‘วิโรจน์’ เสนอใช้กฎหมายฟอกเงิน แทนปิดด่านเพื่อสกัดทุนเทากัมพูชา.
.
.
"วิโรจน์ ลักขณาอดิศร" เสนอใช้มาตรการปราบฟอกเงิน เจาะทุนกัมพูชาแทนปิดด่านชายแดน พร้อมเรียกร้องภาครัฐเร่งตรวจสอบเส้นทางเงิน และลงนามอนุสัญญายูเอ็นเรื่องไซเบอร์ เพื่อช่วยลดผลกระทบต่อประชาชนนับล้านชีวิต
.
จากกรณีข้อพิพาทบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ทาง “สมเด็จฮุน เซน” ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้โพสต์ข้อความพาดพิงประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง สถานการณ์จึงยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด อีกทั้ง “นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร” สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน ก็ได้ออกมาเตือนคนไทยต้องดึงสติ ชี้ “ฮุน เซน” เดินแผนสแกมเมอร์ปั่นทุกวัน ย้ำอย่าเต้นตาม ไทยเรายิ่งต้องนิ่ง ตามที่ข่าวเสนอไปก่อนหน้านี้
.
เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกออนไลน์ได้เกิดกระแสแชร์โพสต์จาก
“นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร” สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน ที่ได้พูดถึงการใช้กลไกการปราบปรามการฟอกเงิน จัดการกลุ่มทุนเทากัมพูชา พุ่งเป้าไปที่กระเป๋า
“สมเด็จฯ ฮุน เซน” ลงในแฟนเพจ
“Wiroj Lakkhanaadisorn – วิโรจน์ ลักขณาอดิศร”.
โดยนายวิโรจน์ ระบุข้อความว่า
.
“การใช้มาตรการปิดด่านนั้น ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ และประชาชนคนไทย ที่ประกอบกิจการการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นวงกว้างอย่างน้อย 7 จังหวัด ถ้าหากจำเป็นต้องดำเนินมาตรการปิดด่านต่อไป ก็ควรต้องพิจารณามาตรการ ช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการ และประชาชนชาวไทยควบคู่กันไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรการพักชำระหนี้ทั้งเงินต้น และดอกเบี้ย และสินเชื่อปลอดดอกเบี้ย และมีระยะปลอดค่างวด”
.
“ในสมัยก่อน มาตรการปิดด่านนั้นค่อนข้างจะได้ผล เพราะว่าเป้าประสงค์ที่แท้จริง คือ การสกัดกั้นผลประโยชน์จากการลักลอบขนสินค้าหนีภาษี และธุรกิจตามแนวชายแดน ที่เป็นแหล่งผลประโยชน์ของของนักการเมืองของประเทศคู่พิพาท เพราะเรารู้อยู่แก่ใจว่า นักการเมืองของประเทศนั้นเขาไม่ได้ห่วงใยประชาชน เพื่อนร่วมชาติของพวกเขาหรอก เขาห่วงผลประโยชน์ของพวกเขาเองมากกว่า และปัจจุบันผลประโยชน์เหล่านั้น ได้แปรสภาพมาอยู่ในรูปแบบของอาชญากรรมไซเบอร์ ที่มีการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ และเงินสกุลคริปโต”
.
นอกจากนี้ “ที่ประชุม กมธ.ทหาร ในวันที่ 26 มิ.ย.68 จึงมีความเห็นร่วมกันว่า หากพิจารณาใช้มาตรการการปราบปรามการฟอกเงิน ที่พุ่งเป้าไปที่กลุ่มทุนเทากัมพูชา ที่เป็นแหล่งผลประโยชน์ของ สมเด็จฯ ฮุน เซน และ ฮุน มาเนต น่าจะสร้างแรงกดดันที่แม่นยำ และส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบกิจการการค้าชายแดนน้อยกว่า และจะได้ประโยชน์ในการปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ และธุรกิจสีเทาต่างๆ ทั้ง แก๊งคอลเซ็นเตอร์ พนันออนไลน์ ค้ามนุษย์ ค้ายาเสพติด การฟอกเงิน และการก่อการร้าย ที่เป็นภัยร้ายของประชาชนคนไทยไปในตัวด้วย”
.
“โดยนายกฯ สามารถสั่งการให้ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มทุนกัมพูชาที่ต้องสงสัย ที่เข้ามาทำธุรกรรมในประเทศไทย รวมทั้งกลุ่มทุนไทยที่เคลื่อนย้ายเงินทุนไปยังประเทศกัมพูชา โดยยอดเงินทุกยอดที่มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 700,000 บาท จะต้องมีระบบรายงานทุกครั้ง ซึ่งไม่มีทางจะหลุดรอดสายตาของ ปปง. อย่างแน่นอน”
.
อีกทั้ง “เป็นที่ทราบกันดีกว่า สำนักงานว่าด้วยยาเสพติด และอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Office on Drugs and Crime: UNODC) ยอมรับว่ากัมพูชาเป็นหนึ่งในศูนย์กลางขนาดใหญ่ของอาชญากรรมไซเบอร์ และศูนย์หลอกลวงออนไลน์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยกลุ่มฮุ่ยวัน (Huione) ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจ และเครือข่ายบริหารชำระเงิน ที่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลฮุน ได้ถูกสำนักงานเครือข่ายอาชญากรรมทางการเงินของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ (FinCEN) กล่าวหาว่า เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินระดับนานาชาติ และอาชญากรรมไซเบอร์ และเป็นศูนย์กลางการฟอกเงินของ Lazarus Group ซึ่งเป็นกลุ่มแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือ โดยในวันที่ 1 พ.ค.2568 ที่ผ่านมา FinCEN ได้ใช้มาตรา 311 ของ USA Partriot Act ประกาศให้กลุ่มฮุ่ยวัน เป็นสถาบันการเงินที่เสี่ยงต่อการฟอกเงินในระดับสูง และเสนอให้มีการตัดขาดการเข้าถึงระบบการเงินของสหรัฐอเมริกา”
.
“ที่สำคัญสำนักงานควบคุมสินทรัพย์ต่างประเทศ (Office of Foreign Assets Control: OFAC) ได้ขึ้นบัญชีดำบุคคล และองค์กรที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มฮุ่ยวัน นอกจากกลุ่มฮุ่ยวัน แล้วยังมี Mong Reththy Group ของออกญามงฤทธี และ LYP Group ของออกญาลียงพัด โดยเฉพาะออกญาลียงพัด บุคคลคนนี้ก็ถูก OFAC คว่ำบาตรเช่นกัน นั่นหมายความว่าประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับรัฐบาลไทยในการจัดการกับเครือข่ายการฟอกเงิน และอาชญากรรมไซเบอร์ ที่มีฐานการปฏิบัติการที่ประเทศกัมพูชาอยู่แล้ว”
.
นอกจากนี้ “กัมพูชาเคยถูกคณะทำงานเฉพาะกิจด้านการดำเนินมาตรการต่อต้านการฟอกเงิน (Financial Action Task Force: FATF) จัดให้อยู่ใน Grey List ตั้งแต่ปี พ.ศ.2562 และเพิ่งจะถูกปลดออกจาก Grey List เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2566 นี้เอง ผมเชื่อว่าถ้ามีการมอบหมายให้ ปปง. และ บช.สอท. ประสานงานกัน และทำงานร่วมกันกับหน่วยงานด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินของประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริการ จีน อังกฤษ ฝรั่งเศส และกลุ่มประเทศสแกนดิเนวีย ก็จะทำให้สามารถรวบรวมข้อมูลการฟอกเงิน ที่เชื่อมโยงไปที่กลุ่มทุนต่างๆ ในประเทศกัมพูชา ที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น”
“ซึ่งจะทำให้สามารถยื่นให้กับคณะทำงานทบทวนความร่วมมือระหว่างประเทศ (International Cooperation Review Group: ICRG) เพื่อให้ FATF พิจารณานำเอาประเทศกัมพูชากลับไปสู่ Grey List เช่นเดิม ซึ่งจะทำให้ธนาคาร และสถาบันการเงินทั่วโลกใช้มาตรการตรวจสอบที่เข้มข้นขึ้น (Enhanced Due Diligence) และถ้าไม่มีการปรับปรุง ก็จะถูกจัดให้อยู่ใน Black List ซึ่งจะทำให้กัมพูชาถูกตัดออกจากระบบการเงินโลก (SWIFT) ต่อให้ตระกูลฮุนจะมีเงินมากมายขนาดไหน แต่ถ้าเคลื่อนย้ายถ่ายโอนไม่ได้ ก็แทบจะไม่มีประโยชน์อะไร”
.
อีกทั้ง “การที่กลุ่มฮุ่ยวัน (Huione) เป็นจุดศูนย์กลางของการฟอกเงินของ Lazarus Group ของเกาหลีเหนือ ซึ่งประเทศเกาหลีเหนือเป็นประเทศที่อยู่ใน Black List ของ FATF นั่นหมายความว่ามีโอกาสสูงมากที่กัมพูชา จะถูกนำกลับไปแขวนไว้ใน Grey List หรือ Black List เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้นะครับ เพราะยูเครนก็เคยพยายามผลักดันให้ FATF ขึ้นบัญชีดำรัสเซีย แม้ว่ารัสเซียจะไม่ถูกขึ้นบัญชีดำ แต่ก็ถูก “สั่งพักสมาชิก” ซึ่งทำให้รัสเซียได้รับผลกระทบอยู่พอสมควร”
.
“อีกมาตรการหนึ่งที่นายกรัฐมนตรีควรสั่งการอย่างเร่งด่วนก็ คือ การลงนามให้สัตยาบรรณอนุสัญญาอาชญากรรมไซเบอร์แห่งสหประชาชาติ 2024 (United Nations Convention against Cybercrime 2024: UNCC 2024) ในฐานะ 40 ประเทศแรก ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยเป็นรัฐผู้ร่วมริเริ่มอนุสัญญา ซึ่งจะทำให้ประเทศของเราสามารถขอความร่วมมือจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกในการปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ ไม่ว่าฐานปฏิบัติการของโจรเหล่านี้จะตั้งอยู่ที่ประเทศไทย หรือส่วนไหนของโลก”
.
“มาตรการทั้งหมดนี้ที่ผมเสนอไป เป็นมาตรการที่เป็นไปตามหลักสากล และสามารถทำได้จริง และทำได้ทันที และหากมีการดำเนินการไปแล้ว ก็จะทำให้ประเทศไทยได้รับการยอมรับจากนานาอารยประเทศ และเข้าใจสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นว่ามีความเกี่ยวพันกับผลประโยชน์ จากอาชญากรรมไซเบอร์ที่มีฐานปฏิบัติการที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งข้อเท็จจริงดังกล่าวนี้ จะทำให้ความชอบธรรมของกัมพูชาลดลงทันทีในเวทีโลก ซึ่งจะเป็นผลดีอย่างมากต่อการคลี่คลายความขัดแย้งระหว่างไทย และกัมพูชาที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน”
.
นอกจากนี้ “จากกรณีที่ฮุนเซนออกมาเปิดเผยว่า มีนักการเมืองไทย 7 คน เอาเงินมาฟอกที่กัมพูชา ทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่า ด้วยเหตุผลนี้หรือไม่ ที่ทำให้ท่านนายกรัฐมนตรีไม่กล้าสั่งการให้ ปปง. และ บช.สอท. สืบสวนสอบสวนเส้นทางการเงินของกลุ่มทุนของประเทศกัมพูชา และแทบจะไม่พูดถึงมาตรการปราบปรามการฟอกเงินเลย ทั้งๆ ที่เป็นมาตรการที่แม่นยำ ได้ผล และส่งผลกระทบต่อประชาชนคนไทยในวงที่จำกัดกว่า เนื่องจากนักเมืองไทย 7 คน นั้นอาจจะเป็นคนในเครือข่าย หรือเป็นบุคคลใกล้ชิดของนายกรัฐมนตรี หรืออาจจะเป็นรัฐมนตรี หรืออดีตรัฐมนตรีก็ได้ “
.
อย่างไรก็ตาม “ซึ่งถ้าหากเป็นรัฐมนตรี ก็ย่อมมีความผิดฐานปกปิด และรายงานบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จต่อ ป.ป.ช. ซึ่งมีความผิดตามกฎหมาย และถ้าเงินที่นำเอาไปฟอกเป็นเงินที่เกี่ยวพันกับการทุจริตคอร์รัปชั่น นายกรัฐมนตรีก็อาจจะต้องร่วมรับผิดด้วย เนื่องจากแต่งตั้งบุคคลที่ขาดความซื่อสัตย์สุจริตให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ผมคิดว่าได้เวลาที่เราจะต้องจัดการเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมาเสียทีครับ ต่อให้นักการเมือง 7 คนที่สมเด็จฯ ฮุน เซน ขู่จะเป็นใคร มีนามสกุลอะไร ใหญ่แค่ไหน รวยขนาดไหน ถ้าไปร่วมขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ปล่อยไว้ไม่ได้ครับ”
.
.
.
.
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ดูแลความเรียบร้อยม็อบ”รวมพลังแผ่นดิน”
.
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ตรวจดูความพร้อมการดูแลความปลอดภัย พื้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ตามมาตรการ
.
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยของพื้นที่ ตามมาตรการดูแลพื้นที่ชุมนุม บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยมีนายสบโชค ณ ศรีโต ผู้อำนวยการเขตราชเทวี หัวหน้าฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่ โดยได้ตรวจความพร้อมในการดูแลความปลอดภัยของประชาชน
.
ซึ่ง กทม.ได้จัดเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทศกิจดูแลพื้นที่และอำนวยความสะดวก ในจุดคัดกรอง ร่วมดูแลประชาชนด้านการจราจร การข้ามถนน เพื่อการเดินทางลื่นไหล การตั้งจุดบริการสาธารณสุขได้เตรียมรถสุขา รถน้ำดื่ม และจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่และรถพยายามบาล พร้อมปฐมพยาบาลและช่วยเหลือประชาชนหากมีกรณีฉุกเฉิน ทั้งนี้ ได้มีการตั้งศูนย์บัญชาการเชื่อม CCTV ทุกระบบของรัฐและเอกชน พร้อมทั้ง เชื่อมสัญญาณโดรน มองภาพมุมสูง ลดความเสี่ยงภัยแฝง เฝ้าติดตามสถานการณ์ต่าง ๆ พร้อมให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
JJNY : ‘วิโรจน์’เสนอใช้กม.ฟอกเงินแทนปิดด่าน│ชัชชาติดูแลความเรียบร้อยม็อบ│ร่าง พ.ร.บ.เกม เสี่ยงสะดุด!│วิเคราะห์ แพทองธาร
.