(นิยายการเมือง) ดราม่าบนเก้าอี้นายกฯ ตอน เงาศาลและทางเลือกสุดระทึก

* กระทู้นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะผู้ที่มี Link นี้เท่านั้นค่ะ
กระทู้ข่าว
จิกหมอนณ ห้องประชุมลับ ณ ทำเนียบรัฐบาล
แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านหน้าต่างห้องประชุมใหญ่ในทำเนียบฯ แต่บรรยากาศข้างในกลับตึงเครียดราวกับพายุกำลังก่อตัว นายกรัฐมนตรีแพวทองวาว  หรือที่ทุกคนเรียกกันว่า "อุ้ง" นั่งอยู่หัวโต๊ะ มือกำโทรศัพท์แน่น สายตาจ้องไปที่หน้าจอ iPad ที่วางอยู่ตรงหน้า ข้างๆ เธอคือทีมที่ปรึกษาการเมืองกำลังถกกันอย่างดุเดือด

"ท่านนายกฯ ค่ะ มติศาลรัฐธรรมนูญออกมาแล้ว 7 ต่อ 2 สั่งให้ท่านหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที" เลขานุการสาวกระซิบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

"อะไรนะ?" อุ้งเงยหน้าขึ้น สีหน้าเปลี่ยนเป็นตกใจ "7 ต่อ 2 นี่มันเกือบเอกฉันท์เลยนะ ทำไมถึงเป็นแบบนี้?"

ที่ปรึกษาคนหนึ่งพูดขึ้น "มันมาจากคลิปเสียงน่ะครับ คลิปที่ท่านคุยกับสมเด็จอัน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งเคลมโบเดีย สว. 36 คนยื่นร้องว่าท่านอาจมีพฤติกรรมที่เป็นภัยต่อความมั่นคง และฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง"  

อุ้งนิ่งไปครู่หนึ่ง สายตาเต็มไปด้วยความสับสนและกังวล "ฉันแค่คุยกับเขาเพื่อประโยชน์ของชาติ ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้? แล้วตอนนี้เราจะทำยังไงต่อ?"  

ตัดไปอีกมุมหนึ่ง ...

ที่ร้านกาแฟเล็กๆ ในกรุงเทพฯ สมชาย อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นั่งจิบกาแฟดำ มองข่าวบนหน้าจอโทรศัพท์ด้วยสีหน้าจริงจัง เขาถูกสื่อล้อมรอบหลังจากออกมาให้สัมภาษณ์ถึงทางออกของวิกฤตครั้งนี้  

"สวัสดีครับทุกคน" สมชายพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นราวกับยูทูบเบอร์ที่กำลังไลฟ์สด "สถานการณ์ตอนนี้ร้อนแรงสุดๆ มติศาล 7 ต่อ 2 สั่งนายกอุ้งหยุดปฏิบัติหน้าที่ มันบ่งบอกอะไร? มันบอกว่าเรื่องนี้น่าห่วงมาก ผมมองว่าตอนนี้ท่านนายกมี 3 ทางเลือก"  

"ทางเลือกแรกคือรอให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินเลยครับ แต่บอกเลยว่าเสี่ยง ถ้าศาลตัดสินว่าผิด ท่านอาจถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองนานถึง 10 ปี เสียอนาคตเลยนะ"  
"ทางที่สองคือลาออกเลย นี่คือทางที่บาดเจ็บน้อยที่สุด เพราะถ้าลาออก เรื่องในศาลก็จบ ไม่ต้องลุ้นว่าจะโดนตัดสิทธิ์หรือเปล่า"
"ถ้าไม่ลาออก ฝ่ายค้านอาจรวมตัวกันยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ แล้วถ้าถึงจุดนั้น ดราม่าจะยิ่งหนัก"

สมชายหยุดพูดครู่หนึ่ง ก่อนจะย้ำด้วยน้ำเสียงจริงจัง "ผมคาดว่าศาลจะใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือน เพราะถ้าปล่อยให้ผู้นำประเทศอยู่ในสภาวะไม่แน่นอนนานกว่านี้ ความเชื่อมั่นจากต่างชาติจะพังแน่"  

ในขณะเดียวกัน ...

ในโลกออนไลน์ ดราม่ากำลังระเบิด โพสต์บนโซเซียลเดือดจัด ชาวเน็ตบางคนออกมาวิจารณ์อย่างดุเดือด  

"จริงๆ เราคนไทยควรตาสว่างได้แล้ว ตระกูลนี้มา 3 รุ่นแล้ว ประเทศก็ไม่เจริญขึ้นสักที พักก่อนนน"
"ศาลรับคำร้องเร็วมาก แต่เรื่องอื่นทำไมช้าจัง? นายกหัวใจละแวกยังลอยนวลอยู่นะ"
"คนเป็นล้านเลือกนายกฯ มา แต่ 7 คนในศาลสั่งให้หยุดได้? นี่มันอะไรกันวะ"  

แต่ก็มีบางคนที่ออกมาปกป้อง "นายกอุ้งสู้เพื่อประชาชน ถ้าใจบริสุทธิ์ อย่าลาออก สู้ต่อไป!"  อุ้งนั่งอ่านคอมเมนต์เหล่านี้ในห้องทำงานส่วนตัว เธอรู้สึกเหมือนถูกกระแสโซเชียลกลืนกิน "ทำไมทุกอย่างถึงกลายเป็นแบบนี้? ฉันแค่พยายามทำเพื่อชาติ..." เธอพึมพำกับตัวเอง  

ทางเลือกสุดท้าย ...


ฟินในคืนที่เงียบสงัด อุ้งนั่งอยู่คนเดียวในห้องทำงาน เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เปิดดูคลิปเสียงที่กลายเป็นจุดเริ่มต้นของพายุครั้งนี้ คลิปที่เธอคุยกับสมเด็จอัน เซน เธอถอนหายใจยาว "ถ้าฉันรู้ว่ามันจะกลายเป็นแบบนี้..."  

ที่ปรึกษาคนสนิทเดินเข้ามา "ท่านนายกฯ ค่ะ ตอนนี้ทุกคนรอฟังการตัดสินใจของท่าน ถ้าท่านลาออก เรื่องจะจบ แต่ถ้าท่านสู้ต่อ ศาลอาจตัดสินให้ท่านพ้นตำแหน่ง และอาจเสียสิทธิ์ทางการเมืองไปเลย"

อุ้งเงยหน้าขึ้น สายตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น "ฉันเป็นนายกเพราะประชาชนเลือกมา ฉันจะไม่ยอมให้ 7 เสียงมาลบล้างเสียงของคนเป็นล้าน ฉันจะสู้ต่อ"

แต่ในใจลึกๆ เธอก็รู้ว่าการตัดสินใจครั้งนี้เหมือนการเดินบนเส้นด้าย เธอหยิบปากกาขึ้นมา เขียนจดหมายถึงประชาชน "ไม่ว่าผลจะเป็นยังไง ฉันจะยอมรับ... แต่ฉันจะสู้เพื่อพิสูจน์ว่าฉันทำเพื่อชาติ"  

รอวันตัดสิน ...

หนึ่งเดือนต่อมา ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัย ทั่วทั้งประเทศจับตาดู บรรยากาศในกรุงเทพฯ ตึงเครียดราวกับรอผลสลากกินแบ่ง อุ้งยืนอยู่หน้าทำเนียบฯ สายตาจ้องไปที่ฝูงชนที่มารอฟังคำตัดสิน "ถ้าฉันต้องไป ฉันจะไปอย่างสง่าผ่าเผย... แต่ถ้าฉันได้อยู่ ฉันจะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าฉันทำเพื่อประเทศไทย"  แล้วผลจะออกมาเป็นยังไง? อุ้งจะรอดหรือร่วง? ศาลจะตัดสินให้ยุติ หรือจะปล่อยให้เธอไปต่อ?

รอซีซั่นหน้า

คุณคิดว่า "นายกอุ้ง" ควรเลือกทางไหน? ลาออก? สู้ต่อ? หรือยุบสภา? มาคอมเมนต์บอกกันเลย อย่าลืมกดแชร์ ถ้าชอบอมยิ้ม01
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่