รู้จัก "เครื่องบินรบล่องหน B-2" อากาศยานทิ้งระเบิดสหรัฐฯ สุดล้ำ ที่มีเพียง 21 ลำทั่วโลก กับการเผยโฉมครั้งแรกในสงครามคอซอวอ สู่ปฏิบัติการทิ้งระเบิดอิหร่านสายฟ้าแลบ
โลกต้องตกตะลึงอีกครั้ง หลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เปิดเผยว่า สหรัฐฯ ได้เปิดฉากโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ 3 แห่งในอิหร่านแบบสายฟ้าแลบ ภายใต้ภารกิจลับสุดยอด “มิดไนต์แฮมเมอร์” เมื่อวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา
ก่อนที่ต่อมา พล.อ.แดน เคน ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วม ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับปฏิบัติการดังกล่าวว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ใช้เวลารวม 37 ชั่วโมง โดยมีหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญของปฏิบัติการครั้งนี้ นั่นคือ เครื่องบินรบล่องหน B-2
เครื่องบินรบล่องหน B-2 หรือ B-2 “Spirit” Stealth Bomber เป็นอากาศยานทิ้งระเบิดหนักของสหรัฐฯ ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง สามารถติดตั้งอาวุธธรรมดา ไปจนถึงอาวุธนิวเคลียร์ได้ พัฒนาโดยบริษัท Northrop Grumman ผลิตขึ้นระหว่างปี 1989 - 2000 ขึ้นบินครั้งแรกในวันที่ 17 กรกฎาคม ปี 1989 หรือเมื่อ 35 ปีก่อน โดยผลิตขึ้นมาทั้งหมด 21 ลำ
เครื่องบินรบล่องหน B-2 มีความยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพในการโจมตีแบบเจาะทะลวงมีระยะการบินที่ไกลและมีพิสัยของเซ็นเซอร์ที่ไกล มีระยะการบินโดยไม่เติมน้ำมันอยู่ที่ประมาณ 6,000 ไมล์ทะเล หรือ 9,600 กิโลเมตร
สำหรับข้อมูลจำเพาะของ เครื่องบินรบล่องหน B-2 ประกอบด้วยลูกเรือ 2 คน คือ นักบิน (ที่นั่งซ้าย) และผู้บังคับบัญชา (ที่นั่งขวา) ความยาวเครื่อง 21.03 เมตร ปีกกว้าง 52.4 เมตร ความสูง 5.18 เมตร พื้นที่ปีก 478 ตารางเมตร น้ำหนักเครื่องเปล่า 71.7 ตัน น้ำหนักขึ้นบินสูงสุด 170.6 ตัน ความจุเชื้อเพลิง 75,750 กิโลกรัม ใช้เครื่องยนต์ General Electric F118-GE-100 จำนวน 4 เครื่อง แรงขับ 77 กิโลนิวตันต่อเครื่อง
เครื่องบินรบล่องหน B-2 สามารถทำความเร็วได้สูงสุด 1,010 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความเร็วขณะเดินทาง 900 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ความสูง 12,000 เมตร (40,000 ฟุต) มัค 0.95 ระดับน้ำทะเล พิสัยปฏิบัติการ 11,000 กม. เพดานบินสูงสุด 15,200 ม. (50,000 ฟุต)
อาวุธที่สามารถติดตั้งบน เครื่องบินรบล่องหน B-2 สามารถติดตั้งได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ระเบิด Mk-82 GBU-38 230 กก. ติดตั้งบนชุดวางระเบิด BRA หรือระเบิดคลาส 16 ลูก ขนาด 2,000 ปอนด์ (910 กก.) Mk-84 GBU-31 ติดตั้งบนชุดปล่อย RLA หรือจะเป็นระเบิดนิวเคลียร์ B61 หรือ B83 จำนวน 16 ลูกบน RLA สำหรับภารกิจเชิงยุทธศาสตร์
นอกจากนี้ เครื่องบินรบล่องหน B-2 ยังถือเป็นเครื่องบินรบที่มีราคาแพงที่สุดในโลกด้วย ที่ราคา 2.1 พันล้านดอลลาร์ต่อลำ หรือกว่า 69.384 หมื่นล้านบาทต่อลำ ส่วนการขึ้นบิน 1 ครั้ง ใช้งบประมาณไปกว่า 135,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 4.46 ล้านบาท
ปฏิบัติการสำคัญ เครื่องบินรบล่องหน B-2
แม้ว่าแต่เดิม เครื่องบินรบล่องหน B-2 จะออกแบบเพื่อโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ แต่ต่อมาได้ปรับบทบาทให้มีความยืดหยุ่นทั้งด้านอาวุธนิวเคลียร์และอาวุธทั่วไป โดยเปิดตัวในสนามรบครั้งแรกในสงครามคอซอวอ ปี 1999 สร้างความเสียหายสำคัญต่อเป้าหมายฝ่ายยูโกสลาเวีย และเป็นครั้งแรกที่มีการใช้ระเบิดนำวิถีด้วย GPS (JDAM) แทนการทิ้งระเบิดปูพรม ซึ่งเคยก่อให้เกิดความสูญเสียพลเรือนจำนวนมากในสงครามก่อนหน้า
ในช่วงทศวรรษ 2000 B-2 เข้าร่วมปฏิบัติการในอัฟกานิสถานตั้งแต่ปี 2001 และต่อมาในอิรักตั้งแต่ปี 2003 โดยสามารถบินไกลมากกว่า 40 ชั่วโมงต่อภารกิจ พร้อมทั้งปฏิบัติการจากฐานทัพต่าง ๆ เช่น ดีเอโก การ์เซีย กวม และอังกฤษ
โดยตลอดภารกิจในอิรัก B-2 ได้ทิ้งระเบิดไปกว่า 1.5 ล้านปอนด์ รวมถึง JDAM กว่า 583 ลูก อย่างไรก็ตาม รายงานปี 2003 ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ชี้ว่าปัญหาทางเทคนิคยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะในระบบเคลือบผิวเพื่อลดการตรวจจับและระบบป้องกันภัยทางอากาศ
ทำให้สหรัฐฯ มีแผนที่จะปลดประจำการ B-2 ภายในปี 2032 และเตรียมแทนที่ด้วย Northrop Grumman B-21 Raider
ที่มา: Northrop Grumman / U.S Air Force
รู้จัก "B-2 Spirit" เครื่องบินรบสหรัฐฯ ในปฏิบัติการทิ้งระเบิดอิหร่านสายฟ้าแลบ