหาย กี่บาทว่ามาเลย หมอก็ให้คำแนะนำเราค่ะตอนนั้นว่า ถ้าแฟนของคุณไม่เลิกไปมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนอื่น คุณก็จะเป็นแบบนี้ เขื้อพวกนี้มันก็จะมาติดคุณอีกนึกถึงลูกให้มากๆ เราจะต้องมีชีวิตต่อไปเพื่อดูแลลูก มีหลายคนเป็นพ่อเลี้ยงเดี๋ยว แม่เลี้ยงเดี่ยว ตอนนั้นเราตัดสินใจบอกเลิกสามีเลยค่ะ เราบอกกับตัวเราเองเลย "ฉันจะมีชีวิตอยู่เพื่อปกป้องดูแลลูกของฉัน และฉันจะตายไม่ได้" ทุกครั้งที่แฟนเรามาอาระวาดด่าเรามาง้อเรา เราแจ้ง191ตลอดค่ะ ระหว่างนั้นเราก็แยกกันอยู่ค่ะตึกแถวคนละตึก เราก็ได้อยู่ตึกนึงที่แม่สามีซื้อให้หลาน อยู่แบบนั้นนานพอสมควรค่ะกว่าจะสงบ เราก็รู้สึกเหมือนเป็นอิสระแล้ว เพราะต่างคนต่างอยู่ต่างคนต่างทำมาหากิน อดีตสามีก็มีแฟนใหม่เปลี่ยนไปเรื่อยค่ะ เราก็ทำหน้าที่แม่เลี้ยงลูก2คนไป ตอนนั้นเรายอมรับว่าเราสตรองมากขึ้น และเราเปลี่ยนไป กล้าต่อสู้ กล้าตอบกลับอดีตสามีจากแต่ก่อนที่เรากลัวเค้ามากๆเค้ามาก่อกวนเราก็แจ้งความและด่าตอบโต้อดีตสามีไปด้วยค่ะ เหมือนกลายเป็นหญิงแกร่งจนถึงทุกวันนี้ค่ะ แต่เหมือนจะมีความสุขระหว่างที่อยู่ตรงนี้ใช่ไหมคะ เหมือนจะจบ มันมีเรื่องระหว่างทางอีกค่ะ มันเป็นสิ่งที่เราอยากจะขอคำปรึกษาและความเห็นจากพี่ๆน้องๆชาวพันทิพย์และผู้ที่เคยมีประสบการณ์(แต่ขอย้ำนะคะว่ารอบนี้เลิกกันขาดแล้วอย่าเพิ่งว่าหนูนะคะ) เดี๋ยวจะเล่ารายระเอียดเพิ่มเติมค่ะ สิ่งที่เราได้รับและความรู้สึกของเราระหว่างที่เราอยู่ตรงนี้กับสิ่งที่เราได้เจอกับคนในครอบครัวนี้ที่เราจะมาขอคำปรึกษาและต้องการหาทางออกในชีวิตที่เราเผชิญอยู่ตอนนี้ค่ะ มาต่อ...