สวัสดีค่ะทุกคน
วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวที่เคยเจอเมื่อหลายปีก่อน
คือเรื่อง “เข็มตำเปื้อนเลือด” ในช่วงฝึกงานพยาบาล แล้วต้องกินยา PEP รอผลตรวจนาน 8 ปีในใจ...
อยากพูดคุย หรือใครเคยเจอประสบการณ์แบบนี้ แชร์กันได้นะคะ
เรื่องเล่า: “วันพฤหัสฯ ที่โลกหยุดหมุน”
#เรียบเรียงโดยChatGPT
ย้อนไปเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2554 วันพฤหัสบดี อากาศสดใสอย่างน่าประหลาด เป็นเช้าที่ทุกอย่างดูเรียบร้อยดี ดิฉันกำลังเรียนพยาบาล อยู่ในช่วงฝึกงานที่โรงพยาบาล หญ และวันนั้นเป็นวันที่ได้ดูแลเคสของตัวเองในวอร์ดอายุรกรรม
เคสของคุณป้าที่ดูแลอยู่ ดิฉันรู้จักทุกอย่างดี ทั้งประวัติการรักษา การตอบสนองต่อยา และความเป็นอยู่ ดิฉันคิดว่า “เรากำลังทำหน้าที่ของเราได้ดี”
แต่บ่ายสองโมงของวันนั้น อาจารย์เรียกนักศึกษาทุกคนในกลุ่มมารวมตัว และบอกให้ดิฉันไปสาธิตการฉีดยาบริเวณหน้าท้องให้กับผู้ป่วยอีกท่านหนึ่ง — ผู้ป่วยที่ดิฉันไม่รู้ประวัติ ไม่เคยดูแล และไม่รู้ว่าอะไรคือความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่ในเข็มนั้น
ยานั้นเป็นยาฉีดใต้ผิวหนัง เข็มเล็ก ฉีดตรงที่หน้าท้อง ปักตรงลงไป 90 องศา
ดิฉันทำตามขั้นตอนทั้งหมดตามที่เรียนมา —แต่จังหวะปิดฝาเข็ม ใช้ One Hand เทคนิคแล้ว แต่ไม่รู้อะไรดลใจให้ฉันใช้นิ้วกดฝา แทนไปกดกับวัตถุ และเกิดอุบัติเหตุ…เข็มทะลุฝา ออกมาตำเข้าที่นิ้วนาง
ตอนนั้นทุกอย่างเงียบไปหมด ไม่รู้สึกเจ็บ ตกใจมาก
แค่เหมือนเวลาในหัวมันหยุดลง ความคิดวนเวียนแค่คำว่า “อะไรกันนี่”
ระหว่างที่ฉันรีบไปล้างมือ พี่ผู้ช่วยพยาบาลมาพร้อมประวัติคนไข้ และพาไปหน่วย IC ทันที
มีคนพูดถึงคำว่า “…positive…”ๆ ดิฉันได้แต่หวังว่าขอให้ไม่ใช่ HIV Positive เลย ให้เป็นอย่างอื่น Positive เถอะ
และโชคไม่เข้าข้าง ในชาร์จประวัติผู้ป่วย HIV Positive ด้วย CD4 < 200 ฉันอยู่ในภาวะช็อคมาก
โลกตอนนั้นมันไม่ได้พังแบบเสียงดังโครม
แต่มันเงียบ เงียบจนน่ากลัว
เหมือนบ้านที่ไม่มีหลังคาแต่ยังต้องอยู่ในนั้น
หมอบอกให้ตรวจเลือดทันที
เข็มเจาะครั้งแรก… เลือดไม่ออก
เส้นเลือดมันตีบหมด ร่างกายไม่ยอมให้เลือดไหล ด้วยร่างกายคงตึงเครียดสุด
ไม่ใช่เพราะโรค — แต่เพราะความกลัวที่ล้นออกมาจนควบคุมระบบตัวเองไม่ได้ พี่พยาบาลบอกให้ผ่อนคลาย ไม่งั้นพี่เอาเลือดไม่ได้นะ จนได้ออกมาพอตรวจได้
ดิฉันขอยาต้านแบบแรงที่สุดกินทันทีในวันนั้นเอง
และเริ่มต้นช่วงเวลาของความเงียบ
ความเงียบที่อยู่ภายใต้ร่างกายที่คลื่นไส้ อ่อนแรง จากผลข้างเคียงของยา
และเต็มไปด้วยคำถาม คนไข้เคยรับยาอะไรบ้าง คนไข้ทานยาสม่ำเสมอไหม ไวรัสดื้อยาต้านที่ฉันกำลังทานไหม
หมอบอกว่า จะรู้ผลได้ ต้องรอ 6 เดือน
6 เดือนนั้น…
มันไม่ใช่แค่รอผลเลือด
แต่มันคือการต้องอยู่กับ
• ความกลัวที่ไม่มีคำตอบ
• ความเครียดที่เกาะกินทุกนาที
• ความรู้สึกผิดแบบที่ไม่ใช่ความผิดของตัวเอง
• ความโดดเดี่ยวในที่ ๆ แม้จะมีคนยืนข้าง ๆ มากที่สุด
อยู่กับคำถามว่า
“ฉันจะเป็นไหม?”
“ถ้าฉันติด… จะอยู่ต่อไปยังไง?”
“พ่อแม่จะเสียใจไหม?”
“ฉันยังมีโอกาสได้ใช้ชีวิตแบบคนปกติอยู่หรือเปล่า?”
ถ้าใครถามว่า 6 เดือนนั้นเป็นอย่างไร
ขอตอบว่า…
“มันคือ 180 วันที่ฉันขอดุอาแต่กับพระองค์อัลลอฮฺ มากกว่าศรัทธาในคำพูดของมนุษย์”
“มันคือครึ่งปีที่ฉันต้องเข้มแข็ง ในขณะที่หัวใจอยากจะยอมแพ้วันละสิบครั้ง”
“มันคือบทเรียนที่ไม่มีในตำรา แต่เปลี่ยนทั้งชีวิตฉันไปตลอดกาล”
ฉันขอหมอเจาะเลือดทุกเดือน บางเดือนขอเจาะมากกว่า 1 ครั้ง
วันนั้นฉันกลัว แต่ก็ยังกล้า…
ผลเจาะเลือดจนถึงเดือนที่ 5 หลังได้รับอุบัติเหตุเข็มตำ ผลเลือดยังคงเป็นลบ
⸻
เดือนที่หก – ความกลัวเริ่มชนะ
พอถึงเดือนที่หก…
ช่วงเวลาที่หมอบอกว่าเป็น “จุดตัดสินชะตา”
ฉันกลับไม่กล้าไป
ฉันกลัวมากพอที่จะไม่อยากรู้ความจริง
ฉันใช้ชีวิตอยู่กับคำถามที่ไม่มีคำตอบ
“ฉันเป็นไหม?”
“มันยังอยู่ในตัวฉันไหม?”
“ถ้าเป็นจริง… ฉันยังจะมีโอกาสทำความฝันได้ไหม?”
ฉันใช้ความไม่รู้เป็นเกราะป้องกัน
ทั้ง ๆ ที่มันกัดกินจิตใจฉันทุกวัน
⸻
ปีที่ 1 ถึง ปีที่ 7 – ความกลัวกลายเป็นพื้นหลังของชีวิต
หลายคนเห็นว่าฉันร่าเริง
แต่ไม่มีใครรู้ว่า ฉันไม่เคยกล้าเช็คสุขภาพจริงจัง
ฉันไม่เคยไปบริจาคเลือด
ฉันไม่เคยแน่ใจว่าฉันจะอยู่ถึงปีหน้าไหม
ความไม่แน่ใจนี้มันแทรกซึมอยู่ในทุกวัน
ฉันเรียน ฉันยิ้ม ฉันเติบโต
แต่ก็ยังเป็นคนที่มีเงาตามหลังตัวเองเสมอ
⸻
ปีที่ 8 – ปีแห่งความกล้า
จนกระทั่งวันหนึ่ง
ฉันไม่รู้ว่าเพราะอะไร
บางทีมันคือคำดุอาในละหมาดที่ฉันเฝ้าขอความสงบ
บางทีมันคือการเหนื่อยกับการไม่รู้
หรือบางทีมันคือการที่หัวใจฉัน “แข็งแรงพอ” แล้ว
ฉันเดินเข้าไปในห้องตรวจอีกครั้ง
ฉันเจาะเลือดด้วยมือที่ยังสั่น
แต่หัวใจที่ “กล้ากว่าทุกปีที่ผ่านมา”
⸻
ผลเลือดออก
“ไม่พบเชื้อ”
แค่สามคำ
แต่เท่ากับการถอนลมหายใจที่ฉันกลั้นไว้มา แปดปี
วันนั้น ฉันไม่ได้ร้องไห้เพราะกลัว
แต่ร้องเพราะ…
ฉันได้เจอ “ฉันคนเดิม” ที่หายไปนาน [img]https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/t4c/1/16/1f642.png[/img]
#เรียบเรียงโดยChatGPT
(ไว้มาต่อพาร์ทย้ายคณะ)
“แชร์ประสบการณ์ ‘เข็มตำเปื้อนเลือด’ กับความกลัว HIV"
วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวที่เคยเจอเมื่อหลายปีก่อน
คือเรื่อง “เข็มตำเปื้อนเลือด” ในช่วงฝึกงานพยาบาล แล้วต้องกินยา PEP รอผลตรวจนาน 8 ปีในใจ...
อยากพูดคุย หรือใครเคยเจอประสบการณ์แบบนี้ แชร์กันได้นะคะ