สรุปประชุมผู้ถือหุ้นกู้ EA วันนี้ โหวตผ่าน 8 รุ่น ไม่ผ่าน 1 รุ่น อีก 2 รุ่นประชุมใหม่ วันที่ 7 กรกฎาคมนี้ | MONEY LAB
วันนี้ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ได้มีการจัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ขึ้น เพื่อหารือประเด็นสำคัญ เกี่ยวกับการปรับโครงสร้างหนี้หุ้นกู้ ทั้งหมด 14 ชุด
แล้วทำไมเรื่องนี้จึงสำคัญ ?
เพราะผลโหวตการประชุมครั้งนี้ จะเป็นสิ่งที่กำหนดอนาคตความเป็นไปของบริษัทได้เลย
ถ้าการปรับโครงสร้างหนี้ ไม่เกิดขึ้น บริษัทมีโอกาสที่จะไม่สามารถหาเงินมาจ่ายคืนหนี้หุ้นกู้ได้ และจะต้องเจอกับปัญหาสภาพคล่อง..
สำหรับการประชุมในวันนี้ มีอยู่ทั้งหมด 4 วาระ
วาระที่ 1: ขอเปลี่ยนวิธีนับคะแนนเสียง
เพื่อให้นับคะแนนเสียงแบบรวมทุกชุดหุ้นกู้เข้าด้วยกัน จากเดิมที่ หุ้นกู้แต่ละชุด เวลาจะโหวต ก็ต้องโหวตแยกกัน
ถ้าวาระนี้ผ่าน ก็หมายความว่า EA จะสามารถนับคะแนนเสียงของผู้ถือหุ้นกู้ทุกชุด รวมกันเป็นก้อนเดียวได้เลย ไม่ต้องแยกโหวตเป็นรายชุด อีกต่อไป
คิดง่าย ๆ ว่า เหมือนกับการที่ บริษัทรวมเจ้าหนี้ทุกคนของหุ้นกู้ทั้งหมด 14 ชุดนี้ เข้าไว้เป็นก้อนเดียวกัน
แล้วพอจะโหวต ก็ให้ทุกคนในนี้โหวตพร้อมกันไปเลย ถ้าเสียงส่วนมากโหวตผ่าน ก็ถือว่าผ่านเลย จะไม่ต้องมาโหวตแก้ปัญหาหุ้นกู้ แยกแบบทีละชุดอีก
ซึ่งวิธีนี้ จะทำให้ขั้นตอนการแก้ปัญหาเรื่องหนี้หุ้นกู้ของบริษัทง่ายขึ้น เพราะบริษัทต้องการแค่ให้จำนวนเสียงรวมแล้ว มากพอที่จะโหวตผ่านก็เท่านั้น
และหากเราไปลองวิเคราะห์ให้ลึกไปอีกขั้น ก็สามารถตีความแบบนี้ได้เหมือนกันว่า สมมติถ้าเกิดเจ้าหนี้หุ้นกู้ชุดที่ 1 เกิดมีจำนวนมากกว่าเจ้าหนี้หุ้นกู้ชุดที่ 2 ขึ้นมา
พอรวมกันแล้วแบบนี้ การโหวตแก้ปัญหาเรื่องหนี้หุ้นกู้ ก็จะถือว่าเจ้าหนี้หุ้นกู้ ในชุดใดชุดหนึ่ง จะถือว่ามีอิทธิพลในการโหวตมากกว่าชุดอื่น ๆ ได้เลย
ซึ่งถ้าวาระนี้ผ่าน ก็จะถูกบังคับใช้ทันที ในการประชุมวาระที่ 2 ถึงวาระที่ 4 เลย
แต่ถ้าเกิดว่า วาระที่ 1 นี้ เกิดโหวตไม่ผ่านขึ้นมา ก็จะต้องโหวตแก้ปัญหาหนี้หุ้นกู้ แยกแต่ละชุดกันไป
ซึ่งถ้าเจ้าหนี้หุ้นกู้ชุดที่ 1 เกิดโหวตผ่าน แต่เจ้าหนี้หุ้นกู้ชุดอื่น ๆ ไม่เอาด้วย การแก้ปัญหาหนี้สินหุ้นกู้ของบริษัท ก็อาจจะมีปัญหาได้เลย
ดังนั้น การให้เปลี่ยนวิธีนับคะแนนเสียง จึงมีโอกาสจะทำให้บริษัท แก้ปัญหาเรื่องนี้ ได้มากขึ้น
สำหรับผลโหวตการประชุมวาระนี้ คือ “ไม่ผ่าน”
ดังนั้น หุ้นกู้แต่ละรุ่น จะต้องโหวตแยกกัน..
วาระที่ 2: ขอผ่อนผันเรื่องขั้นตอนการจัดประชุม
โดยเป็นการโหวตเพื่อ
- ให้ไม่ต้องปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นกู้ ล่วงหน้าก่อนการประชุม
- ขออนุญาตจัดประชุมโดย “แจ้งล่วงหน้าไม่ถึง 7 วัน”
- และขอให้การดำเนินการนี้ ไม่ถือว่าเป็นการผิดข้อกำหนดสิทธิของหุ้นกู้
สำหรับผลโหวตการประชุมในวาระนี้ คือ “ผ่าน”
วาระที่ 3: ขอเปลี่ยนเงื่อนไขของหุ้นกู้
วาระนี้ EA จะขอเสนอปรับเงื่อนไขของหุ้นกู้ทั้งหมด 14 ชุด
- โดยบริษัทจะขอขยายระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอน ออกไปอีก 7 ปี
- ขอเพิ่มสิทธิ Call Option หรือสิทธิในการไถ่ถอนก่อนกำหนด
- โดยจะปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มให้อีก 0.5% ต่อปี
- ขอแบ่งชำระคืนเงินต้นบางส่วน
- และรวมถึง ขอแก้ไขข้อกำหนดสิทธิ ชื่อหุ้นกู้ เอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้อง
แต่เนื่องจากว่า ในวาระที่ 1 โหวตไม่ผ่าน ทำให้ต้องมีการโหวตหุ้นกู้แต่ละชุด แยกกันทีละชุด
และในการโหวตวาระนี้ หุ้นกู้บางชุดมีจำนวนเสียงไม่ครบองค์ประชุม จึงต้องเลื่อนการประชุมผู้ถือหุ้นกู้เหล่านั้น ออกไปก่อน
โดยในวาระนี้ เหลือหุ้นกู้ให้โหวตทั้งหมด 11 ชุด และถ้าจะโหวตให้ผ่าน แต่ละชุดจะ ต้องได้มติเป็นคะแนนเสียงข้างมาก ไม่น้อยกว่า 75%
และผลลัพธ์ที่ออกมา เป็นดังนี้
- “ผ่าน 3 ชุด”
- “ไม่ผ่าน 8 ชุด”
วาระที่ 4: ขอผ่อนผัน และปรับโครงสร้างหนี้
วาระสุดท้ายนี้ จะเน้นเฉพาะ หุ้นกู้เพียง 11 ชุดจากทั้งหมด 14 ชุด เพราะยังมีอีก 3 ชุด ที่ยังไม่เข้าข่ายให้ต้องปรับโครงสร้าง
แต่เนื่องจากว่า มีหุ้นกู้อยู่ 2 ชุด ซึ่งก็คือกลุ่มหุ้นกู้ EA26OA และกลุ่มหุ้นกู้ EA269A และ EA289A ที่จำนวนเสียงยังไม่ครบองค์ประชุม ทำให้จะมีการเลื่อนออกไปก่อน
ดังนั้น ในวาระนี้ จะมีการโหวตหุ้นกู้แค่เพียง 9 ชุด
โดยรายละเอียดในวาระนี้ ก็ยังเป็นการขอปรับโครงสร้างหนี้ เช่น
- ขอขยายเวลาชำระหนี้
- ขอปรับอัตราดอกเบี้ย
- ขอการแบ่งชำระเงินต้น
- ขอเพิ่มสิทธิ Call Option หรือสิทธิในการไถ่ถอนก่อนกำหนด
โดยจะไม่ถือว่า เป็นเหตุผิดนัดชำระหนี้ ตามข้อกำหนดเดิมของหุ้นกู้เหล่านี้ นั่นเอง
สรุปผลโหวตการประชุมในวาระนี้ ออกมาว่า
- “ผ่าน 8 ชุด” ได้แก่ หุ้นกู้ EA259A, EA279A, EA299A, EA329A, EA261A, EA281A, EA301A, และ EA331A
- “ไม่ผ่าน 1 ชุด” คือหุ้นกู้ EA257A
พอผลโหวตที่สำคัญอย่างวาระที่ 3 และ 4 ออกมาแบบนี้แล้ว หลังจากนี้ทาง EA ก็จะต้องไปขอเจรจากับเจ้าหนี้หุ้นกู้ในแต่ละรุ่น เพื่อหาข้อตกลงร่วมกัน
ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมา จะเป็นอย่างไร ก็คงต้องติดตามกันในการประชุมในวันที่ 7 กรกฎาคมที่จะถึงนี้
ว่าเรื่องราวมหากาพย์ของ EA ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ปีที่แล้ว จนถึงตอนนี้ สุดท้ายแล้ว ตอนจบจะเป็นอย่างไร..
อาทิตย์หน้าได้ลุ้นกันต่อ ว่าจะกลายเป็นเสือหมดเขี้ยวเล็บหรือพยัคฆ์ติดปีก
🫂 ว่าด้วยเรื่องของ EA
วันนี้ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ได้มีการจัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ขึ้น เพื่อหารือประเด็นสำคัญ เกี่ยวกับการปรับโครงสร้างหนี้หุ้นกู้ ทั้งหมด 14 ชุด
แล้วทำไมเรื่องนี้จึงสำคัญ ?
เพราะผลโหวตการประชุมครั้งนี้ จะเป็นสิ่งที่กำหนดอนาคตความเป็นไปของบริษัทได้เลย
ถ้าการปรับโครงสร้างหนี้ ไม่เกิดขึ้น บริษัทมีโอกาสที่จะไม่สามารถหาเงินมาจ่ายคืนหนี้หุ้นกู้ได้ และจะต้องเจอกับปัญหาสภาพคล่อง..
สำหรับการประชุมในวันนี้ มีอยู่ทั้งหมด 4 วาระ
วาระที่ 1: ขอเปลี่ยนวิธีนับคะแนนเสียง
เพื่อให้นับคะแนนเสียงแบบรวมทุกชุดหุ้นกู้เข้าด้วยกัน จากเดิมที่ หุ้นกู้แต่ละชุด เวลาจะโหวต ก็ต้องโหวตแยกกัน
ถ้าวาระนี้ผ่าน ก็หมายความว่า EA จะสามารถนับคะแนนเสียงของผู้ถือหุ้นกู้ทุกชุด รวมกันเป็นก้อนเดียวได้เลย ไม่ต้องแยกโหวตเป็นรายชุด อีกต่อไป
คิดง่าย ๆ ว่า เหมือนกับการที่ บริษัทรวมเจ้าหนี้ทุกคนของหุ้นกู้ทั้งหมด 14 ชุดนี้ เข้าไว้เป็นก้อนเดียวกัน
แล้วพอจะโหวต ก็ให้ทุกคนในนี้โหวตพร้อมกันไปเลย ถ้าเสียงส่วนมากโหวตผ่าน ก็ถือว่าผ่านเลย จะไม่ต้องมาโหวตแก้ปัญหาหุ้นกู้ แยกแบบทีละชุดอีก
ซึ่งวิธีนี้ จะทำให้ขั้นตอนการแก้ปัญหาเรื่องหนี้หุ้นกู้ของบริษัทง่ายขึ้น เพราะบริษัทต้องการแค่ให้จำนวนเสียงรวมแล้ว มากพอที่จะโหวตผ่านก็เท่านั้น
และหากเราไปลองวิเคราะห์ให้ลึกไปอีกขั้น ก็สามารถตีความแบบนี้ได้เหมือนกันว่า สมมติถ้าเกิดเจ้าหนี้หุ้นกู้ชุดที่ 1 เกิดมีจำนวนมากกว่าเจ้าหนี้หุ้นกู้ชุดที่ 2 ขึ้นมา
พอรวมกันแล้วแบบนี้ การโหวตแก้ปัญหาเรื่องหนี้หุ้นกู้ ก็จะถือว่าเจ้าหนี้หุ้นกู้ ในชุดใดชุดหนึ่ง จะถือว่ามีอิทธิพลในการโหวตมากกว่าชุดอื่น ๆ ได้เลย
ซึ่งถ้าวาระนี้ผ่าน ก็จะถูกบังคับใช้ทันที ในการประชุมวาระที่ 2 ถึงวาระที่ 4 เลย
แต่ถ้าเกิดว่า วาระที่ 1 นี้ เกิดโหวตไม่ผ่านขึ้นมา ก็จะต้องโหวตแก้ปัญหาหนี้หุ้นกู้ แยกแต่ละชุดกันไป
ซึ่งถ้าเจ้าหนี้หุ้นกู้ชุดที่ 1 เกิดโหวตผ่าน แต่เจ้าหนี้หุ้นกู้ชุดอื่น ๆ ไม่เอาด้วย การแก้ปัญหาหนี้สินหุ้นกู้ของบริษัท ก็อาจจะมีปัญหาได้เลย
ดังนั้น การให้เปลี่ยนวิธีนับคะแนนเสียง จึงมีโอกาสจะทำให้บริษัท แก้ปัญหาเรื่องนี้ ได้มากขึ้น
สำหรับผลโหวตการประชุมวาระนี้ คือ “ไม่ผ่าน”
ดังนั้น หุ้นกู้แต่ละรุ่น จะต้องโหวตแยกกัน..
วาระที่ 2: ขอผ่อนผันเรื่องขั้นตอนการจัดประชุม
โดยเป็นการโหวตเพื่อ
- ให้ไม่ต้องปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นกู้ ล่วงหน้าก่อนการประชุม
- ขออนุญาตจัดประชุมโดย “แจ้งล่วงหน้าไม่ถึง 7 วัน”
- และขอให้การดำเนินการนี้ ไม่ถือว่าเป็นการผิดข้อกำหนดสิทธิของหุ้นกู้
สำหรับผลโหวตการประชุมในวาระนี้ คือ “ผ่าน”
วาระที่ 3: ขอเปลี่ยนเงื่อนไขของหุ้นกู้
วาระนี้ EA จะขอเสนอปรับเงื่อนไขของหุ้นกู้ทั้งหมด 14 ชุด
- โดยบริษัทจะขอขยายระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอน ออกไปอีก 7 ปี
- ขอเพิ่มสิทธิ Call Option หรือสิทธิในการไถ่ถอนก่อนกำหนด
- โดยจะปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มให้อีก 0.5% ต่อปี
- ขอแบ่งชำระคืนเงินต้นบางส่วน
- และรวมถึง ขอแก้ไขข้อกำหนดสิทธิ ชื่อหุ้นกู้ เอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้อง
แต่เนื่องจากว่า ในวาระที่ 1 โหวตไม่ผ่าน ทำให้ต้องมีการโหวตหุ้นกู้แต่ละชุด แยกกันทีละชุด
และในการโหวตวาระนี้ หุ้นกู้บางชุดมีจำนวนเสียงไม่ครบองค์ประชุม จึงต้องเลื่อนการประชุมผู้ถือหุ้นกู้เหล่านั้น ออกไปก่อน
โดยในวาระนี้ เหลือหุ้นกู้ให้โหวตทั้งหมด 11 ชุด และถ้าจะโหวตให้ผ่าน แต่ละชุดจะ ต้องได้มติเป็นคะแนนเสียงข้างมาก ไม่น้อยกว่า 75%
และผลลัพธ์ที่ออกมา เป็นดังนี้
- “ผ่าน 3 ชุด”
- “ไม่ผ่าน 8 ชุด”
วาระที่ 4: ขอผ่อนผัน และปรับโครงสร้างหนี้
วาระสุดท้ายนี้ จะเน้นเฉพาะ หุ้นกู้เพียง 11 ชุดจากทั้งหมด 14 ชุด เพราะยังมีอีก 3 ชุด ที่ยังไม่เข้าข่ายให้ต้องปรับโครงสร้าง
แต่เนื่องจากว่า มีหุ้นกู้อยู่ 2 ชุด ซึ่งก็คือกลุ่มหุ้นกู้ EA26OA และกลุ่มหุ้นกู้ EA269A และ EA289A ที่จำนวนเสียงยังไม่ครบองค์ประชุม ทำให้จะมีการเลื่อนออกไปก่อน
ดังนั้น ในวาระนี้ จะมีการโหวตหุ้นกู้แค่เพียง 9 ชุด
โดยรายละเอียดในวาระนี้ ก็ยังเป็นการขอปรับโครงสร้างหนี้ เช่น
- ขอขยายเวลาชำระหนี้
- ขอปรับอัตราดอกเบี้ย
- ขอการแบ่งชำระเงินต้น
- ขอเพิ่มสิทธิ Call Option หรือสิทธิในการไถ่ถอนก่อนกำหนด
โดยจะไม่ถือว่า เป็นเหตุผิดนัดชำระหนี้ ตามข้อกำหนดเดิมของหุ้นกู้เหล่านี้ นั่นเอง
สรุปผลโหวตการประชุมในวาระนี้ ออกมาว่า
- “ผ่าน 8 ชุด” ได้แก่ หุ้นกู้ EA259A, EA279A, EA299A, EA329A, EA261A, EA281A, EA301A, และ EA331A
- “ไม่ผ่าน 1 ชุด” คือหุ้นกู้ EA257A
พอผลโหวตที่สำคัญอย่างวาระที่ 3 และ 4 ออกมาแบบนี้แล้ว หลังจากนี้ทาง EA ก็จะต้องไปขอเจรจากับเจ้าหนี้หุ้นกู้ในแต่ละรุ่น เพื่อหาข้อตกลงร่วมกัน
ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมา จะเป็นอย่างไร ก็คงต้องติดตามกันในการประชุมในวันที่ 7 กรกฎาคมที่จะถึงนี้
ว่าเรื่องราวมหากาพย์ของ EA ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ปีที่แล้ว จนถึงตอนนี้ สุดท้ายแล้ว ตอนจบจะเป็นอย่างไร..
อาทิตย์หน้าได้ลุ้นกันต่อ ว่าจะกลายเป็นเสือหมดเขี้ยวเล็บหรือพยัคฆ์ติดปีก