แชร์ประสบการณ์เป็น ถุงน้ำในกระดูกขากรรไกร

สวัสดีค่ะ วันนี้มารีวิวเกี่ยวกับการรักษาโรคถุงน้ำในกระดูกขากรรไกร
โดยเราไปรักษาที่โรงพยาบาลทันตกรรม ม.มหิดล ตรงซอยโยธีค่ะ

ก่อนที่เราจะเจอถุงน้ำ เรามีปัญหาเรื่องฟันผุก่อน ก็ไปหาคุณหมอ อุดฟันที่ห้องทันตกรรมของ บ. ตามปกติ
และมีอาการเหมือนปวดเมื่อยรากฟันกราม เราบอกคุณหมอว่าเราปวดฟันบริเวณฟันกรามล่างด้านขวา
มันไม่ได้ปวดแบบฟันผุ ทุรนทุราย แต่มันเหมือนปวดเมื่อย ไม่ได้ปวดตลอดเวลา หรือปวดแปร๊บๆ
คุณหมอเลยตรวจดู มีฟันโยก และส่งต่อหาคุณหมอโรคเหงือก นัดคิวรอคิวที่ห้องทันตกรรมของ บ.  3 เดือน

06/08/66 walk in ไปหาคุณหมอฟันที่คลินิคศูนย์แพทย์พัฒนา
อ.หมอ x-ray ทั้งปาก จึงทำให้เจอถุงน้ำ 2 ถุง เล็กกับใหญ่ 
อ.หมอ บอกต้องไปโรงพยาบาล หรือโรงเรียนแพทย์เลย เพราะการรักษาซับซ้อน ต้องเป็นหมอเฉพาะทางเท่านั้น และต้องติดตามกันยาว

10/08/66 walk in ไปที่โรงพยาบาลทันตกรรม คณะทันตะฯ ม.มหิดล เนื่องจากเคยรักษารากฟันที่นี้
ขึ้นไปชั้น 2 เลือกแบบระบบการบริการ (เสียเงินทำกับ อ.หมอ) ซึ่งจะเร็วกว่าระบบการเรียนการสอน
เราไปถึงประมาณ 8.30 น. หยิบบัตรคิวไม่มีนัด กรอกแบบคัดกรองโควิด รอ จนท ขานคิวตอน 9.00 น.
พอถึงคิว ลทบ บอกที่เคาน์เตอร์ว่า "x-ray เจอถุงน้ำที่ขากรรไกร" แล้วก็นั่งรอไปเรื่อยๆ ได้พบ อ.หมอ ตอนประมาณ 11.30 น. 
ก็ x-ray ทั้งปากอีกรอบ แล้วก็ส่งต่อแผนกศัลยกรรมช่องปากและใบหน้าขากรรไกร ที่ชั้น 3 ได้คิวช่วงบ่ายโมงกว่าๆ วันนั้นเลย


ถุงน้ำในกระดูกขากรรไกรที่เจอ รอยโรคคือวงสีดำๆ ที่อยู่ใต้รากฟันค่ะ

ที่แผนกศัลย์ฯ ชั้น 3 เจอคุณหมอเข้ามาดูก่อนคนนึง  (คิดว่าเป็นคุณหมอที่มาเรียนต่อเฉพาะทาง)
คุณหมอซักถามว่าทำไมถึงได้เจอ เช็ครากฟันโดยจี้ไฟฟ้าเบาๆ ตรวจดูคร่าวๆ  โดยจะมี อ.หมอ ผู้ควบคุมมาดูอีกที
อ.หมอ ดูผล x-ray แล้วบอกว่า ตัวก้อนใหญ่ค่อนข้างใหญ่มาก แต่ไม่รู้ว่ามันเป็นก้อนแบบไหน ถุงน้ำหรือเนื้องงอก
ต้องนัดมาทำ CT Scan และเจาะชื้นเนื้อตรวจดูก่อน ถึงจะสามารถวางแผนการรักษาได้
ก่อนกลับ อ.หมอ ส่งไปถ่ายรูปใบหน้ากับฟันเพื่อเก็บประวัติ และทำนัด CT Scan ซึ่งได้คิวอีก 1 เดือนข้างหน้า (นี่คือเร็วสุดแล้ว)
อ.หมอ น่ารักมาก บอกไม่ต้องกังวล โอกาสจะเป็นเนื้อร้ายน้อยมาก แต่การรักษาค่อนข้างซับซ้อน ต้องลางานมาบ่อยๆ อีกหลายครั้ง

พอกลับมาบ้าน ถึงจะนึกอ๋อ... ขึ้นมา จริงๆ รู้สึกว่ารูปหน้าตัวเองเปลี่ยนมานานแล้ว ตรงบริเวณสันกรามด้วนขวามันดูใหญ่ขึ้น ไม่เท่ากับข้างซ้าย
เวลาจับแก้มก็รู้สึกว่าเหมือนมันบวมกว่าอีกข้าง เวลาแปรงฟัน ก็เห็นว่าเหงือกที่มีก้อน มันเหมือนบวมๆ มีขนาดไม่เท่ากันกับข้างซ้าย
ฟันซี่ที่โยกก็เริ่มล้ม แต่นั้นแหละ มันไม่มีอาการเจ็บปวดมากมายอะไรให้ตะขิดตะขวงใจเลย
หาหมอฟันที่ผ่านนมา คุณหมอก็ไม่เคยทักด้วย


สรุป ค่าใช้จ่ายในการตรวจในวันแรก 820 บาท ซึ่งเป็นค่าตรวจในช่วงเช้าทั้งหมด
   - ค่าหมอ 100 บาท
   - ค่าตรวจ 100 บาท
   - ค่า x-ray ฟิล์มเล็ก 120 บาท ** เบิกกรมบัญชีกลางได้
   - ค่า x-ray ทั้งปาก 500 บาท ** เบิกกรมบัญชีกลางได้บางส่วน
ส่วนค่าหมอ ค่าตรวจ ค่าถ่ายรูปที่แผนกศัลย์ฯ ไม่เสียค่ะ

เรื่องการเดินทางค่อนข้างสะดวกทีเดียว นั่ง bts ไปลงอนุสวรีย์ชัยฯ ประตู1 แล้วแว๊นมอไซต์ต่อ หรือจะเดินก็ได้ แต่เราขี้เกียจ และจะรีบไปเอาคิวด้วย
ขากลับ เดินเรื่อยๆ มาออกหน้า รพ.พระมงกุฏ แว๊นสาย 8 กลับลาดพร้าว สะดวกยิ่งกว่าอีก
ส่วนที่จอดรถ ไม่ทราบรายละเอียด เพราะไม่มั่นใจว่าถ้าเอารถไป จะได้ที่จอดรึป่าว เลยนั่งรถสาธารณะไปค่ะ

ส่วนเรื่องโรงอาหารที่โรงพยาบาล จะมี Food court ที่ชั้น 1, โรงอาหารราคานักศึกษา ซึ่งจะอยู่อีกอาคารนึง
แล้วก็เคยเจอตลาดนัดที่อยู่ด้านหลังอาคาร เดินตาม จนท, นศ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่