กระทู้นี้ผมเลยอยากมาเเลกเปลี่ยนประสบการ์ณและอาการที่ผมเจอเผื่อเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนหลายๆคนนะครับ
ทุกอย่างผ่านมาด้วยความลำบากคนเดียว!!!ไม่เคยปริปากขอความช่วยเหลือจากครอบครัว
****ผมตรวจพบว่าผมติดเชื้อ เมื่อมีนา 65 ผมเป็นคนที่ค่อนข้างเเข็งเเรงและออกกำลังกายมาโดยตลอด
- ช่วง พย-ธค64 ผมเริ่มมีอาการท้องเสียเเละถ่ายบ่อย วันนึง 5 ครั้ง+ ***ซึ่งก่อนหน้านี้ผมเข้าห้องน้ำวันละ3-4รอบ(อันนี้ผิดปรกติ) ผมเป็นแบบนี้มาหลายปีจนผมรู้สึกว่านั่นคือเรื่องปรกติของร่างกาย
- มกราคม65 การขับถ่ายผมถี่ขึ้นเป็น6-7ครั้งต่อวัน ผมก็ยังไม่รุ้สึกว่าต้องไปหาหมอ
- กุมภาพันธ์65 อันนี้เริ่มหนักครับ 10ครั้ง++ ต่อวัน บวกกับมีอาการถ่ายเหลว ท้องเสียบ่อย และบางทีถ่ายออกมาคืออาหารเหล่านั้นเเทบไม่ได้รับการย่อยสลาย คือกินเข้าไปยังใงออกมาเเบบนั้น ไปทำงานเเทบอยากจะใส่เเพมเพิสไป จนในที่สุดผมเริ่มหมดเเรง เเละมารู้ตัวอีกทีคือเริ่มมีคนทักว่าทำไมดูผอมลงเยอะจัง ผมถึงได้เริ่มสังเกตุว่าภายในระยะเวลาเดือนนี้ น้ำหนักผมลดจาก67เหลือ60กิโลกรัม ลดลงถึง 7 กก!!!!
- กุมภาพันธ์ 65 ช่วงต้นเดือนผมตัดสินใจเข้าพบหมอเพื่อรักษา เเต่ผมรักษาแบบอ้อมโลกมากครับ เพราะผมไม่ตรวจเลือด ทั้งกินยา นอน รพ เเต่อาการถ่ายเหลวถ่ายบ่อยยังไม่หาย จนต้องทำการสแกนลำใส้ ถึงได้พบว่า "มีเชื้อรา" ในหลอดอาหาร 3 จุด หมอจึงให้ตรวจเลือด ซึ่งผมไม่ตรวจเพราะมั่นใจว่าไม่เคยมีความเสี่ยงมาเป็นเวลาเกือบสิบปี ผมทนรักษาตามอาการหวังว่าจะดีขึ้น ผมเข้าๆออกๆ นอน รพ ทีละ5 วัน 7 วันบ้างตลอดทั้งเดือน เนื่องจากผมเริ่มหมดเเรง ค่าใช้จ่ายนี่ไม่ต้องพูดถึงเลยครับปาเข้าไป 300-400kละ
จนหมอขอให้ตรวจHivซึ่งเข้าใจได้ว่าหมอน่าจะทราบว่าผมเป็นอะไร เเต่หมอพยายามพูดอ้อมๆ
******เหตุการ์ณด้านบนที่บ้านผมรับรู้ถึงความเจ็บป่วยทั้งหมด ที่บ้านพามา รพ มานอนเฝ้าไข้ จนหลังจากนี้ผมจะเริ่มปิดบังบางอย่างกับครอบครัวเเเล้วครับ*******
- มีนาคม 65 ผมกลับมาหาหมอเองคนเดียวเพราะอาการไม่ไดีขึ้น จนผมยอมตรวจ เพราะผมเเทบไม่มีเเรงเดินเเล้ว น้ำหนักลดลงอีก 8 กก เเน่นอนครับจากน้ำหนักปรกติ 67 สามเดือนลง 15 กก น้ำหนักเหลือ52 จะเอาเเรงใหนเดินกินอะไรก้เริ่มอ้วกแล้ว หลังจากตรวจ ก็ตามนั้นเลยครับ HIV ระยะเอดส์แล้วครับ CD4เหลือ 40 VL 3แสนกว่า
ผมเริ่มการรักษาอย่างจริงจัง ในทันที เเต่เปลี่ยน รพ นะครับ จาก เอกชน มาเป็นตามสิทธิ์ ปกส เพราะค่าใช้จ่ายหมดไปเยอะมากๆจนกระทบกับการใช้ชีวิตเเล้ว
ผมต้องขับรถมา รพ เอง บอกที่บ้านว่าไปทำงานเเต่จริงๆผมมาเริ่มการรักษาที่ รพ ตามสิทธิ์
ทรมานมากครับเพราะไม่มีเเรง รพ ห่างบ้าน 30 กม บางทีต้องออกเช้าขับมาเพื่อจอดนอนเพราะขับทีเดียว 30 โลไม่ไหวเนื่องด้วยตอนนั้นร่างกายมันอ่อนเเรง เเละง่วงแบบ24 ซม จอดนอนตามข้างทางทีละ 10 กม 5กม ผมมาทำเรื่องรักษาเองอยู่สามวัน
จนในที่สุดวันสุดท้ายที่ผมไป รพ ผมเป็นลม เลยได้เเอดมิดทันที
ผมบอกที่บ้านว่าอาการต้องนอน รพ เพราะเปลี่ยนที่รักษา ต้องเริ่มใหม่ ตอนนั้นที่บ้านรับรู้ว่าผมเป็นโรคลำใส้แปรปรวน IBS เเละเขาไม่ให้คนเฝ้าช่วงนั้นโควิดครับ ผมเลยได้นอน รพ คนเดียว
ช่วงเเรกรักษา ผมต้องเริ่มใหม่หมด ทั้งสเเกนลำใส้ใหม่ เอ็กเรย์ทุกส่วนของร่างกาย เเละทำการเจาะใขสันหลัง
สภาพไม่ต้องพูดถึงครับ น้ำหนักเลือ 43-45 เป็นผักแล้ว ค่าใตต่ำมากพร้อมเดินทางออกจากร่างทุกขณะจิต เครื่องช่วยหายใจก็ต้องเข้า เดินเเทบไม่ได้เเล้ว
ผมนอน รพ 3วันเเรก ในห้องรวมนอนไม่ได้เลยครับ ผมนอนฝันร้ายทุกคืน ฝันเห็นเต่คนตาย ฝันเห็นเเต่ความตาย ผมหมดเเรงมากๆ แทบไม่อยากรับสายคนที่บ้าน เวลาพ่อแม่โทรมา ผมต้องทำตัวให้ดูสดชื่นทั้งที่ผมไม่มีเเรง
จนในที่สุด พี่พญาบาลที่ห้องเฉพาะทางโรคHIV มาเยียม ผมขอร้องให้เขาเซ็นรับรองให้เข้าห้องพิเศษ เป็นบุญมากเขายอมเซนให้เพราะห้องพิเศษถ้าไม่มีญาติจะไม่ได้รับสิทธฺ์นอนคนเดียว
ผมนอนอยู่ เกือบสองสัปดาห์ จนเริ่มมีเเรงขึ้นมาบ้างเเละได้ออกจาก รพ
**** ผมคิดว่าความทรมานช่วงนี้คนที่เป็นอยู่หรือผ่านมาเเล้วคงทราบมันดีว่าทรมานเเค่ใหน
ผมใช้เวลา 2 เดือน หลังจากที่ออกจาก รพ กินยาวันละ 18 เม็ด เพื่อรักษาตัวเอง ผมต้องฝืนออกกำลังกาย ฝืนกิน ถึงจะกินไม่ได้มากเเต่ก็พยายามเเบ่งมื้อให้ถี่ขึ้น น้ำหนักผมเริ่มขึ้นมาสิบกว่าโล CD4ขยับขึ้นมาบ้าง จนเข้าเดือนที่6 ผมสามาร๔ใช้ชีวิตได้อย่างปรกติมากไม่มีอาการที่บ่งบอกว่าเราป่วยเลย น้ำหนัก รูปร่างหน้าตา ผิวพรรณ กลับมาสดใสเหมือนไม่เคยป่วย
ปีนี้เป็นปีที่3แล้ว ผมยังไม่เคยป่วยจนต้องเข้า รพ เลย ยาก็เหลือเเค่วันละเม็ด น้ำหนักพุ่งทยาน มาที่ 78 ตอนนี้ กินดื่มเที่ยวปรกติ
ใช้ชีวิตเหมือนคนปรกติทุกอย่าง
ผมอยากให้ใครที่กำลังเผชิญอยู่ตอนนี้มีกำลังใจนะครับ ว่ามันไม่ได้เเย่ขนาดนั้นมันจะผ่านมาได้ ยิ่งถ้าเราเรียนรู้ที่จะรักตัวเองใวเเค่ใหนร่างกายเราจะดีขึ้นใวเท่านั้น
****ผมเสียใจมากที่ผมติดโรคนี้มา ผมโทษตัวเองว่าทำไมต้องทำให้ตัวเองติดโรคนี้มา เเต่ผมก็เรียนรู้ที่ให้โอกาศตัวเองแก้ใขตัวเอง เรียนรู้ที่จะเข้าใจโรคและอยู่กับมันให้ได้ Hiv มันต้องอยุ่ภายใต้การควบคุมของร่างกายผม ผมจะไม่ยอมให้Hivมาสั่งให้ร่างกายผมอ่อนเเอ ผมจำเป็นต้องมีชีวิตอยุ่เพื่อดูเเลครอบครัวเเละคนข้างหลัง***
ขอให้ทุกคนได้กำลังใจจากการอ่านบทความของผมนะครับ ต้องการปึกษาผมก็ยินดีนะครับ
รีวิว 3 ปี กับ hiv ของผม(ดูแลตัวเองคนเดียวจากแทบนอนติดเตียงไม่เคยบอกคนในครอบครัวจนถึงวันนี้)
ทุกอย่างผ่านมาด้วยความลำบากคนเดียว!!!ไม่เคยปริปากขอความช่วยเหลือจากครอบครัว
****ผมตรวจพบว่าผมติดเชื้อ เมื่อมีนา 65 ผมเป็นคนที่ค่อนข้างเเข็งเเรงและออกกำลังกายมาโดยตลอด
- ช่วง พย-ธค64 ผมเริ่มมีอาการท้องเสียเเละถ่ายบ่อย วันนึง 5 ครั้ง+ ***ซึ่งก่อนหน้านี้ผมเข้าห้องน้ำวันละ3-4รอบ(อันนี้ผิดปรกติ) ผมเป็นแบบนี้มาหลายปีจนผมรู้สึกว่านั่นคือเรื่องปรกติของร่างกาย
- มกราคม65 การขับถ่ายผมถี่ขึ้นเป็น6-7ครั้งต่อวัน ผมก็ยังไม่รุ้สึกว่าต้องไปหาหมอ
- กุมภาพันธ์65 อันนี้เริ่มหนักครับ 10ครั้ง++ ต่อวัน บวกกับมีอาการถ่ายเหลว ท้องเสียบ่อย และบางทีถ่ายออกมาคืออาหารเหล่านั้นเเทบไม่ได้รับการย่อยสลาย คือกินเข้าไปยังใงออกมาเเบบนั้น ไปทำงานเเทบอยากจะใส่เเพมเพิสไป จนในที่สุดผมเริ่มหมดเเรง เเละมารู้ตัวอีกทีคือเริ่มมีคนทักว่าทำไมดูผอมลงเยอะจัง ผมถึงได้เริ่มสังเกตุว่าภายในระยะเวลาเดือนนี้ น้ำหนักผมลดจาก67เหลือ60กิโลกรัม ลดลงถึง 7 กก!!!!
- กุมภาพันธ์ 65 ช่วงต้นเดือนผมตัดสินใจเข้าพบหมอเพื่อรักษา เเต่ผมรักษาแบบอ้อมโลกมากครับ เพราะผมไม่ตรวจเลือด ทั้งกินยา นอน รพ เเต่อาการถ่ายเหลวถ่ายบ่อยยังไม่หาย จนต้องทำการสแกนลำใส้ ถึงได้พบว่า "มีเชื้อรา" ในหลอดอาหาร 3 จุด หมอจึงให้ตรวจเลือด ซึ่งผมไม่ตรวจเพราะมั่นใจว่าไม่เคยมีความเสี่ยงมาเป็นเวลาเกือบสิบปี ผมทนรักษาตามอาการหวังว่าจะดีขึ้น ผมเข้าๆออกๆ นอน รพ ทีละ5 วัน 7 วันบ้างตลอดทั้งเดือน เนื่องจากผมเริ่มหมดเเรง ค่าใช้จ่ายนี่ไม่ต้องพูดถึงเลยครับปาเข้าไป 300-400kละ
จนหมอขอให้ตรวจHivซึ่งเข้าใจได้ว่าหมอน่าจะทราบว่าผมเป็นอะไร เเต่หมอพยายามพูดอ้อมๆ
******เหตุการ์ณด้านบนที่บ้านผมรับรู้ถึงความเจ็บป่วยทั้งหมด ที่บ้านพามา รพ มานอนเฝ้าไข้ จนหลังจากนี้ผมจะเริ่มปิดบังบางอย่างกับครอบครัวเเเล้วครับ*******
- มีนาคม 65 ผมกลับมาหาหมอเองคนเดียวเพราะอาการไม่ไดีขึ้น จนผมยอมตรวจ เพราะผมเเทบไม่มีเเรงเดินเเล้ว น้ำหนักลดลงอีก 8 กก เเน่นอนครับจากน้ำหนักปรกติ 67 สามเดือนลง 15 กก น้ำหนักเหลือ52 จะเอาเเรงใหนเดินกินอะไรก้เริ่มอ้วกแล้ว หลังจากตรวจ ก็ตามนั้นเลยครับ HIV ระยะเอดส์แล้วครับ CD4เหลือ 40 VL 3แสนกว่า
ผมเริ่มการรักษาอย่างจริงจัง ในทันที เเต่เปลี่ยน รพ นะครับ จาก เอกชน มาเป็นตามสิทธิ์ ปกส เพราะค่าใช้จ่ายหมดไปเยอะมากๆจนกระทบกับการใช้ชีวิตเเล้ว
ผมต้องขับรถมา รพ เอง บอกที่บ้านว่าไปทำงานเเต่จริงๆผมมาเริ่มการรักษาที่ รพ ตามสิทธิ์
ทรมานมากครับเพราะไม่มีเเรง รพ ห่างบ้าน 30 กม บางทีต้องออกเช้าขับมาเพื่อจอดนอนเพราะขับทีเดียว 30 โลไม่ไหวเนื่องด้วยตอนนั้นร่างกายมันอ่อนเเรง เเละง่วงแบบ24 ซม จอดนอนตามข้างทางทีละ 10 กม 5กม ผมมาทำเรื่องรักษาเองอยู่สามวัน
จนในที่สุดวันสุดท้ายที่ผมไป รพ ผมเป็นลม เลยได้เเอดมิดทันที
ผมบอกที่บ้านว่าอาการต้องนอน รพ เพราะเปลี่ยนที่รักษา ต้องเริ่มใหม่ ตอนนั้นที่บ้านรับรู้ว่าผมเป็นโรคลำใส้แปรปรวน IBS เเละเขาไม่ให้คนเฝ้าช่วงนั้นโควิดครับ ผมเลยได้นอน รพ คนเดียว
ช่วงเเรกรักษา ผมต้องเริ่มใหม่หมด ทั้งสเเกนลำใส้ใหม่ เอ็กเรย์ทุกส่วนของร่างกาย เเละทำการเจาะใขสันหลัง
สภาพไม่ต้องพูดถึงครับ น้ำหนักเลือ 43-45 เป็นผักแล้ว ค่าใตต่ำมากพร้อมเดินทางออกจากร่างทุกขณะจิต เครื่องช่วยหายใจก็ต้องเข้า เดินเเทบไม่ได้เเล้ว
ผมนอน รพ 3วันเเรก ในห้องรวมนอนไม่ได้เลยครับ ผมนอนฝันร้ายทุกคืน ฝันเห็นเต่คนตาย ฝันเห็นเเต่ความตาย ผมหมดเเรงมากๆ แทบไม่อยากรับสายคนที่บ้าน เวลาพ่อแม่โทรมา ผมต้องทำตัวให้ดูสดชื่นทั้งที่ผมไม่มีเเรง
จนในที่สุด พี่พญาบาลที่ห้องเฉพาะทางโรคHIV มาเยียม ผมขอร้องให้เขาเซ็นรับรองให้เข้าห้องพิเศษ เป็นบุญมากเขายอมเซนให้เพราะห้องพิเศษถ้าไม่มีญาติจะไม่ได้รับสิทธฺ์นอนคนเดียว
ผมนอนอยู่ เกือบสองสัปดาห์ จนเริ่มมีเเรงขึ้นมาบ้างเเละได้ออกจาก รพ
**** ผมคิดว่าความทรมานช่วงนี้คนที่เป็นอยู่หรือผ่านมาเเล้วคงทราบมันดีว่าทรมานเเค่ใหน
ผมใช้เวลา 2 เดือน หลังจากที่ออกจาก รพ กินยาวันละ 18 เม็ด เพื่อรักษาตัวเอง ผมต้องฝืนออกกำลังกาย ฝืนกิน ถึงจะกินไม่ได้มากเเต่ก็พยายามเเบ่งมื้อให้ถี่ขึ้น น้ำหนักผมเริ่มขึ้นมาสิบกว่าโล CD4ขยับขึ้นมาบ้าง จนเข้าเดือนที่6 ผมสามาร๔ใช้ชีวิตได้อย่างปรกติมากไม่มีอาการที่บ่งบอกว่าเราป่วยเลย น้ำหนัก รูปร่างหน้าตา ผิวพรรณ กลับมาสดใสเหมือนไม่เคยป่วย
ปีนี้เป็นปีที่3แล้ว ผมยังไม่เคยป่วยจนต้องเข้า รพ เลย ยาก็เหลือเเค่วันละเม็ด น้ำหนักพุ่งทยาน มาที่ 78 ตอนนี้ กินดื่มเที่ยวปรกติ
ใช้ชีวิตเหมือนคนปรกติทุกอย่าง
ผมอยากให้ใครที่กำลังเผชิญอยู่ตอนนี้มีกำลังใจนะครับ ว่ามันไม่ได้เเย่ขนาดนั้นมันจะผ่านมาได้ ยิ่งถ้าเราเรียนรู้ที่จะรักตัวเองใวเเค่ใหนร่างกายเราจะดีขึ้นใวเท่านั้น
****ผมเสียใจมากที่ผมติดโรคนี้มา ผมโทษตัวเองว่าทำไมต้องทำให้ตัวเองติดโรคนี้มา เเต่ผมก็เรียนรู้ที่ให้โอกาศตัวเองแก้ใขตัวเอง เรียนรู้ที่จะเข้าใจโรคและอยู่กับมันให้ได้ Hiv มันต้องอยุ่ภายใต้การควบคุมของร่างกายผม ผมจะไม่ยอมให้Hivมาสั่งให้ร่างกายผมอ่อนเเอ ผมจำเป็นต้องมีชีวิตอยุ่เพื่อดูเเลครอบครัวเเละคนข้างหลัง***
ขอให้ทุกคนได้กำลังใจจากการอ่านบทความของผมนะครับ ต้องการปึกษาผมก็ยินดีนะครับ