บังคับคดี ยึดทรัพย์ จากการจ่ายล่าช้า 4ซม.

หลังจากได้ขึ้นศาลไกล่เกลี่ยแล้ว เราประนอมหนี้ จบที่การชำระต่อเดือน 3000 บาท ในงวดที่ 1-39 แล้วงวดสุดท้ายจะต้องชำระจำนวนเต็มที่เหลือทั้งหมด( ในส่วนงวดสุดท้าย ทนายแจ้งว่าเราสามารถ ขอเจ้าหนี้ชำระ เดือนละ 3000 ต่อได้จนครบยอดเต็ม ) และต้องชำระก่อนสิ้นเดือนของทุกเดือน

ประเด็นคือ 30 มิ.ย. ล่าสุด เราไม่ได้ชำระในวันนั้น แต่ไปชำระให้ในวันที่ 1 ก.ค. 04.46 น. ซึ่งเราไม่ได้มีเจตนาจะไม่ชำระ พอรู้ก็รีบชำระให้ในทันที เวลาต่อมาช่วง 16.00 น. มีเจ้าหน้าที่ติดต่อมาว่าเราได้ชำระหรือยัง เราก็แจ้งไปว่าได้ชำระเรียบร้อยแล้ว ตอน 04.46 น. วันที่ 1 คำตอบที่ได้คือ บริษัทจะบังคับคดี ยึดทรัพย์ทันที ถ้าไม่อยากให้ทำเช่นนั้น ให้เราชำระ ส่วนที่เหลือทั้งหมดเลยในตอนนี้ ( แล้วจะไปหาจากไหนนนน อมยิ้ม20) โดยจะให้ส่วนลด จากยอด 190,000 เหลือ 100,000

เราเลยถามต่อว่า ถ้าไม่มีแล้วอยากชำระตามเดิมจะได้มั้ย เจ้าหน้าที่แจ้งว่า "ได้" แต่ยอด 3000บาท นั้นจะเป็นดอกเบี้ยทั้งหมดโดยทันที ( จะบ้า !! )

อยากถามเพื่อนๆ ว่าจะทำยังไงต่อไปดี คือเราเต็มใจที่จะรับผิดชอบในส่วนนี้นะจนหมดหนี้ แต่จะมาให้เราจ่ายก้อนเดียวเลย มันไม่ไหวหรอก ถ้าเรามีเงินเราไม่มีหนี้เสียแบบนี้หรอก แล้วหนี้ก้อนนี้ก็เกิดจากพ่อแม่อีก ต้องมานั่งรับใช้ให้

ปล. ยอดเต็มในวันที่ขึ้นศาล 260000 ผ่อนมาจนเหลือ 190000 ผ่อนไป 28งวดแล้วค่ะ ของบริษัท สทจ. ( ขอเป็นตัวย่อ นะคะ น่าจะทราบกัน ) ขอบคุณค่ะ




          ขอบคุณทุกๆความคิดเห็นนะคะพาพันขอบคุณ เราจะเล่าต่อจากเมื่อวาน โดยเล่าตั้งแต่วันที่เช่าซื้อรถ จนมาถึงวันนี้เลยค่ะ ( อายเหมือนกันนะคะ ที่ต้องเล่าเรื่องที่ไม่ดีของตัวเองให้คนอื่นฟัง ) และเรื่องที่เราเล่าทั้งหมดเป็นของแฟนเราค่ะ !!! ไม่ใช่ตัวเราเอง ซึ่งเราเป็นคู่สมรสเรากังวนว่าเราจะโดนไปด้วยเลย เลยเล่าเป็นตัวเราเผื่อจะอ่านง่ายขึ้นค่ะ แต่ด้านล่างจะเล่าความจริงทั้งหมดเป็นเรื่องแฟนเราเองเลยแล้วกันจะได้ เข้าใจกันนะคะ


ย้อนไปเหมือน 10กว่าปีที่แล้ว...


แฟนเป็นพนักงานบริษัทอยู่ในตอนนั้น พ่อแฟนอยากได้รถสักคัน เลยให้ลูกชาย(แฟนเรา)ออกรถให้หน่อยแล้วแกจะผ่อนเอง... ( ณ ตอนนั้นเรากับแฟนแต่งงานอยู่ด้วยกันแล้วนะคะ แต่เราไม่ได้ทำงานอยู่บ้านเลี้ยงลูก แฟนทำงานคนเดียว ออกรถเป็นชื่อแฟนคนเดียว ไม่มีคนกู้ร่วมและค้ำค่ะ ) เป็นรถ BMW รุ่นอะไรเราจำไม่ได้ค่ะ ไม่เคยเห็นรถเลยตั้งแต่วันซื้อจนถึงทุกวันนี้

รถราคา 459,000 ( ไม่แน่ใจ จำได้ว่า 4แสนกว่าๆ ค่ะ ) ทำสัญญาเช่าซื้อผ่อนอยู่ที่ 9+++ ( จำไม่ได้ ขอโทษทีค่ะ ) เอาเป็นว่า 9พันกว่าๆเกือบ 1หมื่น ระยะเวลา 5ปี ( อันนี้ก็ไม่แน่ใจอีกว่า 4หรือ5 ปี ขอโทษค่ะ ) กับธนาคาร กรุงศรี  พ่อแฟนส่งมาได้ 2ปี ไปไม่ไหวเลยได้หยุดส่ง ( และเอารถไปจำนำ เรากับแฟนโกธรมาก ทำได้ยังไง TT ) ซึ่งจะให้เรากับแฟนส่งก็ไม่ไหวหรอกค่ะ 9พันกว่าในตอนนั้นมันแถบจะทั้งหมดของเงินเดือนแฟนเราแล้ว ต้องเลี้ยงครอบครัวอีก ( หมายถึงเรากับลูกอ่ะนะคะ )


และต่อมา บริษัท สทจ. ได้ซื้อหนี้เสียจากธนาคาร กรุงศรี มาต่อ และได้ติดตามทวนถามมาตลอด ( เราก็ยังไม่มีจ่ายเหมือนเดิม พ่อแฟนก็ไม่สนใจอะไรใดใด บ่อยเราสองคนแก้ปัญหาไป ) นั้นทำให้แฟนเราไม่สามารถซื้ออะไรได้อีกต่อไป บ้าน รถ ทุกอย่างเลยจึงเป็นชื่อเราคนเดียว ( เราทำงานแล้วนะคะ ชีวิตครอบครัวมันก็ต้องสร้างต้องไปต่อถูกมั้ยค่ะ เอาจริงจริงเรารู้สึกว่าไม่อยากเอาเงินเราไปจ่ายหนี้บ้าบอที่เราไม่ได้สร้างนี้เลย TT โคตรเบื่อ )


บริษัท สทจ. เริ่มเข้ากระบวนก่อนต่อไป โดยยื่นเรื่อง สัญญาประนีประนอมหนี้ และได้ไปขึ้นศาล จบที่ชำระต่อเดือน เดือนละ 3000บาท

และเราก็ส่งเองมาตลอด 2ปีกว่า ( และต้องแนปสลิปไปในระบบหรือไลน์เจ้าหน้าที่ทุกเดือนค่ะ )


แต่ล่าสุดที่เป็นปัญหาคือเราดันไปชำระขึ้นเดือนใหม่นี้สิ เลยทำให้ไปตกตามการประนีประนอมหนี้ ข้อ2. ( และเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเราไม่ได้อ่านรายละเอียดสัญญานั้นเองค่ะ เรามีหน้าที่จ่ายให้ก็จ่ายไป คือบอกให้เราช่วยจ่ายก็จ่ายจ่ายไปแค่นั้น ไม่ได้รู้อะไรเยอะแยะ พอมันมีปัญหาเราเลยขอดูสัญญาจากแฟนเลยทราบว่า แม้แต่แค่นาทีเดียวก็คือไม่ได้เลย เราก็ไม่ได้มีเจตนาจะไม่ชำระนะคะ  ซึ่งตอนนี้เรามีเงินเดือนเราจ่ายให้ได้ค่ะ
แค่เดือนละ 3000 แต่จะให้มากไปกว่านี้เราก็ไม่ไหวเหมือนกัน แค่นี้ก็มากพอแล้วเพี้ยนเพลีย

เลยอยากจะถามเพื่อนๆ ว่าจะทำยังไงต่อไปดี ชื่อเป็นชื่อแฟนคนเดียว(ที่กู้ซื้อรถ BMW) แฟนไม่มีทรัพย์สินอะไร และสินสมรสก็ไม่มี มีบ้านกำลังผ่อนอยู่( เหลือผ่อน 10ปี ถึงจะหมด ) มีรถยนต์ 2คัน มี1คันผ่อนหมดแล้ว อีกคันผ่อนอยู่( พึ่งซื้อ ) และมอไซค์ผ่อนหมดแล้ว ทุกอย่างเป็นชื่อเราคนเดียวทั้งหมด กลัวว่าถ้าแฟนโดนยึดทรัพย์ จะมาเอาของเราไปด้วย ( จุดเริ่มต้นหนี้นี้ เรายังไม่ได้ทำงานเลย ไม่ทราบไม่รับรู้ไม่เคยเห็นรถคันนั้นเลย ) 2พ่อลูกเค้าไปทำกัน2คน

รบกวนเพื่อนๆช่วยแนะนำเราที ขอบคุณค่ะพาพันขอบคุณ


ปล. ถ้ามีคำถาม ถามได้เลยถ้าเราเห็นเราจะตอบทั้งหมดเลยค่ะ เราไม่ได้พูดไม่หมดนะคะ หมดแบบหมดแล้วจริงจริง ตอนนี้ก็ปวดหัวมาก หาทางออกอยู่อยากได้คำแนะนำมากๆ เลยค่ะ และแฟนบอกว่าถ้าจะคิดดอกเบี้ยจาก 260000 แบบนี้ไม่ต้องจ่าย แต่เราอยากจ่ายไม่อยากมีปัญหา แต่ก็คือไหวแค่ 3-4พัน แค่นั้น ลูกก็ต้องเลี้ยง ครอบครัวเราอีก
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 26
"หลังจากได้ขึ้นศาลไกล่เกลี่ยแล้ว เราประนอมหนี้ จบที่การชำระต่อเดือน 3000 บาท ในงวดที่ 1-39 แล้วงวดสุดท้ายจะต้องชำระจำนวนเต็มที่เหลือทั้งหมด( ในส่วนงวดสุดท้าย ทนายแจ้งว่าเราสามารถ ขอเจ้าหนี้ชำระ เดือนละ 3000 ต่อได้จนครบยอดเต็ม ) และต้องชำระก่อนสิ้นเดือนของทุกเดือน"

เอา เอกสาร ข้อตกลงไกล่เกลี่ย มาอ่าน  ๆ ๆ ดีๆ ยอดหนี้ อัตราดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย   ยอดผ่อนต่อเดือน ...
ความจริง ต่อให้คุณจ่ายครบ 39 งวด x 3,000  = 117,000 บ เท่านั้น   งวดสุดท้ายจะต้องชำระจำนวนเต็มที่เหลือทั้งหมดนั้น++!!!  ,มันเป็นเงินเท่าไร (อย่างน้อย ก็ 143,000 บ. อยู่แล้ว ในกรณี ไม่ถูกคิดดอกเบี้ยเลย)
ดังนั้น สถานะตอนนี้ ต้องดู ในข้อตกลงไกล่เกลี่ย ว่า เงินที่จ่ายกับดอกเบี้ยจะเป็นอย่างไร  ...  ถ้ายังจ่ายอยู่ ก็คงยังไม่โดน ยึดทรัพย์ เพียงแต่ เงินที่จ่ายไป จะไม่ตัดต้นตามข้อตกลงเดิมแล้ว

ปล. เดิมเคยยื่นคุณสู้เราช่วยไว้ไหม  , มีหลักทรัพย์ อะไร ไปกู้ ออมสิน เงินกู้Personal lone  มาปิดไหม  
ที่ จนทแจ้งว่า จ่าย 90,000 จบหนี้เลย ถ้าทำจริงต้องมีเอกสารครบถ้วน ตอนจ่าย นะครับ (ส่วนใหญ่ หนี้ปกติ จะมีคิดดอกผิดไป1วัน  แต่ กับหนี้ไกล่เกลี่ย ไม่น่าพลาด ถ้าผิดก็เพราะ พวกใช้ทริคบอกให้เราจ่าย แล้วก็ไม่ยอมตัดจบให้จริง)
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
ก็ผิดนัดตามสัญญาประนีประนอม​ยอมความนั่นแหละ​   ส่วนมากจะระบุในสัญญา​ไว้อยู่แล้วว่าหากผิดนัดงวด​ใดงวดหนึ่ง​ถือว่าผิดนัดทั้งหมด​ ยินยอมให้โจทก์​บังคับคดีได้ทันที​ ทำสัญญา​แล้วก็ควรปฏิบัติตามสัญญา​จะได้ไม่เดือดร้อนค่ะ
ความคิดเห็นที่ 56
ผมตอบในฐานะคนทำงานสายนี้นะครับ

ถ้าเราผิดนัดสามารถทำ Haircut ได้ คือ เจรจาขอปรับโครงสร้างผ่อนใหม่ได้ครับ เนื่องจากผิดนัดชำระตามสัญญาประนีประนอม ซึ่งศาลพิพากษาแล้ว ส่วนนี้เป็นสิทธิของเจ้าหนี้ที่จะพิจารณาครับ

ส่วนเรื่องทรัพย์สิน ถ้าไม่ได้จดทะเบียน กรณีแฟนเป็นลูกหนี้ แต่ จขพ. ไม่ได้เป็น และ ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ทรัพย์ชื่อเราคนเดียว ไม่ถือว่าเป็นสินสมรสครับ

เว้นแต่ ทรัพย์นั้นได้มาภายหลังจดทะเบียนสมรส และ ได้มาก่อนจดทะเบียนหย่า บ้านติดจำนอง ยึดได้ แต่รถถ้ายังติดไฟแนนซ์ ไม่สามารถยึดได้ อายุความบังคับคดี 10 นับจากวันที่มีคำพิพากษา

หากมีทรัพย์สินที่เป็นชื่อลูกหนี้ มีจดทะเบียนไว้ เช่น ที่ดิน, คอนโด, รถยนต์, หุ้น เป็นต้น ไปย้ายออกหลังจากที่เขายื่นฟ้องศาล จะมีความผิดตามกฎหมายอาญาด้วย ฐานโกงเจ้าหนี้

ผมทำมาหลายคดี ลูกหนี้ขายที่ดิน โอนให้ญาติ สุดท้ายโดนฟ้อง ศาลพิพากษาจำคุก ไม่คุ้มเลยครับ สุดท้ายถูกเพิกถอน แล้วโดนบังคับคดีเหมือนเดิม

สุดท้ายลองเจรจาดูก่อนครับ อาจหาก้อนใหญ่มาสักก้อน ขอลดหนี้ปิดบัญชีไป หรือ แบ่งจ่ายแล้วปรับผ่อน ยังพอมีทางออกครับ แล้วก็ทรัพย์สินอะไรที่ไม่จำเป็นขายได้ก็ขายไปใช้หนี้ เรายังมีชีวิต มีความรู้ มีลมหายใจต่อสู้ อย่าไปเสียดาย ยังมีโอกาสหาใหม่ได้ ... เป็นกำลังใจ และ ขอให้ผ่านปัญหานี้ไปได้ด้วยดีนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่