เราอายุ 30 ปี คะ เรายังไม่เคยมีลูก แต่เรารักษาอาการไบโพล่ามาหลายปีแล้ว ใกล้จะหายแล้ว แต่กินยาอยู่คะ ช่วงนี้เรามีอาการปวดเอวและก้นกบพร้อมอ่อนเเรงคะกำลังเริ่มเป็นเวลามีอาการจะมีประมาณ 3ชั่ว โมง 2 ชั่วโมงบ้างคะ ลุกก็ลำบาก เวลานั่งก็เหมือนช่วงล่างมันอ่อนเเรงทรมานมากคะ (เเต่เราใช้ชีวิตได้ตามปกติคะ ขับถ่ายปกติ ) กินยาแก้ปวดเขียวเหลืองไปก็หายสักพักแล้วก็กลับมาเป็นใหม่ เราใช้ชีวิตประจำวันลำบากมากคะ ยืนซักผ้าด้วยมือก็มีอาการปวดเอวและก้นกบมาก ยืนนานก็ปวดมากและอ่อนเเรง ตอนนี้มีปวดแผ่นหลัง ก็กังวลอยู่ว่ามันจะอ่อนเเรงอีกด้วยไหม และ ตรงเข่าสองข้างอีกบางครั้งก็รู้สึกเจ็บคะและเวลาเดินก็ได้ยินเสียงดังก๊อปแก๊ปที่ข้อเท้าและเข่าบางทีก็ตรงหน้าเเข้งบ้างคะ บางครั้งก็รู้สึกหนักเเขนซ้ายหนักขาสองข้าง เวลาที่มีอาการปวดก้นกบและเอวคะ บางเวลาก็รู้สึกว่าเเผ่นดินไหวคะแต่ไม่ไหวมากคะ
การออกกำลังกายของเราจะเป็นเเบบนี้คะ
ตอนนี้เรามีออกกำลังกายปั่นจักรยานเช้าเย็น ว่ายน้ำบ้างบางวันคะ มีทำกายภาพตัวเองทุกเช้า-เย็น วันละ 30 นาทีคะ
การรักษาตอนนี้ที่โรงพยาบาล
คุณหมอส่งกายภาพ และ เราเองไปฝังเข็มเองด้วยคะ รู้สึกว่าดีขี้นคะ
การรักษาเเบบธรรมชาติบำบัด
ไปเเช่น้ำพุร้อนที่โป่งกระทิง จ.ราชบุรีคะ ไปได้ประมาณ 3 ครั้งแล้วคะ รู้สึกว่าดีขึ้นคะ
หมายเหตุ (อาการเป็นตลอดเวลา)
ก่อนหน้านี้ 1ปีครึ่ง เป็นขาอ่อนเเรงและเริ่มลามมาเเขนซ้ายอ่อนเเรง (แต่ใช้งานได้อยู่คะ) ภายใน 1 ปี ไปหาคุณหมอ หลาย ๆ ครั้ง คุณหมอก็ให้ยามากินและกลับบ้าน เราวนแบบนี้อยู่เป็น 1 ปี (เราใช้สิทธิของประกันสังคม)
หลัง 1 ปี อาการไม่ดีขึ้น เริ่มขึ้นบันไดไม่ได้ พอขึ้นขาจะไม่มีเเรง เดินต่อไม่ได้ และมึนหัวเหมือนจะวูบ แต่หลังจากนั้นก็ไปหาคุณหมอ โชคดีหน่อย คุณหมอทั่วไปส่งตัวไปหาคุณหมอกระดูก เล่าอาการให้คุณหมอฟัง เเรก ๆ คุณหมอกระดูกก็ส่งตัวไปกายภาพ แต่หลัง ๆ บอกคุณหมออาการเริ่มรามมาที่เเขนซ้าย และข้อมืออ่อนเเรงบ้างสองข้าง และบอกการเดินด้วย ช่วงนั้นเดินได้เเปปเดียวก็หยุดเดินเอง มันจะรู้สึกหนัก และปวด และก็หยุดเดินคะ คุณหมอก็เลยเอกเรย์หลังให้ แต่ตรวจแล้วไม่มีอะไร และ เราก็ทนอาการนี้มาเรื่อย ๆ อาการเริ่ม หนักขึ้น ไปหาคุณหมอกระดูกก่อนนัดอีก คุณหมอบอกกังวลกับเรา เลยส่งตัวไปMRI คะ ผล ออกมาตั้งแต่ตรงคอลงมาถึงก้นกบก็ไม่มีหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทคะ คุณหมอบอกสบายใจได้ไม่มีอะไร คุณหมอใจดีมากคะ แล้วคุณหมอบอกว่าคุณหมอไม่ได้นัดอีกแล้วนะเพราะของคุณหมอตรวจแล้วปกติดี หลังจากนั้น อาการก็ยังไม่ดีขึ้น เราก็เริ่มไปหาคุณหมอทั่วไปอีกครั้ง โชคดีหน่อยคะ คุณหมอส่งทีชีสเเกนสมอง แล้วส่งตัวไปที่คลินิกอายุรกรรมทั่วไป และก็ตรวจเลือด ผลออก ก็ปกติดีไม่มีอะไร คุณหมอก็เช็คหนังตาว่ามีตกไหม แต่ก็ไม่มีหนังตาตกคะ คุณหมอเลยบอกถ้ามีอาการก็มาหาก่อนนัดได้
ช่วงในระยะ1ปีครึ้ง ที่อยากให้ตัวเองหาย
1.ตรวจสุขภาพประจำปีก็ตรวจมาแล้ว ก็เล่าอาการให้คุณหมอฟัง คุณหมอบอก หนูป่วยทางใจ แล้วคุณหมอก็บอกว่ารู้จักโรคเวรโรคกรรไหม เราก็บอกรู้คะ เราก็เลยถามคุณหมอว่า ควรทำยังไงถึงจะหายและไม่ทรมาน คุณหมอก็เเนะนำว่า เดินออกกำลังกายตอนเช้ารับเเสงเเดดอ่อน ๆ และก็อยู่กับความเป็นจริง เราก็ทำตามคะ อาการยังไม่ดีขึ้นอีก
2.ถามคุณหมอหลายท่านมากตลอดระยะเวลา1ปี คุณหมอบางท่านก็บอกไม่ได้เป็นอะไร คุณหมอบางท่านก็บอกเป็นเพราะยาไบโพล่าที่กิน คุณหมอบางท่านก็บอกให้น้ำหนักไปที่กล้ามเนื้อ
3.แล้วต่อมาเราก็มาเล่าให้คุณหมอจิตใจฟัง คุณหมอบอกถ้าเป็นที่ยาจริงๆ ก็เป็นตั้งเเต่เเรก นี่รักษามาเป็นปี ๆ แล้ว คุณหมอจิตใจก็เลยเเนะนำให้ไปสเเกนร่างกายดู เราก็ไปสเเกนตามคุณหมอบอก แต่คุณหมอก็ลดยาระบบประสาทให้ คุณหมอก็บอกว่าระวังอารมณ์ด้วยจะหงุดหงิดง่าย เราบอกเราจะพยายามคุมอารมณ์ให้ได้ ทุกวันนี้เรายังทำได้อยู่คะ
4.เราไปกายภาพก็เล่าให้นักกายภาพฟังอีก พี่นักกายภาพก็บอกอาจเป็นเพราะน้ำหนักขึ้นหรือเปล่า อาจทำให้กล้ามเนื้อไปกดทับเส้นประสาทก็เป็นได้ ลองลดน้ำหนักดู ตอนนี้ก็พยายามลดน้ำหนักอยู่คะ
สรุประยะเวลา 1 ปีครึ่ง เราไม่รู้ว่าเราเป็นอะไร เพราะตรวจแล้วไม่มีอะไร
แต่ มันทำไมมีอาร
สิ่งที่เราสงสัยในตัวเองระยะเวลา1ปี (ไม่ใช่ทั้งหมด)
1.เราเป็นโรคทางหลอดเลือดไหม ถามคุณหมอ คุณหมอบอก ไม่ใช่เลยตัดทิ้งไปได้
2.หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท อันนี้ก็ไม่ใช่คุณหมอกระดูกตรวจให้แล้ว
3.โรคทางสมอง เบื้องต้นก็ไม่มี
ปัจจุบันสิ่งที่เราสงสัยตัวเอง (เราไม่มีความรู้ด้านร่างกายอะไรนะคะ เราศึกษาเอาจากในเน็ต และ อาการของตัวเองคะ )
1.ภูมิคุ้มกันเราไม่ดีหรือเปล่าคะ ตอนนี้กำลังสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเอง ด้วยการนอนให้ครบ 7 ชั่วโมง กินอาหารพวกผักบรอกโคลี น้ำส้ม นมเปรี้ยว กินน้ำวันละ 1.5ลิตร เพราะเวลาฝนตกเราโดนฝนนิดเราก็รู้สึกตัวร้อนและไอ และ ตอนไปงานวันเกิดพี่ ทุกคนก็กินหมูกระทะหมด เป็นเราคนเดียวที่อาหารเป็นพิษ ต้องป่วยอยู่คนเดียว
2.เราเป็นโรคกล้ามเนื้อชนิดไหนร้ายเเรงไหม อันนี้ไม่เเน่ใจเลยคะ แต่เคยถามคุณหมอฝังเข็ม คุณหมอบอกถ้าเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนเเรงจะไม่สามารถหยิบจับอะไรได้
ตอนนี้เราก็ยังคงทำทุกวิธีทางที่จะทำให้ตัวเองหายอยู่ ไม่หายขาดก็ไม่เป็นไร แต่ อย่าเป็นทุกวันได้ไหม เป็นสัก 1 เดือน มาทีเเบบนี้
ช่วยเเนะนำเราหน่อยคะ ว่าเราควรทำยังไงต่อไปดี
อาการอ่อนเเรงตรงเอวและตรงก้นกบพร้อมปวด
การออกกำลังกายของเราจะเป็นเเบบนี้คะ
ตอนนี้เรามีออกกำลังกายปั่นจักรยานเช้าเย็น ว่ายน้ำบ้างบางวันคะ มีทำกายภาพตัวเองทุกเช้า-เย็น วันละ 30 นาทีคะ
การรักษาตอนนี้ที่โรงพยาบาล
คุณหมอส่งกายภาพ และ เราเองไปฝังเข็มเองด้วยคะ รู้สึกว่าดีขี้นคะ
การรักษาเเบบธรรมชาติบำบัด
ไปเเช่น้ำพุร้อนที่โป่งกระทิง จ.ราชบุรีคะ ไปได้ประมาณ 3 ครั้งแล้วคะ รู้สึกว่าดีขึ้นคะ
หมายเหตุ (อาการเป็นตลอดเวลา)
ก่อนหน้านี้ 1ปีครึ่ง เป็นขาอ่อนเเรงและเริ่มลามมาเเขนซ้ายอ่อนเเรง (แต่ใช้งานได้อยู่คะ) ภายใน 1 ปี ไปหาคุณหมอ หลาย ๆ ครั้ง คุณหมอก็ให้ยามากินและกลับบ้าน เราวนแบบนี้อยู่เป็น 1 ปี (เราใช้สิทธิของประกันสังคม)
หลัง 1 ปี อาการไม่ดีขึ้น เริ่มขึ้นบันไดไม่ได้ พอขึ้นขาจะไม่มีเเรง เดินต่อไม่ได้ และมึนหัวเหมือนจะวูบ แต่หลังจากนั้นก็ไปหาคุณหมอ โชคดีหน่อย คุณหมอทั่วไปส่งตัวไปหาคุณหมอกระดูก เล่าอาการให้คุณหมอฟัง เเรก ๆ คุณหมอกระดูกก็ส่งตัวไปกายภาพ แต่หลัง ๆ บอกคุณหมออาการเริ่มรามมาที่เเขนซ้าย และข้อมืออ่อนเเรงบ้างสองข้าง และบอกการเดินด้วย ช่วงนั้นเดินได้เเปปเดียวก็หยุดเดินเอง มันจะรู้สึกหนัก และปวด และก็หยุดเดินคะ คุณหมอก็เลยเอกเรย์หลังให้ แต่ตรวจแล้วไม่มีอะไร และ เราก็ทนอาการนี้มาเรื่อย ๆ อาการเริ่ม หนักขึ้น ไปหาคุณหมอกระดูกก่อนนัดอีก คุณหมอบอกกังวลกับเรา เลยส่งตัวไปMRI คะ ผล ออกมาตั้งแต่ตรงคอลงมาถึงก้นกบก็ไม่มีหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทคะ คุณหมอบอกสบายใจได้ไม่มีอะไร คุณหมอใจดีมากคะ แล้วคุณหมอบอกว่าคุณหมอไม่ได้นัดอีกแล้วนะเพราะของคุณหมอตรวจแล้วปกติดี หลังจากนั้น อาการก็ยังไม่ดีขึ้น เราก็เริ่มไปหาคุณหมอทั่วไปอีกครั้ง โชคดีหน่อยคะ คุณหมอส่งทีชีสเเกนสมอง แล้วส่งตัวไปที่คลินิกอายุรกรรมทั่วไป และก็ตรวจเลือด ผลออก ก็ปกติดีไม่มีอะไร คุณหมอก็เช็คหนังตาว่ามีตกไหม แต่ก็ไม่มีหนังตาตกคะ คุณหมอเลยบอกถ้ามีอาการก็มาหาก่อนนัดได้
ช่วงในระยะ1ปีครึ้ง ที่อยากให้ตัวเองหาย
1.ตรวจสุขภาพประจำปีก็ตรวจมาแล้ว ก็เล่าอาการให้คุณหมอฟัง คุณหมอบอก หนูป่วยทางใจ แล้วคุณหมอก็บอกว่ารู้จักโรคเวรโรคกรรไหม เราก็บอกรู้คะ เราก็เลยถามคุณหมอว่า ควรทำยังไงถึงจะหายและไม่ทรมาน คุณหมอก็เเนะนำว่า เดินออกกำลังกายตอนเช้ารับเเสงเเดดอ่อน ๆ และก็อยู่กับความเป็นจริง เราก็ทำตามคะ อาการยังไม่ดีขึ้นอีก
2.ถามคุณหมอหลายท่านมากตลอดระยะเวลา1ปี คุณหมอบางท่านก็บอกไม่ได้เป็นอะไร คุณหมอบางท่านก็บอกเป็นเพราะยาไบโพล่าที่กิน คุณหมอบางท่านก็บอกให้น้ำหนักไปที่กล้ามเนื้อ
3.แล้วต่อมาเราก็มาเล่าให้คุณหมอจิตใจฟัง คุณหมอบอกถ้าเป็นที่ยาจริงๆ ก็เป็นตั้งเเต่เเรก นี่รักษามาเป็นปี ๆ แล้ว คุณหมอจิตใจก็เลยเเนะนำให้ไปสเเกนร่างกายดู เราก็ไปสเเกนตามคุณหมอบอก แต่คุณหมอก็ลดยาระบบประสาทให้ คุณหมอก็บอกว่าระวังอารมณ์ด้วยจะหงุดหงิดง่าย เราบอกเราจะพยายามคุมอารมณ์ให้ได้ ทุกวันนี้เรายังทำได้อยู่คะ
4.เราไปกายภาพก็เล่าให้นักกายภาพฟังอีก พี่นักกายภาพก็บอกอาจเป็นเพราะน้ำหนักขึ้นหรือเปล่า อาจทำให้กล้ามเนื้อไปกดทับเส้นประสาทก็เป็นได้ ลองลดน้ำหนักดู ตอนนี้ก็พยายามลดน้ำหนักอยู่คะ
สรุประยะเวลา 1 ปีครึ่ง เราไม่รู้ว่าเราเป็นอะไร เพราะตรวจแล้วไม่มีอะไร
แต่ มันทำไมมีอาร
สิ่งที่เราสงสัยในตัวเองระยะเวลา1ปี (ไม่ใช่ทั้งหมด)
1.เราเป็นโรคทางหลอดเลือดไหม ถามคุณหมอ คุณหมอบอก ไม่ใช่เลยตัดทิ้งไปได้
2.หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท อันนี้ก็ไม่ใช่คุณหมอกระดูกตรวจให้แล้ว
3.โรคทางสมอง เบื้องต้นก็ไม่มี
ปัจจุบันสิ่งที่เราสงสัยตัวเอง (เราไม่มีความรู้ด้านร่างกายอะไรนะคะ เราศึกษาเอาจากในเน็ต และ อาการของตัวเองคะ )
1.ภูมิคุ้มกันเราไม่ดีหรือเปล่าคะ ตอนนี้กำลังสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเอง ด้วยการนอนให้ครบ 7 ชั่วโมง กินอาหารพวกผักบรอกโคลี น้ำส้ม นมเปรี้ยว กินน้ำวันละ 1.5ลิตร เพราะเวลาฝนตกเราโดนฝนนิดเราก็รู้สึกตัวร้อนและไอ และ ตอนไปงานวันเกิดพี่ ทุกคนก็กินหมูกระทะหมด เป็นเราคนเดียวที่อาหารเป็นพิษ ต้องป่วยอยู่คนเดียว
2.เราเป็นโรคกล้ามเนื้อชนิดไหนร้ายเเรงไหม อันนี้ไม่เเน่ใจเลยคะ แต่เคยถามคุณหมอฝังเข็ม คุณหมอบอกถ้าเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนเเรงจะไม่สามารถหยิบจับอะไรได้
ตอนนี้เราก็ยังคงทำทุกวิธีทางที่จะทำให้ตัวเองหายอยู่ ไม่หายขาดก็ไม่เป็นไร แต่ อย่าเป็นทุกวันได้ไหม เป็นสัก 1 เดือน มาทีเเบบนี้
ช่วยเเนะนำเราหน่อยคะ ว่าเราควรทำยังไงต่อไปดี