สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
คุณลืมอะไรไปป่าว
ยายคือแม่ ของแม่ น้าคือน้องของแม่
แม่ก็มีหน้าที่ต้องดูแล แม่ของแม่
สิทธิให้อยู่อาศัยมันก็ต้องให้เขาอยู่ไป
ส่วนปัญหาของคุณ "หลัง"จากที่ได้รับมรดกมันปัญหาของคุณ ในอนาคต ที่อาจจะไม่มาถึง
อาจจะไม่เป็นปัญหาอีก เพราะ
1.คุณอาจตุยก่อนแม่
2.แม่อาจขายก่อนตุย
3.ยายกับน้าอาจย้ายไปก่อน หรือตุยก่อน
4.ทางกฏหมายมันไม่ยากแค่ขับไล่ไป
ตอนนี้ใช้ชีวิตไปเถอะครับ
ยายคือแม่ ของแม่ น้าคือน้องของแม่
แม่ก็มีหน้าที่ต้องดูแล แม่ของแม่
สิทธิให้อยู่อาศัยมันก็ต้องให้เขาอยู่ไป
ส่วนปัญหาของคุณ "หลัง"จากที่ได้รับมรดกมันปัญหาของคุณ ในอนาคต ที่อาจจะไม่มาถึง
อาจจะไม่เป็นปัญหาอีก เพราะ
1.คุณอาจตุยก่อนแม่
2.แม่อาจขายก่อนตุย
3.ยายกับน้าอาจย้ายไปก่อน หรือตุยก่อน
4.ทางกฏหมายมันไม่ยากแค่ขับไล่ไป
ตอนนี้ใช้ชีวิตไปเถอะครับ
สมาชิกหมายเลข 8271907 ขำกลิ้ง, แชมป์กะน้อง ถูกใจ, maka ขำกลิ้ง, สมาชิกหมายเลข 5688398 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4873100 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3146755 สยอง, ลาบราดอร์สีดำ ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 8353289 สยอง, jnnang ถูกใจ, Lost in the World ถูกใจรวมถึงอีก 2 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
จะจัดการมรดกจากแม่ตัวเอง ยังไงดี
(ในกรณีขายจบที่ 6 ล้านนะ)
- เงินจากการขายบ้าน จะเจียดออกมา ซื้อบ้านใหม่ 3 ล้าน
- ฝากธนาคาร 1 ล้าน
- และแบ่งให้น้าสาว 2 ล้าน
โดยบ้านหลังใหม่นั้นจะเป็นกรรมสิทธิ์ของแม่ (ชื่อของแม่) // แต่จะให้ครอบครัวน้าชาย กับยายเป็นผู้อยู่อาศัย
เท่ากับว่าบ้านหลังใหม่ก็จะมีครอบครัวน้าชาย กับยายเป็นผู้อยู่อาศัย // ส่วนเงิน 2 ล้านน้าสาวได้ไป
ผมเลยถามแม่ไปว่า
ผม : ถ้าแม่ไม่อยู่แล้ว ใครจะเป็นเจ้าของบ้านต่อหล่ะ
แม่ : ก็ต้องเป็นลูกอยู่แล้ว (ผมเอง)
ผม : แล้วผมจะเป็นเจ้าของได้ยังไง ถ้าตอนนั้นครอบครัวน้าชายก็อยู่ ยายก็อยู่ ผมจะทำอะไรกับบ้านได้ เปลี่ยนเป็นแม่เอาเงิน 2 ล้านไว้ที่แม่ แล้วยกบ้านนั้นให้เป็นชื่อน้าสาวไปเลยไม่ดีกว่าหรอ น้าสาวก็ไม่มีครอบครัว ไม่มีลูก ถ้าน้าสาวไม่อยู่ ใครจะถือกรรมสิทธิ์ต่อก็แล้วแต่น้าสาวไง ผมคงไม่กล้าไปยุ่งหรอก
แม่ : ไม่ได้....บ้านต้องเป็นชื่อแม่สิ เพราะเอกสารของน้าสาว เป็น VISA ทำงาน ไม่สามารถซื้อบ้านได้ (อะไรทำนองนี้แหละ ผมลืมไปละ)
ผม : แล้วถึงเวลานั้น ผมจะทำยังไงอ่ะ ต่อให้ผมมีเงินร้อยล้านไปแล้ว ก็คงทิ้งทรัพย์สิน 3 ล้านตรงไม่ลงนี้หรอกนะ (แถมอนาคตอาจมากขึ้นกว่าเดิมด้วย) หรือถ้าผมเกิดหายนะ เกิดวิกฤตการณ์ใด ๆ จำเป็นต้องหาเงินก้อนใหญ่อ่ะ ผมจะทำยังไง ถึงมีมรดกอยู่ตรงหน้า แต่ผมก็คงไม่กล้าหยิบมาใช้หรอกนะ
แม่ : เออนั่นแหละ ถ้าลูกอยากขายก็ขาย แต่ก็แบ่งส่วนแบ่งที่ขายได้ให้น้าชายด้วยละกัน *คีย์เวิร์ด*
------------------------------------------------------------------------------
จริง ๆ ตามกฎหมาย....ทายาทลำดับที่ 1 ก็คือผมอยู่ดีนั่นแหละ แต่ผมไม่อยากไปใช้ข้อกฎหมายขับไล่ญาติ ไล่น้าชายออกไปไงครับ ใจนึงผมก็สงสาร และก็รู้ว่าแม่รักน้อง ๆ ของเขามาก แต่ในเมื่อทั้งทางกฎหมาย และทางแม่ก็บอกปากเปล่ามาเองอีกด้วยว่า ยังไงก็ต้องให้เป็นของผม
"ลูกอยากขายก็ขาย แต่ก็แบ่งส่วนแบ่งที่ขายได้ให้น้าชายด้วยละกัน"
ประโยคนี้แหละ ผมควรบอกน้าชายเมื่อไหร่ดีหรอครับ เพื่อไม่ให้เป็นการผิดใจกันในเครือญาติ
(ซึ่งเอาจริง ๆ ผมได้มาปุ๊บ คงขายปั๊บเลยแหละ เพราะส่วนตัวไม่มีเหตุผลที่ต้องเก็บไว้เลย ถ้าเพียงแค่ให้ครอบครัวน้าชายอาศัยอยู่ แถมน้าก็ติดพนันด้วย แต่ถ้าขายจริง ๆ ผมก็จะแบ่งให้น้าชาย 50 : 50 นั่นแหละครับ ตามที่แม่ได้บอกไว้)
แต่.....ผมควรบอกน้าชายตอนไหนดีครับ ว่า "ถ้าไม่แม่อยู่ ผมขายนะ" ไรงี้
- ให้แม่บอกน้าชาย กับผู้อาศัยไปเลยตั้งแต่เข้าอยู่แรก ๆ เลยไหม อนาคตเขาจะได้วางแผนไว้ พอถึงเวลานั้น ผมจะได้ดำเนินการอะไรได้ง่าย ๆ
- ไม่ต้องบอกอะไรเลย รอถึงวันนั้นในอนาคต ผมค่อยแสดงตัวเป็นทายาทรับมรดก แล้วค่อยบอก ณ เวลานั้น ว่าจะขายนะ