รวมบทความทุกตอน.................
บทความตอนที่แล้วคลิกที่นี้.....................
ตอนที่ 3 หาดใหญ่สงขลากับหมุดการท่องเที่ยวระดับโลก - เมืองหลวงของภาคใต้ 2
ในอดีต หาดใหญ่สงขลา มีความเจริญรุ่งเรื่อง จากการเป็นชุมทางรถไฟที่สำคัญของภาคใต้ ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 และมีการพัฒนาอย่างสุดขีด จากกระแสการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งมาพร้อมกับ การกีดกันทางการค้าระหว่างกัน ...โดยการตั้งกำแพงภาษี ซึ่งนั่นจึงทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า "สินค้าหนีภาษี" ซึ่งมีราคาถูกกว่าสินค้าปรกติอย่างมาก
และด้วย "ความจริง" ที่ว่า สินค้าหนีภาษี หรือ ไม่ผ่านการเรียกเก็บภาษี จึงเป็นสินค้าที่มีราคาถูกอย่างมาก ทั้งสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า อาหาร กระเทียม น้ำมันพืช ฯลฯ เรียกได้ว่า หาดใหญ่ มีสินค้าหลากหลายอย่าง ซึ่งก็เป็น "ความจริง" ที่ไม่มีใครปฏิเสธได้ ...และด้วยเหตุนี้ จึงเกิด ตลาดกิมหยง ตลาดสันติสุข ตลาดแผงทอง ที่เรียกได้ว่าสามารถสร้างเศรษฐกิจให้หาดใหญ่ กลายเป็น พื้นที่ทางเศรฐกิจอันดับ 2 ของประเทศ รองจากกรุงเทพเลยทีเดียว ... จนถึงขนาดเราสามารถเรียกหาดใหญ่ในยุคนั้นได้ว่า "เมืองหลวงของภาคใต้" ได้โดยที่ไม่มีใครกล้าโต้แย้ง
แต่เมื่อเวลาผ่านไป กระแสแห่งกาลเวลา ก็ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ให้หาดใหญ่สงขลา ถึง 2 ระรอก นั้นคือ ระรอกแรก การถือกำเนิดขึ้นของเขตการค้าเสรีระหว่างประเทศ อย่างเช่น AFTA ซึ่งหมายความว่า แต่ละประเทศจะไม่มีกำแพงภาษีระหว่างกัน และระรอกที่ 2 ก็คือ การเกิดขึ้นของระบบการค้าออนไลน์ ที่เรียกได้ว่าหนักกว่า ระรอกแรกอย่างมาก และดูเหมือนว่า หาดใหญ่สงขลาจะปรับตัวไม่ทันกับสิ่งนี้ ...หาดใหญ่สงขลา สูญเสียความเป็นศูนย์กลางของภาคใต้ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว เนื่องจาก "ความเชื่อ" เรื่องเมืองสินค้าราคาถูกเพราะหนีภาษี ถูกทำลายโดยการเปลี่ยนแปลงของกระแสโลก ทำให้ตลาดกิมหยงซบเซา ส่วนตลาดสันติสุขถึงขั้นปิดตัวเอง ซึ่งส่งผลต่อรายได้ของผู้คน และที่สำคัญคือเราสูญเสียความภาคภูมิใจไปจนหมดสิ้น
ในช่วงเวลาหนึ่ง ที่ทางการประเทศมาเลเซีย ปราบปรามแรงงานผิดกฎหมาย โดยเฉพาะ คนไทย ที่ไปเปิดร้านอาหารไทย ที่เรียกว่า "พวกต้มยำกุ้ง" โดยอาศัยเหตุผลที่ว่า ชาวต่างชาติพวกนี้มาแย่งงานของคนมาเลเซีย ซึ่งเพื่อนผู้เขียนคนหนึ่ง ก็เป็นหนึ่งในนั้น จากนั้นเพื่อนคนนี้ก็มาเปิดร้านที่เขต 8 จนสุดท้าย ร้านก็ขาดทุน และปิดกิจการไป ... มันทำให้ผู้เขียนตาสว่าง และเข้าใจว่า หาดใหญ่สงขลา ไม่ใช่เมืองแห่งโอกาส และการทำมาหากินเหมือนดั่งในอดีตอีกต่อไป ...ทำไมหาดใหญ่สงขลาจึงปรับตัวไม่ทัน เราขาดอะไรไป เมืองอื่นๆเขาดีกว่าเราอย่างไร ... หรือเพราะเราไม่รู้จักตัวเองดีพอ
ตอนต่อไปคลิกที่นี้...................
ตอนที่ 3 หาดใหญ่สงขลากับหมุดการท่องเที่ยวระดับโลก - เมืองหลวงของภาคใต้ 2
บทความตอนที่แล้วคลิกที่นี้.....................
ตอนที่ 3 หาดใหญ่สงขลากับหมุดการท่องเที่ยวระดับโลก - เมืองหลวงของภาคใต้ 2
ในอดีต หาดใหญ่สงขลา มีความเจริญรุ่งเรื่อง จากการเป็นชุมทางรถไฟที่สำคัญของภาคใต้ ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 และมีการพัฒนาอย่างสุดขีด จากกระแสการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งมาพร้อมกับ การกีดกันทางการค้าระหว่างกัน ...โดยการตั้งกำแพงภาษี ซึ่งนั่นจึงทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า "สินค้าหนีภาษี" ซึ่งมีราคาถูกกว่าสินค้าปรกติอย่างมาก
และด้วย "ความจริง" ที่ว่า สินค้าหนีภาษี หรือ ไม่ผ่านการเรียกเก็บภาษี จึงเป็นสินค้าที่มีราคาถูกอย่างมาก ทั้งสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า อาหาร กระเทียม น้ำมันพืช ฯลฯ เรียกได้ว่า หาดใหญ่ มีสินค้าหลากหลายอย่าง ซึ่งก็เป็น "ความจริง" ที่ไม่มีใครปฏิเสธได้ ...และด้วยเหตุนี้ จึงเกิด ตลาดกิมหยง ตลาดสันติสุข ตลาดแผงทอง ที่เรียกได้ว่าสามารถสร้างเศรษฐกิจให้หาดใหญ่ กลายเป็น พื้นที่ทางเศรฐกิจอันดับ 2 ของประเทศ รองจากกรุงเทพเลยทีเดียว ... จนถึงขนาดเราสามารถเรียกหาดใหญ่ในยุคนั้นได้ว่า "เมืองหลวงของภาคใต้" ได้โดยที่ไม่มีใครกล้าโต้แย้ง
แต่เมื่อเวลาผ่านไป กระแสแห่งกาลเวลา ก็ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ให้หาดใหญ่สงขลา ถึง 2 ระรอก นั้นคือ ระรอกแรก การถือกำเนิดขึ้นของเขตการค้าเสรีระหว่างประเทศ อย่างเช่น AFTA ซึ่งหมายความว่า แต่ละประเทศจะไม่มีกำแพงภาษีระหว่างกัน และระรอกที่ 2 ก็คือ การเกิดขึ้นของระบบการค้าออนไลน์ ที่เรียกได้ว่าหนักกว่า ระรอกแรกอย่างมาก และดูเหมือนว่า หาดใหญ่สงขลาจะปรับตัวไม่ทันกับสิ่งนี้ ...หาดใหญ่สงขลา สูญเสียความเป็นศูนย์กลางของภาคใต้ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว เนื่องจาก "ความเชื่อ" เรื่องเมืองสินค้าราคาถูกเพราะหนีภาษี ถูกทำลายโดยการเปลี่ยนแปลงของกระแสโลก ทำให้ตลาดกิมหยงซบเซา ส่วนตลาดสันติสุขถึงขั้นปิดตัวเอง ซึ่งส่งผลต่อรายได้ของผู้คน และที่สำคัญคือเราสูญเสียความภาคภูมิใจไปจนหมดสิ้น
ในช่วงเวลาหนึ่ง ที่ทางการประเทศมาเลเซีย ปราบปรามแรงงานผิดกฎหมาย โดยเฉพาะ คนไทย ที่ไปเปิดร้านอาหารไทย ที่เรียกว่า "พวกต้มยำกุ้ง" โดยอาศัยเหตุผลที่ว่า ชาวต่างชาติพวกนี้มาแย่งงานของคนมาเลเซีย ซึ่งเพื่อนผู้เขียนคนหนึ่ง ก็เป็นหนึ่งในนั้น จากนั้นเพื่อนคนนี้ก็มาเปิดร้านที่เขต 8 จนสุดท้าย ร้านก็ขาดทุน และปิดกิจการไป ... มันทำให้ผู้เขียนตาสว่าง และเข้าใจว่า หาดใหญ่สงขลา ไม่ใช่เมืองแห่งโอกาส และการทำมาหากินเหมือนดั่งในอดีตอีกต่อไป ...ทำไมหาดใหญ่สงขลาจึงปรับตัวไม่ทัน เราขาดอะไรไป เมืองอื่นๆเขาดีกว่าเราอย่างไร ... หรือเพราะเราไม่รู้จักตัวเองดีพอ
ตอนต่อไปคลิกที่นี้...................