ตลาดหุ้นสหรัฐฯ +300 จุด สดใสกว่าคาด ! ดัชนีหลักพุ่ง ราคาน้ำมันดิ่งรับความหวัง “หยุดยิง” ตะวันออกกลาง Dow Jones +0.70%, S&P 500 +0.78%, Nasdaq +1.06%
/
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เปิดตลาดวันอังคารด้วยการปรับตัวสูงขึ้นอย่างโดดเด่น ขณะที่ราคาน้ำมันดิ่งลงอย่างรุนแรงเป็นวันที่สองติดต่อกัน ซึ่งสะท้อนถึงความโล่งใจของนักลงทุนที่เชื่อว่าข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและอิหร่านที่เปราะบางนั้นจะยังคงอยู่ แม้จะมีการกล่าวหากันและกันเรื่องการละเมิดข้อตกลงเกิดขึ้นก็ตาม ปฏิกิริยาของตลาดครั้งนี้ชี้ให้เห็นถึงการหันกลับมาให้ความสำคัญกับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ หลังจากเผชิญกับความผันผวนจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลาง
/
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง:
* ดัชนี Dow Jones Industrial Average ปรับขึ้น 305 จุด หรือ 0.7%
* ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.7%
* ดัชนี Nasdaq Composite ปรับขึ้น 1%
* การปรับตัวขึ้นของตลาดในวันอังคารนี้ เป็นการสานต่อจากแรงบวกที่แข็งแกร่งเมื่อวันจันทร์ ซึ่งตลาดได้รับแรงหนุนจากการที่กระทรวงกลาโหมกาตาร์ยืนยันว่าได้สกัดกั้นการโจมตีตอบโต้ของอิหร่านต่อฐานทัพสหรัฐฯ ได้สำเร็จ โดยไม่มีผู้บาดเจ็บ
/
ราคาน้ำมันดิ่งลงเป็นวันที่สอง จากความหวัง 'สงบศึก':
* ราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ (U.S. crude oil) ปรับลดลงกว่า 4% ในวันอังคาร ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่ร่วงลงมากกว่า 7% ในวันก่อนหน้า เช่นเดียวกับราคาน้ำมันดิบ Brent ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานสากล
* การลดลงของราคาน้ำมันเกิดขึ้นจากการที่นักลงทุนคาดการณ์ว่าข้อตกลงหยุดยิงที่เปราะบางระหว่างอิสราเอลและอิหร่านจะยังคงอยู่ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของการหยุดชะงักของอุปทานน้ำมันในตะวันออกกลาง
* หุ้นกลุ่มสายการบิน อาทิ United Airlines, Frontier และ Delta ปรับตัวขึ้นมากกว่า 2% โดยได้รับประโยชน์โดยตรงจากราคาน้ำมันที่ลดลง ในขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอย่าง Broadcom และ Nvidia ก็ปรับตัวขึ้น 4% และ 2% ตามลำดับ สะท้อนถึงความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่เพิ่มขึ้น
/
ความเคลื่อนไหวในตะวันออกกลาง: 'หยุดยิง' ท่ามกลางข้อกล่าวหา:
* ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พยายามประคับประคองข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อช่วงเช้าวันอังคาร
* แม้จะมีความหวัง แต่ทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวหาซึ่งกันและกันว่าละเมิดข้อตกลง โดยกองกำลังอิสราเอลรายงานว่าระบบเรดาร์ใกล้กรุงเตหะรานถูกโจมตี (ซึ่ง CNBC ยังไม่ได้ยืนยันรายงานนี้อย่างเป็นอิสระ)
* ประธานาธิบดีทรัมป์ได้โพสต์ผ่าน Truth Social ยืนยันว่า "อิสราเอลจะไม่โจมตีอิหร่าน" และเสริมว่าข้อตกลงหยุดยิงยังคงมีผลบังคับใช้ ก่อนหน้านี้ทรัมป์ได้แสดงความไม่พอใจต่อทั้งสองฝ่ายที่ละเมิดข้อตกลง
/
นโยบายการเงินสหรัฐฯ: Fed ยังคงรอดูข้อมูล:
* นักลงทุนยังคงจับตาความคิดเห็นล่าสุดจาก นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Federal Reserve ที่แถลงต่อคณะกรรมการบริการทางการเงินของสภาผู้แทนราษฎร
* พาวเวลล์ส่งสัญญาณว่าธนาคารกลางยังไม่เร่งรีบที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย และจะรอดูว่ามาตรการภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างไร
* การปรากฏตัวของพาวเวลล์ในสภาคองเกรสเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สำคัญ เนื่องจากเขากำลังเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนักจากทำเนียบขาวให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย ในขณะที่เจ้าหน้าที่ Fed สองรายเพิ่งให้ความเห็นว่าอาจมีการปรับลดนโยบายได้เร็วที่สุดในเดือนกรกฎาคม
/
มุมมองนักวิเคราะห์: กลับสู่ปัจจัยพื้นฐาน ท่ามกลางความเสี่ยง:
* Solita Marcelli, ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการลงทุนของ UBS Global Wealth Management Americas ให้ความเห็นว่า "การตอบสนองของตลาดต่อการยกระดับสถานการณ์และความหวังในการหยุดยิง สอดคล้องกับมุมมองของเราที่ว่าเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์มักมีผลกระทบชั่วคราวต่อตลาดการเงินโลก และนักลงทุนมีแนวโน้มที่จะกลับมาให้ความสำคัญกับปัจจัยพื้นฐานอีกครั้ง" เธอยังเสริมว่า "เรายังคงเชื่อมั่นว่าปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งจะช่วยหนุนราคาหุ้นให้สูงขึ้นในอีก 12 เดือนข้างหน้า"
* แม้ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางจะยังคงสูง แต่มุมมองโดยรวมคือผลกระทบต่อตลาดโลกจะถูกจำกัด เนื่องจากศักยภาพทางทหารของอิหร่านที่ลดลง การโดดเดี่ยวของเตหะราน และอุปทานน้ำมันทั่วโลกที่ยังคงเพียงพอ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ +300 จุด สดใสกว่าคาด ! ดัชนีหลักพุ่ง ราคาน้ำมันดิ่งรับความหวัง “หยุดยิง” ตะวันออกกลาง
/
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เปิดตลาดวันอังคารด้วยการปรับตัวสูงขึ้นอย่างโดดเด่น ขณะที่ราคาน้ำมันดิ่งลงอย่างรุนแรงเป็นวันที่สองติดต่อกัน ซึ่งสะท้อนถึงความโล่งใจของนักลงทุนที่เชื่อว่าข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและอิหร่านที่เปราะบางนั้นจะยังคงอยู่ แม้จะมีการกล่าวหากันและกันเรื่องการละเมิดข้อตกลงเกิดขึ้นก็ตาม ปฏิกิริยาของตลาดครั้งนี้ชี้ให้เห็นถึงการหันกลับมาให้ความสำคัญกับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ หลังจากเผชิญกับความผันผวนจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลาง
/
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง:
* ดัชนี Dow Jones Industrial Average ปรับขึ้น 305 จุด หรือ 0.7%
* ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.7%
* ดัชนี Nasdaq Composite ปรับขึ้น 1%
* การปรับตัวขึ้นของตลาดในวันอังคารนี้ เป็นการสานต่อจากแรงบวกที่แข็งแกร่งเมื่อวันจันทร์ ซึ่งตลาดได้รับแรงหนุนจากการที่กระทรวงกลาโหมกาตาร์ยืนยันว่าได้สกัดกั้นการโจมตีตอบโต้ของอิหร่านต่อฐานทัพสหรัฐฯ ได้สำเร็จ โดยไม่มีผู้บาดเจ็บ
/
ราคาน้ำมันดิ่งลงเป็นวันที่สอง จากความหวัง 'สงบศึก':
* ราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ (U.S. crude oil) ปรับลดลงกว่า 4% ในวันอังคาร ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่ร่วงลงมากกว่า 7% ในวันก่อนหน้า เช่นเดียวกับราคาน้ำมันดิบ Brent ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานสากล
* การลดลงของราคาน้ำมันเกิดขึ้นจากการที่นักลงทุนคาดการณ์ว่าข้อตกลงหยุดยิงที่เปราะบางระหว่างอิสราเอลและอิหร่านจะยังคงอยู่ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของการหยุดชะงักของอุปทานน้ำมันในตะวันออกกลาง
* หุ้นกลุ่มสายการบิน อาทิ United Airlines, Frontier และ Delta ปรับตัวขึ้นมากกว่า 2% โดยได้รับประโยชน์โดยตรงจากราคาน้ำมันที่ลดลง ในขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอย่าง Broadcom และ Nvidia ก็ปรับตัวขึ้น 4% และ 2% ตามลำดับ สะท้อนถึงความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่เพิ่มขึ้น
/
ความเคลื่อนไหวในตะวันออกกลาง: 'หยุดยิง' ท่ามกลางข้อกล่าวหา:
* ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พยายามประคับประคองข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อช่วงเช้าวันอังคาร
* แม้จะมีความหวัง แต่ทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวหาซึ่งกันและกันว่าละเมิดข้อตกลง โดยกองกำลังอิสราเอลรายงานว่าระบบเรดาร์ใกล้กรุงเตหะรานถูกโจมตี (ซึ่ง CNBC ยังไม่ได้ยืนยันรายงานนี้อย่างเป็นอิสระ)
* ประธานาธิบดีทรัมป์ได้โพสต์ผ่าน Truth Social ยืนยันว่า "อิสราเอลจะไม่โจมตีอิหร่าน" และเสริมว่าข้อตกลงหยุดยิงยังคงมีผลบังคับใช้ ก่อนหน้านี้ทรัมป์ได้แสดงความไม่พอใจต่อทั้งสองฝ่ายที่ละเมิดข้อตกลง
/
นโยบายการเงินสหรัฐฯ: Fed ยังคงรอดูข้อมูล:
* นักลงทุนยังคงจับตาความคิดเห็นล่าสุดจาก นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Federal Reserve ที่แถลงต่อคณะกรรมการบริการทางการเงินของสภาผู้แทนราษฎร
* พาวเวลล์ส่งสัญญาณว่าธนาคารกลางยังไม่เร่งรีบที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย และจะรอดูว่ามาตรการภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างไร
* การปรากฏตัวของพาวเวลล์ในสภาคองเกรสเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สำคัญ เนื่องจากเขากำลังเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนักจากทำเนียบขาวให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย ในขณะที่เจ้าหน้าที่ Fed สองรายเพิ่งให้ความเห็นว่าอาจมีการปรับลดนโยบายได้เร็วที่สุดในเดือนกรกฎาคม
/
มุมมองนักวิเคราะห์: กลับสู่ปัจจัยพื้นฐาน ท่ามกลางความเสี่ยง:
* Solita Marcelli, ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการลงทุนของ UBS Global Wealth Management Americas ให้ความเห็นว่า "การตอบสนองของตลาดต่อการยกระดับสถานการณ์และความหวังในการหยุดยิง สอดคล้องกับมุมมองของเราที่ว่าเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์มักมีผลกระทบชั่วคราวต่อตลาดการเงินโลก และนักลงทุนมีแนวโน้มที่จะกลับมาให้ความสำคัญกับปัจจัยพื้นฐานอีกครั้ง" เธอยังเสริมว่า "เรายังคงเชื่อมั่นว่าปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งจะช่วยหนุนราคาหุ้นให้สูงขึ้นในอีก 12 เดือนข้างหน้า"
* แม้ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางจะยังคงสูง แต่มุมมองโดยรวมคือผลกระทบต่อตลาดโลกจะถูกจำกัด เนื่องจากศักยภาพทางทหารของอิหร่านที่ลดลง การโดดเดี่ยวของเตหะราน และอุปทานน้ำมันทั่วโลกที่ยังคงเพียงพอ