“สุดท้ายแล้ว เป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นจากตัวพวกเธอเอง”... ประเด็นหลักในการแพ้การอุทธรณ์ของ NewJeans ที่ศาลระบุไว้ ‼️



ความเสียหายที่ก่อขึ้นเอง

ศาลอุทธรณ์ที่พิจารณาคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวระบุว่า “ความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่สมาชิก NewJeans เป็นผู้ก่อขึ้นเอง

​และชี้ว่า “การยกเลิกสัญญาไม่สามารถทำได้เพียงเพราะอ้างเหตุผลส่วนตัวแต่ฝ่ายเดียว” พร้อมทั้งมีคำสั่ง ยกคำร้องอุทธรณ์

เมื่อวันที่ 17 ที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์แพ่งแผนกที่ 25-2 แห่งศาลกรุงโซล ได้มีการพิจารณาคำอุทธรณ์เกี่ยวกับ "คำสั่งอนุญาตให้ใช้มาตรการชั่วคราวเพื่อรักษาสถานะของต้นสังกัด และห้ามทำสัญญาโฆษณาใหม่กับบุคคลอื่น"

ศาลมีความเห็นว่า “ไม่สามารถยกเลิกสัญญาได้เพียงเพราะเหตุผลส่วนตัวของฝ่าย NewJeans” และ ยืนยันคำตัดสินของศาลชั้นต้น ที่ระบุว่า “สัญญายังคงมีผล และห้ามสมาชิกดำเนินกิจกรรมเดี่ยวโดยพลการ

ก่อนอื่น มาดูข้อกล่าวอ้างของ NewJeans กันก่อน

1. พวกเธอถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะมินฮีจิน แม้จะเป็นองค์ประกอบหลักของสัญญา ​กลับถูกตรวจสอบอย่างไม่เป็นธรรมและถูกถอดจากตำแหน่ง CEO ซึ่งนำไปสู่ “ความไว้วางใจระหว่างพวกเธอกับ ADOR พังทลาย” ดังนั้น การยกเลิกสัญญาผูกขาดจึงเป็นสิ่งที่ชอบด้วยกฎหมาย

2. หากคำร้องนี้ได้รับการอนุมัติ ความเสียหายของ HYBE จะเป็นเพียงเรื่องเงินเท่านั้น แต่ NewJeans จะได้รับ “ความเสียหายที่ไม่อาจเยียวยาได้” จากการต้องเว้นว่างจากกิจกรรมเป็นเวลานาน เสรีภาพในการประกอบอาชีพและเสรีภาพในการสร้างสรรค์งานศิลปะก็จะถูกละเมิดเช่นกัน

แล้วศาลรับฟังข้ออ้างของ NewJeans หรือไม่?

ต่อไปคือเนื้อหาในคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ — ตั้งแต่ประเด็น “ความไว้วางใจที่พังทลาย” ไปจนถึง “ความเสียหาย” ศาลได้โต้แย้งข้ออ้างของพวกเธอทีละจุด

① ​ความไว้วางใจพังทลาย → ไม่ได้รับการยอมรับ

​ศาลระบุชัดว่า NewJeans เป็นเด็กฝึกจาก Source Music (กลุ่มที่เรียกว่า “ทีม N”)

ยกตัวอย่างเช่น มินจีถูกคัดเลือกตั้งแต่ปี 2018 ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่มินฮีจินจะเข้าทำงานที่ HYBE ในปี 2019

ศาลกล่าวว่า “ไม่มีหลักฐานใดที่แสดงว่ามินฮีจินมีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการคัดเลือกสมาชิกคนอื่น ๆ”

“NewJeans เป็นเด็กฝึกของ Source Music เท่านั้น และไม่มีสิ่งใดพิสูจน์ได้ว่ามินฮีจินมีบทบาทเกี่ยวข้อง” — คำกล่าวของศาล

นอกจากนี้ ศาลยังชี้ว่าในสัญญาผูกขาดไม่มีข้อใดกล่าวถึงมินฮีจิน ไม่มีข้อสัญญาใดที่ระบุว่ามินฮีจินต้องเป็นผู้ดูแลการโปรดิวซ์แต่เพียงผู้เดียว หรือเป็น “องค์ประกอบหลักของสัญญา” ตามที่อ้าง

ศาลกล่าวว่า “มินฮีจินไม่ใช่เงื่อนไขหลักของสัญญา”

“ตรงกันข้าม HYBE ต่างหากที่เป็นฝ่ายมองเห็นศักยภาพของ NewJeans และตั้งบริษัทเฉพาะทางให้กับพวกเธอ โดยลงทุนรวมกว่า 21,000 ล้านวอน”

“หัวใจหลักของสัญญานี้คือ HYBE ไม่ใช่มินฮีจิน”

​นอกจากนี้ ศาลยังระบุว่า ตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคม 2023 มินฮีจินเริ่มเรียกร้องให้แก้ไขเงื่อนไขในข้อตกลงระหว่างผู้ถือหุ้นกับ HYBE พร้อมกันนั้นก็เริ่มวางแผนที่จะพา NewJeans ออกไปจากบริษัท

มินฮีจิน​พยายามหานักลงทุน และนัดพบกับพวกเขา
“มีความพยายามพา NewJeans แยกตัวออกจาก HYBE และกดดันให้ขายหุ้น”

“มินฮีจินกำลังทำลายโครงสร้างพื้นฐานของสัญญาที่มีอยู่”

ศาลสรุปว่า “(การถูกปลดจากตำแหน่ง CEO) เป็นผลที่มินฮีจินก่อขึ้นเอง”

และกล่าวว่า “เพียงแค่ NewJeans ​รู้สึกผิดหวังใน ADOR หรืออยากให้โปรดิวเซอร์คนใดกลับมาดูแล ไม่ถือเป็นเหตุผลเพียงพอที่จะยอมรับว่าความไว้วางใจระหว่างคู่สัญญาได้พังทลายลง”

② ข้อผูกพันของสัญญาผูกขาด → ศาลยอมรับ

ตามข้อ 15 วรรค 1 และ 2 ของสัญญาผูกขาด การยกเลิกสัญญาจะสามารถทำได้เฉพาะในกรณีที่ฝ่ายหนึ่งละเมิดหน้าที่สำคัญในสัญญา

NewJeans และ ADOR ได้ตกลงกันในสัญญาว่า หากสมาชิกยกเลิกสัญญาโดยพลการ จะต้องชดเชยค่าเสียหาย รวมถึงจ่ายค่าปรับ ซึ่งคำนวณจาก รายได้เฉลี่ยรายเดือนในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา × จำนวนเดือนที่เหลือในสัญญา

ด้วยลักษณะพิเศษของวงไอดอล การเดบิวต์จำเป็นต้องได้รับการลงทุน การสนับสนุน การฝึกฝน และการดูแลจากต้นสังกัดอย่างมาก หากมีการยกเลิกสัญญาโดยพลการ ต้นสังกัดก็จะได้รับความเสียหายอย่างหนักเป็นธรรมดา

ศาลระบุว่า “ADOR และ NewJeans ได้ทำสัญญาผ่านการเจรจาร่วมกัน” และ “การปฏิบัติตามสัญญาพิเศษถือเป็นหน้าที่ที่ชัดเจนของ NewJeans”

“ความสำเร็จของ NewJeans เกิดจากความพยายามและการอุทิศตนของพนักงาน ADOR และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอื่น ๆ นี่เป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายรับรู้และได้ลงนามในสัญญาพิเศษกันไว้ จึงจำเป็นต้องเคารพและปฏิบัติตามสัญญานั้นอย่างชัดเจน”

ศาลยังระบุไว้ในคำตัดสินด้วยว่า NewJeansไม่สามารถใช้เหตุผลส่วนตัวเพียงฝ่ายเดียวในการยกเลิกสัญญาหรือแยกตัวออกจากความสัมพันธ์ตามสัญญาได้ตามอำเภอใจ

③ หลักการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ → ไม่ได้รับการยอมรับ

NewJeans อ้างว่า เนื่องจากมินฮีจินไม่ได้ทำหน้าที่โปรดิวเซอร์อีกต่อไป จึงถือว่าเกิด “การเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ที่สำคัญ” ที่เกี่ยวข้องกับสัญญาพิเศษ และใช้เป็นเหตุผลในการขอยกเลิกสัญญา

แต่ศาลได้ย้ำอีกครั้งว่า ​มินฮีจินไม่ใช่เงื่อนไขหลักของสัญญา

โดยศาลระบุว่า “แม้ว่ามินฮีจินจะเป็นข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับการก่อให้เกิดสัญญา แต่ก็ไม่ใช่บทบาทหลักในโครงสร้างสัญญานั้น”

นอกจากนี้ ศาลยังชี้ว่า มินฮีจินต่างหากที่เป็นฝ่ายทำลายโครงสร้างของสัญญานี้


​*** ​ในสถานการณ์เช่นนี้ ศาลเห็นว่ายิ่งไม่สามารถเข้าใจได้ว่าทำไม NewJeans จึงยืนอยู่ข้างมินฮีจิน ***

ศาลกล่าวว่า
“ตรงกันข้าม ข้อกล่าวอ้างของ NewJeans กลับขัดกับหลัก ความสุจริตและความไว้วางใจซึ่งกันและกัน (หลักแห่งความสุจริตใจในการทำสัญญา) ซึ่งเป็นพื้นฐานของหลักการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์”

ศาลไม่ได้มองว่าการที่มินฮีจินไม่อยู่ในตำแหน่งอีกต่อไป เป็นสถานการณ์ร้ายแรงถึงขั้นที่ทำให้สัญญาต้องสิ้นสุด ​และโดยรวม ศาลพิจารณาว่าข้อกล่าวอ้างที่เหลือของ NewJeans ส่วนใหญ่เป็น ความคิดเห็นส่วนตัว ที่ไม่มีน้ำหนักเพียงพอ

④ ข้อกล่าวอ้างอื่น ๆ → ไม่ได้รับการยอมรับ

ข้อกล่าวหาที่ว่า สมาชิกวง ILLIT ไม่ทักทาย ก็ไม่ได้รับการยอมรับ

ศาลระบุว่า “จากภาพกล้องวงจรปิด เห็นได้ชัดว่าสมาชิก ILLIT ได้ทักทายแล้ว”

“ไม่มีหลักฐานว่า ILLIT ตั้งใจเมินเฉย หรือว่าผู้จัดการพูดว่า ‘อย่าไปทัก’ อย่างที่กล่าวอ้าง”

ศาลยังเห็นว่า ADOR ได้ดำเนินการปกป้อง NewJeans อย่างดีที่สุดแล้ว ​ยกตัวอย่างเช่น การพูดคุยกับผู้จัดการ, ลดการติดต่อกับศิลปินคนอื่น และการออกแถลงการณ์ชี้แจง

ข้อกล่าวหาที่ว่าพนักงาน PR ของ HYBE พูดลดค่าผลงานของ NewJeans
ศาลระบุว่า “HYBE ได้ให้คำมั่นว่าจะป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก โดยได้อบรมพนักงาน และถอดเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกับ PR ของ NewJeans ออกจากตำแหน่งแล้ว”

ข้อกล่าวหาเรื่อง ILLIT ลอกเลียนคอนเซปต์ ก็ถูกปฏิเสธเช่นกัน ศ​าลชี้ว่า “ไม่สามารถสรุปได้ว่า ILLIT ลอกเลียนคอนเซปต์ของ NewJeans อย่างสิ้นเชิง”

และยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับความไว้วางใจในสัญญาผูกขาด”

กรณีวิดีโอช่วงเป็นเด็กฝึกที่ “Dispatch” เผยแพร่ ก็ไม่ถือว่าเป็นเหตุให้ความไว้วางใจพังทลาย

โดยศาลให้เหตุผลว่า “ADOR ได้ร้องขอให้ลบคลิปเหล่านั้นหลายครั้ง”

“ADOR ยังได้ทำสัญญากับบริษัทเอกชนเพื่อลบวิดีโอที่เผยแพร่ทางออนไลน์โดยเฉพาะ”

สุดท้าย ศาลสรุปว่า “เหตุผลอื่นๆที่ NewJeans ยกขึ้นมาก็ไม่สามารถถือได้ว่าเป็นเหตุให้ความไว้วางใจในสัญญาพังทลายลง”

⑤ ความจำเป็นในการ “คุ้มครองสถานะ” (รักษาสถานภาพของสัญญา) → ศาลยอมรับ

ศาลชี้ว่า หาก NewJeans ดำเนินกิจกรรมอิสระโดยไม่มี ADOR ดูแล
​ADOR จะสูญเสียผลตอบแทนทั้งหมดจากการลงทุนที่ทำมาตลอด
ในทางกลับกัน NewJeans จะสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากผลงานทั้งหมด โดยลำพัง

ศาลระบุว่า “ผลลัพธ์แบบนี้ไม่เป็นธรรม”

ศาลยกตัวอย่างคอนเสิร์ตของ NewJeans ที่ฮ่องกงเมื่อเดือนมีนาคม
หากปล่อยให้ทำกิจกรรมเดี่ยวต่อไป ผู้คนอาจเข้าใจผิดว่า “สัญญาพิเศษได้ถูกยกเลิกแล้ว”
และแบรนด์ NewJeans เองก็จะได้รับความเสียหาย

ศาลกล่าวว่า
“แม้ NewJeans จะอ้างว่าตนเองได้รับความเสียหาย แต่ความเสียหายนั้นเกิดจากการที่พวกเธอปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามสัญญาพิเศษที่ยังมีผลอยู่
ดังนั้นจึงเป็น ‘ความเสียหายที่ก่อขึ้นเอง’
กลับกัน ADOR ต่างหากที่เป็นฝ่ายได้รับความเสียหาย”

ศาลยังแสดงความเห็นเพิ่มเติมว่า
“NewJeans อ้างว่าตนประสบความสำเร็จในการแสดงคอนเสิร์ตต่างประเทศโดยไม่มีการจัดการจาก ADOR ​แต่ถ้าเช่นนั้นก็ไม่มีเหตุผลใดเลยที่ NewJeans จะไม่สามารถแสดงได้ภายใต้การจัดการของ ADOR เช่นกัน”

และสำหรับข้อกล่าวอ้างของ NewJeans ที่ว่า
สิทธิในการประกอบอาชีพ และเสรีภาพในการสร้างสรรค์งานศิลปะถูกละเมิด

ศาลให้ความเห็นว่า
“หาก NewJeans ปฏิบัติตามสัญญาพิเศษ ก็ยังสามารถทำกิจกรรมในวงการบันเทิงต่อได้
และนั่นจะเป็นผลดีต่อ NewJeans ด้วยซ้ำ”

ศาลอุทธรณ์ได้ปฏิเสธคำอุทธรณ์ของ NewJeans ทั้งหมด โดยระบุว่าจะยังคง “รับรองสถานะของสัญญาพิเศษกับ ADOR” เอาไว้ จนกว่าคดีเกี่ยวกับการรับรองความชอบด้วยกฎหมายของสัญญาพิเศษจะสิ้นสุดลงโดยสมบูรณ์
และคำสั่ง “ห้ามสมาชิกทำกิจกรรมเดี่ยวโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก็ยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไปเช่นเดิม

ขณะเดียวกัน ศาลยังรับคำร้องมาตรการบังคับทางอ้อม ที่ ADOR ยื่นไว้เมื่อเดือนก่อน
โดยหากสมาชิกคนใดของ NewJeans ทำกิจกรรมอิสระโดยไม่ได้รับอนุญาตจาก ADOR
จะต้องชำระเงินจำนวน 1 พันล้านวอนต่อครั้ง ต่อคน

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่