เมื่อก่อนตอนต้นชีวิต ตอนที่ผมกำลังเรียนภาษาเบสิค ด้วยคอมพิวเตอร์ที่มีปรากฎในโรงเรียนระดับอุดมศึกษาผมครั้งแรก ประมาณปี 2525
ความสนใจในพระธรรม เริ่มจาก แม่ฟังวิทยุของอาจารย์สุจินต์ ตอนผมยังเด็กๆ คือ ชั้นประถม จำไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ แต่ ก่อนปี 2519 หลายๆปี ลงไป
และบ้านผมก็มีพระหลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญ หลวงพ่อสด หลวงพ่อฤาษีลิงดำ พุทธทาส หลวงพ่อขอม หลวงพ่อปาน หลวงปู่มั่น ฯลฯ ก็ตามสนใจอ่านหนังสือปฏิปทาหรือหนังสืออภินิหารต่างๆ
ต่อมาเมื่อมีโอกาสว่างตอนมีงานทำแล้วก็เดินไปซื้อหนังสือ หรือเข้าหอสมุดแห่งชาติ ซีร๊อค ตำราสติปัฎฐาน 4 ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ อ่านไปปฎิบัติไป นอกจากนี้ยังเจอหนังสือเล่มต่างๆจากคนเขียนเรื่องต่างๆในตอนนั้นที่สนใจก็อ่านแล้วก็ทำตาม รวมทั้ง วิชาธรรมกาย ด้วยนะครับ ในตอนนั้นก็มีอยู่ช่วงหนึ่ง ที่นั่งสมาธิทุกวันตอนกินข้าวกลางวันเสร็จจนถึงบ่ายโมงทุกวันในที่ทำงาน และในตอนกลางคืนในบ้านตามโอกาส มีการสวดมนต์ก่อนนอนทุกคืน
อยู่มาวันหนึ่งก็ไปวัดนาป่าพง ไปฟังเทปที่เปิดไว้รอพระ เทปกล่าวถึงเรื่อง ปฎิจจสมุปบาท แต่ฟังแล้วไม่รู้เรื่อง ทำบุญไป 1000 เอาหนังสือมาอ่าน เงินนี้ต่อมาได้คืนแล้วเพราะกลัวว่าทำบุญไปแล้วบาปกรรมจะเกิดต่ออีกมากมาย
ต่อมามีคำกล่าวของพระคึกฤทธิ์ว่าไม่เอาคำสาวก และต่อว่าพระสารีบุตร กระผมเลยถอย แล้วกะว่าจะใช้ปัญญาตนเองศึกษาเรื่องจิต อยากรู้เรื่องจิตซักที
ก็เลยบังเอิญมียูตู๊บ เรื่องจิตปรมัตถ์ พอดี อาจารย์อาณัติชัย เหลืองอมรชัย สอนไป แล้วก็บรรยายพระพุทธดำเนินไปด้วย ผมมีความตั้งใจที่เรียนรู้เรื่องจิตให้เข้าใจซักที ก็เลยฟัง ๆ ไป รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง พอฟังไปฟังมาจนครบปริจเฉทที่ 9 ก็เห็นว่าจะต้องฟังอีกรอบเพื่อจดบันทึก ครับแล้วก็ฟังรอบที่สองจดไปบันทึกไปหมดสมุดยักษ์ไปหลายสิบเล่มครับ ทำเสร็จเรียบร้อย และต่อมาก็มาฟังอีกหลายๆครั้ง
ต่อมาเมื่อในอินเตอร์เน็ตมีหมด พระไตรปิฎก ทุกเล่ม คัมภีร์อรรถกถาจารย์ อาจารย์ผู้สอนที่มีความรู้ในด้านต่างๆในพระธรรม
เครื่องมือของผมในตอนนี้ มีเยอะมากเช่น เครื่อง pc i9 13900ks rx6600 - pc i714700 rtx5600 - pc i5 14500 rtx4060 - pc i5 12400 rtx 3070 - notebook gaming i5 10400 rtx3050 .และก็มี ฮาร์ดดิสก์ทุกแบบสูงสุด 5 t ไว้เก็บข้อมูลหนังสือ คลิป ภาพ เยอะแยะในเรื่องพระธรรม เมื่อถึงตอนนี้ทุกอย่างดูเหมือนว่าจะง่ายที่จะค้นคว้าเรียนรู้พระธรรม
เมื่อได้เรียนพระธรรม อย่างเป็นระบบแบบที่พระมาตรฐานเขาเรียนกัน
ผมก็รู้ว่า ที่ผ่านมา ศรัทธาของผมเหมือนชาวพุทธชาวบ้านทั่วๆไปเชื่อมากกว่ารู้ คือพระพูดอะไรมาก็เชื่อหมด แต่พอเรียนแล้วก็จะหัวเราะเวลาเจอพระสอนมั่ว
การปฏิบัติที่ผ่านมาก็มั่ว พอเรียนแล้วก็สามารถปฏิบัติถูกต้องตามพระไตรปิฎก เช่น อานาปานสติ สติปัฎฐาน สมภะ วิปัสสนา เป็นต้น
และตัดความรู้ทางโลกทิ้งหมดไม่เอามาใช้อ้างอิงแล้ว
แต่ถ้าพูดเรื่องพระธรรมก็จะหาอ้างอิงเอาในพระไตรปิฎก เท่านั้น
และมองว่า สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตก็คือ การพบพระธรรม ครับ
ส่วนใครจะว่าอย่างไรก็ตามสบายนะครับ กระผมให้ความสำคัญกับการศึกษาพระธรรม ตามพระไตรปิฎก ตามอรรถะของพระอรรถกถาจารย์ และพระอรหันต์ในพระไตรปิฎก นะครับ ส่วนพระเกจิเดิมๆที่กระผมเคยนับถือมากๆนั้นเลิกหมดทั้งสิ้นแล้วครับ
ชีวิตในแต่ละวัน ก็ นอกจากสนใจเรื่องใดเป็นพิเศษ เรื่องพื้นฐานก็คือ นั่งฟังคลิปสอนพระธรรมตามแบบแผน ตามที่ปรากฎในกระทู้นะครับ จะได้เพียงแค่ 5 นาทีฟังไปจดไปก็ถือว่าได้แล้ว ที่เหลือก็จะเป็นการเล่นเกมส์ในสตรีมบ้าง หรือที่ชอบเล่นที่สุดคือ red alert 2 แบบ 1 ต่อ 7 แบบออฟไลน์ เพราะออนไลน์สู้เขาไม่ได้ครับ บางทีก็เบื่อก็มาดูซีรี่ส์จีน จอ 27 นิ้ว ซีรีส์ฝรั่ง เกาหลี ไทย ก็แล้วแต่อารมณ์ ดูไปน้ำตาไหลไป คิดแล้วก็ขำดูซีรีส์จบเอาจบเอา แต่ฟังธรรมมะคลิปหนึ่งชั่วโมงเนี่ยเมื่อก่อนได้เดี๋ยวนี้ฟังเป็นเดือน พอจะเห็นแนวโน้มไหม
แต่ในชีวิตประจำวัน เมื่อเวลาเราเดินออกกำลังกายตอนเช้า เราก็เดินไปพิจารณาไป ว่า ทำไมเราจึงมีโทสะ ทำไมเราจึงมีชอบ แล้วนึกถึงวิถีจิตว่าทำไมชวนะจึงเป็นอกุศลเป็นกุศล นึกถึงปฎิจจสมุปบาทที่ต้องมีเวทนาเกิดพร้อมกัน นึกถึงอรรถกถาจารย์เวลาอธิบายถึงวิถีจิตของพระพาหิยะ ว่าทำอย่างไรชวนะ จะเหมือนกับตอน อาวัชชนะ สันตีรณะ ได้เป็นต้น
ผมคิดเองว่า ถ้าผมเชื่อพระพุทธเจ้า 100 ส่วนใน 100 ส่วน กระผมคงไปบวชเป็นพระไม่สึกไปแล้วนะครับ เพราะต้องทุ่มใจให้แบบสละชีวิต
แต่เมื่อยังไม่ใช่ ยังบันเทิง ยังกลัวการนิพพาน ยังอยากสนุกต่อ ยังไม่เห็นว่าเป็นทุกข์อย่างเดียว ก็คงเป็นไปอย่างนี้ทุกชาติไป
เมื่อเกิดมาแล้วและมีตำราให้อ่านให้ฟังถึงบ้านฟังไปหลับไปได้ กระผมก็เรียนฟังอ่านคิดเขียนไปเรื่อยๆแหละครับ
เพราะว่าชาตินี้ดีแล้วมีโอกาสได้เจอ ก็ไม่รู้ว่าชาติหน้าจะมีโอกาสได้เจอพระไตรปิฎกและสิ่งอำนวยความสะดวกแบบนี้ครบๆหรือเปล่า ดังนั้นเรียนไว้ก่อนนะครับ
และการบันทึกในพันธ์ทิพย์ก็เป็นแค่สมุดจดของกระผมไม่เกี่ยวกะใคร
หากมีผู้สนใจติดตามก็อนุโมทนาครับ
ส่วนผู้ใดไม่ชอบใจก็ให้ผ่านไป
การเขียนบวกกุศลจิตหรืออกุศลจิต ล้วนแล้วแต่เป็น สังขาร หรือ เป็น กัมมภวะ นะครับ
แต่อย่างน้อยก็ขอให้จิตเป็นมหากุศลจิตดวงที่ 1 หรือดวงที่ 2 ให้ได้ไว้ก่อนนะครับ
อนุโมทนาครับ
เมื่อเราพบพระธรรม
ความสนใจในพระธรรม เริ่มจาก แม่ฟังวิทยุของอาจารย์สุจินต์ ตอนผมยังเด็กๆ คือ ชั้นประถม จำไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ แต่ ก่อนปี 2519 หลายๆปี ลงไป
และบ้านผมก็มีพระหลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญ หลวงพ่อสด หลวงพ่อฤาษีลิงดำ พุทธทาส หลวงพ่อขอม หลวงพ่อปาน หลวงปู่มั่น ฯลฯ ก็ตามสนใจอ่านหนังสือปฏิปทาหรือหนังสืออภินิหารต่างๆ
ต่อมาเมื่อมีโอกาสว่างตอนมีงานทำแล้วก็เดินไปซื้อหนังสือ หรือเข้าหอสมุดแห่งชาติ ซีร๊อค ตำราสติปัฎฐาน 4 ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ อ่านไปปฎิบัติไป นอกจากนี้ยังเจอหนังสือเล่มต่างๆจากคนเขียนเรื่องต่างๆในตอนนั้นที่สนใจก็อ่านแล้วก็ทำตาม รวมทั้ง วิชาธรรมกาย ด้วยนะครับ ในตอนนั้นก็มีอยู่ช่วงหนึ่ง ที่นั่งสมาธิทุกวันตอนกินข้าวกลางวันเสร็จจนถึงบ่ายโมงทุกวันในที่ทำงาน และในตอนกลางคืนในบ้านตามโอกาส มีการสวดมนต์ก่อนนอนทุกคืน
อยู่มาวันหนึ่งก็ไปวัดนาป่าพง ไปฟังเทปที่เปิดไว้รอพระ เทปกล่าวถึงเรื่อง ปฎิจจสมุปบาท แต่ฟังแล้วไม่รู้เรื่อง ทำบุญไป 1000 เอาหนังสือมาอ่าน เงินนี้ต่อมาได้คืนแล้วเพราะกลัวว่าทำบุญไปแล้วบาปกรรมจะเกิดต่ออีกมากมาย
ต่อมามีคำกล่าวของพระคึกฤทธิ์ว่าไม่เอาคำสาวก และต่อว่าพระสารีบุตร กระผมเลยถอย แล้วกะว่าจะใช้ปัญญาตนเองศึกษาเรื่องจิต อยากรู้เรื่องจิตซักที
ก็เลยบังเอิญมียูตู๊บ เรื่องจิตปรมัตถ์ พอดี อาจารย์อาณัติชัย เหลืองอมรชัย สอนไป แล้วก็บรรยายพระพุทธดำเนินไปด้วย ผมมีความตั้งใจที่เรียนรู้เรื่องจิตให้เข้าใจซักที ก็เลยฟัง ๆ ไป รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง พอฟังไปฟังมาจนครบปริจเฉทที่ 9 ก็เห็นว่าจะต้องฟังอีกรอบเพื่อจดบันทึก ครับแล้วก็ฟังรอบที่สองจดไปบันทึกไปหมดสมุดยักษ์ไปหลายสิบเล่มครับ ทำเสร็จเรียบร้อย และต่อมาก็มาฟังอีกหลายๆครั้ง
ต่อมาเมื่อในอินเตอร์เน็ตมีหมด พระไตรปิฎก ทุกเล่ม คัมภีร์อรรถกถาจารย์ อาจารย์ผู้สอนที่มีความรู้ในด้านต่างๆในพระธรรม
เครื่องมือของผมในตอนนี้ มีเยอะมากเช่น เครื่อง pc i9 13900ks rx6600 - pc i714700 rtx5600 - pc i5 14500 rtx4060 - pc i5 12400 rtx 3070 - notebook gaming i5 10400 rtx3050 .และก็มี ฮาร์ดดิสก์ทุกแบบสูงสุด 5 t ไว้เก็บข้อมูลหนังสือ คลิป ภาพ เยอะแยะในเรื่องพระธรรม เมื่อถึงตอนนี้ทุกอย่างดูเหมือนว่าจะง่ายที่จะค้นคว้าเรียนรู้พระธรรม
เมื่อได้เรียนพระธรรม อย่างเป็นระบบแบบที่พระมาตรฐานเขาเรียนกัน
ผมก็รู้ว่า ที่ผ่านมา ศรัทธาของผมเหมือนชาวพุทธชาวบ้านทั่วๆไปเชื่อมากกว่ารู้ คือพระพูดอะไรมาก็เชื่อหมด แต่พอเรียนแล้วก็จะหัวเราะเวลาเจอพระสอนมั่ว
การปฏิบัติที่ผ่านมาก็มั่ว พอเรียนแล้วก็สามารถปฏิบัติถูกต้องตามพระไตรปิฎก เช่น อานาปานสติ สติปัฎฐาน สมภะ วิปัสสนา เป็นต้น
และตัดความรู้ทางโลกทิ้งหมดไม่เอามาใช้อ้างอิงแล้ว
แต่ถ้าพูดเรื่องพระธรรมก็จะหาอ้างอิงเอาในพระไตรปิฎก เท่านั้น
และมองว่า สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตก็คือ การพบพระธรรม ครับ
ส่วนใครจะว่าอย่างไรก็ตามสบายนะครับ กระผมให้ความสำคัญกับการศึกษาพระธรรม ตามพระไตรปิฎก ตามอรรถะของพระอรรถกถาจารย์ และพระอรหันต์ในพระไตรปิฎก นะครับ ส่วนพระเกจิเดิมๆที่กระผมเคยนับถือมากๆนั้นเลิกหมดทั้งสิ้นแล้วครับ
ชีวิตในแต่ละวัน ก็ นอกจากสนใจเรื่องใดเป็นพิเศษ เรื่องพื้นฐานก็คือ นั่งฟังคลิปสอนพระธรรมตามแบบแผน ตามที่ปรากฎในกระทู้นะครับ จะได้เพียงแค่ 5 นาทีฟังไปจดไปก็ถือว่าได้แล้ว ที่เหลือก็จะเป็นการเล่นเกมส์ในสตรีมบ้าง หรือที่ชอบเล่นที่สุดคือ red alert 2 แบบ 1 ต่อ 7 แบบออฟไลน์ เพราะออนไลน์สู้เขาไม่ได้ครับ บางทีก็เบื่อก็มาดูซีรี่ส์จีน จอ 27 นิ้ว ซีรีส์ฝรั่ง เกาหลี ไทย ก็แล้วแต่อารมณ์ ดูไปน้ำตาไหลไป คิดแล้วก็ขำดูซีรีส์จบเอาจบเอา แต่ฟังธรรมมะคลิปหนึ่งชั่วโมงเนี่ยเมื่อก่อนได้เดี๋ยวนี้ฟังเป็นเดือน พอจะเห็นแนวโน้มไหม
แต่ในชีวิตประจำวัน เมื่อเวลาเราเดินออกกำลังกายตอนเช้า เราก็เดินไปพิจารณาไป ว่า ทำไมเราจึงมีโทสะ ทำไมเราจึงมีชอบ แล้วนึกถึงวิถีจิตว่าทำไมชวนะจึงเป็นอกุศลเป็นกุศล นึกถึงปฎิจจสมุปบาทที่ต้องมีเวทนาเกิดพร้อมกัน นึกถึงอรรถกถาจารย์เวลาอธิบายถึงวิถีจิตของพระพาหิยะ ว่าทำอย่างไรชวนะ จะเหมือนกับตอน อาวัชชนะ สันตีรณะ ได้เป็นต้น
ผมคิดเองว่า ถ้าผมเชื่อพระพุทธเจ้า 100 ส่วนใน 100 ส่วน กระผมคงไปบวชเป็นพระไม่สึกไปแล้วนะครับ เพราะต้องทุ่มใจให้แบบสละชีวิต
แต่เมื่อยังไม่ใช่ ยังบันเทิง ยังกลัวการนิพพาน ยังอยากสนุกต่อ ยังไม่เห็นว่าเป็นทุกข์อย่างเดียว ก็คงเป็นไปอย่างนี้ทุกชาติไป
เมื่อเกิดมาแล้วและมีตำราให้อ่านให้ฟังถึงบ้านฟังไปหลับไปได้ กระผมก็เรียนฟังอ่านคิดเขียนไปเรื่อยๆแหละครับ
เพราะว่าชาตินี้ดีแล้วมีโอกาสได้เจอ ก็ไม่รู้ว่าชาติหน้าจะมีโอกาสได้เจอพระไตรปิฎกและสิ่งอำนวยความสะดวกแบบนี้ครบๆหรือเปล่า ดังนั้นเรียนไว้ก่อนนะครับ
และการบันทึกในพันธ์ทิพย์ก็เป็นแค่สมุดจดของกระผมไม่เกี่ยวกะใคร
หากมีผู้สนใจติดตามก็อนุโมทนาครับ
ส่วนผู้ใดไม่ชอบใจก็ให้ผ่านไป
การเขียนบวกกุศลจิตหรืออกุศลจิต ล้วนแล้วแต่เป็น สังขาร หรือ เป็น กัมมภวะ นะครับ
แต่อย่างน้อยก็ขอให้จิตเป็นมหากุศลจิตดวงที่ 1 หรือดวงที่ 2 ให้ได้ไว้ก่อนนะครับ
อนุโมทนาครับ